ทนาย ป.เกษตร


เจ้าของ
ป.เกษตร ฟาร์ม
Username
pokaset
สมาชิกเลขที่
193152
เป็นสมาชิกเมื่อ
เข้าระบบเมื่อ
-
(ไม่มีตั้งแต่ พ.ศ. 2564)
ประวัติย่อ
ผมชื่อประเสริฐศักดิ์ ทึมหลวง ครับ เป็นลูกชาวนาแต่กำเหนิด เกิดมาก็ด้อยการศึกษา โตมาเลยหาเรียนศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนด้วยตัวเองเองจนจบนิติศาสตร์รามคำแหง จบโทกฎหมายธุรกิจ ศรีปทุม ตอนนี้กำลังศึกษา เกษตรและสหกรณ์ที่ มสธ.ครับ อาชีพหลักเป็นทนายความตั้งแต่เรียนจบจนปัจจุบัน แต่อาศัยพ่อแม่เป็นชาวนา ท่านเลยพอมีที่ดินหลงเหลือไว้นิดหน่อยที่สุโขทัย ญาตพี่น้องบางคนก็ขายเอาเงินไปใช้หมด บางคนก็ไปทำอาชีพอื่นๆ กัน ที่ดินประมาณ 60 ไร่ก็ให้เขาเช่าปลูกมันสำปะหลังมายาวนาน จนดินเสื่อมโทรมหมด พอปี 2550 พ่อผมท่านก็จากไปอย่างสงบ ผมก็เลยคิดว่าอยากทำอะไรสักอย่างที่สืบทอดเจตนารมณ์พ่อ นั่นก็คือการทำเกษตร ทีแรกก็ไม่มีไฟแรงมากเท่าไหร่ แต่พอทำไปเล็กๆ น้อยๆ มันก็มีความรู้สึกว่ามันมีความสุขดี เหมือนกับว่าเราได้กลับมาสู่อดีตเด็กท้องทุ่งอีกครั้งแรกก็คิดจะทำแค่เป็นที่พักผ่อนไว้กินเหล้ากับเพื่อนฝูงแค่นั้นเองแหละครับ แต่พอทำไปๆ ใจเกิดรักขึ้นมาจริงๆ ก็เลยคิดว่าเราเดินมาถูกทางแล้วละ เพราะเคยเล่นหุ้นก็เป็นทุกข์ เล่นทองก็เป็นทุกข์ อยู่กรุงเทพทุกอย่างผ่อนเขาหมด บ้าน รถ เสื้อผ้า อาหาร ตู้เย็น ทีวี นี่ถ้าเมียผ่อนได้ก็คิดว่าคงต้องผ่อนเหมือนกัน ผมก็เลยคิดว่านี่ถ้าสักวันเราไม่มีเงินผ่อน บ้าน รถ เขาคงมายึดคืน บัตรเครดิตก็คงระงับมาไล่เบี้ยฟ้องกันเป็นระนาว ถึงตอนนั้นเราจะอยู่อย่างไรนะ มันน่าจะมีวิธีการอะไรที่จะทำให้เราอยู่ได้อย่างสบายๆ และมีความสุข คิดไปไกลถึงขนาดที่ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ "ปิดประเทศไทยเลย" เรากับครอบครัวรวมถึงบริวารก็อยู่ได้ไม่ถึงกับฆ่าตัวตาย ว่างั้นเถอะ ก็เลยคิดว่าถ้าจะอยู่ได้มันก็ต้องมีแหล่งอาหารเป็นของตนเอง ไม่มีใครมายึดจากเราไปได้ จุดเริ่มต้นมาปลูกไผ่ ก็เพราะว่าผมโตมากับกอไผ่ ตอนพ่อแม่ย้ายไปอยู่อำเภอสอยดาว จันทบุรี สมัยนั้นผมอายุ 10 ขวบ พื้นที่แถบนั้นบนเขาส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบ ส่วนพื้นที่ราบก็จะเป็นป่าไผ่ ชาวบ้านก็จะแพ้วถางป่าไผ่เพื่อทำไร่ข้าวโพด ไร่ฝ้าย ไร่ถั่วลิสง ไผ่ที่แผ้วถางกันก็จะเป็นไผ่ป่าที่มีหนามแหลมคมมาก ถึงหน้าฝนก็จะมีหน่อไม้ไผ่ป่าขึ้นเยอะมาก พ่อกับแม่ก็จะไปตัดหน่อไผ่มาเผาไฟ และเอามาหั่นต้มแกงบ้าง ห่อหมกบ้าง อร่อยมากๆ ก็เลยมาศึกษาการปลูกไผ่ ก็เริ่มรู้ว่ามันมีหลายสายพันธุ์มาก และเขาปลูกกันเป็นพืชเศรษฐกิจ แต่เราเอาแค่ให้มันเป็นป่าไว้นอนเล่นๆ สัก 20-30 ไร่ก็คงพอ ก็เลยลองปลูกดู ทีแรกไปซื้อที่ๆ จันทบุรี สิบกว่าไร่ ลงไผ่เลี้ยง ผ่านไปสองปีกว่า ไม่โต ไม่แตกหน่อ ก็เลยตัดสินใจอย่าฝืนธรรมชาติดีกว่า เพราะแถบนั้นเขาปลูกลำใยกันหมด ผมตัดสินใจคืนเดียวบอกเขาตัดไผ่เลี้ยงทิ้งหมดเลย แล้วปลูกลำใยแทนอย่ารอช้า (พลาดแล้วพลาดไป) ในขณะเดียวกันผมก็ปลูกไผ่ซางที่สุโขทัย ทดลองพร้อมกันกับไผ่เลี้ยงที่จันทบุรี ด้วย เปรียบเทียบแล้วไผ่ซางที่สุโขทัยโตได้ใจเกือบหมดทุกกอ ก็เลยปลูกขยายต่อไปอีก 10 ไร่ รวมๆ แล้วก็น่าจะได้สักสามสิบกว่าไร่ (คิดว่าพอแร้ว) เหลือที่ไว้ปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเองบ้าง เป้าหมายก็คงจะไว้ขายลำครับ หน่อที่มีมากเกินก็แจกชาวบ้านกินบ้าง แกงใบย่านางใส่บาตรพระตอนเช้าบ้าง ทำหน่อไม้ดองไว้แกงกับปลาดุกในบ่อบ้าง ตามมีตามเกิด คิดว่าอีกสัก 5 ปี กอมันก็คงใหญ่มาก ถึงตอนนั้นก็ค่อยคิดกันใหม่ว่าจะไปทำอะไร ตอนนี้คิดว่าแค่ได้ทำ มีความสุขก็พอแล้วละครับ เพื่อนถามเหมือนกันว่าลงทุนไปเป็นล้านแล้วได้คืนหรือยัง คำตอบก็คือ ได้คืนมาแล้วแต่ไม่ใช่ตัวเงินว๊ะ มันเป็นความสุขทางใจที่ได้ทำ สรุปสั้นๆ เพื่อนก็ว่าเรา บ้า นั่นแหละ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท