14 มีนาคม 2553
แม่เจ้า ไม่คิดว่าการเขียนบล๊อกมันจะยากเย็นอย่างนี้มาก่อน อืมม ขณะที่ทำไปก็ดูจิตตัวเองไปด้วย เรื่องของเรื่องก็คือ วรรคตอนที่เราทำมาจากเวิร์ด พอขึ้น บล๊อกจริงๆมันเพี้ยนไปทำให้อ่านยาก เราคิดว่าถ้าคนมาอ่านคงจะปวดหัวน่าดู เลยพยายามแก้อยู่ตั้งหลายนาที ก็เท่าที่เห็นนี่หละครับ ขออภัยด้วยถ้าอ่านยากไปหน่อยเพราะวรรคตอน ปรึกษา รุ่นพี่ได้ความมาว่าให้จัดที่เวิร์ดดีๆแล้วก็เปลี่ยนตัวอักษรเป็นอะไรซักอย่างนี่แหละ tohoma กระมังครับ เอาเป็นว่า ให้ถือเป็นการดูจิตตัวเองไปด้วย อันการงานคือการดูจิต หายใจเข้าออก พุทโธ มีวิหารธรรม โดยเฉพาะยิ่งช่วงจิตเกิดเตลิดมากๆ นี่ต้องหาเครื่องยึดก่อน ดูอย่างเดียวไม่ไหวครับ ขอบคุณที่บล๊อกทำให้เราเรียนรู้จิตได้ อืมม..
ไม่มีความเห็น
4 มีนาคม 2553
ช่วงนี้งานเยอะนะครับ ก็เลยเอางานเก่าๆมาลงไว้ก่อน มันเขียนไม่ทัน แต่พยายามจะจัดการตัวเองให้ได้ จัดการความรู้ในตัวเองนี่หละผมว่าดีที่สุดแล้ว เป็นการดูกาย ดูใจของเราไปด้วย วันนี้ไปทัณฑสถานบำบัดมา 9.00-12.00น. ได้ลองกิจกรรม ดุลยภาพกาย จิต ปัญญา ผ่านงานศิลปะบำบัด และดนตรี ไม่เลวทีเดียว ทุกคนมีส่วนร่วมกันอย่างดี ทำให้ความเชื่อที่ผมคิดว่ามนุษย์ทุกคนอยากทำความดี รักตัวเอง มีความหวังและพร้อมที่จะลุกขึ้นใหม่เสมอ หนักแน่นขึ้นไปอีก มันคือความกรุณาที่อยู่ในใจของคนทุกคนที่อยากให้ตัวเองและผู้อื่นพ้นทุกข์ ขอบคุณบทเรียนดีๆครับ
ไม่มีความเห็น
การทำกระบวนการถอดบทเรียน ความสำเร็จ กับเครือข่ายพ่อแม่แกนนำ จำนวน 8 -9 คน ที่มาจากโรงเรียนต่างๆ ในกทม.ภายใต้สถานที่ที่สวยงาม และเป็นธรรมชาติ สงบดี ทำให้ได้พบคำตอบหนึ่งว่า การทำกระบวนการกับคนน้อยๆนี่เป็นอะไรที่ลำบากยากเย็นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเพราะเหตุปัจจัยใด คน กระบวนการ หรือกระบวนกร จริงๆคนน้อยความไว้วางใจ ความใกล้ชิด ความสะดวกใจ มันน่าจะมากกว่านะ ก็เป็นเรื่องที่ต้องค้นหากันต่อไป โดยเฉพาะผม ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมพาทำ คงต้องค้นหาว่ามันเกิดเพราะอะไร แต่ถ้าจะย้อนดูตัวก็ต้องบอกว่า ช่วงนี้ พลังจิตต่ำกว่าปกติเพราะละเลยการสวดมนต์ ยาวและนั่งสมาธิยาวมาหลายวัน นี่เป็นสิ่งที่มีผลจริงๆ คงต้องหาเวลากลับมาปฏิบัติสิ่งนี้ให้สม่ำเสมอเหมือนเดิม ขอบคุณสำหรับบทเรียนดีๆ ของพ่อแม่จิตอาสาเพื่อลูกๆทุกคน
ไม่มีความเห็น
ช่วงชีวิตที่มหัศจรรย์สำหรับนักดนตรีนักแต่งเพลงตัวเล็กๆคนหนึ่งก็คือ การได้มีโอกาสนำวิชาชีพของตัวเองสู่กระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพมนุษย์ โดยเฉพาะด้านที่ลึกที่สุดที่เขาเรียกกันว่าจิตวิญญาณนั่นเอง การเป็นกระบวนกรผู้ช่วย 2 ปีที่ผ่านมา คำตอบหนึ่งที่ค้นพบได้ก่อนสิ่งอื่นๆ ก็คือ เป็นวิชา เป็นอาชีพที่ยิ่งทำตัวตนยิ่งลด มันไม่สามารถทำตัวให้เด่นหรือโชว์ฝีมือเหมือนเช่นงานโชว์ที่เคยทำๆมา มันคือการเคารพ ผู้ร่วมเรียนรู้ชนิดที่ต้องมองให้เห็นเลยว่าทุกคนมีโพธิปัญญาฝังอยู่ในตัว แล้วทำยังไงแต่ละคนจึงจะสามารถทึ้งศักยภาพความดีงามของตัวเองออกมาแบ่งปันเล่าขานกันได้ในบรรยากาศของความเป็นกัลยาณมิตร และนี่เองที่ผมเริ่มหลงรักการเป็นกระบวนกร ตั้งแต่แรกๆที่ทำเป็นต้นมา ใครจะรู้ว่าตัวตนยิ่งเล็กความสุขจะยิ่งใหญ่ได้ "ความสุขและคุณค่า" 15 ม.ค.53 ป้อม หลานปู่
ไม่มีความเห็น