ถ้าคุณขนุนมีความสุข
ผมว่าคนอื่นก็จะมีความสุขตามคุณขนุนนะครับ^^
ผ้าบาติกของคุณโปน่ารักมากครับ
แล้วก็ยินดีด้วยครับที่หาตนเองเจอแล้ว^^
เป็นความคิดที่ดีมากครับคุณพริม
ผมคงต้องทำบ้างแล้วสิครับ^^
จากการที่อาจารย์ป๊อปได้กล่าวถึงความกลัว
สิ่งที่ผมสามารถนำไปปฎิบัติกับคนเองและผู้รับบริการ คือการเข้าถึงสาเหตุของปัญหาความเจ็บป่วย แล้วร่วมหาแนวทางการแก้ไข้ร่วมกัน เพื่อขจัดความกลัวนั้นออกไป
ซึ่งในความเข้าใจของผม ผมคิดว่าการได้เข้าไปประเมินถึงความกลัวข้องผู้รับบริการร่วมกับการประเมินอย่างอื่นเช่น การประเมินความสุข ความซึมเศร้า หรือการนอนไม่กลับ ในระยะที่ผู้รับบริการเพิ่งได้รับการบาดเจ็บทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ จะส่งผลให้การฟื้นฟูสุขภาพทางจิตของผู้รับบริการเป็นไปได้อย่างเร็วขึ้น
ซึ่งนอกจากแบบประเมินความสามารถต่างๆในการทำกิจกรรมของผู้รับบริการแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการประเมินสภาพจิตใจของผู้รับบริการ
โดยทุกครั้งได้อ่านบทความหรือประสบการณ์ต่างๆในห้องเรียน การที่จะนำไปใช้ได้ต่อการปฎิบัติกับผู้รับบริการจริงในอนาคตทั้งใกล้และไกล
คือการมีสติรอบครอบและให้มองผู้รับบริการอย่างเป็นองค์รวมในทุกบริบทและมองถึงคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขของผู้รับบริการ
เมื่อ2-3วันที่ผ่านมาในการเรียนภายในห้องเรียนได้ มีการพูดถึงกรณีตัวอย่างนี้และสิ่งที่ทำให้ตัวผมรู้สึกได้สิ่งหนึ่งคือ
อาจารย์มองผู้รับบริการในทุกๆด้านไม่ตัดสินคนไข้จากการคุย และสิ่งที่ประทับในการอ่านฟังกรณีตัวย่างและได้อ่านซ้ำอีกรอบคือ
การที่ผู้รับบริการบอกว่า หมอพูดถึงการวินิจฉัยว่ามีอาการทางจิตเภทหรือ Schizophrenia แล้วได้ยินว่าจะตายได้
สิ่งแรกที่ผมคิดคือผมมองถึงเพียงสิ่งแวดล้อมว่า ผู้รับบริการได้ยินจากการที่หมอกระซิบกัน แต่อาจารย์กลับมองถึงตัวคนไข้ด้วยแล้ว พยายามพูดให้เกิดผลดีและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ซึ่งทำให้ผมเห็นประสบการณ์อย่างหนึ่งที่หาไม่ได้จากการศึกษาภายในห้องเรียน และสามารถนำเอาไปใช้ร่วมกับการฝึกปฎิบัติงานทางคลีนิคที่จะถึงนี้ ทั้งการประเมิน และการมองคนไข้อย่างเป็นองค์รวม ของอาจารย์ป๊อป
จากการที่ได้ติดตามสื่อออนไลน์อย่าง gotoknow มาเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี
การที่จะทำให้คนในสังคมรู้ในวิชาชีพกิจกรรมบำบัด ซึ่งยังถือว่าเป็นวิชาชีพที่ยังใหม่สำหรับคนไทย
สิ่งที่ อาจารย์ป๊อป ได้ทำให้วิชาชีพกิจกรรมบำบัดในการเผยแพร่นั้น เป็นแบบอย่างหรือmodelที่ดีและสำคัญต่อนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่รวมถึงนักศึกษาที่จบไปแล้ว
เกิดแรงกระตุ้นจากภายในส่งเสริมให้ ทุกคนต้องการที่จะทำให้วิชาชีพกิจกรรมบำบัดเป็นที่รู้จักในสังคมไทยผ่านจากสื่อออนไลน์อย่าง Gotoknow หรือในสื่อต่างๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป
จากสิ่งที่อาจารย์ป๊อปได้ทำไป สิ่งหนึ่งที่เห็นได้คือการที่ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมบำบัด จะต้องมีฐานข้อมูลซึ่งมาจาก gotoknow เป็นสำคัญ ทำให้เห็นได้ว่าสิ่งที่อาจารย์ปีอปได้ทำเป็นต้นแบบ กำลังมีคนที่พร้อมสนับสนุนและตามรอยอาจารย์ป๊อปครับ
การได้อ่านบทความของอาจารย์ป๊อบในหัวข้อ "กิจกรรมบำบัดศึกษา - Seminar ที่ดีทำอย่างไร"
ทำให้ ผมได้รับความรู้ในเรื่องของการเรียนแบบ"ร่วมใจ" หรือ Siminar ว่า
การจะทำสัมนาที่ดีนั้นต้องมีองค์ประกอบ4 อย่าง และที่สำคัญในหัวข้อที่4 ที่บอกว่า มีการนำไปประยุกต์ใช้ในวิชาชีพ
ซึ่ง ผมคิดว่าการนำความรู้ไปใช้แบบ Slow Knowledge นั้นมีความสำคัญมากต่อไปในอนาคต
เพื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับผู้รับบริการทุกๆคนและทุกๆบริบทได้อย่างมีคุณภาพและมีเป้าหมาย
ขอบคุณอาจารย์นะครับที่ได้ถอดบทเรียน ของนักกิจกรรมบำบัดเพื่อชุมชน ทำให้นักศึกษาที่ยังไม่ได้ศึกษาเรื่องชุมชนทำให้เข้าใจ สิ่งที่เราในฐานะนักกิจกรรมบำบัดในอนาคตต้องทำเมื่อไปประกอบอาชีพในชุมชนเพื่อพันฒนาคุณภาพของชุมชน
จากการถอดบทเรียน30C ของอาจารย์มีอยู่1ข้อที่ผมชอบมากคือ
Contextualization การทำความเข้าใจในการเรียนรู้ชุมชนในทุกบริบท
เพราะเป็นเหมือนการเข้าไปถึงตัวบุคคลในทุกๆรูปแบบพร้อมทั้งยังเป็นการนำวิชาชีพกิจกรรมบำบัดไปเผยแพร่ให้กับคนในชุมชุนอีกด้วย^^
คุณโจ้มีความคิดที่ดูมีความสุขจริงๆอ่านแล้วชื่นใจจังครับ
เป็นกำลังใจให้อาจารย์ป๊อบหายไวๆ นะครับ^^
ขอบคุณมากครับอาจารย์แอน ต่อจากนี้คงต้องสะสมความรู้และประสบการณ์จากอาจารย์และผู้รับบริการซึ่งเหมือนเป็นอาจารย์อีกคนเยอะเลยครับ ^^
ขอบคุณเหมือนกันครับที่ได้มีความสุขทุกครั้งที่ได้เรียนกิจกรรมบำบัดกับสุขภาพจิต
ขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ
แต่ผมพยายามจะสื่อว่าแม้ทั้ง3คนจะมีความพิการทางด้านร่างกาย
แต่เค้าพยายามทำเหมือนตัวเองเป็นคนปกติ
เพื่อ ลดภาระของสังคม และเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจให้ผู้พิการคนอื่นเห็น
รวมถึงเปิดโลกให้คนพิการได้ทำอะไรหลายๆอย่างเหมือนคนปกติครับ
ขอบคุณครับ