คำตอบ


จากคนทุกข์ใจ

จากคนทุกข์ใจ

คำตอบ

ขออภัยครับที่ตอบช้าไปหนึ่งวัน

เรื่องที่คุณเล่ามา ผมจับประเด็นได้ดังนี้ครับ

       บุคลิกภาพหรือวิถีชีวิตดั้งเดิมของพี่ชายคุณน่าจะเป็นคนแยกตัว

และเมื่อป่วยจะมีอาการหลักๆคือ

       หลงผิดหวาดระแวง คิดในเรื่องที่ไม่เป็นจริง เช่นว่ามีคนมาด่า

      ประสาทหลอน เช่น ได้ยินเสียงแว่ว เวลาแกพูดคนเดียว ถ้าเนื้อหาเหมือนกับกำลังคุยกับใครอยู่ แสดงว่าหูแว่วแน่นอน

       พฤติกรรมผิดปกติ ทำในสิ่งที่ปกติไม่ทำ เช่น ยิ้ม พูดคนเดียว

       คนไข้เหล่านี้มักจะไม่รู้ว่าตนเองผิดปกติหรือไม่ยอมรับว่าตนเองป่วย ดังนั้น พฤติกรรมการมาโรงพยาบาลมักจะต้องถูกพามา หรือบังคับมา คล้ายกับที่เป็นข่าว

       หนึ่งในสามสามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้ แต่ต้องรักษาต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกำเริบ

       หนึ่งในสามมีอาการหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ทำงานได้

       อีกหนึ่งในสามอาการเป็นเรื้อรัง ต้องการการดูแลโดยคนใกล้ชิด

       ผมเข้าใจครับที่คุณรู้สึกเป็นทุกข์กับพี่ชายคนนี้ ถ้าเลือกใช้ยาให้เหมาะสมก็จะทำให้อาการดีขึ้นโดยที่มีอาการข้างเคียงไม่มาก ร่วมกับการปรับบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมรอบตัวไม่ให้ไปกระตุ้นอารมณ์ขุ่นมัวของเค้า ส่งเสริมให้คำชมเชยเมื่อทำดีเพื่อให้รู้สึกมีค่า ก็จะทำให้มีความสุขขึ้นมาได้บ้าง

      ขอยืนยันครับว่า คนไข้โรคจิตเภท(schizophrenia)นั้น ฉลาดและมีความคิดไม่แพ้เมื่อเขายังปกติ ยิ่งเก่งมากหรือมีการศึกษามากก็ยิ่งดูยาก ทั้งนี้ขึ้นกับว่าเป็นมากหรือเป็นนานแล้วหรือไม่

      คนไข้โรคนี้ที่น่ารักก็มีมากครับ มีอยู่รายหนึ่งที่สอนผมว่า "..หมอ ถ้าถูกต้องก็อาจไม่ถูกใจ และถ้าถูกใจก็อาจไม่ถูกต้องก็ได้นะ" ผมยังจำคำของเขาได้ดี

       รายพี่ของคุณน่าจะเป็นโรคจิตเภทตามที่คุณว่า ควรตะล่อมพาไปรักษา ถ้าเขายังระแวงก็บอกเขาว่า เราจะช่วยให้เขาหายเดือดร้อนใจจากเรื่องที่เขาคิดกลัว อย่าไปทำให้เขาเข้าใจว่า เราหาว่าเขาเป็นบ้านะครับ ตอนนี้มียาให้เลือกใช้หลายตัว ไม่ว่าจะเป็นยากินชนิดเม็ดหรือนำ รวมทั้งยาฉีดซึ่งออกฤทธิ์นานเป็นเดือน

       มีทางผ่อนหนักให้เป็นเบาได้และมองหาข้อดีของเขาดูครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท