" ใครๆ ก็เชื่อมได้ "
เพราะวลีสั้นๆ นี้แท้ๆ ที่ทำให้ตัดสินใจซื้อเครื่องเชื่อมโลหะมาใช้งาน ทั้งที่ไม่มีความรู้เรื่องการเชื่อมโลหะมาก่อนเลยแม้แต่น้อย เมื่อมาถึงบ้านก็รีบจัดแจงประกอบอุปกรณ์เจ้าเครื่องเชื่อมที่ว่า เทียบกับคู่มือแล้วไม่ผิดแน่ เศษเหล็กที่จะใช้ทดลองเชื่อมก็คีบสายดินไว้พร้อมแล้ว แล้วจะช้าอยู่ใย......เปิดสวิทซ์...สวมแว่นนิรภัย...
ใจนั้นเต็มร้อยว่าจะต้องทำได้ ค่อยๆ นำลวดเชื่อมไปสะกิดกับเศษเหล็ก มีแสงสว่างขึ้บแว้บนึง แล้วเจ้าลวดเชื่อมก็ติดหนึบกับเศษเหล็ก ต้องออกแรงดึงพร้อมกับโยกไปมาหลายหนกว่ามันจะหลุดจากกัน กี่สิบ..กี่ร้อย...หรืออาจจะเป็นพันเที่ยว มันก็ยังเป็นเช่นเดิม ไม่มีทีท่าว่า " ใครๆ ก็เชื่อมได้ " เหมือนที่เขาโฆษณาเลยแม้แต่น้อย ความมั่นใจที่ว่าเต็มร้อยลดลงเหลือศูนย์
" ไม่น่าซื้อมาเลยเว้ย " รำพึงกับตัวเอง เห็นทีจะต้องไปเรียนสารพัดช่างเป็นแน่แท้
แต่แล้วลูกฮึดก็เรียกความมั่นใจกล้บมาอีกครั้ง เมื่อวันต่อมาไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ตลาด เหลือบไปเห็นชาวต่างประเทศคนหนึ่งกำลังเชื่อมเหล็กดัดอยู่ห่างออกไปราวห้าสิบเมตร
" สอสาวา " คือคำตอบเมื่อผมเข้าไปถามว่าฝึกเชื่อมกี่วันกว่าจะเป็น
หมอนั่นฝึกเชื่อมอยู่ตั้งสองสามวันกว่าจะเป็น แล้วผมฝึกไม่ถึงสามชั่วโมงจะเป็นได้อย่างไร อะไรๆ ผมก็เหนือกว่าหมอนั่น แม้แต่ความหล่อ แล้วทำไมผมจะทำไม่ได้
เพราะลูกฮึดแท้ๆ ที่ทำให้ผมได้หลังคาที่ต่อเติมออกไปจนคลุมไปถึงกำแพงรั้วหลังบ้าน ได้หลังคาข้างบ้านไว้จอดรถจักรยาน ได้ชิงช้า ได้ม้านั่ง และฯลฯ
ภูมิใจมากที่ทุกสิ่งที่เอ่ยถึง เกิดจากฝีมือตัวเองคนเดียวล้วนๆ
อยากจะบอกว่า ใครๆ ก็เชื่อมได้ แต่ไม่ใช่เดี๋ยวนั้น....../
ประสบการณ์ทำให้งานสำเร็จ ความอดทน ความขยันทำให้งานดี ระวังดวงตาบ้างนะครับ
เป็นกำลังใจค่ะผู้พัน…