| อนุทิน ... ๔๔๖๒ |
"ง่ายแต่งาม"
บันทึกจากหนังสือ ... คำปรารภจากหนังสือ "ง่ายแต่งาม" โดย "พระไพศาล วิสาโล"
พอจะมีเวลาบ้างแล้วหลังจากฝ่าฟันความไม่รู้เรื่องร้านกาแฟ จนพอจะรู้เปิดร้านขายได้
มีลูกค้าประจำ เลยออกไปปลูกต้นไม้ในวัด กะว่าจะทำสวนสวยๆข้างห้องน้ำวัดให้ได้
อาจต้องใช้เวลาแต่คงสนุกและเพลินดี
ผมเป็นคนไทย
ประมาณปี ๓๕ หรือปี ๓๖ ผมไม่แน่ใจ ตอนนั้นผมยังรับใช้หลวงพ่อคูณที่วัด หลวงพ่อจะถวายเงิน ๗๒ ล้าน ตามอายุของในหลวง ซึ่งก็มี ข้าราชการมาเตรียม คำพูด สอน คำราชาศัพท์มากมาย
จนวันหนึ่งพระเทพฯ ก็ได้มาหาหลวงพ่อ แล้วก็ทรงถามอะไรมากมาย แต่หลวงพ่อคูณไม่ได้ตอบอะไร จนในที่สุดพระเทพฯ ท่านก็ทรงถามว่า.. ทำไม หลวงพ่อ ไม่พูดกับหนูล่ะคะ หลวงพ่อคูณก็ตอบ แล้วก็พรางชี้ไปที่ นายอำเภอว่า ............ ก็ไอ้นี่ มัน ไม่ให้ กู พูดคำว่า กู กับ มึง ๕๕๕๕๕
พระเทพ ขำ น้ำตาซึม .............
แล้วพอ มา ถึงวันงาน ที่ในหลวงเสด็จมา เหล่าบรรดา สส. สว. สจ. นายอำเภอ หน้าแหยๆ กัน เพราะกล้วว่า หลวงพ่อคูณจะพูด กู มึง กับในหลวง....แล้วหลวงพ่อคูณท่านพูดว่า... กูก็เคยเรียน ภาษาไทยเนอะ รู้น่า ไม่ต้องห่วงด๊อก ...ไอ้นาย (หลวงพ่อคูณ พูดกับ ราชการผู้ใหญ่)
จนในที่สุด ............ ในหลวงท่านเสด็จมา ผมเองก็มีโอกาสเห็นในหลวง ใกล้ที่สุด ๆ ชิด พระวรกาย เลย
ซึ่งในหลวงท่านถามว่า .............. หากิน ลำบากไหม (ผมน้ำตาไหล พราก) แล้วพระองค์ก็เดินจากไป..........คนแน่นวัด ท่านถามแบบนี้ ทุกคน ถามถึงเรื่องการทำมาหากิน และความลำบาก
พอท่านเสด็จกลับ.... หลวงพ่อคูณท่านก็เข้าวัด ท่านยิ้มแก้มปริ จนเวลาผ่านไป ผมก็ แอบไปถามท่านว่า ... ตอนที่เดินบนโบสถ์ ผมถามจริงเถอะหลวงพ่อ คุยอะไรเล่าให้ผมฟังหน่อย ...
แล้วคำแรก ที่หลวงพ่อ กล่าวคือ... มึงรู้ไหม มือพระองค์ เป็นมือ คนทำงาน อย่างก๊ะ ชาวไร่ ชาวนาแข็งกะด้าง มาก ๆ แล้วผมก็ถามหลวงพ่อว่า หลวงพ่อใช้คำ เรียกว่าอะไร ... หลวงพ่อท่านเงียบ แล้วก็ตอบว่า ................ พระองค์ พูดประโยคแรกว่า ........ " หลวงพ่อครับ พูดตามปกติ นะครับ ผมเป็นคนไทย "....................................
โดย: ชมรมคนรักในหลวง
สูญเสียแม่ไป
อาลัยยิ่งนัก
เศร้าใจบอกไม่ถูก
ช่วงนี้ขอพักยกก่อน
คิดถึงเสมอโกทูโนว์ ตั้งใจกลับมาเขียนบันทึกอีก รอจิตใจพร้อมก่อนค่ะ
ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกๆท่าน ขอบคุณมากค่ะ
ธรรมของครู ผู้เผยแพร่ความรู้/ความเห็นในเว็บไซต์ก็เป็นครูเช่นกัน
ผู้ให้ความรู้เป็นทานด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยไม่หวังผลตอบแทน ขอฝากหลักธรรมของครูไว้ ณ ที่นี่ค่ะ
เปิดหู เปิดตา...เิปิดใจ
• จากการเรียนรู้ การสร้างแพลนเน็ตวันนี้ นำสู่การเรียนรู้ขั้นตอนการเรียนรู้ (เอ๊ะ ยังไงกัน)
• อึดอัด และกังวลใจกับการสื่อสารของตนเองมาตลอด จนแล้วจนรอดก็หาข้อสรุปไม่ได้
• การสื่อสารจากข้อจำกัดอันคับแคบ ไม่ต่างจากการมีตนเองเป็นศูนย์กลาง
• โยงมาที่... การมีโอกาสได้อ่านการถอดบทเรียน Happy Ba ของสมาชิก
... อ่านแล้ว รู้สึก ชื่นชม เชื่อมั่น สบายใจ เหมือนได้ติวเข้ม... เข้มทุกมิติ และมีความสุข
• ได้คำตอบว่า...ที่ผ่านมา ข้าพเจ้า ฝึกฝนตนผิดขั้นตอน... (อั้ยย่ะ)
...นิวรณ์ (กลุ้มรุม) + อุปกิเลส แตกตัว หัวทิ่มตำ เพราะเหตุมาแต่...ตัณหาล้ำหน้า!
...เริ่มต้นใหม่ ยังไม่สาย...นะ
ฝึกถอดบทเรียนเงียบๆ เพียงไม่กี่แพลนเน็ต สักระยะ หูตาก็คงสว่าง...จางปาง...หละนะ
ข้อคิดที่ได้คือสื่อที่ไร้วิญญาณ ขาดความเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง จึงไม่สามารถเข้าถึงจิตวิญญาณของผู้ป่วยโรคเรื้อรังได้
จากนามธรรม ทำอย่างไรให้เกิดeffect และให้เกิดสัมพันธ์ที่อายตนะของผู้ป่วยได้ ให้ได้ยินเสียงของตัวเองยามผจญกับทุกข์ซ้ำจำเจอันมีผลจากการป่วย ให้ได้เห็นในจิตเห็นทุกข์นั้นจริงๆมิใช่เพียงหวังว่าเดี๋ยวหมอก็จัดยาให้ ให้ได้จับได้สัมผัส ซึ่งองค์ความรู้มิใช่เพียงคำเตือน คำบอกเล่า หรือคำบรรยาย หากควสามน่าจะเป็นไปได้คือให้ได้พูดออกมาว่าที่เจ็บ ที่ป่วยนั้นมันเป็นอย่างไร ยามไหนทุกข์ที่สุด ทุกข์แล้วเป็นอย่างไร หยุดได้ไหม ได้ ได้อย่างไร หยุดไม่ได้ แล้วทำไง จากนามธรรมสะท้อน แลกเปลี่ยนกันบ้างดีกว่าไหม ดีกว่าที่ให้ผู้ไม่มีประสบการณ์ตรงรู้แต่ตำรามายั่งบรรยาย จนจำหลักการทฤษฎีว่าด้วยโรคเบาหวาน โรคความดัน ...จำได้แม้กระทั่ง น้ำตาลบเท่านี้ เท่านันหมายถึงอะไร อ่านค่าได้หมด แต่มันไม่ได้เอาไปใช้ไปส่งให้ถึงจิตวิญญษรที่พอจะปรับเปลี่ยนตัวเองได้ว่า เพราะฉันทำเช่นี้ฉันจึงเป็นอย่างนี้ แค่นี้ก็ยังไม่พอ อย่าเอาแต่คัดกรองแล้วแจกยากันอีกเลย หาวิธีใหม่เถอะนะ ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่ อีกทั้งยังได้แนวคิด ได้ต่อยอดความรู้ คัดกรองมีแล้วเจอคนป่วยเพิ่มมากขึ้น ได้ข้อมูลแค่นี้สิ้นเปลืองเปล่าๆ คัดกรองแล้วเอามาวิจัยบ้างเถิดนะ
จัดโปรแกรมให้ทำที่บ้านที่ๆคนป่วยอยู่ จได้ไม่ต้องกังวลเรื่องงบกลางวัน งบเบรค จัดแบบเดิมทีไรผู้ป่วยบ่นว่าน้ำตาลขึ้นๆ ไม่เห็นเปลี่ยนซักที
เอางี้ดีไหม
คัดกรองได้แล้ว ลงบ้านเลย ทำความเข้าใจ ให้ลึกซึ้งทั้งครอบครัวเลย แล้วร่วมกันตั้งโปรแกรมอาหาร ออกกำลังกายตามสภาพที่เป็นจริง เพิ่มสมมรถนะในการทำงานในด้านที่เห็นว่าส่งเสริมให้ร่างกายได้เผาผลาญ แล้วก็ประเมินให้เห็นให้ชื่นใจว่า นี่ไง ทำแบบนี้ไง ความดันลดลง น้ำตาลลดลง แต่เราต้องการความถี่ในการปฏิบัติต่อร่างกาย ทำได้ไหม ทำได้แล้วจะได้อะไร เอาไหมเราช่วย ไม่ต้องไปเอางบราชการมาทำหรอก ใช้งบในชีวิตประจำวันของผู้ป่ววยนั่นแหละ งบชีวิตจริง ขาดเหลืออะไรตรงไหนก็ดูแลเสริมคุณภาพชีวิตให้ ลิงค์ไปที่นักสังคมสงเคราะห์ อบต. รพสต. ดูซิว่าจะเอาไหม อยากทำงานแบบนี้ไหม หรือว่าไม่อยากทำ เพราะไม่มีงบชูใจ
สื่อมัลติมีเดีย สำหรับผู้ป่วยได้ถูกนำมาใช้
จุดเด่น ดี แปลกดี ผู้ป่วยได้เปลี่ยนการรับรู้จากฟังจนท.มาเป็นดูด้วยตาตัวเอง แต่แย่ตรงที่ไม่มีเสียงในฟิมล์ และที่แย่ไปกว่านั้น ผู้ป่วยสายตาไม่ดี อ่านไม่ออก สื่อเคลื่อนไหว เร็ว อ่านไม่ทัน ไอ้ย่า...สรุปว่าดีหรือไม่ดี
อย่าไปเคืองผู้ป่วยเลย แค่มี่อยู่กับความป่วยได้นี่ก็บุญโขแล้ว
ทำอย่างไรดีให้เขามีความสุขจากการเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ไปปรับวิถี แบบชื่นอกชื่นใจที่ได้เรียนรู้ และซึ้งที่จนท.ช่างเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วยเสียเหลือเกิน แม่คุณ ซึ้งที่เอาใจใส่อย่างลึกซึ้ง ทำไงดี ดีกว่าไหมดีกว่าบ่นว่าทำไปก็ไม่ได้อะไร ไม่เห็นผู้ป่วดีขึ้นเลย ตรงนี้ไม่ยากนะ ก็ลอง
ทำแบบประเมินความพึงพอใจ ประเมินความรู้และติดตาม แล้วเอาผลกลับมาปรับปรุงสื่อและวิธีการ สำคัญว่าได้ผลแล้วบอกว่าขี้เกียจทำต่อแล้ว...เป้าหมายเปลี่ยนไป กินยาไปเถอะง่ายดี.....จริงซิ
"ถ้าเธอยังไม่มีอารมณ์ความรู้สึกแห่งความรัก ความใจกว้าง ความกรุณา ความอ่อนโยน ในขณะที่เธอยังเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ละก็ เมื่อเธอแก่ตัวขึ้น เธอจะมีสิ่งเหล่านี้ได้ยากมาก แต่ถ้าเริ่มสั่งสมขึ้นมาเสียตั้งแต่บัดนี้ บางทีเธออาจจะปลุกความรู้สึกชนิดนี้ให้บังเกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ได้อีกด้วย" กฤษณมูรติ
ขอความรู้ด้วยค่ะ
• คิดจะสร้าง แพลนเน็ต นานแล้ว แต่ไม่สำเร็จ
• วันนี้ ตั้งใจใหม่ จะรวบรวมบันทึกที่มีเนื้อหาในเรื่องเดียวกันไว้ด้วยกัน
• เช่นโรงเรียน ลำปลายมาศพัฒนา มีหลายบันทึก
• ลองนำบันทึกของคุณหมออ้อ ทพญ.ธิรัมภา กับ อ.วัส Wasawat Deemarn มาลง
• ปรากฏว่า ข้อมูลมาทั้งสมุดเลย ไม่ได้มาเฉพาะบันทึกที่เลือก
รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ เราสามารถเลือกเฉพาะบันทึก ได้ไหมคะ?
ขอบคุณมากค่ะ