อาจารย์ เดือนเพ็ญ เพชร กิ่งโก้


ครู
สำนักงานกศน. จังหวัดอุดรธานี
Username
phen_kingko
สมาชิกเลขที่
97704
เป็นสมาชิกเมื่อ
เข้าระบบเมื่อ
-
(ไม่มีตั้งแต่ พ.ศ. 2564)
ประวัติย่อ

มารู้จักกับ
"สมาธิ แก้อาการปวดศรีษะได้"  กันเถอะ  แต่ก่อนดิฉันจะมีอาการปวดศรีษะ  อยู่เป็นประจำเกือบทุกๆ วัน (ประมาณ ปีพ.ศ. 2539) สาเหตุเพราะชอบอ่านหนังสือบนรถยนต์เวลานั่งรถโดยสารประจำทางไปโรงเรียนเป็นเวลารวม  6 ปี  ตลอด และแอบอ่านหนังสือตอนกลางคืนโดยใช้ไฟฉายส่องแล้วเอาผ้าห่มมาคลุมโปรงไว้  ไม่ให้คุณแม่เห็นแสงไฟในห้องเพราะท่านไม่อยากให้อ่านหนังสือมาก  กลัวลูกจะนอนดึกแล้วตื่นสาย  แต่ดิฉันก็ยังแอบอ่านจนได้  เพราะเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก  (หนังสือเรียนค่ะไม่ใช่หนังสืออื่นๆ) โดยไปพบแพทย์และตรวจสุขภาพประจำปีแล้วก็ไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใด  วนเวียนไปโรงพยาบาลและคลินิคหมออยู่ตลอดเวลา  ต่อมาระยะหลังๆ จึงคิดว่าคงไม่มีทางหาย   ก็ไม่สนใจกับอาการปวดนั้น  แต่กลับมุ่งมั่นในการอ่านหนังสือธรรมะ  และหมั่นไปทำบุญที่วัดอยู่ตลอดเวลาถ้าหากว่างจากการทำงานประจำแล้ว  ก็จะพาครอบครัวไปทำบุญที่วัด  และได้รับคำบอกกล่าว จากพระอาจารย์ช้าง (พระเชื่อมชัย  สิริวิชโย) แห่งวัดป่าศรีวิชัย  อำเภอเมือง  จังหวัดหนองบัวลำภู  ว่าให้หมั่นฝึกจิต  ระลึกถึงพุทโธ อยู่ตลอดเวลาแม้  เดิน   นั่ง  หรือนอน  โดยไม่ให้ขาด  และนั่งสมาธิทุกคืนก่อนนอน  ให้ได้ทุกคืน วันละ 5 - 10 นาที ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ดิฉันก็เริ่มฝึกทำอย่างจริงจัง  เพราะปกติก็เป็นชอบทำบุญเชื่อในเรื่องของบาปบุญคุณโทษ  และไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่มาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว กอปรกับตั้งแต่เด็ก ๆ คุณแม่จะพาไปทำบุญที่วัด  กับท่านพระอาจารย์หลวงตามหาบัว  ญาณสัมปันโน  แห่งวัดป่าบ้านตาด  อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี อยู่เป็นประจำมิได้ขาด ตั้งแต่สมัยที่ศาลาฉันภัตตาหาร  ยังเป็นศาลาไม้ชั้นเดียว  ไม่มีชั้นล่างเหมือนปัจจุบันนี้  และคนยังไม่รู้จักมากนักเหมือนสมัยนี้โดยในวันพระจะมีคนไปมากเป็นพิเศษประมาณ 20 คนได้ เริ่มไปทำบุญกับคุณแม่ประมาณปี พ.ศ. 2521 เป็นต้นมา แล้วต่อๆ มาพอเริ่มเติบโตขึ้นก็ไปบ้าง นานๆ ครั้ง เพราะต้องไปเรียนหนังสือที่ในเมืองห่างจากบ้านประมาณ 15  กิโลเมตร  ไม่ได้อยู่ที่บ้านเกิดซึ่งอยู่ห่างจากวัดประมาณ 2 กิโลเมตร  แต่ก็ยังพอมีบุญเก่าอยู่กับเขาบ้าง  จึงได้ฝึกนั่งสมาธิ และฝึกระลึกถึงธาตุขันธ์ทั้ง 5 อยู่ตลอดเวลา ให้จิตเป็นนายให้กายเป็นบ่าว   ไม่คิดฟุ้งซ่าน  อะไรที่ไม่สำคัญก็ทิ้งไว้ข้างหลังไม่เก็บมาคิดให้รกสมอง  ปล่อยวาง... ประมาณ 1 เดือน ผ่านไป อาการปวดหัว ...หายไปอย่างปาฏิหาริย์  และก็ไม่ได้กลับมาเป็นอีกเลย  จนปัจจุบันนี้เป็นเวลา  12 ปีแล้ว ทำให้ดิฉันไม่ต้องมาทรมานกับโรคปวดศรีษะอีกเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท