ดอกไม้


04 ภัทรวดี อินทา
เขียนเมื่อ

จากการที่ได้ไปสนทนากับชาวต่างชาติในวันที่ 2 สิงหาคม 2555 เวลา 17.00 น. ที่ทุ่งศรีเมือง ณ ลานหน้าศาลหลักเมืองจังหวัดอุบลราชธานี  โดยไปสัมภาษณ์ Mr.Ben ชาวเบลเยี่ยม เขาพึ่งเคยมาที่อุบลราชธานีเป็นครั้งแรก เขาชอบอาหารไทยที่รสจัดและก็ชอบภรรยาของเขามาก จากที่ได้ทำความรู้จักและพูดคุยกับ Mr.Ben ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจที่มีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยและได้ให้ความสนใจในวัฒนธรรมและประเพณีไทยจำนวนมาก นั่นย่อมแสดงว่าประเทศไทยก็มีที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเยอะแยะไม่แพ้ประเทศอื่น

4
1
ไอดิน-กลิ่นไม้
เขียนเมื่อ
  • เช้านี้ ตื่นขึ้นมา (04.30 น.) และเริ่มกิจกรรมประจำวันด้วยการติดตามนักศึกษาที่อยู่ในกระบวนการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ และเขียนสื่อความ ผ่าน Weblog "GotoKnow.org" เช่นเคย แต่กว่าจะ เข้าถึง (Access) ได้ก็ใช้เวลานานมาก...เมื่อวานก็เพิ่งไปจ่ายค่าบริการ Internet ผ่าน Aircard มานี่นา ปัญหาอะไรอีกล่ะ...
  • ติดตามนักศึกษาแล้วก็มาเขียนอนุทิน ที่ไม่ได้เขียนมานานแล้ว แต่เขียนเสร็จก็เกิดจัดเก็บข้อมูลไม่ได้หลายครั้ง...ทำไงดีล่ะ...ถอยเพื่อตั้งหลัก กลับไปต่อ 'net ใหม่ ลองดูซิจะแก้ปัญหาได้ไหม ถ้าได้ก็จะได้พบเนื้อหาที่ต้องการสื่อ ดังนี้ นะคะ
  • สิ่งที่ทำให้เหนื่อยใจก็คือ ปัญหานักศึกษาที่ไม่ยอมแก้ไขในข้อผิดพลาดซึ่งเกิดจากปัญหาการอ่าน ที่เข้ามาอ่านแต่กลับไม่อ่านทั้งหมด ทำให้ไม่ได้รับรู้ข้อผิดพลาดของตน ทั้งที่อาจารย์ได้ชี้ให้เห็นเป็นรายบุคคล อย่าว่าแต่จะ "เรียนรู้จากข้อผิดพลาดของคนอื่น" เลย
  • แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาบ้างก็คือ "การที่สามารถทำในสิ่งที่ทำได้ยากยิ่งคือ การเปลี่ยนความรู้สึกนึกคิดของคน" คือการทำให้นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเครือข่าย นรากร พิสิษพุทธิธาดา หันมารักภาษาไทย ภูมิใจในภาษาของชาติ และสัญญาว่า จะรักและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ดังที่เขาได้แสดงความเห็นในบันทึกเรื่อง "ภาษาไทย...ภาษาชาติฯ" ความว่า "ในเรื่องภาษาไทย ผมก็ไม่ค่อยใส่ใจมากเท่าไหร่นัก แต่พอมาอ่านบันทึกของอาจารย์ มันทำให้ผมภูมิใจที่เรามีภาษาไทยเป็นภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ทำให้ผมรู้สึกรักในภาษาไทยมากขึ้น ผมจะรักษาและใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ขอขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ ครับ"
37
10
Wasawat Deemarn
เขียนเมื่อ

| อนุทิน ... ๓๐๙๕ |

"ทำลายโอกาส"

ก่อนกลับบ้านวันนี้แวะไปคณะฯ หารองคณบดีฝ่ายวิชาการ มีนักศึกษาหญิงสองคนเดินเข้ามาให้ คนแรกแจ้งขอ "ยกเลิกรายวิชา" ที่เรียนกับรองฯ โดยใช้เหตุผลว่า "ต้องทำงาน" รองฯ เลยถามว่า "งานอะไร" เด็กตอบว่า "ขายเครื่องสำอางผ่านอินเทอร์เน็ต" ทำใหุ้งงกันว่า มันไม่มีเวลามากขนาดนั้น ถึงยอมมายกเลิกรายวิชา (ปี ๓ เอกปฐมวัย)

อีกคนมาแจ้งรองฯ ว่า "หนูมาขอลาออก" รองฯ ถามว่า "ทำไมต้องลาออก" เด็กตอบว่า "จะลาออกเพื่อกลับบ้านที่แม่สะเรียง" ถามอะไรไปมากกว่านี้ก็ไม่ชัดเจน

แค่นี้จริง ๆ ครับ ดูทั้งสองคนนี้ ฐานะไม่ได้ย่ำแย่นัก แต่ภาพมันออกมาว่า เป็นเด็กเที่ยวที่อโคจรมากกว่า ไม่ได้อยากเรียนหนังสือแน่นอน

คนที่เขาไม่มีโอกาส เขาอยากจะเรียน แต่ไ่ม่มีเงินเรียน

คนที่มีโอกาสแล้ว กลับไม่อยากเรียน

ตลกร้ายจริง ๆ ... นี่ถ้าผมได้สอนเด็กพวกนี้นะ โอกาสน้อยที่จะมาลาออกแบบนี้

6
2
02 ชฎารัตน์ ปุระมาปัด
เขียนเมื่อ

ประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดจากการไปสนทนากับชาวต่างชาติ

       วันพฤหัสบดี ที่ 2  สิงหาคม  2555  ที่ผ่านมา ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆอีก 7 คน ก็ได้นัดหมายกันไปทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาติ เวลา 18.00 น.ในงานประเพณีแห่เทียนพรรษา โดยในงานนั้นจะมีงานปั้นและแกะสลักเทียนนานาชาติ  ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 7 แล้ว  จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม – 5 สิงหาคม 2555  ที่ทุ่งศรีเมือง  จังหวัดอุบลราชธานี   ซึ่งเป็นประเพณีประจำจังหวัดอุบลราชธานี  จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการแสดงศิลปะการแกะสลักเทียนและวัฒนธรรมการแห่เทียนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวจังหวัดอุบลราชธานี  เพื่อที่จะได้เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมที่มีความงดงามล่ำค่าไว้สืบเนื่องต่อกันไปสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน เมื่อข้าพเจ้าได้รู้ว่าจะได้ไปทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาตินี้ ข้าพเจ้าก็รู้สึกตื่นเต้นและตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นเยาวชนคนอุบลราชธานีมากขึ้น เพราะการทำกิจกรรมนี้ก็เท่ากับว่าเราต้องไปเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมของเราด้วย ยิ่งทำให้ข้าพเจ้ากดดันมากขึ้นเพราะกลัวว่าจะทำไม่ได้  แต่ว่าในลึกๆของก้นบึ้งของหัวใจของข้าพเจ้าได้สั่งออกมาว่าจะต้องทำให้ได้ และต้องทำให้ได้ดีที่สุดด้วย   เมื่อเป็นคำสั่งแล้วก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องสู้ต่อไปเพื่อจะได้พบเจอกับความสำเร็จ  พอถึง เวลา 18.00 น.  พวกเราก็รวมตัวกันได้แล้วจากนั้นก็พากันเดินไปทักทายและสนทนากับชาวต่างชาติ 

                

                 

        ในขณะที่ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ เดินหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะสนทนาด้วยนั้น  ก็มีอุปสรรคมากเหลือเกิน เพราะเดินไปหาใครก็บอกว่ารีบๆๆบ้าง  ไม่สะดวกบ้าง  และอื่นๆ อีกต่างนานา ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ ก็ได้แต่น้อยใจ และคิดตั้งคำถามว่าเพราะอะไร ถึงได้มีอุปสรรคมากเหลือเกิน เพราะถามไปแล้ว 3-4  คน แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถสนทนาได้เลย จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ ก็ได้เจอกับชาวต่างชาติคนที่ 5 เธอเป็นผู้หญิง ที่น่ารักมากในสายตาของข้าพเจ้าและน่าจะเป็นคนใจดี ก็เลยคิดว่าคนนี้น่าจะสามารถสนทนากับกลุ่มของข้าพเจ้าได้ ก็เลยเดินไปหา ความรู้สึกตอนนั้นทั้งตื่นเต้นและเป็นกล้าๆกลัวๆ ที่จะสนทนากับเธอ "จะทำยังไงกันดีนะ" พูดกับเพื่อนๆ  ข้าพเจ้าก็เลยตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปถามเธอ ข้าพเจ้าคิดอยู่ในใจว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด  แล้วพอเดินไปถึงเห็นเธอยืนอยู่กับคนไทย ก็เลยเข้าไปพูดคุยกับคนไทยนั้นก่อน  จากนั้นคนไทยคนนั้นก็ได้สนทนากับเธอ แล้วเธอก็เลยมองมาที่พวกเรา ต่อจากนั้นพวกเราจึงได้สนทนากับเธอ  และได้ขออนุญาตในการสนทนาเธอ เธอก็อนุญาตให้สนทนากับเธอได้เป็นไปอย่างที่ข้าพเจ้าคิดไว้ไม่มีผิดว่าเธอจะเป็นคนที่ใจดี  หลังจากนั้นข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ ยิ่งพากันตื่นเต้นมากขึ้นกว่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้  เพราะตอนนี้ได้อยู่และพูดคุยใกล้ๆกันกับชาวต่างชาติ   บทสนทนาของกลุ่มพวกเราก็เป็นประโยคที่พื้นฐานทั่วไป   เช่น

  • May I have your name , please?
  • Where are you from ?
  • Where do you stay  in Ubon Ratchathani ?
  • What do you think of the Candal Festival?
  • How  do you get the infomation of the the  Candal Festival?
  • How many times have you been to the Candal Festival?

        ขณะที่เราทำการสนทนานั้นก็ได้มีการบันทึกวิดีโอไว้   ความรู้สึกตอนที่บันทึกก็เป็นอีกสถานการณ์หนึ่งของพวกเราที่มีความรู้สึกตื่นเต้น และกังวลมาก แต่ก็คิดอยู่ในใจตลอดเวลาว่าจะต้องทำให้ได้ หลังจากที่ทำการบันทึกวิดีโอเสร็จแล้ว  พวกเราก็ได้ร่วมกันถ่ายภาพกับเธอคนนั้น ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจมากอีกรูปหนึ่ง เพราะกว่าจะได้มาก็ต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆมากมาย

                 

        หลังจากที่ได้ไปทำกิจกรรมสนทนากับชาวต่างชาติครั้งนี้  ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆก็ได้คำตอบที่น่าประทับใจมากจากเธอ คือ  เธอชื่อ Diana. Washington-DC. America.   เธอเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน   เธอพักอยู่ที่อำนาจเจริญ  และเธอบอกว่าเธอชอบศิลปะการแกะสลักเทียนและประเพณีการแห่เทียนของชาวจังหวัดอุบลราชธานีมาก  เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ตระการตาและสวยงามมาก  โดยการไปสนทนาครั้งนี้ก็ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้เกิดเป็นคนไทย และคนจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้เห็นประเพณีอันสวยงามและล่ำค่านี้  ซึ่งขณะนั้นก็ทำให้ข้าพเจ้าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย เพราะอย่างน้อยเราก็เป็นส่วนหนึ่งของเยาวชนที่ตระหนักและให้ความสำคัญกับประเพณีประจำจังหวัดอุบลราชธานี  และจากที่ตื่นเต้นและกลัวๆนั้นก็หายไปหมดเลย  ทำให้การสนทนาครั้งนี้ของกลุ่มข้าพเจ้าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี  ขอขอบคุณ ผศ. วิไล  แพงศรี  มากนะค่ะที่ได้ให้ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ ได้ทำกิจกรรมดีดีนี้คะ

               

 

                 

 

                

    ข้อมูอภาพจาก @Chadarutalbum : Thursday 2th August 2012

11
5
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท