อย่าประมาทคิดว่าเรื่องที่พูดโดยใช้ปากนี้เป็นของหมูๆ  นะ อย่าคิดว่าพูดอย่างไรก็ได้เพราะเป็นปากของเรา  ลิ้นของเรา การใช้ปากที่ไม่ถูกต้องและไม่ระวังจะเกิดผลเสียไดมาก  แม้แต่หมูอยู่ในปากแล้วก็ยังไม่ง่ายที่จะกินได้สบายๆ  อย่างที่คิดหรอก  เผลอ ๆ จะติดคอเป็นอันตรายถึงตายได้ครับ

ฉะนั้นจงมีสติในการใช้ปากพูด  และพูดแต่สิ่งที่ดี ๆ  เสมอนะครับ

คุณรู้ไหมว่าคนจะแก่เร็วหรือแก่ช้าก็ขึ้นอยู่กับทัศนคตินี่เอง

ถ้าใครมีทัศนคติที่ไม่ดี   (-)  ต่อคนอื่น  มองโลกในแง่ร้าย  จะแก่เร็วกว่าคนที่มีทัศนคติที่ดี  มองโลกในแง่ดี เป็นบวก   (+)   ต่อคนอื่น  ฉะนั้นเวลาพูดกับผู้คนต้องพูดคุยอย่างดีและอย่าอวดฉลาด   แต่ถ้าจะกินก็ต้องกินอย่างฉลาด  ไม่ต้องกินดี 
เดี๋ยวจะเลือกกินมากไปทำให้เป็นโรคอ้วนได้ การกินอย่างฉลาดคือเลือกกินให้เป็นนั่นเอง

การจะคบหาพูดจากับบุคคลทั่วไปในเชิงสร้างสรรค์และพูดแต่สิ่งดีๆ  ด้วยคำพูดที่เป็น (+)  เสมอ  จงพูดแบบจับถูก ยกย่อง  ชมเชย  ไม่ใช่พูดแบบจับผิดและตำหนิติเตือนด้วยความเคยชิน  ต้องมีทัศนคติที่ดีและแสดงพฤติกรรมที่ดี ๆ  ต่อคนอื่นเสมอ

พูดเป็น  พูดเพราะ พูดแบบสร้างสรรค์ ต้องพูดแบบปิยะวาจาไม่พูดหยาบคาย  ไม่พูดลามก ไม่พูดปดถ้าจะสอนใครหรือแนะนำใครก็จงชมส่วนดีของเขาก่อนแล้วจึงแนะนำ  เขาจะพอใจและไม่โกรธ เหมือนเวลาจะโกนหนวดก็ต้องทาครีมโกนหนวดให้เลื่อนเสียก่อนแล้วจึงโกน  จะทำให้มีดโกนไม่บาดผิวหนัง  เมื่อใครทำสิ่งใดได้สำเร็จบ้างแม้เพียงนิดเดียว  ก็ให้ชมเชยเขา ให้กำลังใจไปเรื่อย ๆ เขาจะมีกำลังใจและชอบคุณ

ลองเปลี่ยนไปมองที่มุมปากหรือจมูกเขาบ้าง  หรือมองสิ่งอื่น ๆ  บ้างในระหว่างสนทนา  ควรยิ้มตอบทุกครั้งที่เขายิ้มมา  การยิ้มนั้นควรเป็นไปอย่างธรรมชาติ  จริงใจ ไม่เสแสร้ง    อย่ายิ้มแบบนางงาม หรือยิ้มแบบดอกไม้พลาสติก หรือยิ้มแหย  ยิ้มเย้ย  ยิ้มหยัน ยิ้มแสยะเลย

เอาล่ะ เมื่อคุณ ๆ ได้ทำความเข้าใจกับวิธีการยิ้มที่ถูกต้องกันแล้ว ทีนี้ก็เริ่มหันมายิ้มแย้มแบบคนมีเสน่ห์ดีกว่านะครับ  จะไดมีคนรักหรือชอบคุณมากขึ้นเพราะอะไร  ก็เพราะคุณยิ้มเป็นนี่เอง

     เวลาเครียด  สมองส่วน ลิมบิค  ซิสเท็ม  และเซเรเบลลั่ม จะถูกกดทำให้คิดอะไรเป็ฯเหตุเป็นผลไม่ค่อยออก  แต่ถ้ายิ้มแล้วสมองสองส่วนนี้จะคลายตัวทำให้คิดอะไรได้ดีและสร้างสรรค์     คนที่จะยิ้มได้ดีก็ต้องมีสุขภาพกายดีและแข็งแรง  นอนหลับเพียงพอ  กินอาหารถูกส่วน  หายใจถูกต้อง มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองพอเพียง     ลอง ๆ หัดยิ้มกับกระจกโดยใส่อารมณ์และความรู้สึกดี ๆ  ดังกล่าวเข้าไป  ลองเลียนแบบคนยิ้มสวย ๆ แล้วลงมือยิ้มกับผู้คนรอบข้าง เริ่มจากคนข้าง ๆ ตัวไปก่อน จะมีคนสนใจคุณมากขึ้นทันตาเห็นทันที จงยิ้มให้ถูกกาลเทศะ ไม่ใช่ยิ้มไปเรื่อย ๆ เหมือนคนปัญญาอ่อน ควรยิ้มเมื่อจะพูดกับผู้คนหรือต้อนรับคนอื่น  ยิ้มแล้วก็ควรสบตาเขาด้วย 

จงยิ้มทั้งตัว  อย่ายิ้มเฉพาะปาก  จงยิ้มด้วยใจ ด้วยแววตา ด้วยการแสดงสีหน้าและท่าทาง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นแบบ  OpenPersonality  คือ  บุคลิกภาพแบบเปิดสัมพันธภาพกับผู้อื่น  เพราะเรามองโลกในแง่ดี  ทำให้ผู้อื่นและผู้ไดรับรอยยิ้มรู้สึกเป็นสุข  อบอุ่น ร่าเริง  เบิกบาน  มีหวัง มีพลัง  และกระชุ่มกระชวย

การยิ้มและหัวเราะนี้ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าได้ผ่อนคลาย  ป้องกันรอยย่นของหน้าได้  คนที่ทำหน้าเครียดหรือบึ้งตึงบ่อย ๆ  จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้ารัดเกร็ง  เกิดเป็นริ้วรอยย่นบริเวณหน้าได้ง่ายการยิ้มทำให้ต่อมไร้ท่อหลั่งฮอร์โมนของความสุขเอ็นโดฟินออกมาทำให้การสูบฉีดโลหิตดีขึ้น เส้นเลือดขยายตัว   ทำให้หน้าตามีเลือดฝาด    สดชื่นตามธรรมชาติได้โดยไม่ต้องใช้ครีมทา    และทำให้เกิดความสุขด้วย

มารู้จักการยิ้มแบบผู้ชนะและมีเสน่ห์กันเถิด กายยิ้มเป็นภาษากายที่สำคัญที่สุด เป็นการเปิดประตูของหัวใจรับความสุขและให้ความสุขแก่ผู้อื่น ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อให้ได้ความสุขและให้มีความสุข  มิตรภาพ และความรักที่ถูกและง่ายที่สุด การยิ้มให้ดีต้องยิ้มด้วยจิตใจที่ชื่นชมคนอื่นและชื่นชมตนเองได้ด้วย  จงคิดว่าเรายิ้มให้กับความดีของคนอื่น  ส่วนที่ไม่ดีนั้นทำเป็นไม่เห็น  ไม่รู้เสีย จงยิ้มอย่างสดชื่น  อารมณ์ดี  มีชีวิตชีวา จงยิ้มทั้งตัว  อย่ายิ้มเฉพาะปาก  จงยิ้มด้วยใจ ด้วยแววตา ด้วยการแสดงสีหน้าและท่าทาง