อนุทินล่าสุด


คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

เพราะน้ำนมวัวจริงหรือ?ว่าจะไม่เขียนเรื่องนี้แล้ว แต่มันก็อดไม่ได้ เพราะมันทิ่มแทงจิตใจมานานมาก เกี่ยวกับพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนแปลงไป คนสมัยผู้เขียนส่วนใหญ่กินนมแม่ แต่คนรุ่นหลังผู้เขียนไม่กี่ปี กินนมวัวกันมากขึ้น ยิ่งได้ฟังแพทย์สมัยใหม่จำนวนไม่น้อย พูดถึงอันตรายของนมวัว ว่าเป็นบ่อเกิดแห่งโรคในคนบางโรค และฮอร์โมนที่แฝงมาในน้ำนมของมัน มีผลต่อพฤติกรรมของคน ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของคนโบราณว่า คนปัจจุบัน มีจิตใจเบี่ยงเบนจากความเป็นคนไปมาก เพราะว่ากินนมวัว(รึเปล่า) และยังชอบตะโกนคำว่า “ไอ้สั…ว์” ใส่กันบ่อยๆ แรกๆก็ไม่ค่อยคิดมาก แต่พอเห็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน ของคนรุ่นหลังบางคน บางกลุ่ม โหดร้าย ตีกัน ยิงกัน ฟันแทง ไล่หัำหั่นกันอย่างสะใจของพวกเขา ซึ่งบางส่วนอาจเกิดจากการเสพสารเสพติด(ก็อาจจริง) แต่บางส่วนก็ยังหาเหตุผลได้ไม่ชัดเจน แต่ครั้นเมื่อแพทย์หลายท่านพูดถึงเรื่อง ฮอร์โมนบางตัวที่อยู่ในน้ำนมวัว ซึ่งอาจไม่เหมาะ สำหรับคน อาจจะทำให้คนถูกกระตุ้น ให้มีพฤติกรรมแบบวัวแอบแฝงอยู่ ถึงแม้คนนั้นจะเรียนหนังสือเก่งมากก็ตาม ซึ่งอาจขัดแย้งกับจิตแพทย์ แต่ก็มิอาจปฏิเสธความคิดดังกล่าวได้อย่างสิ้นเชิง อันที่จริงเชื่อว่าก่อนการผลิตนม ก็มีการวิเคราะห์วิจัย แต่มันก็หาได้รอบคอบครอบคลุมไปหมดทั่วทุกประเด็นก็หาไม่ นี่ก็เป็นเหตุให้คิดว่า การวิจัยทุกเรื่องเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน สมัยหนึ่งดี ต่อมาภายหลังกลับเชื่อถือได้น้อย หรือไม่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอาหาร การกิน ยา และการแพทย์ จึงขอฝากเป็นข้อคิดสำหรับสังคมใหม่ด้วยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณแม่ คุณพ่อ คุณครู และนักการศึกษาทั้งหลายครับท่าชนะ สุราษฎร์ธานี๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗



ความเห็น (1)

NO! I don’t think what suggested is helpful or have any data in support.

Have you ever looked into the eyes of a cow? For most time, cows are very gentle animals, more friendly, truthful and peace-loving. Except when they are on a truck going to an abattoir. They know and they fear death as much as we do.

Yes! Let’s reduce : eating their meat, drinking their milk, locking them up in very small pen or chaining them to a post. Cows have not committed any crime (you mention a few). If we can train ourselves to treat cows right , then we can treat other humans better.

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

วันแห่งความรักคน อยากจะเป็นที่รัก อยากให้คนรัก อยากให้สัตว์รัก และอยากให้เขารัก มากยิ่งกว่าใครๆ โดยที่อยากเป็นฝ่ายถูกรักอย่างเดียวในชีวิต แต่ไม่เคยพิจารณาพฤติกรรมตนเองเลยว่า ตนเองมีพฤติกรรมอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อความรักจากคนอื่นบ้างหรือไม่ เพราะว่าความรักมิใช่สามารถซื้อได้ด้วยเงินเพียงอย่างเดียว ตนเองมีความสวย รวย หล่อ มารยาทดี หยาบคาย เป็นผู้ให้อย่างเดียว รับอย่างเดียว ขี้เหนียว ใจร้าย โหดร้าย ทารุณ อิจฉา ริษยา โมโหร้าย เมตตา กรุณา ฯลฯ ในขณะที่ความรักมีประโยชน์ต่อชีวิตมนุษย์มากล้น เช่น ช่วยกันสร้าง ฐานะ ครอบครัว มิตรภาพ ความสุข ความดีงาม เป็นต้น แต่ว่าใช่จะไม่มีโทษเลยก็หามิได้ ความรักทำให้เกิดความหึงหวง ฆ่า ยิง ฟัน แทง กันตาย ไม่เว้นตามข่าวแต่ละวัน ความโลภ โกรธ หลงในความรัก ก่อให้เกิดทุกข์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในศาสนาพุทธกล่าวถึง ที่ไหนมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ไว้เหมือนกัน แต่ไม่ง่ายที่จะมีคนเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และแยกแยะได้ ยังคงจมกันไปในกองทุกข์อย่างยากที่จะถอดถอนได้ สุดยอดของศาสนาพุทธอย่างหนึ่งก็คือ สอนให้คนอ่านจิตใจตนเอง ไม่ให้ส่งใจออกนอก เพราะภายนอก ต้องพบกับ กิเลส โลภ โกรธ หลง อยู่กับสรรพสิ่งตลอดเวลา ส่วนภายใน อ่านจิตใจตนเอง รู้เท่าทันมัน ก็สงบสุข “นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง” “ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี” ขอให้ใช้ความรัก อย่างประหยัด เป็นสุข ถูกทางกันนะครับ…กรุงเทพฯ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

เรื่องประสบการณ์จากสุนัขประมาณตีสาม ของวันเสาร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ วิ่งออกกำลังกาย ห่างจากบ้านพัก ประมาณ ๑๐๐ เมตรสุนัข ๒ ตัวโตๆเห่าไล่หลัง รุกไปเรื่อยๆ ตั้งใจจะไล่กลับ กลัวมันเห่าดังทำให้คนในบ้านตื่น เลยวิ่งไปเรื่อยๆ เจออีกกลุ่ม ข้างหน้าเห่าจากหมู่บ้านใกลัๆกัน ไล่รุกเข้ามา ทำให้ต้องสู้กับสุนัขทั้งสองด้าน ตัดสินใจถอยมาทางบ้าน ที่ตัวเองไปพัก พยายาม เพื่อให้มันเลิกเห่า โดยเรียกมัน หลายๆแบบ ที่เคยใช้ได้ผล แต่มันไม่ยอม มีแต่เห่าหนักยิ่งขึ้น ว่าที่จริงเราก็กลัวมันกัด แต่ก็ไม่มีทางเลือก นั่งลงแล้วเรียกมัน ด้วยพลังใจเมตตา กรุณาบารมีสุดๆ แต่ก็นานมาก โชคดี ที่มันยอมวิ่งเข้ามาหมอบต่อหน้า ยอมให้ลูบหัว ท่ามกลางความรู้สึกเสี่ยงของทั้งสองฝ่าย เมื่อลูบหัวมันได้แล้ว มันก็เลิกเห่า แต่ลูกมันยังเห่าหนักอยู่ แม่มันวิ่งไปหาลูก แล้วมาหาเรา สลับกันหลายรอบ เหมือนกับว่าเอากลิ่นของเรา ไปให้ลูกดม ทำให้ลูกก็เห่าเบาลง และ สักครู่หนึ่งก็เลิกเห่า เป็นมิตรกัน จึงรีบหากระดูกไก่ซึ่งคนงานทานกันเมื่อคืน ให้มันเป็นรางวัลทันที โล่งอกไปเลย…นึกอยู่ว่า..เอานา ดีกว่าทะเลาะกับคน..ถือว่าเล่าประสบการณ์ชีวิตจากหมาให้อ่านเล่นก็แล้วกันนะ…๕๕๕



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

ชุมนุมศิษย์เก่ามัธยมวัดธาตุทอง ๗๒ ปีความสุขของครู วัยหกรอบ คือได้แลเห็นลูกศิษย์พัฒนา กาย ใจ จากวัยเรียน เป็นวัยผู้ใหญ่สี่ ห้ารอบที่มีสัมมาอาชีพ มีความรัก กตัญญู รู้คุณ แม่ พ่อ ผู้มีพระคุณ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี กับเพื่อน ผู้ใหญ่ ดูแลสังคมรอบตัว และรุ่นน้อง ด้วย รัก เมตตา เอื้ออาทร เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกหลาน ทั้งยังแลเห็น ผู้อำนวยการ ผู้บริหาร คณะคุณครู ทั้งอดีต และปัจจุบัน รวมทั้งนักเรียน ให้ความร่วมมือ ในการจัดกิจกรรม เพื่อการ พัฒนาบุคลากร อาคาร สถานที่ วัสดุปกรณ์ ส่งเสริมการเรียนการสอน ให้เหมาะสม ขอบคุณโรงเรียน คณะกรรมการนักเรียนเก่า ศิษย์เก่า ที่ให้โอกาสมาสัมผัส ความสุขซึ่งหน้า เป็นธุระต้อนรับ ดูแล อาหารการกิน ของที่ระลึก บันทึกรูป ความทรงจำ มอบของขลังตามความเชื่อของตนไว้ให้เพื่อปกป้อง คุ้มครองครู เล่าประสบการณ์ทรงคุณค่าให้ฟัง ทักทาย ไต่ถามทุกข์สุข การเดินทางไปกลับงาน รู้ว่าไม่ได้ขับรถไป จะขับรถมาส่งบ้าน แต่ครูอยากให้ใช้โอกาสที่หายากสังสรรกันมากกว่า ท้ายที่สุด มีมือดีกำธนบัตรใส่มือครูอย่างลับๆ กระซิบ(จำเสียงได้)ว่าเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน มาคลี่ดู ทึ่งเลย ตั้งหนึ่งพันบาท ต้องขอบใจที่เป็นห่วงเป็นใยถึงขนาดนี้ ส่วนเงินที่เหลือจะใช้ให้เหมาะสม และเผื่อแผ่ผลบุญ แก่เจ้าของ และทุกคนครับ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านนับถือ บูชา จงบัลดาล ประทานพร ให้ชาวธาตุทองทุกๆคน พบแต่สิ่งดีๆ ที่พึงปรารถนา จงทุกทิพา ราตรีกาล และตลอดไปครับกรุงเทพฯ. ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

ชาวไทยพุทธ คงจะเคยได้ยินเรื่องยุคพระศรีอารย์ พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ พระศรีอารยเมตไตรย สืบต่อจากพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ หรือสมณโคดม และคาดการณ์ว่าจะเป็นยุคที่โลกสงบสุข รุ่งเรือง ประชาชนจะมีความสุขอย่างยิ่ง ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ จะพอใจในความเป็นอยู่ ไม่มีการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ยามนอนไม่จำเป็นจะต้องปิดประตูใส่กลอน เพราะไม่มีขโมย ไม่มีคนร้าย มีแต่มวลชนคนดี ไม่มีคนพาล มีแต่คนสุภาพเรียบร้อย เหมือนกันหมดกลับเข้าบ้าน จึงจะรู้ว่านี่คือภรรยา หรือสามี หรือบุตร และอยากจะได้อะไรก็จะได้ ต้นไม้วิเศษที่เรียกกันว่า ต้นกัลปพฤกษ์ (โทรศัพท์สมาร์ทโฟน?) อยู่ทุกทิศทาง อยากได้อะไรบอกต้นไม้ ก็จะสมปรารถนา ติดต่อกับญาติพี่น้องพ่อแม่ ก็สามารถเห็นหน้าเห็นตากันได้ ถ้าเป็นแบบนี้ได้จริง ก็อยากให้คนทั้งโลก เข้าถึงยุคนี้โดยเร็ว ทุกคนจะได้สมหวังดั่งปรารถนา และมีความสุข มีสันติภาพตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป๑ มกราคม ๒๕๖๕ 



ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิด รู้ตัวว่าแก่ขึ้นไปอีกหนึ่งปี ผู้ให้กำเนิดหายไปหนึ่ง เหลืออีกหนึ่ง ทำให้คิดถึงวันที่ใกล้เข้ามาบ่อยๆ แก่นสารของชีวิต คือควรทำความดี ละเว้นทำความไม่ดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ตามหลักพระธรรม ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อความสบายใจของตนเอง และคนรอบข้าง ไม่อยากให้เป็นภาระต่อชีวิต และการทำงาน ของคนที่ใกล้ชิด แต่ไม่รู้จะทำได้นานแค่ไหน อยากภาวนาให้พี่ น้อง ผอง เพื่อน ญาติสนิท มิตรสหาย ลูกๆ หลานๆ ผองศิษย์ทุกๆคน และผู้มีอุปการะคุณ จงได้อยู่ในอำนาจแห่งความดี สามารถยังภาระกิจ ให้ลุล่วงสมความปรารถนา มีสุขภาพอนามัย แข็งแรง นึกหวังสิ่งใดที่เป็นสิ่งดี ขอให้สมหวังดั่งตั้งใจ จงทุกประการ ทุกท่าน ทุกคนนะครับ และขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ๓ ธันวาคม ๒๕๖๔



