เขียน … ที่บ้าน

“…

ใช่หรือไม่ว่า ความเป็นจริง (Reality) โดยตัวของมันเอง ไม่มีชื่อเรียกขาน และมักอยู่เหนือคำนิยามที่เราบัญญัติขึ้น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ไม่เคยรู้ว่าตัวเองถูกเรียกว่าอะไร แต่สิ่งเหล่านี้มีอยู่ และเคลื่อนไหวแปรเปลี่ยนไปตามกฎเกณฑ์อันยากที่เราจะเข้าถึง อย่าว่าแต่ถ้อยคำอธิบายได้ครบถ้วน เช่นเดียวกับแผ่นฟ้า ท้องทะเล สายน้ำ หรือแม้แต่ ความรู้สึกของผู้คน ฯลฯ

(หนังสือ ‘บุตรธิดาแห่งดวงดาว’ , หน้า ๖)

…”

๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๖

ห้าทุ่มครึ่ง

เขียน … ที่บ้าน

“…

ประโยชน์ของน้ำแร่ที่ดีต่อสุขภาพ

1. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ปริมาณแคลเซียมที่เจืออยู่ในน้ำแร่นั้น เมื่อได้รับเข้าไปในปริมาณที่เหมาะสมจะมีส่วนช่วยให้มวลกระดูกหนาแน่นขึ้น ป้องกันพวกโรคกระดูกพรุนได้

2. ลดความดัน เนื่องจากในน้ำแร่นั้นมีแร่ธาตุแมกนีเซียมผสมอยู่ และการที่ความดันผิดปกตินั้นเกิดจากแมกนีเซียมในร่างกายมีปริมาณไม่พอเหมาะ เมื่อดื่มน้ำแร่ที่มีแร่ธาตุแมกนีเซียมเข้าไปในร่างกาย จึงเข้าไปช่วยชดเชยและปรับสมดุลความดันได้

3. แร่ซัลเฟตในน้ำแร่นั้นจะช่วยกระตุ้นให้ตับอ่อนของเราทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ระบบทางเดินอาหารดีขึ้น และต่อเนื่องไปถึงการขับถ่าย ไม่มีพวกอาการท้องเสีย หรือท้องผูก

4. ตัวช่วยบำรุงผิวพรรณดี น้ำแร่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณได้ ดังที่เราเห็นกันว่า มีการนำน้ำแร่มาฉีดตามผิว ใบหน้า เพื่อเพิ่มความสดชื่นในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ เนื่องจากในน้ำแร่นั้นมีซิลิกา ที่เป็นตัวช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังได้ดี บางคนก็นำมาฉีดเส้นผม

5. น้ำแร่ช่วยขับสารพิษ ในร่างกายที่มีสารพิษและก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ หากมีโอกาสดื่มน้ำแร่แทนน้ำดื่มทั่วไป จะช่วยปรับสมดุล จึงทำให้บรรเทาอาการโรคบางอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับไขข้อ การอักเสบ รวมถึงอาการปวดเมื่อย

6. ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจได้ สำหรับคนที่ดื่มน้ำแร่เป็นประจำทุกวัน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ เนื่องจากในน้ำแร่มีการปรับสมดุลช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลได้ดี ที่สำคัญมีการค้นพบว่า ในน้ำแร่มี โพแทสเซียม และ แมกนีเซียม ที่ช่วยในเรื่องการทำงานของหัวใจให้อยู่ในภาวะการทำงานที่ปกติ

อ้างอิง : https://www.scimath.org/article-science/item/10628-2019-09-02-01-47-39

…”

๑๑ ธ.ค.๖๖

สามทุ่มกว่า ๆ

เขียน … ที่บ้าน

“…

เชื่อเถอะว่า กรณี “ครูชัยยศ” ไม่ได้ทำแบบนี้คนเดียวในประเทศไทย เพราะระบบมันมาจากระบบราชการไทย และวัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ใครคิดก็ไม่ทราบ แต่มันก็ตกทอดวิธีการมารุ่นต่อรุ่น

ส่วน ปปช. ตัดสินตามตัวบทกฏหมาย การออกมาพูดก็แค่พูดตามกฎหมาย เป็นเรื่องถูกต้อง ส่วนมโนธรรมใด ๆ มันใช้ไม่ได้กับความเป็นคนดี คนชั่ว เมื่อคนตัดสินความผิดคิดได้แค่นั้น มันก็ส่งเสริมให้ต่อไปจะไม่มีใครอยากทำความดีกันอีก เพราะหากเป็นครู ถ้าไปยุ่งกับการเงิน พัสดุ ติดคุกไปแล้วครึ่งตัว

จัดวางระบบใหม่กันไหม ระบบราชการไทย ยิ่งพัฒนา ยิ่งแย่ แก้ไม่เคยถูกจุดสักที คนโกง มันก็โกง คนไม่โกง แต่อาจจะโดนหางเลขอย่างที่เห็น

คนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า เซ็นรับ ก็ผิดตามกฎหมายนั้น ลองให้ไปอยู่โรงเรียนจะได้รู้ ผู้บังคับบัญชาขอครูคนไหนทำหน้าที่ ใครจะปฏิเสธได้

ยิ่งตามข่าว ยิ่งส่ายหน้า มันน่าหดหู่ และความสิ้นศรัทธาต่อเจตนาการทำความดีของคนมันจะแย่ลง

…”

๘ ธ.ค.๖๖

ยามค่ำ

เขียน … นอกเมือง

“…

กรณี ครูชัยยศ ถูกปลดออกจากราชการ ด้วยข้อหาการเอื้อให้เกิดการทุจริต

คือ การทำให้โรงเรียนสามารถใช้งบประมาณอาหารกลางวันของเด็กประถม นำไปซื้อวัตถุดิบเพื่อจะให้ทำให้เด็ก ม.ต้น ที่ยากจนมีข้าวกลางวันกินด้วย

เป็นเรื่องที่แย่ที่สุด ว่าง ๆ ให้พาคนที่ตัดสินความผิดไปทิ้งไว้ที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ดูสักเดือน เขาก็จะรู้ อำเภอที่ยากจนที่สุดในประเทศนี้มันเป็นยังไง

การพิจารณาความผิด ควรดูทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ไม่ใช่ ดูอยู่ด้านเดียว

https://www.youtube.com/watch?v=q7_qR46Z1KU

…”

๗ ธันวาคม ๒๕๖๖

ยามเย็น

รักแท้คือ

อยู่ด้วยกัน

จนอ้วนไปด้วยกัน

(ใช่ไหม?)

555+