อย่าหวาดวิตกครับว่าปีนี้เราจะมีหุ่นยนต์ประเภทเดียวกับในหนังอย่าง iRobot หรือ Terminator แต่หุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะถูกนำมาโชว์ในงาน CES 2018 จะเน้นไปในเชิงการเป็นผู้ช่วยให้กับผู้คน หรือเป็นผู้ช่วยในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งสิ่งที่จะพัฒนามากขึ้น คือ Artificial Intelligence หรือ A.I. เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนหุ่นยนต์ให้มีความสามารถในการโต้ตอบกับผู้คนได้มากขึ้น เข้าใจในภาษาพูด สามารถวิเคราะห์และให้คำแนะนำ หรือช่วยตัดสินใจให้กับผู้คนได้มากขึ้น
ไม่มีความเห็น
มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยใช้พื้นที่บริเวณริมถนนหลวงสายปัตตานี-ยะลา ย่านตำบลอาเนาะรู กว้าง 3 ไร่ 55 ตารางวา ตามแนวคิดของรัฐบาลในสมัยนั้นที่ต้องการให้เกิดสันติสุขขึ้นในพื้นที่ห่างไกลที่มักมีความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งจากสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่พัฒนาและความแตกต่างทางศาสนา โดยพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเดินทางมาวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่6 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 และใช้เวลาก่อสร้างนาน 9 ปี เมื่อแล้วเสร็จจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2506 ให้ชื่อว่า “มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี”[1] และมอบเป็นของขวัญแก่ประชาชนชาวมุสลิมในพื้นที่
หลังจากนั้นมีการบูรณะซ่อมแซมและต่อเติมเมื่อคราวใช้ต้อนรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2536 ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งกับนายสัมพันธ์ ทองสมัคร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้บูรณะปรับปรุงอาคารของมัสยิด กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองศิริราชสมบัติเป็นปีที่ 50 ใน พ.ศ. 2539[2] ส่งผลให้ตัวอาคารขยายและต่อเติมออกทั้ง 2 ข้าง และยังสร้างหออะซานเพิ่มอีก 2 หอ ในเวลาต่อมา