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

เช้าวันถัดไปของวันออกพรรษา ของทุกปี เรียกเป็นการนับ วัน เดือน ปี แบบจันทรคติว่า วันแรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า วันตักบาตรเทโว ( ปีนี้ตรงกับ วันศุกร์ ที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔) พิธีการนี้ จัดขึ้น ณวัดขจรบำรุง ปากกิ่ว ต.วัง อ.ท่าชนะ สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นช่วงที่ covid 19 กำลังระบาด เป็นเหตุให้ พุทธศาสนิกชนไปร่วมงานนี้น้อยลง ขณะที่กรรมการของวัดฯได้จัดสถานที่ในพื้นที่ ตซึ่งเป็นศาลาของวัด มีพระสงฆ์จำนวน ๕ รูป นั่งประจำเก้าอี้ มีโต๊ะด้านหน้า พร้อมบาตรพระ มีพุทธศาสนิกชนประมาณ ๕๐ คน เข้าร่วมในพิธี ได้เวลาพอสมควร พิธีกร นำ บูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล ๕ พระสงฆ์ ให้ศีล และสวดถวายพรพระ เมื่อถึงบทพาหุงฯ พุทธศาสนิกชน ก็ลุกขึ้นเดินนำขันใส่ข้าวสุก กับข้าว อาหารหวานคาว ข้าวต้มมัด ข้าวต้มลูกโยนจตุปัจจัย อาหารแห้ง ใส่บาตร เสร็จพิธีช่วงนี้ จะมีการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ ณศาลาแห่งนี้ บันทึกนี้ เพียงเพื่อแสดงให้เห็นว่าชุมชนปากกิ่ว มีการอนุรักษ์ ขนบ ธรรมเนียม ประเพณี อันดีงาม เช่นพิธีการตักบาตรเทโวตามแบบที่เขาเชื่อ ศรัทธา ทำตามปู่ย่าตายาย สืบต่อกันมาแบบนี้เอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

แด่คุณครู สมหมาย สุขศรี (คุณครูต้อย) มีโอกาส ได้ร่วมงานกับคุณครู ที่โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว เป็นระยะเวลาไม่นานนัก แต่คุณครูก็ได้แสดงให้เห็นว่า ตัวเองมีวิญญาณแห่งความเป็นครูเพียบพร้อม งดงาม อย่างสุขุม ลึกซึ้ง รักและปรารถนาดีต่อนักเรียนอย่างจริงใจ ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ด้วยความตระหนัก และรับผิดชอบสูงสุด มีความรักความจริงใจ ให้กับเพื่อนครู ทุกคน ให้ความเคารพและให้เกียรติกับผู้บังคับบัญชาทุกท่าน ท้ายที่สุด ยอมเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด เพื่อไปดูแลคุณแม่ จนกระทั้งถึงวาระสุดท้ายของคุณแม่ ด้วยความสำนึกรับผิดชอบ ที่สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการสรรเสริญอย่างสูงสุด ท้ายที่สุด ตนเองก็ป่วย และจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เป็นที่กระเทือนจิตใจของเพื่อนครู ลูกศิษย์ และญาติพี่น้อง ทุกๆคน เป็นอย่างยิ่ง ขอให้คุณครูจงหลับให้สบาย และขอให้ดวงวิญญาณของคุณครู สู่สัมปรายภพ ตามที่ปรารถนาจงทุกประการด้วยรักและอาลัย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

ไข่เค็ม ที่ไม่ใช่ ไข่เค็ม ไข่เค็ม ชื่อแมวตัวผู้ที่น่ารัก หลงมาอยู่ด้วย ตอนที่แม่เริ่มป่วย และจากไปหลังแม่ ๒ ปี ในวันอาทิตย์ ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๔๖๔ วัน เดือน เดียวกัน กับแม่ เป็นแมวที่ฉลาด นวดให้ ก่อนนั่งตัก แต่ซน ไม่ค่อยอยู่บ้าน มากินอาหารเม็ด ตามเวลา เช้า เย็น กลางวันก็จะนอนพักตามที่ที่พอใจ เริ่ม พฤหัสฯบ่าย สังเกตุเห็นว่าถ่ายยาก ก็ปรึกษาอากู ตามเอาน้ำไปวางให้กินทุกที่ พอค่ำหายไป เช้าศุกร์มานอนพัก ดูอาการดีขึ้นเตรียมค้นหาชื่อคลีนิคหมอไว้ สามที่ เย็นวันศุกร์หาย ตามหาไม่พบ มาอีกทีเสาร์ค่ำ ครานี้อาการไม่ค่อยดี แต่ก็ดูแลเยียวยาเต็มที่ เนื่องจากวันเสาร์- อาทิตย์ คลีนิคหมอในตัวอำเภอปิด ตั้งใจแน่วแน่ว่าวันจันทร์เช้าจะพากันไปหาหมอ เช้าวันอาทิตย์ เธอก็มาหนีฉันไปก่อน เจ้าของผู้เก็บมาเลี้ยง และน้อง ต่างร้องไห้หนักทั้งคู่ เมื่อรู้ข่าว ตัวเองก็สุดเศร้าที่ไม่สามารถช่วยชีวิตไข่เค็มไว้ได้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

แด่คุณครูเกษียณ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔เคยได้ร่วมงานกับคุณครูจินตนา คุณครูสุวรรณศรีคุณครูกฤษณา ที่โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขณะที่ยังปฏิบัติราชการ ร่วมกันกับคุณครูทั้งสามท่านที่โรงเรียนนี้เป็นเวลาหลายปี ทั้งสามท่านให้ความร่วมมืออย่างยอดเยี่ยม คุณครูจินตนาทำงานในส่วนของงานวิชาการ โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับ ข้อสอบ การวัดประเมินผล อยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับคุณครูสุวรรณศรี ก็ทำงานประจำที่ห้องสมุดโรงเรียนตลอดมา ส่วนคุณครูกฤษณาก็ประจำสำนักงานหมวดภาษาต่างประเทศตลอดมาเช่นกัน สรุปแล้วก็คือว่า คุณครูทั้ง ๓ ท่าน เป็นผู้ ทรงคุณวุฒิของโรงเรียน มีประสบการณ์ ในด้านวิชาการ หรืองานที่ทำตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ย่อมเป็นที่เคารพรัก ของบรรดาศิษย์ทั้งหลาย และสมควรที่ ศิษย์ทั้งหลาย ที่เคยได้รับการศึกษาอบรมจากท่านทั้ง ๓ ท่านจะได้ประจักษ์ ต่อคุณงามความดี คุณูปการ ของท่านอาจารย์ที่มีต่อตนเอง โรงเรียน และสังคม เรามาร่วมกัน ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดดลบันดาลประทานพร ให้คุณครูทั้ง ๓ ท่าน มีความสุข กับชีวิตหลังเกษียณราชการ มีสุขภาพแข็งแรง มีความปรารถนาสิ่งใด ก็ขอให้ท่านทั้งสามและครอบครัวจงสมความปรารถนาทุกประการเทอญ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

ถ้าหาก มีเหตุ มีปัจจัย เกื้อกูล หนุนเนี่อง ธรรมของโลกก็จะเปลี่ยนไปตามกระแส บ้านเมืองก็เช่นเดียวกัน นักการเมืองดี หรือเลว ก็จะถูกกลุ่มคนที่เรียกว่า เป็นคนรุ่นใหม่ หัวก้าวหน้า ถล่มว่า เลว โกงทุจริต คอรัปชั่น ไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งแท้ที่จริง กลุ่มคนที่ถูกด่า ก็อาจจะ เคยด่าบรรพบุรุษในกลุ่มประเภทเดียวกันมาก่อนแล้ว และบางคนก็เคย เข้าป่า เคยศึกษายุทธวิธีต่างๆมาก่อน เหตุการณ์แบบนี้ เกิดเวียนวนไปมา ไม่รู้ กี่ยุค กี่สมัย กี่ชั่วอายุคน บางคนก็ยังมีชีวิตให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน และจะเป็นเช่นนี้ต่อไป จนกว่าโลกจะแตกดับ จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือน่าตื่นเต้นแต่อย่างใด ส่วนสาธุชน คนที่เป็นปู่ ย่า ตา ยาย ปัจจุบันอาจจะต้องทนรำคาญต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย อาจจะทุกข์ใจ ว่ากฎหมาย ระเบียบ ระบบ เจ้าหน้าที่ ก็ทำอะไร ไม่ได้มาก ไปกว่าที่เห็นและเป็นอยู่ หากแต่ว่า การแสดงความหยาบคาย ไร้ความรัก ความเมตตา ความกรุณา ต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ให้แก่สังคม โดยไม่แลเห็นว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น เป็นสิ่งที่เดือดร้อนต่อคนอื่น สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จะเป็นมาตรฐานรับรองว่ากลุ่มดังกล่าว หากโชคดีได้เสวยอำนาจ แล้วจะประพฤติตน ไม่ชั่วร้าย เลวทราม หนักกว่า คนที่ตนเอง เคยสาปแช่งเอาไว้จริงหรือ หรืออาจทำสิ่งที่ทรยศประเทศ ขายชาติในที่สุดหรือไม่ หรือรอให้คนรุ่นใหม่กว่ามาถลกหนังต่อ เพลโตเองก็เคยบอกไว้ว่าประชาธิปไตยอาจก่อให้เกิด เผด็จการ ในที่สุด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ก็จักทำหน้าที่บันทึกความดี ความชั่ว ที่ก่อเกิดกันขึ้นมาให้คนรุ่นหลังได้รับรู้อยู่ดี เดี๋ยวนี้ตรวจสอบผ่าน กูเกิลได้ทันที ส่วนเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ข้าราชการ พลเรือน พระสงฆ์ แม่พ่อ ครู ผู้ปกครอง ที่ทำหน้าที่ ครบถ้วน ถูกต้องแล้วก็มิน่าจะต้องกังวลใจแต่อย่างใด



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

ข้อเขียนต่อไปนี้ เขียนตามความเชื่อที่ว่า “คนทำดีเพื่อชาติ ศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามเคารพ ซื่อสัตย์ กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ รู้จักทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ฯลฯ ย่อมได้รับการคุ้มครอง ส่วนคนทรยศ ย่อมได้รับคำสาปแช่ง อาจถึงความพินาศในที่สุด” ขอให้คนที่ไม่เชื่อในหลักการนี้ โปรดอย่าเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อท้าย (อย่ามาเสแสร้ง ตัวเองย่อมรู้ตัวดี) ถึงแม้คุณอาจจะไม่เชื่อ แล้วมาแสดงความคิดเห็น เราไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้น กับทุกชีวิต บนความเชื่อที่มองไม่เห็น “เขาเล่ากันว่า มือขว้างระเบิดในม็อบ เจอเวรกรรมเข้าแล้ว นิ้วขาด แถมยังติดโควิทอีกต่างหาก เป็นเด็กที่น่าสงสาร ต่อไปใครจะช่วยเขา และโรคอาจติดต่อไปถึงคนอื่นอีกด้วย แต่ก็ยังมีคนนิสัยถาวรแท้ที่ไม่ดีมากๆ บอกว่าตำรวจยัดระเบิดใส่มือให้เขา ทั้งๆที่เห็นชัดในคลิป ใครจะเป็นคนต่อไป น่าเป็นห่วง”



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

รู้สึกเศร้าใจอย่างมากที่สุดกับความเป็นครูของตัวเองอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ตลอดเวลาสี่สิบกว่าปี มีลูกศิษย์นับหมื่นคน และในจำนวนนั้น ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีลูกศิษย์สักกี่คนที่ยังหวงแหนความเป็นชาติไทย ซึ่งส่วนนี้ขอขอชื่นชมยินดีเป็นที่สุด แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีสักกี่คน หรือถ้าไม่มีก็ยิ่งดีมากที่สุด ที่จะมีส่วนในการทำร้ายชาติ ทรัพย์สินของชาติ ของบรรพบุรุษ ตลอดจนมีส่วนทำลายศิลปะประจำชาติ ที่บรรพบุรุษได้สร้างสมเอาไว้ ให้กับคนรุ่นหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ ณ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และพื้นใกล้เคียง ท่ามกลางการบังคับใช้กฎหมายป้องกันการระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า๑๙ ความหยาบคาย ความก้าวร้าว ความรุนแรง ที่ปรากฎในวิดิทัศน์ต่างๆ แพร่ไปทั่วโลก ทำลายความดีงามที่คนไทยและบรรพบุรุษสร้างสมเอาไว้ตลอดมา เศร้าใจกับกลุ่มที่อ้างเอาชื่อสถาบันอันทรงเกียรติ และระบบประชาธิปไตยเพื่อตนเองทำลาย ระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชณาจักรไทย เพื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย ชาวสยามจะมีอะไรเหลือ ไว้ให้ชาวโลกได้ชื่นชมอีกละหรือ เศร้าๆๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

คิดว่าบุคคลที่ควรจะได้รับวัคซีนก่อนเป็นพิเศษ กลุ่มที่ 1 ได้แก่หมอพยาบาล เจ้าหน้าที่ ที่จะต้องเป็นผู้ช่วยหมอพยาบาล และคนดูแล สถานที่ที่หมอพยาบาล สังกัดอยู่กลุ่มที่ 2 ได้แก่ ผู้สูงวัยทั้งหลาย และผู้มีโรค ในตระกูลกลุ่มเสี่ยงทั้งหลายกลุ่มที่ 3 ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะต้องเข้าจับ คนร้ายพูดเล่นการพนัน สัมพันธ์กับคนทั่วๆไปซึ่งไม่อาจรู้ได้ว่าเขาติดโรคมาหรือไม่ รวมทั้ง จนท. ตามพ.ร.บ.สถานการณ์ฉุกเฉินกลุ่มที่ 4 ได้แก่พระภิกษุสามเณร ที่จะต้องสัมพันธ์กับ พุทธศาสนิกชน ทั้งหลาย และทุกท่านที่เกี่ยวข้องกับ การจัดการศพผู้ตายอันเนื่องมาจากโควิด 19กลุ่มที่ 5 ได้แก่ พนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหลาย และคิดว่าคนที่จะทำงานเพื่อคนทั้งประเทศให้ได้ดีมีคุณภาพ น่าที่จะต้องเป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา ความสุขุม ความรอบคอบ ความมีคุณธรรม มีวินัย เคารพกฎหมาย เห็นคุณค่าของทุกชีวิต รวมทั้งการบริหารจัดการปฏิบัติงาน ตัดสินใจ และแก้ไขปัญหา บนหลักพื้นฐานแห่งคุณธรรม จริยธรรม แต่ถ้าหากเป็นคนที่มีนิสัยก้าวร้าว หยาบคาย กักขละ เหมือนไม่ใช่คน และไม่มีความสามารถ ในการดูแลควบคุมตัวเอง ให้มีคุณสมบัติพร้อมที่จะทำงาน เพื่อชาติบ้านเมือง ย่อมพร้อมที่จะโลภ เห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง และพร้อมที่จะโกง ทำลายทุกสิ่งรอบตัว เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้อง หากไม่เป็นที่พอใจ ไม่ถูกใจ จะไรัคุณธรรมในการแก้ไขปัญหาใช้อารมณ์แก้ปัญหา มากกว่าใช้ปัญญา วันไหน เวลาไหนอารมณ์ดี การแก้ปัญหาของคณะอาจเป็นที่พอใจ แต่เวลาใดทีอารมณ์ไม่ดี คณะร่วมทำงานอาจโดนจวก อย่างไร้เหตุผล อย่าหวังว่าจะได้มีการประเมิน การทำงาน ทั้งก่อนลงมือทำงาน ระหว่างทำงาน และหลังการทำงาน และปรึกษาหารือกัน แก้ปัญหากันอย่างมีหลักการ เป็นระยะๆ ขณะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน น่าจะช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยเหลือประชาชน แต่กลับไปสร้างความเดือดร้อน หรือ สร้างปัญหาเพิ่ม โดยที่ไม่สนใจว่า ใครจะเดือดร้อน จากผลการกระทำของพวกตนเอง คนเหล่านี้สมควรได้รับการสนับสนุน ให้เป็นคณะบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่ วิญญูชนย่อมเลือกได้ กรุงเทพฯ๔ สิงหาคม ๒๕๖๔



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

คิดว่าบุคคลที่ควรจะได้รับวัคซีนก่อนเป็นพิเศษ กลุ่มที่ 1 ได้แก่หมอพยาบาล เจ้าหน้าที่ ที่จะต้องเป็นผู้ช่วยหมอพยาบาล และคนดูแล สถานที่ที่หมอพยาบาล สังกัดอยู่กลุ่มที่ 2 ได้แก่ ผู้สูงวัยทั้งหลาย และผู้มีโรค ในตระกูลกลุ่มเสี่ยงทั้งหลายกลุ่มที่ 3 ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะต้องเข้าจับ คนร้ายพูดเล่นการพนัน สัมพันธ์กับคนทั่วๆไปซึ่งไม่อาจรู้ได้ว่าเขาติดโรคมาหรือไม่ รวมทั้ง จนท. ตามพ.ร.บ.สถานการณ์ฉุกเฉินกลุ่มที่ 4 ได้แก่พระภิกษุสามเณร ที่จะต้องสัมพันธ์กับ พุทธศาสนิกชน ทั้งหลายกลุ่มที่ 5 ได้แก่ พนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งหลาย และคิดว่าคนที่จะทำงานเพื่อคนทั้งประเทศให้ได้ดีมีคุณภาพ น่าที่จะต้องเป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา ความสุขุม ความรอบคอบ ความมีคุณธรรม มีวินัย เคารพกฎหมาย เห็นคุณค่าของทุกชีวิต รวมทั้งการบริหารจัดการปฏิบัติงาน ตัดสินใจ และแก้ไขปัญหา บนหลักพื้นฐานแห่งคุณธรรม จริยธรรม แต่ถ้าหากเป็นคนที่มีนิสัยก้าวร้าว หยาบคาย กักขละ เหมือนไม่ใช่คน และไม่มีความสามารถ ในการดูแลควบคุมตัวเอง ให้มีคุณสมบัติพร้อมที่จะทำงาน เพื่อชาติบ้านเมือง ย่อมพร้อมที่จะโลภ เห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง และพร้อมที่จะโกง ทำลายทุกสิ่งรอบตัว เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้อง หากไม่เป็นที่พอใจ ไม่ถูกใจ จะไรัคุณธรรมในการแก้ไขปัญหาใช้อารมณ์แก้ปัญหา มากกว่าใช้ปัญญา วันไหน เวลาไหนอารมณ์ดี การแก้ปัญหาของคณะอาจเป็นที่พอใจ แต่เวลาใดทีอารมณ์ไม่ดี คณะร่วมทำงานอาจโดนจวก อย่างไร้เหตุผล อย่าหวังว่าจะได้มีการประเมิน การทำงาน ทั้งก่อนลงมือทำงาน ระหว่างทำงาน และหลังการทำงาน และปรึกษาหารือกัน แก้ปัญหากันอย่างมีหลักการ เป็นระยะๆ ขณะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน น่าจะช่วยกันแก้ปัญหา ช่วยเหลือประชาชน แต่กลับไปสร้างความเดือดร้อน หรือ สร้างปัญหาเพิ่ม โดยที่ไม่สนใจว่า ใครจะเดือดร้อน จากผลการกระทำของพวกตนเอง คนเหล่านี้สมควรได้รับการสนับสนุน ให้เป็นคณะบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่ วิญญูชนย่อมเลือกได้ กรุงเทพฯ๔ สิงหาคม ๒๕๖๔



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

ใครจะช่วยให้ฉีดวัคซีนต่างท้องที่ได้บ้าง

ทำอย่างไรดี ให้คนไทย สามารถลงทะเบียนผ่านระบบเครือข่าย แล้วสามารถฉีดวัคซีนที่บรรเทาความรุนแรงของโรคไวรัสโคโรนา ๑๙ ได้กับหน่วยบริการ ที่ใกล้ตัวเขาที่สุด ทันทีถ้ามีวัคซีนไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ของประเทศไทย เพราะเชื่อว่าระบบเครือข่ายของประเทศไทยเรา น่าจะสามารถบันทึกข้อมูล ลงในรายการข้อมูลบัตรประชาชน ของเลข ๑๓ หลักของคนๆนั้นได้ ถ้าสามารถอำนวยความสะดวกอย่างนี้ให้ประชาชนได้ จะเป็นผลดีกับคนไทยได้มากมาย เพราะความจำเป็นของคนเราที่สำคัญคืออาจต้องเดินทาง ไปทำภาระกิจในต่างท้องที่อยู่บ่อยๆไม่น้อยทีเดียว แต่เท่าที่แลเห็นการลงทะเบียนจะต้องเฉพาะท้องที่ใครท้องที่มันเท่านั้น ถ้าจะเปิดกว้างกว่าเดิมบ้างจะได้ไหม



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

แมวส่อพิรุธด้วยหรือ

เช้านี้คลุกข้าวแมว แต่ผิดปกติตรงที่”ฟ้า”แทนที่จะรอตรงที่วางจานข้าวที่คลุกแล้วเหมือนเคย และจะต้องกินข้าวก่อนใครๆเสมอ วันนี้กลับไปนอนอยู่ที่พรมเช็ดเท้า ห่างออกไปไกลทีเดียว ส่วน”ตังค์”จะนัวเนียอยู่ที่ รอบเท้าเราขณะที่กำลังคลุกข้าว และมักได้กินอันดับที่สอง ส่วน”เฟื่อง”สุภาพเพศเมีย แมวผู้เสียสละ จะนอนรอห่างๆ กินหลังสุดเสมอ ขณะที่กำลังเตรียม วัสดุอุปกรณ์ ยังไม่เสร็จ หันไปเห็นปลาทอดตัวหนึ่ง วางกองอยู่กับพื้น ก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า คุณฟ้าเธอคือผู้ปฏิบัติกิจกรรมนี้อย่างแน่นอน แอบขโมย อีกเช่นเคย และวันนี้ มีพิรุธอีกต่างหาก ส่วนวีรกรรมฉี่ลงโถส้วม ซึ่งสงสัยกันมานาน และวันหนึ่งก็ถูกจับได้ว่าฟ้าชูหน้าตา เหนือชักโครก เป็นผู้ทำกิจกรรมนั้นด้วย ครั้นพอเราเห็นเข้า เธอรีบจ้ำอ้าวออกไปทันที เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น …นึกว่าแมวไม่เรียนรู้…ปัดโธ่เอ๋ย ที่ไหนได้ …เราไม่เรียนรู้แมวเองต่างหาก ๕๕๕กรุงเทพฯ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

ขอบคุณเพื่อนนักสู้ทุกๆคน

วันจันทร์ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๐๓:๐๐ น ได้ยินเสียงระเบิดดังมาก ตอนเช้ามีข่าวว่า ไฟไหม้โรงงานเคมีแถวกิ่งแก้ว มีการอพยพประชาชนโดยรอบรัศมี ๕ กิโลเมตร ให้ปลอดสารพิษ ท่ามกลางการระบาดของเชื้อโควิท๑๙ เกือบหกพันคนต่อวัน ทั้งเจ้าหน้าดับเพลิง อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ปกครอง ทหาร ตำรวจ ต้องดับไฟท่ามกลางความตึงเครียดของสถานการณ์ บางคนต้องบาดเจ็บสาหัส บางคนต้องสูญเสียชีวิต ท่ามกลางความเศร้าสลด ของวงศาคณาญาติ ความกลัว ความโศกเศร้า ถูกบีบอัดลงไปในจิตใจของทุกคน คนแก่อย่างเรารู้ว่าเราเป็นหนี้บุญคุณ ทุกคนที่เสียสละสูงสุด อีกแล้ว ด้วยความตั้งใจของพวกเขา พวกเราจึงปลอดภัยมากขึ้น การเสียสละเพียงเล็กน้อยของพวกเรา ผ่านองค์กรต่างๆ การให้กำลังใจ การสำนึกในความดีของท่านผู้มีคุณทุกๆคน รวมทั้งวีระบุรุษ น้องพอส (คุณกรสิทธิ์ ลาวพันธ์) ด้วย คงเป็นพละกำลังให้นักสู้เพื่อสังคมทุกคน สู้เพื่อคนทั้งโลกต่อไป ด้วยพลังความดีของพวกเรา และของนักสู้ จงอำนวยพรให้ทุกคน และครอบครัว พ้นภัยอันตรายทั้งปวง มีสุขภาพดี ประสบสิ่งดีที่พึงปรารถนาตลอดไปกรุงเทพฯ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๔



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

มาฉีดวัคซีนกันเถอะ

ตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเรื่องการไปฉีดวัคซีน เมื่อวันพุธที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ตอนเช้าไว้แล้ว แต่คิดดูแล้วว่า น่าจะรอดูผลข้างเคียง ที่อาจเกิดขึ้นเสียก่อน เพื่อจะได้บอกให้ผู้อ่านแน่ใจได้ว่า มีผลข้างเคียง หรือไม่ อย่างไร และได้ไปฉีดพร้อมกับคนใกล้ตัว ที่มีโรคประจำตัว ที่มีความเสี่ยงสูงด้วยอีกท่านหนึ่ง ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ฉีดเพราะได้ข่าวผลข้างเคียงที่น่ากลัว บัดนี้ครบสามวันแล้ว ผลคือตัวเองปวดแผลที่ฉีดนิดๆ ครั่นเนื้อครั่นตัวเล็กน้อย แอบทานกาแฟหนึ่งแก้วในตอนค่ำ ทั้งๆที่คนรอบข้างห้าม แต่ได้ถามอากูแล้วแกบอกไม่เป็นไร ส่วนท่านที่ไปด้วยกัน มีอาการปวดเมื่อยตามตัวเล็กน้อย เพลียนิดหน่อย ง่วงนอน ครั่นเนื้อครั่นตัวเล็กน้อย ตัวเอง อาบน้ำอุ่น ทานอาหาร ขนม ผลไม้อะไรก็ได้ มากเป็นพิเศษกว่าปกติ ส่วนถ้าจะมีไข้ก็ให้ใช้ผ้าเย็นเช็ดตัว นอกนั้นไม่มีอะไรเลยจริงๆ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ศิษย์ ที่กลัวเข็มฉีดยา แต่ไม่กลัวมดกัด มั่นใจได้เลยว่าพยาบาลคนฉีดจะถูกเฟ้นเป็นคนที่มือเบาที่สุดมาแทบทั้งนั้น ไว้ใจได้เลย แต่ที่ดูแย่ๆก็คือก่อนฉีด แต่ละคนมีความดันสูงปรี๊ด แต่ฉีดเสร็จแล้วความดันปกติแทบทุกราย ถือโอกาสนี้ขอบคุณ รัฐบาล ประชาชนเจ้าของภาษี คณะหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง เหน็ดเหนื่อยเพื่อปวงชน กันมานานมากแล้ว พวกเราจะเป็นคนดี ไม่ดื้อ ไม่เป็นอุปสรรคต่อต้านขัดขวางสิ่งที่จะได้มาซึ่งความสุขของประชาชนโดยรวม จะปฏิบัติตามกฎกติกา คำขอร้องของท่านทั้งหลาย เพื่อให้ประเทศ และโลกของเรา รีบเดินเข้าสู่สภาวะปกติ ขอบุญกุศลที่ท่านทำ ส่งเสริมให้ท่านทั้งหลายประสบสิ่งดี ที่ปรารถนาในชีวตนะครับ และที่จะลืมเสียไม่ได้คือ หมอพร้อม เจ้าของ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนาๆชาติจุฬารัตน์ ๓ ที่อำนวยความสะดวกให้ได้ฉีดวัคซีนแอสตร้า ซีเนก้า จนเป็นที่เรียบร้อยครับกรุงเทพฯ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

เหนือทุกขเวทนาดูแลพ่อ มิใช่ ดู เฝ้า รับรู้ว่าท่านทำอะไร เพียงแค่นั้น ต้องรับรู้ว่าชอบอะไร จะหามาให้ จะตอบสนองอย่างไร ให้ไม่บาป และทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความสุข การดูแลความสะอาดภายในบ้าน เครื่องนอน อาหารการกิน หยูกยา ห้องน้ำ ต้องเรียบร้อย สะอาดปลอดภัย สภาพภายนอกบ้านก็เช่นกัน ต้องโล่ง เตียน ราบ เรียบ ปราศจากขยะ และ หญ้า รกรุงรัง และคนแก่เพียงผู้เดียว จะดูแลบุพการีแม้เพียงคนเดียว ให้คุณภาพเต็มร้อยก็คงยาก โดยแค่เพียงดายหญ้ารอบบ้าน สัก ๒๐๐ ตารางเมตร ก็แย่แล้ว เสรี อดีตเกษตรอำเภอเพื่อนรักเอายาฆ่าหญ้าอย่างดี อันตรายต่อคนน้อยสุดมาให้ พร้อมถังฉีด แนะนำวิธีการให้ปลอดภัยที่สุดให้ ใส่แขนยาว ใส่แว่นตา คลุมหน้า ใส่หน้ากาก ทับด้วยเสื้อปลาสติก สะพายถังผสมยา ใส่ถุงเท้า พอสวมบู๊ต แป๊บเดียวแมงป่องป่า(ทวยมัน)ต่อย(ไช)เท้าขวา สุดปวดมากปล่อยมันไป ฉีดหญ้าจนครบพื้นที่ ประมาณเกือบสองชั่วโมง ล้างอุปกรณ์ อาบน้ำ สระผม พัก ความเจ็บปวดบรรเทาไปเอง สาธุจริงๆได้งานเสร็จ ที่คุ้มมากในวันนี้คือคือได้ธรรม อยู่เหนือทุกขเวทนาได้ พระท่านแนะไว้ว่า การอยู่เหนือสุข เหนือทุกขเวทนาได้ เป็นการรู้ธรรมที่สุดยอด…สาธุ ขอบพระคุณจริงๆครับพระคุณเจ้า



ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

สงกรานต์๒๕๖๔กราบขอประทานพร จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่พี่น้องชาวไทยเคารพ นับถือ บูชา โปรดบันดาล ประทานพรเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ปี ๒๕๖๔ แก่ลูกหลาน ลูกศิษย์ เพื่อน พี่น้อง คุณครู อาจารย์ พี่น้องชาวไทยทุกหมู่เหล่า ให้อยู่รอดปลอดภัยจากโควิท ๑๙ มีสุขภาพสมบูรณ์ มีความปรารถนาสิ่งใด ให้บรรลุความปรารถนา จงทุกประการ ขอให้มีความสามัคคีดูแลชาติบ้านเมือง ให้ร่มเย็นเป็นสุข อยู่รอดปลอดภัย จากศัตรู หมู่มาร ตลอดไปด้วยเทอญ.

ปีหกสาม หกสี่ ปีโควิทสองปีติด ต่อกัน มันไม่หนี แสนสงสาร บ้านเรา เศร้าฤดีโรคแบบนี้ บี้เรา เอาชีวัน

ขอทุกท่าน ผ่านไป ภัยโควิท ทุกชีวิต จิตใจ ไม่เศร้าหมองมีแต่สุข สมหวัง ดั่งใจปองทั้งเงินทอง ทวี มีพลัง

ความประมาท อาจคร่า ฆ่าชีวิต คิดสักนิด ผิดกฎ หมดความหวัง ใส่หน้ากาก ฝากไว้ ให้ระวังล้างมือมั่ง มิหลง คงจะดี

ระยะห่าง วางไว้ ให้ยึดถือของกินคือ ควรร้อน ช้อนของฉัน ทำให้ได้ ดูจบ ครบทุกวัน ตัวคุณนั้น หนีไกล ภัยโรคเอย.กรุงเทพฯ๑๓ เมษายน



ความเห็น (2)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

ต้นไม้ของบรรพชน

โตขึ้นมาก็เห็นต้นไม้ของบรรพชนปลูกอยู่แล้ว ได้อาศัยร่มเงา เวลาร้อน ได้อ๊อกซิเจนบริสุทธิ์ ไว้หล่อเลี้ยงชีวิตในเวลากลางวัน ได้ทานผลของมัน ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ ทุกๆปีมา สองสาม ปีมานี้ ผลไม้บางผล เน่า เสีย แมลงวันทองเจาะ กาฝากเกาะกินต้นไม้ พี่น้องบางคน พยายามที่จะ บำรุงรักษาใส่ปุ๋ยตัดกาฝากทิ้ง เพราะเสียดาย คุณค่าของมัน กว่าจะดูแลรักษามาได้ถึงตอนนี้ ยากลำบากมาก ต้องขอบคุณบรรพชน ที่รู้จักคุณค่า รักษาไว้ให้เป็นมรดกของลูกหลาน และขอบคุณความกตัญญูรู้คุณของบรรดาลูกหลานที่เข้าใจ ในความเป็นห่วงของบรรพชน ต่อวิถีชีวิตของลูกหลานของพวกเขา แต่ก็ยังมี ลูกหลานบางส่วน คัดค้านการรักษาต้นไม้เอาไว้ ยื้อแย้งความคิด ต้องการให้โค่นทิ้ง อ้างว่าจะเอาไว้ทำไม ต้นไม้เก่าๆ มีผลเน่าๆ ไร้ประโยชน์ เสียเวลา ส่วนตัวรู้สึกเสียดาย พุทธปรัชญาที่ สอนให้คนรู้กตัญญูไม่ใช่เฉพาะแค่ทิศหกเท่านั้น แต่ต้องรู้จักบุญคุณของธรรมชาติ และรู้จักทดแทนบุญคุณ ด้วยการถนอมรักษามันไว้ให้ถึงที่สุด ไม่ใช่ตัดมันทิ้งแค่เพียงเหตุผลว่า ผลสองสามลูกเน่า หรือใบหล่น ระเกะระกะไปหมด ท้ายที่สุดก็มิอยากให้ถึงวันที่มีใครสักคนมาตะโกนว่า “นั่นไงพวกเขาถูกธรรมชาติลงโทษเข้าให้แล้วแล้ว” ถึงเวลานั้นจะปลูกให้มันโตเหมือนเดิมภายในวัน สองวัน จะได้หรือกรุงเทพฯ ๕ เมษายน ๒๕๖๔



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

เรื่องมันน่าเบื่อ

เรื่องที่ ๑ เรื่องโรคร้าย โควิท ๑๙ ซึ่งมีท่าทีว่าจะไม่จบลงง่ายๆ อย่างแน่นอนเรื่องที่ ๒ เรื่องกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงวุ่นวายไม่เคารพกติกาของบ้านเมืองที่สร้างกันมา มองเห็นว่ารัฐบาลไม่ดี สถาบันไม่ดี ศาลไม่ดี ใครๆก็ไม่ดีเรื่องที่ ๓ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องเสียเวลา เสียงบประมาณ มาแก้ไขปัญหาการชุมนุมประท้วงท่ามกลางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โจรผู้ร้ายชุกชุม การทะเลาะวิวาทของประชาชนทั่วๆไป และการทุจริตของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ และภาคเอกชนในบ้านเราตอนนี้

จะมีใครสักคณะหนึ่งที่จะจัดการให้ได้เกาะสักแห่งหนึ่ง หรือภูเขาสักแห่งหนึ่ง หรือพื้นที่บริเวณหนึ่ง พอที่จะให้พวกนักทฤษฎี ที่มีแนวความคิดแบบเดียวกัน จะได้จัดระบบปกครองที่ชอบเหมือนกัน อยู่ด้วยกัน แล้วจัดการดูแลกัน อย่างที่พวกเขาปรารถนา อย่าได้มาวุ่นวาย กับกลุ่มคน ที่เขาจะต้องมาดูแล ลูกหลาน คนชรา อาณาประชาราษฎร์ ตามระบบ ที่ใช้กันอยู่ ให้เจริญก้าวหน้าได้เต็มที่ โดยไม่มีกลุ่มกวนใจ เผื่อว่าพวกเขาจะได้อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากความรำคาญเสียทีกรุงเทพฯ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๔



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

แด่คุณครูสนอง รัตนวิจิตร (คุณครูดาว)

ผลการปฏิบัติงาน ของคุณครูสนอง ณโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในช่วงระยะเวลา ๑๐ กว่าปี ที่ผ่านมา ย่อมเป็นประจักษ์พยาน ให้ลูกศิษย์ เพื่อนครู และผู้บังคับบัญชา เห็นถึงคุณภาพ ศักยภาพ ความเป็นครูที่แท้จริง ของคุณครูสนอง เป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้จะรู้อยู่ว่า คุณครูสนอง เจ็บป่วยอยู่บ้างก็ตาม แต่การจากไป อย่างกะทันหันของคุณครู มันทำให้ทุกคนตกใจ เสียใจ เสียดาย อย่างบอกไม่ถูก ความเป็นแม่ที่ดี ความเป็นเพื่อนที่ดี ความเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี มันยิ่งทำให้ทุกคนร่ำไห้ โหยหา อาลัยอาวรณ์ เป็นอย่างยิ่ง สุดที่จะพรรณนา ขอดวงวิญญาณ ของคุณครูสนอง รัตนวิจิตร หรือคุณครูดาว สู่สัมปรายภพนิรันดรด้วยรักและอาลัยครูวีระ สินสมุทรกรุงเทพฯ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔



ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
คนท่าชนะ (Thachana Man)
เขียนเมื่อ

เรื่องชวนคิดของคุณครูมีเรื่องชวนคิดอยู่ว่า ครูห้ามนักเรียนสูบบุหรี่ ส่วนนักเรียนถามครูว่าทำไมครูบางคนถึงสูบ ครูบอกนักเรียนว่า รอให้เธอโตเป็นผู้ใหญ่เสียก่อน แล้วค่อยสูบ ก็ไม่เข้าใจว่าครูใช้ปรัชญาอะไร สอนนักเรียน กลับมาดูเรื่องกลุ่มคนที่ต่อต้านกลุ่มคนที่ออกกฎหมายล้างผิดให้แก่คนทุจริตต่อหน้าที่ ใช้วิธีออกกฎหมายหักล้างกฎหมาย ดูเหมือนน่าจะดี แต่คนที่ต่อต้านบางคนกลับต้องถูกพิพากษาให้ถูกจำคุก พวกเขากลับยอมรับและอุทธรณ์ต่อไป ตามหลักการของกฎหมาย ไม่คิดหลบหนี ถ้าวันนั้นการออกกฎหมายแก้โกง (ตามที่เขาเรียกกัน)สำเร็จ เราก็ไม่รู้ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น กับคนในประเทศนี้ แต่ที่แน่ๆ ใครก็ตามที่ขึ้นมาเป็นคนทำผิด กอบโกยผลประโยชน์ของบ้านเมือง ก็คงจะเลียนแบบ ออกกฎหมายล้างผิดแบบเดียวอย่างแน่นอน ส่วนเด็กๆที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ดูแลบ้านเมืองในวันข้างหน้า ถ้าจะต้องคิดทำแบบเดียวกัน อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศนี้ อะไรคือมาตรฐานของความยุติธรรม เป็นเรื่องที่น่าคิดอยู่ไม่น้อย ครูจะสอนนักเรียนว่าอย่างไร และถ้านักเรียนถาม จะตอบพวกเขาว่าอย่างไร หรือตอบว่า “ทีใครทีมัน” กระนั้นหรือ?สุราษฎร์ธานี๒๖  กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท