ประวัติย่อ

ภูมิเกิด   :บ้านหนองขี้ม้า ต. โนนชัยศรี อ. โพนทอง จ. ร้อยเอ็ด ครูใหญ่ และครูในดวงใจสมัยเด็กคือ อาจารย์องอาจ สุทธิประภา ซึ่งทำให้อยากเป็นครูตั้งแต่ป. หนึ่ง เพราะครูมอบหมายงานให้สอนแทนอยู่ประจำจนเห็นคุณค่าของครู

เหล่ากอ : ลูกชาวนาร้อยเปอร์เซน พ่อชื่ออ่วม แม่ชื่อน้อย นามสกุล  อัศวภูมิ  ปู่ เป็นคนตั้งให้ ตามชื่อหมู่บ้าน "หนองขี้ม้า" เหมือนกันทั้งหมู่บ้าน ไม่มีเชื้อจีนแต่อย่างใด

การศึกษา ป. 4 โรงเรียนวัดบ้านหนองขี้ม้า ม. 3 โรงเรียนปริญญาศรม โรงเรียนราษฎร์  หลังจากเรียนจบไม่กี่ปี โรงเรียนก็ยุบ ปัจจุบันนี้ที่เคยเป็นที่ตั้งโรงเรียนคือ สถานีรถประจำทางของอำเภอโพนทองปัจจุบัน

คุณพ่อ ซึ่งเป็นเสาหลักเสียชีวิตเมื่อเรียนอยู่ ม. 2 เกือบต้องออกจากโรงเรียนเพราะขาดทุนทรัพย์ แต่ด้วยมุ่งมั่นจะหาเงินช่วยตนเองและจะประหยัดที่สุด ทำให้แม่และพี่อนุญาตให้เรียนต่อไป ตั้งใจจะเรียนให้ได้ ป.กศ. ต้น เพื่อเป็นครูที่บ้านก็พอ แล้ว

ป.กศ. และป.กศ. สูง วิทยาลัยครูมหาสารคาม และได้ทุน AFS ไปเอเมริกา ปี 2512-2513 และนั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต หลังจากกลับมายจากอเมริกา ได้แบบอย่างเด็กอเมริกันที่ส่วนใหญ่ทำงานหาเงินเรียนหนังสือ จึงฮืดสู้จนสำเร็จปริญญาตรี จาก มศว. มหาสารคาม 

หลังจากได้งานทำเป็นครูแล้วก็พยายามศึกษาต่อ จนสำเร็จปริญญาโท และเอก ตามลำดับ

ปัจจุบันเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี 

ทำงานหนัก รักชาติ และอยากเป็นคนไทยมีการศึกษาดี มีความเป็นอยู่ที่ดี มีศักดิ์ศรีความเป็นคน และเป็นไทย

เห็นสัจจธรรมว่า การจะสร้างสังคมไทยและคนไทยตามอุดมการณ์ที่เคยฝันค่อนข้างยาก (หามีเวลาจะคุยเรื่องนี้ในครั้งต่อ ๆ ไป) จึงสนใจเรื่องชีวิต และอนาคตชาติมากขึ้น ศึกษาจนเขียนหนังสือ "เหลี่ยมมุมของชีวิตและจักรวาล" ขึ้นและพิมพ์แจกจ่ายฟรีกว่า 1000 เล่ม มีคนสนใจมากขึ้น แต่คงไม่พิมพ์เพิ่มอีกแล้ว จึงจะนำแนวคิดมาเสนอไว้ช่องทางนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประโยชน์ของมนุษยชาติและจักรวาล

ความจริงเริ่มต้นแล้วเมื่อหลายวันที่แล้ว แต่จำ password ไม่ได้เลยเริ่มต้นไหม่ และจะค่อยๆ เสนอแนวคิด และแลกเปลี่ยนกันต่อไป

ขณะเดียวกันการงานและชีวิตโลกก็ยังไม่ทิ้งเพราะมีพันธะที่ต้องทำให้เสร็จหลายเรื่องเช่นกัน แต่วาระจักรวาลก็สำคัญจึงต้องทำคู่ขนานกันไป

ระยะยาว เมื่อมีคนมารับภาระงานทางโลกแทนแล้วจะได้ม่งทางธรรมต่อไป

ประวัติและแนวคิดคงเสนอไว้เท่านี้

แนวคิดและประโยชน์ของมวลมนุษย์จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันต่อไป

สมาน อัศวภูมิ

29 เมษายน 2549