อนุทินล่าสุด


เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ในภาพนี้มีหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ

มี....ความแข็งแกร่งของผืนฟ้า มี....ความอ่อนโยนของผืนดิน

มี.....พลังของไฟคือแสงพระอาทิตย์ มี....ความเยือกเย็นของน้ำ

มี.....เสียงก้องคำรามของสายฟ้า มี......ความแรงกล้าของสายลม

มี.....ความมั่นคงของขุนเขา มี......ความเป็นกระแสของสายธาร

ภาพหนึ่งภาพ มากด้วยหลายร้อยถ้อยคำพรรณา

ผู้นิ่งเงียบหาใช่เป็นใบ้บ้า ผู้พูดพร่ำบ้าคลั่งน้ำลาย หาใช่ปราชญ์ผู้รู้จบแผ่นดิน

สยามรพี ๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๙




ความเห็น (2)

ขอบคุณภาพและคำบรรยาย...ที่ทำให้ผู้นิ่งเงียบหาใช่บ้าใบ้ ณ เพลานี้ ขอรับ...

ขอบคุณท่านผู้รู้ที่มิได้นิ่งเฉย

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ฝักเพกา อยู่สูงเสียดฟ้า เทวดาไม่นิยมกิน

มนุษย์บนดิน แหงนคอเมียงมอง อยากลิ้มชิมลองรสชาดบนฟ้า

อยู่สูงเพียงใด ถ้าใจต้องการ ทนทุกข์ทรมานปีนป่ายเอามา

ฝักยาวๆ ไม่ขาวไม่ดำ สีเขียวสีคล้ำ ฝักยาวสมคำเล่าลือ

เอามาเผาให้หอมระอุไฟ ผัดแกงก็ได้ จิ้มน้ำพริกอร่อยเหลือหลาย

ภาคกลางเรียกขานว่า ฝักเพกา ทางเหนือนั้นหนาเรียกว่า มะลิดไม้ เน้อเจ้า

อิสานเพิ่นเอิ้นว่า หมากลิ้นฟ้า ภาคใต้นั้นหนา ฝักเพกา เรียกขานรู้กัน

ของกินมนุษย์ สุดแสนพิศวง เทวดาเห็นแล้วปลง รับประทานไม่ได้

เทวดาอิ่มทิพย์ สุขแสนสบาย มนุษย์แทบตาย กว่าจะได้ของกิน

สยามรพี ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (2)

อันว่าฝักเพกานี้..ผมชอบนักแล...มนุษย์เดินดินกินผักเพกา อิๆ /ขอบคุณครับ

มื้อเย็นวันนี้โปรดจัดไป ฝักเพกา

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

กอไผ่พุ่มหนา ระเกะระกะไปด้วยหนามแหลมคม ยากนักที่ใครจะโค่นล้มได้

ด้วยว่าไผ่ทุกกอเกิดจากหน่อเดียวกัน รวมตัวเป็นไผ่กอใหญ่ อาศัยการช่วยเหลือกันและกันจึงยืนหยัดคงทน

บุรุษผู้ชาญฉลาด อาศัยเพียงไผ่ลำเดียว ยกย่องให้ความสำคัญ เชิดชูให้เป็นด้ามของมีดที่คมกริบ

บุรุษคนนนั้น ขัดเกลาไผ่ลำนั้นจนสวยงาม กลายเป็นเครื่องประดับมีด ศาสตราวุธที่น่าเกรงขาม

ทั่วแหล่งหล้าพากันเกรงใจด้ามมีดที่มาจากไผ่ลำนั้น โดยปริยาย

ด้ามมีด หยิ่งผยอง วางตนโอ้อวดในความเป็นเครื่องประดับของมีดคม จนลืมที่มาของตนเองและเผ่าพันธุ์

มิช้านาน บุรุษผู้ชาญฉลาด อาศัยมีดเล่มนั้น ถือด้ามมีดผู้โอหัง กุมมืออย่างมั่นคง ย้อนกลับมาที่กอไผ่ถิ่นกำเหนิดของด้ามมีดผู้โอหัง

ชั่วพริบตา บุรุษผู้ชาญฉลาด ถาโถมเข้าเงื้อฟัน ตัด สับ เข่นฆ่ากอไผ่กอใหญ่ให้สุญสิ้นไปในพริบตา

น่าคิด บุรุษผู้ชาญฉลาดอาศัยกอไผ่กอเดียว ใช้เป็นด้ามมีด ลงมือเข่นฆ่าทำลายล้างเผ่าพันธุ์ของด้ามมีดด้ามนั้น

พระพุทธอค์ตรัสว่า ร่มเงาอื่นเสมอด้วยร่มเงาแห่งปวงญาตินั้นไม่มี

ตะหนักถึงเจ้าด้ามมีดไม้ไผ่ หวนอาลัยถึงวงศ์ญาติชาวไทย พึงรวมใจเป็นไผ่กอใหญ่สู้ภัยคนพาลด้วยกันต่อไป

สยามรพี ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ธรรมดาว่า กินอ้อย หากกินจากโคนต้นไปสู่ปลายอ้อย จักได้ความหวานชื่นในเบื้อต้นและจักได้รับความจืดจางในบั้นปลาย

หากกินอ้อยจากปลายอ้อยลงสู่โคนอ้อย จักได้ความจืดจางในเบื้อต้นและค่อยๆได้รับความหวานฉ่ำในเบื้องปลาย

ในความเป็นจริงชีวิตคนเรามีโอกาสได้เลือกการใช้ชีวิตได้ไม่กี่ทางเลือก

บางคนเลือกไม่ถูก จึงมีคำกล่าวว่า จับต้นชนปลายไม่ถูก สับสน วุ่นวาย

อ้อย คือความหวานชื่น แต่ละคนลิ้มรสความหวานชื่นในรูปแบบที่แตกต่างกันไป

แม้ความหวานชื่น ยังต้องเรียนรู้ที่จะลิ้มรส จะป่วยกล่าวไปใยถึงความขมขื่นและความทุกข์ตรมเล่า

สยามรพี ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ฟากฝั่งพระนฤพาน มิได้อยู่ไกลจนเกินเหตุ แต่ก็มิได้อยู่ไกล้จนเอื้อมดึงได้ง่ายดาย

เพียงผู้มีความมุ่งมั่นค่อยๆพายเรือคือ กายและจิต อันสหรคตด้วยศีล สมาธิ และปัญญาที่สมบูรณ์

เรือน้อยๆจะพาผู้พายไปถึงฝั่งพระนฤพานได้อย่างแม่นมั่น

เรือน้อยที่คอยจ้ำพาย มิต้องเลิศเลอ..ไม่จำต้องปรุงแต่งแบบรถหรูยี่ห้อโด่งดัง

รถหรูอาจเป็นพาหะนะที่ไปได้เร็วแต่อาจไปไม่ถึงฟั่งพระนฤพาน ด้วยว่า มันโก้หรูและเต็มไปความลำพองในใจตน

คนผู้ที่เข้าถึงฝั่งพระนฤพาน มิควรพะรุงพะรังไปด้วยทิษฐิมานะ มิควรสะสมทรัพย์ศฤิงคารเฉกเช่นคนผู้หนาด้วยกิเลส

สาธุการ หากคนผู้ใดเพียรพยายามพายเรือไปถึงฝั่งพระนฤพานด้วยเรือลำน้อยๆ

มิเด่นดัง มิโก้หรู นั่นเพราะทางแห่งพระนฤพาน มีไว้ให้คนผู้ละวางอัตตาตัวตนแท้เทียว

สยามรพี ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ชื่อว่า แผ่นดิน สามารถรองรับสรรพสิ่งได้ทุกกรณี

แผ่นดิน ไม่เคยรังเกียจสิ่งสกปรกโสโครก ที่ราดรด แปดเปื้อนแผ่นดิน

แผ่นดิน ไม่เคยชื่นชมหรือหลงระเริงกับของหอม ดอกไม้สวยที่สถิตย์บนแผ่นดิน

แผ่นดิน ไม่เคยโกรธหรือผูกอาฆาตคนผู้ขุด ถาง ฟันแผ่นดินด้วยศาตราวุธหรือสิ่งอื่นใด

แผ่นดิน ไม่เคยเชิดชูยกย่องคนผู้ที่บำรุงรักษาฟื้นฟูแผ่นดิน

แผ่นดิน ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ไม่น่าชอบใจ

จิตของผู้ที่ฝึกฝน และอบรมด้วยปัญญาอันแจ่มแจ้ง

ย่อมมั่นคง ไม่หวั่นไหวด้วยแรงของคำชื่นชมหรือพายุร้ายแห่งการนินทา

สาธุชน พึงเป็นผู้มีจิตมั่นคงดุจดั่งแผ่นดินนั่นเทอญ

สยามรพี ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ชื่อว่า แผ่นดิน สามารถรองรับสรรพสิ่งได้ทุกกรณี

แผ่นดิน ไม่เคยรังเกียจสิ่งสกปรกโสโครก ที่ราดรด แปดเปื้อนแผ่นดิน

แผ่นดิน ไม่เคยชื่นชมหรือหลงระเริงกับของหอม ดอกไม้สวยที่สถิตย์บนแผ่นดิน

แผ่นดิน ไม่เคยโกรธหรือผูกอาฆาตคนผู้ขุด ถาง ฟันแผ่นดินด้วยศาตราวุธหรือสิ่งอื่นใด

แผ่นดิน ไม่เคยเชิดชูยกย่องคนผู้ที่บำรุงรักษาฟื้นฟูแผ่นดิน

แผ่นดิน ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ไม่น่าชอบใจ

จิตของผู้ที่ฝึกฝน และอบรมด้วยปัญญาอันแจ่มแจ้ง

ย่อมมั่นคง ไม่หวั่นไหวด้วยแรงของคำชื่นชมหรือพายุร้ายแห่งการนินทา

สาธุชน พึงเป็นผู้มีจิตมั่นคงดุจดั่งแผ่นดินนั่นเทอญ

สยามรพี ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

กาโล ฆะสะติ ภูตานิ สัพพา เนวะ สะหัตตะนา

กาลเวลาย่อมกลืนกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวมันเองให้หมดลงไป

เวลา ให้ทุกๆอย่างกับมวลมนุษยชาติ และพรากทุกๆสิ่งไปจากสัตว์โลก

เลือดในกายจักยังคงอยู่ตามกาลเวลาที่ยังเป็นไป

เวลาหมด หมดเวลาของเลือดเนื้อในกายตน

เหลือเพียงรอยจารึกแห่งความดี และอนุสาวรีย์แห่งความชั่วร้ายที่ยังปรากฎบนโลกสันนิวาสแห่งนี้

กาลเวลายุติธรรมสำหรับทุกๆคน แต่มนุษย์ใช้ประโยชน์จากกาลเวลาแตกต่างกัน

สยามรพร ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (3)

หากกาลเวลาใช้พิสูจน์คนฉันใดแล้ว กาลเวลาย่อมใช้ข้อพิสูจน์นั้นสรรเสริญจารึกความดี และสร้างอนุสาวรีย์แห่งความชั่วร้าย บนโลกสันนิวาสแห่งนี้ ให้อนุชนรุ่นหลังได้รับทราบ ฉันนั้นขอรับ....

