อนุทินล่าสุด


Sukajan
เขียนเมื่อ

พร่ำสอนคนไข้ (60%ที่มารักษาเรื่องอื่น มักจะอ้วนร่วมด้วย )ให้ลดน้ำหนักเกือบทุกวัน ผู้ช่วยแพทย์ที่ฟังประจำทุกวัน ก็ลดน้ำหนักไปได้ 10 กิโลกรัมแล้ว ภายในเวลา 6 เดือน การพูดถึงผลเสียของความอ้วนทุกวี่ทุกวันน่าจะเป็นแรงจูงใจ ลดน้ำหนักได้นะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
Sukajan
เขียนเมื่อ

ช่วงนี้จะได้ยินได้ฟังเพลงธงชาติบ่อยๆ บนสังคมออนไลน์ ฟังทีไรก็ขนลุก

http://youtu.be/iw6InD5KCkY

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
Sukajan
เขียนเมื่อ

เพิ่งกลับจากปฏิบัติธรรมกับ อ.ธีรยุทธ เวชเจริญยื่ง ผู้เขียนหนังสือธรรมะชื่อ สอนแม่หัดปฏิบัติธรรม

งานนี้ทุกคนที่เข้าร่วมได้ตั้งสัจจะว่า จะปฏิบัติธรรมอย่างน้อยวันละ 10 นาที ทุกวัน ตลอดชีวิต เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
Sukajan
เขียนเมื่อ

21-23 กพ.นี้ ไปอยู่อาศรมมาตา ขาดการติดต่อจากโลกภายนอกชั่วคราว



ความเห็น (1)
Sukajan
เขียนเมื่อ

ไปบุรีรัมย์รอบนี้ ได้มีโอกาสแวะเที่ยวอุทยานดอกไม้ เพ ลา เพลิน กุหลาบยังเหลือชูช่ออยู่บ้าง

อีกทั้งทิวลิปก็หลงเหลือพอให้ได้เก็บภาพ

 

กุหลาบสองสี พันธุ์นี้แปลกมาก วาดสีน้ำคงยากน่าดู

 

เหมือนทิวลิปปลอมเลย

 

รอบค่ำได้แวะไปดู i-mobile stadium พื้นที่บริเวณนั้นกว้างขวางมาก ดีใจที่มีสนามกีฬาให้เด็กๆในละแวกนั้น

หันมาสนใจเล่นกีฬากันมากขึ้น

 

ประทับใจที่ได้เห็นรูปในหลวง ประทับ ณ.ที่แห่งนี้

 

 



ความเห็น (1)
Sukajan
เขียนเมื่อ

กิจกรรมวันนี้ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เสร็จงานแล้วนั่งรถกลับ กทม.ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง

 

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ

พรุ่งนี้เที่ยงเดินทางไปบุรีรัมย์ อบรมการป้องกันโรคกระดูกพรุนแก่บุคลากรในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ มีโอกาสจะแวะไปดูดอกกุหลาบที่อุทยานเพลาเพลินด้วย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ

ของขวัญวันวาเสนไทน์ชิ้นแรกของปีนี้ ถูกใจจริงๆ

 



ความเห็น (1)
Sukajan
เขียนเมื่อ

วิ่งๆไป ลองนึกเท้าขวาพุท เท้าซ้ายโท พุทโธๆๆๆๆๆๆๆๆ ตลอดระยะ 2K ก็ไม่เลวนะ มีสมาธิขึ้นมากทีเดียว เทียบกับ 3K แรก คิดโน่นคิดนี่ไปได้เรื่อยๆ ทำไมมีเรื่องเข้ามาคิดในสมองเต็มไปหมด จิตส่งออกนอกอย่างเต็มๆๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ

บ่ายนี้ได้มีโอกาสเข้าฟังการบรรยายเรื่องพลังจิตรักษาโรค โดย Alexander & Carolon Toskar ชาวเยอรมัน ที่สำนักพิมพ์ DMG

ตึกอัมรินทร์ ชั้นที่ 22 

 

วิทยากรเน้นการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง มี motto ว่า Do Good Feel Good ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วคุณจะรู้สึกดี ฝึกสะสมพลังจิตผ่านจักระทั้ง 7 ฝึกสมาธิ วิทยากรเน้นว่าฝึกวันละนิดให้เป็นประจำทุกวัน ดีกว่าฝึกแบบโหมหนักปีละหน และแล้วหันกลับมาฝึกอานาปานสติ ทางศาสนาพุทธ ถือศีล 5 ก็น่าจะสะสมพลังจิตได้นะ



ความเห็น (1)

ขอบคุณครับพลังจิตพลังใจเดิมแท้

Sukajan
เขียนเมื่อ

สรุปการจัดอบรมภาวะผู้นำแพทย์สตรี ใช้เวลา 2 วัน ( 19-20 มิย 2557 ) คงจัดนอกกรุงเทพฯ เพราะกันคนหนีกลับก่อนเวลา และหลักสูตรนี้ต้องอยู่ทำการบ้านจนดึก มีแพทย์ท่านหนึ่งให้ข้อคิดว่า ผู้ชายให้เวลากับงาน 60% ครอบครัว 40% ส่วนผู้หญิง งาน 30% 

ครอบครัว 70% ดังนั้นเป็นสิ่งท้าทายที่ทำให้งาน 30% ของผู้หญิง มีศักยภาพ 70% การเตรียมหลักสูตรนี้ไม่ง่ายนัก



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ

บ่ายพรุ่งนี้มีงานเข้าอีกแล้ว ต้องเตรียมวางแผนจัด Woman Doctocs Leadership Program เป็น workshop 2 วันเต็มๆ จะมีผู้แทนจากสมาคมแพทย์สตรีและจากแพทยสมาคม ช่วยกันตกผลึกว่าจะทำเรื่องอะไรก่อน แค่ไหน และวิทยากรที่จะช่วยในงานนี้ สุดท้ายต้องพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่าย แล้วจึงตัดสินใจว่าจะทำใน กทม.หรือ นอก กทม.



ความเห็น (1)

ตามมาเชียร์ครับ

น่าจะพิจารณาว่า ไม่ควรไกลจากกรุงเทพฯมาก

การเดินทางจะได้ไม่เสียเวลามากครับ

เชียร์ Woman Doctors นะครับ

Sukajan
เขียนเมื่อ

วันนี้ประชุมทั้งวัน ฝ่ายวิชาการจัดประชุม AOCPRM2014 จัดหัวข้อและวิทยากรทั้งในและต่างประเทศ เกือบลงตัวแล้ว คาดว่า เดือนหน้าจะสามารถจัดการลงทะเบียน online ได้ ทางคณะกรรมการตั้งเป้าไว้ว่าจะมีชาวต่างชาติลงทะเบียนไม่ต่ำกว่า 400 คน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ

วันนี้เป็นวันแรกที่ก่อนไปวิ่งแล้วรู้สึกอยากไปวิ่งจริงๆโดยไม่ลังเล มีความรู้สึกว่าอยากไป ไม่ใช่ต้องไป เพราะก่อนหน้านี้ยังมีความ

ขี้เกียจแฝงอยู่ ดังนั้นก่อนจะไปก็มาชั่งน้ำหนักว่าไป/ไม่ไป ๆๆๆๆๆๆ

ตอนนี้วิ่งประมาณ 5K เดิน 2 K อาทิตย์ละ 3 วัน โยคะอีกอาทิตย์ละ 2 วัน

หวังว่าความรู้สึกอยาก จะมีต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ ถ้ายังประคับประคองการออกกำลังกายแบบนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ



ความเห็น (2)

แข็งแรงมากเลย เยี่ยมครับยินดีด้วย

ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพค่ะ อ.Prayat

Sukajan
เขียนเมื่อ

เมื่อวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2557 ทางแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูได้จัดกิจกรรมพัฒนาองค์กร ที่บ้านวิชัยยุทธ เขาใหญ่ ประทับใจกิจกรรม

ปมมนุษย์ นำโดย อ.ขจิต ฝอยทอง อาจารย์ให้ทุกคนยืนเป็นวงกลม แล้วจับมือกันหมด มีกติกาว่าห้ามปล่อยมือและห้ามถอยหลัง เริ่มต้นด้วย อ.ขจิต จูงมือคู่หนึ่งเดินนำไป ลอดออกนอกวงกลมแล้วเดินลอดกลับเข้ามาในวงกลมให้ที่เหลือเดินตามกันมาโดยไม่ปล่อยมือ ทำให้วงกลมกลายเป็นปมเสียแล้ว ทุกคนยังจับมือกันอยู่ อ.ขจิต ให้กลุ่มหาทางคลายปมนี้ออก ให้กลับมาเป็นวงกลมพร้อมยังจับมือกันเหมือนเดิม หลายคนในกลุ่มบอกไม่น่าจะทำได้ จากนั้นก็มีเสียงพูดคุยกันเหมือนตกลงกันไม่ได้ว่าจะเดินต่อไปยังไง บางคนหัวเราะ บางคนพยายามเดินถอยหลังกลับ ซึ่งผิดกฏที่วางไว้ อ.ขจิตก็คอยแนะว่า ให้ฟังคนอื่นพูดบ้าง หยุดนิ่งแล้วค่อยๆคิดหาทางแก้ไข สักพัก ในที่สุดก็สามารถแก้ปมออกได้ ทุกคนดีใจนึกว่าจะทำไม่ได้เสียแล้ว

 

กิจกรรมปมมนุษย์นี้ เป็นการนำกิจกรรม เพื่อแก้ปัญหา พร้อมกับสนุกไปในตัว สุดยอดจริงๆค่ะ



ความเห็น (3)

น่าสนใจมาก ๆครับ….อยากจะลองนำไปจัดกิจกรรมบ้าง.อิๆ

ปรึกษารายละเอียดจาก อ.ขจิต ได้เลยค่ะ

ช่างหน้าภูมิใจในการจัดกิจกรรมที่เยี่ยม เพราะปัญหาเกิดขึ้นจากไม่ฟังกัน นี้เป็นสุดยอดในการคิดวิเคราะห์จริงๆยกนิ้วให้เลย

Sukajan
เขียนเมื่อ

วันนี้ประชุมแผนก ตกลงกันว่าจะจัดกิจกรรมพัฒนาองค์กรของแผนกครั้งต่อไป 17-18 พค.2557 ทีมงานน่าจะมั่นใจในการทำกิจกรรมมากขึ้น ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับความสนุกสนาน การทำงานเป็นทีม และความเป็นจิตอาสา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ

เมื่อวานไปทำกิจกรรมพัฒนาองค์กรของแผนก พร้อมปลูกป่า ที่เขาใหญ่ ได้มีโอกาสขี่จักรยาน จาก ต.หมูสี

ออกไปทางขึ้นเขาใหญ่ ไปกลับประมาณ 40 K แดดเผาไปทั้งตัว ไม่ได้วางแผนว่าจะไปไกลขนาดนั้น ตอนแรก

ระหว่างทางไป เห็นป้ายบอกทางไปหมู่บ้านพลัม เกือบจะแวะเข้าไปแล้ว แต่ต้องไปอีก 15 K มันจะไกลเกิน

เพราะจะต้องกลับไปทำกิจกรรมของแผนกต่อตอนสายๆ โอกาสหน้าค่อยหาทางแวะไป



ความเห็น (2)

…ขอชื่นชมค่ะ…สุขภาพแข็งแรงดีนะคะ

ขอบคุณ ดร.พจนา ค่ะ ที่แวะมาเยี่ยมเยียนเสมอๆ เพิ่งทราบจาก อ.ขจิต ว่า ดร.พจนา อยู่แคนาดา

Sukajan
เขียนเมื่อ

วันนี้ไปหาดใหญ่อบรมการป้องกันโรคกระดูกพรุน ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ แถมการเขียนบล็อกผ่าน GotoKnow โดยทีม อ.จัน



ความเห็น (1)

เป็นกำลังใจค่ะคุณหมอ…

Sukajan
เขียนเมื่อ

28 ธันวาคม 2556 - 1 มกราคม 2557 ไปอยู่อาศรมมาตา แถวปากช่อง งดการติดต่อสื่อสารทุกชนิด



ความเห็น (1)
Sukajan
เขียนเมื่อ

6-9 ธค.56 เดินทางสู่เชียงใหม่ ประชุมวิชาการประจำปีราชวิทยาลัยแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูฯ



ความเห็น (2)
Sukajan
เขียนเมื่อ

28-29 พฤศจิกายน 2556 นี้จะไปโรงพยาบาลระยอง เพื่อทำโครงการเรื่องการป้องกันโรคกระดูกพรุน เป็นโครงการเกือบสุดท้ายของปีนี้แล้ว



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ

บันทึกและภาพพระพุทธบาท 4 รอย ที่เขียนได้ดีมากพร้อมภาพอันสวยงาม ทำให้นึกถึงที่ๆเพิ่งไปมา

http://www3.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11982246/E11982246.html



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ

ม๊อบได้มารวมตัวกันที่กระทรวงการคลังมากขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ทำให้มีการปิดถนนบางจุดตามรูป

           

 

เช้านี้ขับรถมาตามเส้นเรียบทางรถไฟ ยังเข้าโรงพยาบาลได้ ถึงจะมีเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้น เราต้องเตรียมพร้อมรับสถานการเสมอ

ถึงโรงพยาบาลสักพักก็มีเสียงโทรเข้ามาถามว่า มีการปิดถนนหรือไม่ เลยบอกไปว่าเส้นเรียบทางรถไฟยังเข้าได้ เสียงตอบกลับมาว่าตอนเย็นจะกลับบ้านได้หรือ

ปล่าว ตอบไปว่าทุกอย่างมีทางออกเสมอ มาปฏิบัติหน้าที่ก่อนเถอะ เรื่องตอนเย็นยังมาไม่ถึง 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ
"วัดพระพุทธบาทสี่รอย" ตั้งอยู่ในหุบเขาป่าลึก เขตต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และจากตัวอำเภอแม่ริม จนถึงวัดพระพุทธบาทสี่รอย มีระยะทาง 50 กิโลเมตร ถือเป็นวัดที่มีปูชนียสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์

รวมทั้งเป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ที่ล่วงเลยมาในภัทรกัปป์

ประกอบด้วย รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันโธ ขนาดใหญ่ ยาว 12 ศอก, รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมโน ยาว 9 ศอก, รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสโป ยาว 7 ศอก และรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตโม (องค์ปัจจุบัน) ยาวเล็กสุด 4 ศอก

โดยได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้บนก้อนหินใหญ่ริม หรือเรียกว่า หินมหาศิลา จำนวน 4 รอยซ้อนไว้บนพื้นที่เดียวกัน

พระพุทธบาทสี่รอย ได้รับการสักการบูชาจากเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่มาหลายยุคสมัย และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เสมอมา

ล่าสุด ครูบาศรีวิชัย ได้มาสร้างวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้จนถึงปัจจุบัน

พ.ศ.2497 ได้รับการจดทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากร มีประวัติเล่าขานถึงความเก่าแก่ จนนับเป็นพระพุทธบาทที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ 


พระพรชัย ปิยะวัณโณ (ครูบาพรชัย) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทสี่รอย เปิดเผยว่า พระพุทธบาทสี่รอย มีตำนานเล่าขานว่า เมื่อครั้งอดีตกาล มีพระสงฆ์รูปหนึ่ง นาม "พระวิปัสสี สัมมาสัมพุทธเจ้า" เป็นพระสังฆนายก ปกครองพระภิกษุเถรานุเถระเป็นจำนวนมาก

แต่พระสังฆนายกรูปนี้กลับแสวงหาปัจจัยทั้งสี่ โดยออกประกาศไปทั่วสังฆมณฑล ว่า "วัดนี้ เป็นที่ชุมชนของพระมหาเถระเจ้าทั้งหลายอยู่เนืองนิตย์ ดังนั้น ขอให้พระภิกษุทั้งหลาย จงนำเอาปัจจัยสี่ อันได้แก่ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และปัจจัย รวมทั้งแก้วแหวนเงินทองทั้งปวง มาให้แก่วัดของเรา เพื่อจะได้นำมาถวายทานแก่พระมหาเถระเจ้าทั้งหลายต่อไป"

เมื่อพระภิกษุทั้งหลาย ได้รับคำสั่งของพระสังฆนายก ต่างลำบากใจ ไม่กล้าทักท้วงคัดค้าน ด้วยเกรงจะมีความผิด ได้แต่จำใจนำของมามอบให้ที่วัด

ท้ายที่สุด เมื่อพระสังฆนายกมรณภาพ ได้ตกนรกหมกไหม้อยู่ในอบายภูมิทั้ง 4 ด้วยผลกรรมที่ได้เบียดเบียนพระสงฆ์ให้ได้รับความลำบาก 


เมื่อชดใช้กรรมในนรกแล้ว อดีตพระสังฆนายกองค์นั้น ได้มาเกิดเป็นเปรต มีนามว่า "มหาศิลาหลวงใหญ่" (เปรตหิน) พูดวาจาใดๆ ไม่ได้ สรีระกลายเป็นหิน

กาลเวลาได้ล่วงเลยมาถึง 92 กัปป์ เป็นยุคแรกของพระพุทธเจ้า องค์ที่ 1 คือ พระพุทธเจ้ากกุสันโธ ได้เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรต และทรงประทับรอยพระบาทไว้เหนือก้อนหินมหาศิลาเปรต เป็นรอยแรก

จนถึงยุคสมัยของพระพุทธเจ้าองค์ที่ 2 ทรงพระนามว่า "พระพุทธเจ้าโกนาคมโน" ได้เสด็จมาที่มหาศิลาเปรต ได้ทรงประทับรอยพระบาทซ้อนไว้ในรอยพระบาทเดิม เป็นรอยที่ 2

ต่อมา พระพุทธเจ้ากัสสโป องค์ที่ 3 ได้เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรตอีก และทรงประทับรอยพระบาทเป็นรอยที่ 3 ซ้อนไว้อีกครั้ง

ถึงยุคของ พระพุทธเจ้าโคตโม หรือ พระสมณโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ได้เสด็จมาโปรดมหาศิลาเปรตอีกครั้ง ทรงประทับรอยที่ 4 ลงบนหินศิลาเปรต บังเกิดพระพุทธบาทสี่รอย นับแต่นั้นเป็นต้นมา

กาลเวลาล่วงเลยมา 2,000 ปี ได้มีเทวดาทั้งหลาย ต้องการให้พระพุทธบาทสี่รอยปรากฏ ตามที่พระองค์ทรงอธิษฐานไว้ จึงเนรมิตเป็นรุ้ง (เหยี่ยว) ตัวใหญ่ บินลงมาไปจับลูกไก่ของชาวบ้าน

พรานป่าที่อาศัยอยู่เชิงเขาเวภารบรรพตเห็นเข้า จึงไล่ติดตามรุ้งสู่ยอดเขา เมื่อไปถึงยอดเขา พบรอยพระพุทธบาทสี่รอยอยู่บนพื้นใต้ต้นไม้ พรานป่าเกิดความเลื่อมใส จึงทำการสักการบูชา ก่อนนำเรื่องมาแจ้งให้แก่ชาวบ้าน

เมื่อได้ยินคำบอกเล่า ชาวบ้านต่างพากันไปกราบสักการบูชา โดยเรียกขานพระพุทธบาทดังกล่าว ว่า "พระบาทรังรุ้ง (รังเหยี่ยว)"

รอยพระพุทธบาท ถือเป็นรอยอันบริสุทธิ์แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น การกราบไหว้พระพุทธบาทสี่รอย ด้วยเครื่องสักการบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน ยังนับไม่ได้ว่าเป็นการเจริญตามรอยพระพุทธองค์

แต่ควรเจริญรอยตามด้วยการให้ทาน รักษาศีล สมาธิภาวนา จะได้ชื่อว่า เป็นคนหนึ่งที่พระพุทธองค์ ทรงโปรดให้พ้นทุกข์ได้ในที่สุด 

 http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03bud07100449&day=2006/04/10" target="_blank">http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03bud07100449&day=2006/04/10

   

     



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

Sukajan
เขียนเมื่อ

คณะธรรมดีทัวร์ เพิ่งกลับจากเชียงใหม่ 4 วัน 18 วัด ประทับใจวัดถ้ำผาปล่อง ต.เชียงดาว ได้กราบพระอัฐิธาตุหลวงปู่สิม พุทธจาโร และชอบวัดพระพุทธบาท 4 รอย

ภาพนี้ที่สนามบินขากลับที่สุวรรณภูมิ ต้อง intrend ซะหน่อย

 



ความเห็น (2)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท