ไม่มีความเห็น
เข้าไปเล่นของเล่นใหม่ที่ gotoknow จัดให้ portal.in.th ตั้งชื่อว่า life-learn หรือ ชีวิตกับการเรียนรู้ แต่ยังไม่ได้เอาข้อมูลขึ้น ขอเวลาศึกษาอีกหน่อย ตอนนี้จองไว้ก่อนนะ
ไม่มีความเห็น
คนในยุคสังคมสมัยใหม่ ถูกตีค่าด้วย "การทำงาน" พอตกงาน หรือหางานทำไม่ได้ เลยกลายเป็น "คนไม่มีค่า" ในสายตาตนเอง และคนอื่นๆ วันนี้ฟังข่าวสถิติคนตกงานในยุควิกฤตเศรษฐกิจโลกทีละเป็นหมื่นคนต่อวัน, มีข่าวการบินไทยเกิดปัญหาการเงิน และต้องกู้เงินมาจ่ายเงินเดือนพนักงาน และ ฟังดีเจ.ในวิทยุให้ส่ง sms แสดงความเห็นว่า "ท่านคิดว่า ท่านจะมีงานทำอีกกี่วัน กี่เดือน" ฟังแล้วใจหายนะ ถึงวันนี้งานการที่ฉันทำยังดูดี มีความมั่นคงอยู่ แต่ก็หวั่นใจแทนคนอื่นๆ และเด็กๆ ที่กำลังจะจบในปีนี้ว่าจะไปทำงานอะไร ในเมื่อการศึกษาของบ้านเราไม่ได้สอนให้คนสร้างงานสร้างชีวิตด้วยตัวเอง แต่มุ่งผลักดันให้เข้าไปรับจ้าง และทำตามเป็นส่วนใหญ่
ไม่มีความเห็น
อ่านหนังสือจบหนึ่งเล่ม ชื่อ "โลกหมุนช้า...ที่ อัมพวา" เขียนโดย ผลิตะวัน มีภาพสวยๆ และเรื่องราวดีๆ ของอำเภออัมพวา ตลาดน้ำยอดฮิตของสมุทรสงคราม ที่เมื่อตอนปีใหม่มีคนไปเที่ยวกันจนรถติดยาวเป็นกิโลและแออัดมาก อ่านแล้วทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่ได้ไปเยือนอัมพวา ทั้งโฮมสเตย์ เที่ยวสวนมะพร้าว ดูโรงเคี่ยวน้ำตาล ดูคอนเสริตหิ่งห้อย และที่ลืมไม่ได้ คือ ตลาดน้ำอัมพวา และตลาดน้ำท่าคา ว่างๆ จะทำบันทึกถึงตลาดน้ำเอาไว้ในบันทึก...จากชุมชนบ้าง และตอนนี้กำลังทำงานวิจัยเรื่องมะพร้าวที่อัมพวาอยู่...ยังเขียนไปไม่ถึงไหนเลย สงสัยต้องรอปิดเทอมนะ...จะลงเก็บข้อมูลอีกครั้ง แล้วจะเอามาบันทึกจ๊ะ
ไม่มีความเห็น
บันทึกวันตรุษจีน เป็นวันรวมญาติ มีพี่น้องมาเยี่ยมเยียนมากมาย ได้ร่วมกันไหว้บรรพบุรุษ (คิดถึงพ่อ เพราะปีนี้เราก็ต้องไหว้พ่อด้วย พ่อจากไปแล้ว 2 ปี แต่ยังอยู่ในใจพวกเราเสมอ) พิธีกรรมเหล่านี้บางคนมองว่าเสียเวลา เสียเงินเสียทอง แต่เราว่าภายใต้พิธีกรรมยังมีสิ่งดีๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เช่น ทำให้คนในครอบครัวได้มาพบกัน ผู้ใหญ่ได้มีความสุขกับการพบหน้าลูกหลาน คนในครอบครัวได้สานสายใยกันรุ่นต่อรุ่น ได้รำลึกถึงสิ่งดีๆ ที่บรรพบุรุษทำให้ลูกหลาน และทำให้เราสืบสานสิ่งดีๆ ต่อไปยังคนรุ่นต่อๆ ไป ถ้าเราไม่เอามูลค่าเชิงเศรษฐกิจมาเป็นตัววัดคุณค่าสิ่งใดๆ มากเกินไปเช่นทุกวันนี้ เราจะมองเห็นสิ่งสวยงามของพิธีกรรม และไม่กระทำกันเพียงแค่เปลือก...
ไม่มีความเห็น
คุยกับเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกัน เธอเล่าให้ฟังว่าปีใหม่ปีนี้ได้ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ บริษัทของเธอได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ก็เลยถูกเจรจาลดเงินเดือนลงเหลือ 75% และให้หยุดทำงานวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เมื่อตอนหยุดยาวปีใหม่ เธอก็หยุดนานถึง 2 สัปดาห์ เพราะโรงงานต้องการประหยัดค่าแรงรายวัน (แต่เธอเป็นรายเดือน)และอาจเป็นเพราะงานน้อยลงด้วย ตรุษจีนปีนี้เธอได้หยุด 4 วันรวดโดยไม่ต้องลา ตอนนี้เธอมีเวลาทำคุ๊กกี้มากขึ้น แล้วเราก็ได้ชิมมากขึ้น เพราะมันจะช่วยให้เธอมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยสำหรับลูกสองคน....เล่าให้ฟัง เพราะนี่เป็นชีวิตจริงของเพื่อนร่วมสังคมไทยค่ะ
อ้อ! วันนี้ขึ้นบันทึกเรื่อง "คิดถึง...เมืองแม่ฮ่องสอน (ตอนที่2)" เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัดๆ ในแม่ฮ่องสอนที่ได้ไปมา และประทับใจ
ไม่มีความเห็น
ฟังข่าว รมต.กระทรวงการคลัง (กรณ์ จาติกวณิช) บอกจะออกกฎหมายเก็บภาษีมรดก นำมาเป็นงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และลดช่องว่างรายได้ของคนในประเทศ ยังไม่มีรัฐบาลยุคไหนทำสำเร็จ เพราะคนออกกฎหมายล้วนมีอันจะกิน และมีมรดกเยอะ เลยไม่อยากเสียภาษี เราสิไม่มี สบายไป...วันนี้เลยเอางาน อ.ป๋วย มาเตือนสติ ความมั่งมีของคนไม่รู้จักพอจ๊ะ
ไม่มีความเห็น
นำเรื่อง คิดถึง..เมืองแม่ฮ่องสอน ตอนที่ 1 ขึ้น blog วันนี้ 22 มค.52 กะว่าจะเขียน เสน่ห์...คีรีวง ต่อ (ตอนที่ 1 ขึ้นไปแล้วเมื่อ 19 มค.52)
ไม่มีความเห็น
Bookmark: ท้องถิ่นสนทนา
ท้องถิ่น โลกาภิวัตน์ สังคม สังคมชายขอบ คนตัวเล็กตัวน้อย
ไม่มีความเห็น