เป็นกฎธรรมชาติหรือเปล่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่(ดำรงอยู่) และดับไป(จากไปตามเวลาของมันเอง)

ขอบคุณทั้งสองท่านที่ช่วยแสงความเห็น ขอบคุณมากครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

กระยางขาว สีขาว ปานว่าผู้ทรงศีลนุ่งขาวห่มขาว

มันยืนนิ่งๆริมฝั่งน้ำ สำรวมกิริยา แววตาอ่อนโยน คล้ายว่าจักสำรวมในอายะตะนะทั้งปวง

ท่วงทำนองการเดินเชื่องช้า ทอดตาลงต่ำ เข้าใจได้ว่ามันเคร่งครัดในการเดินจงกรมเฉกเช่นพระอะริยะเจ้า

ฝูงปลาผู้มีปัญญาเบา เพียงได้ยลโฉมของกระยางขาวแต่ภายนอก พากันทุ่มเทศรัทธา ต่างเฝ้าแหงนหน้าเชยชมว่าผู้ทรงศีล

พริบตาเดียว เมื่อฝูงปลาเหลียวกลับ กระยางขาว ตวัดจะงอยปากที่แหลมคม กัดกินปลาผู้โง่เขลาด้วยความเอร็ดอร่อย

พระพุทธเจ้าสอนว่า อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะคิดว่าสิ่งนั้น บุคคลนั้น พูดหรือสอนหรือมีกิริยาที่ถูกใจเรา (หลัก กาลามะสูตร)

ภัยในสังคม มากมีด้วยว่าผู้ร้ายมักมาในคราบผู้ทรงศีล

อันตราย มักเกิดกับผู้ที่ละโมบโลภหลง

ชีวิตมักดับสูญ เพราะหลงในรูป รส กลิ่น เสียง ที่ได้พบเห็น

สยามรพี ๑๕ สิหาคม ๒๕๕๙





ความเห็น (3)

ข้อนี้ทำให้เห็นชัดแจ้งถึงการกระทำบางอย่างในเพลานี้ของกลุ่มใครบางคนที่ได้พบเจอขอรับ...แต่นั่นไม่ได้หมายว่าเขาเหล่านั้นจะเป็นดังเช่นนกกระยางขาวเสมอไป...หากแต่ขอให้เวลาช่วยพิสูจน์ความหิวโหยในใจก่อนว่าจะสำแดงออกมาในยามใด เมื่อนั้นก็คงจะบอกได้ว่าเธอ หรือเขาเหล่านั้นเป็นดังเช่นนกกระยางขาว..ขอรับ...

สาธุครับ..อยู่ในทุกสังคม..ที่ว่าตนเองเป็นคนดี

เลื่อมใสในความเห็นครับ ขอบคุณครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ


เสียงน้อยใจของต้นไม้ต้นหนึ่ง รำพันว่า

ผืนแผ่นฟ้า แห้งแล้งมิมีความชุ่มเย็น ไม่มีฝนโปรยปรายลงมาให้ชะโลมใจ

จะมีก็แต่เพียงเสียงฟ้าคำรามและพยัพเมฆ ดุจว่าลวงให้ยินดีและให้ความหวัง

กระนั้นต้นไม้หวังว่า ฟ้าจะแบ่งปันน้ำฝนมาให้สักคราวพอให้ได้มีชีวิตต่อเนื่องและสร้างร่มเงาให้แผ่นดิน

โลกจึงได้เห็นต้นไม้ต้นนี้ มีแต่กิ่งก้าน แต่กลับไม่มีใบ ไร้ดอกดวงที่สวยงามให้เชยชม

แต่ต้นไม้ต้นนี้ ผ่านกาลเวลาผ่านมรสุมชีวิตมาหลายฤดูกาล จึงมิยอมรอน้ำจากฟ้าอย่างไร้จุดหมาย

ใต้พื้นดินยังมีความชุ่มเย็น ยังมีกระแสความเมตตาของน้ำหลงเหลือ พอที่จะแบ่งปันความสุขให้กับต้นไม้ได้อยู่

ต้นไม้จึงแอบ ออกดอกออกใบชู่ช่อดอกสวยงาม อยู่ใต้พื้นดิน

ฟ้าผู้สูงส่ง แต่หัวใจแสนใจดำ จึงมิอาจได้พบเห็นดอกสวย ใบเขียวชะอุ่มพุ่มไสว

แต่ดินผู้ต้อยต่ำ ผู้มีน้ำใจกว้างขวาง กลับได้รับรางวัลที่สวยงามและความร่มเย็นสบายใจ

สยามรพี ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (2)

ผมอ่านอนุทินนี้เมื่อหลายวันก่อน แต่ยังไม่ได้เข้าระบบ...มาวันนี้ตามมาบอกว่า เห็นเป็นดังเช่นนั้น ฟ้าหนอใยสูงส่งได้แต่หว่านความหวังให้กับเหล่าใต้ฟ้า...แต่หารู้ไม่ว่าหากวันใดฟ้าหว่านหวังสิ่งใดแล้วให้ตามการหว่านหวังเมื่อนั้นฟ้าก็จะได้ชื่นชมยินดีกับดอกไม้เขียวขจีดังเช่นดินผู้ต่ำต้อย...เพียงดิน...

ความเห็นที่สวยงาม ขอบคุณครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

จะยืนนิ่งเฉยก็ลำบาก เพราะไม่อยากจมน้ำตาย

ครั้นจะเดินต่อไปก็ทุลักทุเล หนทางข้างหน้ามีแต่อุปสรรค

หมายใจจะถกผ้านุ่งมิให้เปียกน้ำ กลับได้แต่ความอับอายประจานหมู่ปลาและภาพเงาตัวเอง

ในคราวที่หัวใจแหลกสลาย ณ ขณะที่ความทุกข์รุมเร้า

สำหรับคนบางคน โลกนี้ไม่เคยยุติธรรมสำหรับเขาหรือเธอเลย

สยามรพี ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙




ความเห็น (2)

กำลังเห็นเป็นดังเช่นนั้น...เธอผู้ไม่แพ้..แม้ว่าต้องยอมยกธก..แต่นั่นไม่ได้หมายใจว่าเธอคือผู้แพ้..แต่เป็นการหยุดเพื่อตั้งหลักและปรับใบเรือชีวิตหลีกหนีลมพายุต่างหากเล่า..ณ อารมณ์เพลานี้...ของผมที่มีต่อเด็กหญิงผู้นั้น...ขอรับ..

นับถือในความเห็นครับ ยุทธพิชัยสงคราม การตั้งหลักถอย ปรับใบเรือ เพื่อชัยชนะในคราวต่อไป นับถือๆครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ภาพเดียวหลายร้อยถ้อยความ....

๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ เราจะตอบแทนบุญคุณประเทศไทยอย่างไร อยู่ที่ใจของทุกท่าน

สยามรพี ๕ สิงหาคม ๒๕๕๙




ความเห็น (2)

สั้น ๆ ได้ใจความมาก ๆครับท่าน..ลด ละ เลิก...ใช้ได้บ้างหากใจต้องการนะครับ...

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ธรรมดาว่าการพูดย่อมมีเสียงและสำเนียง

ปราชญ์ท่านว่า.....

............................พูดดี อบอุ่นสามเหมันต์

.............................พูดร้าย หนาวเยือกเย็นหกคิมหันต์

พึงกล่าวแต่สัมมาวาจา....ทุกท่านเทอญ





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ


ปณิธานชีวิต

สวมครุยว่าความในศาล อาจหาญทรนงหยิ่งศักดิ์ศรี

มีเกียรติมียศปรากฏดี ภูมิใจข้าฯนี้ทนายความ

ปณิธานสูงสุดหวังอิสรา เพื่อผองประชาผู้ทุกข์เข็ญ

ที่เหนื่อยยากลำบากแสนลำเค็ญ ด้วยว่าเป็นคดีความตามกระบิล

จึงชี้ช่องส่องสว่างทางกฎหมาย ให้คลายโทษทัณฑ์อันหนักหนา

ผ่อนหนักเป็นเบาเนาว์อุรา นำพาให้พ้นความทุกข์ตรม

สยามรพี

๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ เวลา ๐๑.๓๐ นาฬิกา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

หินผาที่แข็งแกร่ง หยาบกร้าน ไม่หวั่นเกรงลมฝนและแดดร้อน

อยู่สันโดษอย่างทรนงในความเป็นตนเอง

กระนั้น หินผาผู้หยาบกระด้าง ยังมีน้ำใจพอที่จะแบ่งปันพื้นที่น้อยๆให้เจ้าดอกไม้ผู้อ่อนโยนได้ชูช่ออวดดอกสวย

อันว่ามนุษย์ คือผู้ที่มีใจสูง

คนผู้มีใจสูง จักไม่แบ่งปันหรือเมตตาต่อผู้ที่อ่อนแอและด้อยโอกาสเชียวหรือ

สยามรพี ๔ สิงหาคม ๒๕๕๙





ความเห็น (2)

เห็นเป็นดังเช่นนั้นขอรับ..

ขอคาราวะในความเห็น..นับถือครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ใจมนุษย์ สุดลึกล้ำเหลือพรรณา

ใจเดรัจฉานไม่ลวดลายลีลาตื้นเขิน

ใจคนโฉดโหดเหี้ยมบาดคมข่มบีฑา

ใจบ่ร้าย..ใจดีได้ ด้วยเมตตาและไมตรี

สยามรพี ๓ สิงหาคม ๒๕๕๙




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

แตงโมลูกเดียว.....กินอิ่มคนเดียวไม่เกี่ยวข้องใคร

เพราะมีน้ำใจ.แตงโมลูกเดียวแบ่งได้เป็นหลายชิ้น

กินอิ่มได้หลายคน....

ความสุขอยู่ที่การแบ่งปัน...หาใช่เกิดจากการยื้อแย่งหรือละโมบโลภหลง

น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก.....ชื่อว่า ความสุข ยิ่งให้ยิ่งเพิ่มพูน

สยามรพี ๒ กรกฏาคม ๒๕๕๙






ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ


เมื่อมีโพยภัยมาแพ้วพาล ทุกคนล้วนวิ่งหาที่หลบภัย

มนุษย์ตัวเล็กๆ มีสติปัญญาในการหลบภัย

หลังคาโบสถ์ให้ความคุ้มกัน จากลมฝนและแสงแดด

แต่ตัวหลังคา กลับไม่มีใครคุ้มภัยให้ได้

ยักษ์ตัวใหญ่ สูงใหญ่ปานขุนเขา

แต่ไม่อาจหลบได้ แม้กระทั่งสายฝนที่หนาวเย็นและไอร้อนจากดวงพระอาทิตย์

สยามรพี ๒ สิหาคม ๒๕๕๙




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

เม็ดทรายละเอียดเล็กรวมกับผืนทะเลที่ยิ่งใหญ่

มนุษย์ จึงได้เห็นหาดทรายที่งดงาม

ใจมนุษย์ ละเอียดยิ่งกว่าเม็ดทราย

การที่จะมีจิตใจยิ่งใหญ่ได้นั้น ย่อมบังเกิดได้ ด้วยจิตใจที่งดงาม พร้อมกับความอดทนอันแรงกล้า

สยามรพี ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๙




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

มัสยาหลงเหยื่อ...

เห็นเหยื่อเนื้อนุ่มรสสัมผัสชิวหา

บ่ได้พิจารณาแม่นมั่น

ถลาเข้ากัดกินก้อนเครื่องประหารชีวัน

ใจแทบสิ้นอาสัญมอดม้วยมรณา

จึ่งว่า โอ้หนอ แม่มัสยาปลาตื่นน้ำ

หลงเพียงเสียงจำนรรยกย่อง

เขาเอาทองห่อยศแลเงินเบี้ยโปรยมา

มัสยา เจ้ากินเหยื่อนั่นแล้วเลือดสาดน้ำตากระเซ็น

สยามรพี ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

เพราะเงียบสงบ..จึงได้ยินเสียงบดกาแฟที่ละเอียด

เพราะตั้งใจลิ้มลอง..จึงได้รับรู้รสชาตของกาแฟที่นุ่มละมุน

เพราะไม่่รีบร้อนวุ่นวาย...จึงได้สัมผัสถึงกรุ่นกลิ่นกาแฟที่หอมละไม

เพราะใจสวยงาม สรรพสิ่งจึงพลันสดใส

เพราะใจที่สวยสะอาด...ธรรมชาติจึงมอบรางวัลให้เสมอ

สยามรพี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙




ความเห็น (2)

ขอบคุณครับ...รับทราบด้วยใจขอรับ...

ขอบคุณครับท่าน...ขอให้มีความสุขด้วยรสกาแฟที่หอมละมุนครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

ในสังคมที่วุ่นวาย ทุกคนต่างยื้อแย่งแข่งขันกันเป็นผู้นำ

ช่วงชิงเพื่อเป็น หัว....ไม่อยากเป็นหาง

ดั่งคำว่า...เป็นหัวหมาดีกว่า เป็นหางราชสีห์

อนิจจาปลาสลิด...ไม่มีหัวให้เห็น ถูกตัดทิ้งกระเด็น เน่าเหม็นไม่มีใครแล

แต่..หางปลาสลิดยังอยู่...ใครเคยกินหัวปลาสลิดวานบอกที

สยามรพี ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙


p



ความเห็น (4)

ขอบคุณครับ ที่ร่วมแชร์ความเห็น

ขอบคุณข้อคิดดีๆ นะครับอาจารย์..ตัวผมเองคงได้มีโอกาสนำเอา"แง่คิด"นี้ไปต่อยอดใน"แง่งาม"เป็นแน่แท้ทีเดียวเชียวขอรับ..

แง่มุม..ที่งดงาม...แต่งเติม เป็นแง่งาม..ด้วยความยินดีครับ ขอบคุณที่ร่วมแชร์ความเห็นครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

คุณลักษณะของมะพร้าว

๑.อยู่ที่สูงไม่มีใครเติมน้ำให้ก็มีน้ำได้เอง .....เปรียบคนผู้รักดี ใฝ่ดีด้วยตนเอง

๒.ตกลงมาไม่แตก เพราะมีเปลือหนาหุ้มไว้ ....เปรียบบุคคลผู้ประพฤติ คราวตกอับ ก็ไม่เสื่อมเสียเพราะมีความดีโอบอุ้มไว้

๓.ตกน้ำไม่จม.... เปรียบว่า คนดีไปที่ไหนก็รักษาตัวได้ไม่จมในห้วงเหวความเลวร้าย

๔.ฝังอยู่ในดิน ก็งอกเงยเป็นต้นมะพร้าวสูงใหญ๋ในวันข้างหน้า.... เปรียบคนดีอยู่ที่ไหนก็มีแต่ความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป

สยามรพี ๑๘ กรกฏาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

จินตนาการไร้ขีดจำกัด คนผู้มีจินตานาการย่อมกว้างไกลในตัวตน

ภาพเขียนเป็นเพียงเงาสะท้อนของคนผู้มากด้วยจินตนาการ

ชีวิตของคนผู้มีจินตนาการจึงมีสีสันสวยงาม ไม่น่าเบื่อจำเจให้เศร้าใจ

จินตนาการสำคัญยิ่งนัก มีเพียงควมรู้แต่ไร้จินตนาการ ก็ดุจดั่งภาพเขียนที่ไร้ราคา

สยามรพี ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เสาร์แก้ว สยามรพี
เขียนเมื่อ

รอยยิ้มที่ไร้มลพิษ

รอยยิ้มนี้จะยังคงมีอยู่ต่อไป ถ้าได้รับน้ำใจจากคนผู้ศิวิไล

สยามรพี ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท