อนุทินล่าสุด


หมอน้อย
เขียนเมื่อ

  ตี 5 ครึ่งเสียงนกดุเหว่าและนกอะไรไม่ทราบ(เสียงร้องจะดังมาก)อาศัยอยู่บนต้นไม้กฤษณาและต้นหูกวางข้างบ้าน ปลุกให้ตื่นทุกๆเช้า แม่บ้านซึ่งนอนข้างล่างตื่นก่อนแล้ว ซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้าน ส่วนผู้เขียนทุกเช้ากิจวัตรประจำวันก็ดูข่าว ต้มน้ำชงกาแฟ และวันนี้ต้องเข้าฐานฯไปปฏิบัติหน้าที่ที่พระตำหนักทักษิณ ต้องเตรียมเสื้อผ้าสิ่งของจำเป็นเข้าไปข้างใน ซึ่งในฐานฯตอนนี้มีงานชุมลูกเสือของกลุ่มอำเภอตากใบ ที่มีอาจารย์ประดับ ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน เป็นหัวหน้าวิทยากร ส่วนในกองร้อยตอนนี้ทหารได้ขอจองพื้นที่เพื่ออบรมเยาวชน ตามโครงการเยาวชนสัมพันธ์ห่างไกลยาเสพติด ซึ่งจะมีไปถึงวันที่ 24 ก.ค. 2551

    ในส่วนของผู้เขียนก็คงอีกสิบกว่าวัน จึงจะได้กลับมาเขียนอนุทินอีก ท่านสมาชิกผู้ใดมีข้อแนะนำดีๆ กรุณาช่วยบอกกล่าวชี้แนะผู้เขียนด้วยว่าในระหว่างที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่จะทำอย่างไรดี การเขียนบันทึกไม่ขาดตอน ในการเขียนบล็อกเป็นหัวข้อ เป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งยาวมากประมาณ 2-3 หน้ากระดาษ พอคลิกบันทึกเก็บมัน eror ทุกครั้ง(3 ครั้งแล้ว) หรือเป็นเพราะผู้เขียนยังมือใหม่กระมังครับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

หมอน้อย
เขียนเมื่อ

 6 โมงเย็นหลังเคารพธงชาติ ดูรายการแดนสนธยา ทางช่อง 9 Mcot ตอน"แดนมหัศจรรย์ แดนมังกร" รู้สึกทึ่งมาก ดื่มดำกับธรรมชาติและสัตว์ป่า สีสันของดอกไม้นานาชนิด ภริยาผู้เขียนเล่าว่าเมื่อตอนเด็กๆ ที่บ้านเกิดได้ อ.บันนังสตา ขี่หลังพ่อเดินไปในป่า ซึ่งเมื่อสมัยเมื่อ 40-50 ปีที่แล้วป่าไม้ยังอุดมสมบูรณ์ ได้พบดอกไม้หลายหลากพันธุ์ ร่วงหล่นตามทางเดินเกลื่อนกราดดูสวยงามน่าอภิรมย์ นั่นคือความประทับใจของภริยาผู้เขียนในสมัยวัยเด็ก ทัศนคติในเรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมของผู้เขียนและภริยาจะเหมือนกัน จึงทำให้ผู้เขียนโชคดีที่ได้เป็น ตชด.ซึ่งต้องอยู่กับป่าไม้ สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ ถึงแม้ในปัจจุบันนี้ธรรมชาติจะเริ่มร่อยหรอลงทกที ในระยะเวลา 1 ปีที่ผู้เขียนอยู่เขาตันหยง พระตำหนักทักษิณฯ อยู่กับธรรมชาติป่าไม้ที่ยังสมบูรณ์ สัตว์ป่า ฝูงลิง ฝูงค่าง กระรอกใหญ่หายาก(ตัวสีดำ ท้องสีเหลือง นกนานาชนิด และกวาง แถมอยู่ใกล้ทะเล มีกุ้ง หอย ปูปลา มันเป็นความสุขที่แสนประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

หมอน้อย
เขียนเมื่อ

   2-3 วันมานี้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ หลายพื้นที่ ทางกรุงเทพฯก็มีเรื่องยุ่งๆของกลุ่มพันธมิตร กับรัฐบาล มีการแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน ในฐานะผู้เขียนเป็นข้าราชการแน่นอนที่สุดต้องให้เครดิตฝ่ายรัฐบาลไว้ก่อน เหมือนอดีตพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ เคยกล่าวไว้ต้องให้โอกาสรัฐบาลได้บริหารงานให้ครบวาระเสียก่อน ท่านจะให้กำลังใจทุกรัฐบาลที่ขึ้นมาบริหารประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าแก่คู่คนใต้อย่างพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคที่ได้เสียงมากแถบภาคกลางอย่างพรรคชาติไทย หรือพรรคเฉพาะกิจอื่นๆ การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ เพราะฉะนั้นพวกเราประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องสนใจติดตาม จะเบื่อไม่ได้เด็ดขาด

     สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็รุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีการสูญเสียนายตำรวจอนาคตไกล คือ ร.ต.ต.กฤติกุล บุญลือ หรือชื่อเล่น "หมวดตี้"นายตำรวจพลร่มจากค่ายนเรศวรหัวหิน ออกลาดตระเวนถนนสายสันติ-เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา โดนผู้ก่อความไม่สงบดักซุ่มโจมตี จนมีการปะทะซึ่งแน่นอนฝ่ายเจ้าหน้าที่อยู่ในจุดที่เสียเปรียบอยู่แล้ว จึงทำให้มีการสูญเสียและบาดเจ็บดังกล่าว ในขณะที่หมวดตี้เสียชีวิตอายุครบ 24 ปีพอดีเพราะเกิดวันที่ 20 มิถุนายน 2527 ขอแสดงคาวมเสียใจอย่างสุดซึ้งมา ณ.ที่นี่ด้วย  ส่วนอีกเหตุการณ์ในวันเดียวกันแต่เป็นช่วงเย็น เฮลิคอปเตอร์ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าที่นำนายทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ เข้าไปช่วยเหลือและพิสูจน์ทราบเจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่มที่โดนซุ่ม ซึ่งตอนนั้นสภาพอากาศคงมีเมฆ ทำให้ ฮ.เสียการทรงตัวจึงเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งลำเสียชีวิตรวม 10 คน ซึ่งก่อนหน้านั้น 1 วันคือวันที่ 19 ก็เหตุระเบิดคอสะพานที่ อ.ทุ่งยางแดง ปัตตานี เป็นเหตุให้ ท่านรอง ผกก.ทุ่งยางแดง และพลขับเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนรถพังยับเยิน

   ส่วนในจังหวัดนราธิวาสก็มีการวางระเบิด ทหารร้อย ร.3121 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ใน อ.รือเสาะ เขตพื้นที่ ต.โคกสะตอ หมู่ 7 เจ้าที่ทหารบาดเจ็บเล็กน้อย

     ในห้วง 21-22 มิถุนา ได้รับข่าวจากภาคประชาชนว่าผู้ก่อความไม่สงบจะดำเนินการปฏิบัติการครั้งใหญ่ในเขตพื้น จ.นราธิวาส เพราะฉะนั้นผู้เขียนจึงอยู่เตรียมพร้อมเฝ้าวิทยุสื่อสาร ตลอดทั้งคืน ตั้งแต่คืนวันที่ 20 มาแล้ว เพราะหัวหน้าทหารเสียสั่งให้ทุกชุดเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก ทหารจะเช็ค ว.(วิทยุ)ทุก 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น"จงสุขเถิดปวงประชา ทหาร(และ ตชด.)กล้าจะคุ้มภัย"  

    



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

หมอน้อย
เขียนเมื่อ

วันนี้อุตส่าห์เขียนบล็อกในหัวข้อ"มนุษย์เกิดมาเพราะความไม่รู้" จำนวน 2 หน้ากระดาษ แต่พอคลิกบันทึกเก็บ มันไม่เข้าเกิด errer จนข้อความหายไปหมด น่าเสียดาย

   เช้าวันนี้ผู้เขียนพาแม่บ้านไปโรงพยาบาลแผนกจิตเวช เพราะยากินที่หมอสั่งเมื่อศุกร์ 16 พค.หมดแล้ว พยาบาลเคยนัดไว้ว่าหมอดำรงค์ หมอจากโรงพยาบาลยะลา จะมาวันนี้  8 โมงมาถึงคลินิกจิตเวช คนไข้ที่หมอนัดไว้ก็มา 3-4คนแล้ว พยาบาลบอกว่าวันนี้หมอดำรงค์ไม่มา(อีกแล้ว) จะมาในวันที่ 20 มิ.ย สักพักพยาบาลผู้ซักประวัติเข้าถามไถ่แม่บ้านผู้เขียนๆผู้เขียนก็บอกว่านอนไม่หลับมา 2-3 วันแล้ว เพราะยาหมด พยาบาลเลยพาเข้าห้องเก้าอี้นวดบำบัด นวดประมาณ 15 นาที ก็ออกมาคอยหมอ วันนี้หมอเวร เป็นหมอฝึกหัดชื่อ น.พ.ธวัชชัย หมอก็เขียนใบสั่งยาตามที่หมอวิชัย เคยให้ไว้เมื่อ ศุกร์ที่ 16 พ.ค. , เวลา 11 โมง 35 ไปแวะร้านหนังสือรวมมิตร หลังจากออกจากร้านหนังสือแม่บ้านผู้ทำท่าอาการไม่ดี เหนื่อยหอบ ครั้งแรกเป็นลมหน้าร้านขายเสือผ้า อยู่สักพักผู้เขียนประคองข้ามถนนเพื่อจะขึ้นรถสองแถวกลับไปกองร้อย แม่บ้านก็เป็นลมอยู่หน้าร้านขายยาพรชัยเภสัชอีกครั้ง เจ้าของร้านซึ่งคงสังเกตเห็นเมื่อตอนเป็นลมครั้งแรกแล้วกูลีกูจอเอาเก้าอี้พลาสติกมาให้แม่บ้านผู้เขียนนั่ง แถมให้ยาดม และน้ำชาเห็ดหลินจือให้ดื่ม (ต้องขอขอบคุณมา ณ.ที่นี่ด้วยครับ สำหรับน้ำใจ) พอประเดี๋ยวนึงก็มีคนขายนมเปรี้ยว(รู้จักกับแม่บ้านมาก่อน) เห็นชื่อปักที่หน้าอก ชื่อ อารีย์ นีรานนท์ มาบีบมานวด มาพัดมาวีให้ จนอาการค่อยดีขึ้น แม่บ้านเห็นท่าไม่ดีถ้าเดินทางไปกับรถสองแถวเพราะมีคนเต็มรถ เดี๋ยวก็เกิดเป็นลมในรถเขาอีกเป็นแน่ เลยโทรไปให้ลูกสาวมารับ เอ้อ! ปีนี้เป็นปีอะไรหนอ แม่บ้านผู้เขียนถึงเข้าออกโรงพยาบาล 4 เดือนเข้านี่แล้ว



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

หมอน้อย
เขียนเมื่อ

ขอแก้ไขอนุทินของ 01 มิ.ย. 51 จากน้ำหนักแรกเกิด 4,500 กรัม เป็น 2,380 กรัม (ผิดพลาดข้อมูล)

    เมื่อวาน (10 มิ.ย 51) ลงจากเขา(ตันหยง) 11 โมง 40 โดยพี่โญ มีน้ำใจมาส่ง ผู้เขียนเกรงใจแทบแย่ ธรรมดาแล้วผู้เขียนเป็นคนชอบเดินมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาไปในเมืองชอบเดินดูสิ่งของวางขายตามร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะร้านหนังสือ,แผงหนังสือต้องอยู่ดูนานเป็นพิเศษ ทำให้นึกถึงเพลงเพื่อชีวิตของพี่หงา ที่มีเนื้อเพลงว่า "ฉันชอบดูหนังสือตามแผงของแพงฉันไม่สน ฉันเลือกคบคนบางคนฉันเกลียดสังคมชนชั้น" นิสัยรักการอ่านของผู้เขียนนี้ติดมาจากคุณพ่อของผู้เขียนเอง สมัยตอนเด็กๆอายุ 5 -11 ขวบ พ่อแม่จะไม่ให้ไปไหนไกลๆเด็ดขาดนอกจากไปกับแม่ เพราะผู้เขียนเป็นลูกคนเล็กสุดท้องนั่นเอง พ่อแม่จึงไม่ปล่อยไปไหนง่ายๆ (ผู้เขียนมานั่งคิดดูการกักลูกให้อยู่แต่ในบ้าน มันมีแต่ผลเสียตามมาเยอะเลย) อาทิตย์หนึ่งก็จะติดตามแม่ไปร้านค้าประจำหมู่บ้าน ถ้าถึงหน้าเทศกาลเกี่ยว(เก็บ)ข้าวเสร็จซึ่งเป็นเดือน 4 (ระโนดตอนนั้นสภาพสิ่งแวดล้อมยังดีอยู่) พอถึงเดือน 5 จึงจะมีหนังกลางแปลงมาฉายให้ชาวบ้านพร้อมลูกเด็กเล็กแดงที่เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วได้ดูผ่อนคลายความเมื่อยล้าตลอดทั้งวัน  นอกจากนั้นผู้เขียนก็จะขลุกอยู่แต่ในบ้าน เพื่อนเล่นก็ไม่มี แต่ในบ้านจะมีอยู่อย่างนั่นคือหนังสือ ซึ่งเป็นหนังสือสะสมของพี่ชายคนโตซึ่งขณะนั้นขึ้นไปเรียนที่เมืองบางกอก เรื่องแรกที่อ่านเป็นเรื่องสั้นชื่อ "หมาผู้ซื่อสัตย์" จำคนแต่งไม่ได้แล้ว ตอนนั้นผู้เขียนอยู่ ป.3 ด้วยเหตุนี้จนทำให้ผู้เขียนเป็นผู้รักการอ่านจนมีหนังสือเต็มบ้านในปัจจุบันนี้

     ถึงกองร้อยเที่ยง 20 เห็นคู่ทุกข์คู่ยาก นอนซมเพราะป่วยเป็นไข้ แต่ก็ไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ หน้าที่สามีก็ต้องปรนนิบัติอย่างเต็มที่



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

หมอน้อย
เขียนเมื่อ

    เช้าขึ้นมาดูข่าวเกี่ยวกับเหตุบ้านการเมืองทางช่อง 3 ช่อง 9 และช่อง NBT ปรากฎว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ยังชุมนุมเคลื่อนไหวต่อ รู้สึกสะท้อนใจมากๆ แต่เอาเถอะในฐานะที่ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขก็ต้องให้กลุ่มการเมืองที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันประท้วงเพื่อผลประโยชน์ส่วนใหญ่

    สะพานมัฆวานรังสรรค์ สะพานประวัติศาสตร์การเมือง ซึ่งผู้เขียนเคยเดินเล่นในสมัยเด็กๆ มีน้ำพุรูปน้ำพุ 3 ชั้น 2 ข้างสะพาน ริมคลองผดุงกรุงเกษม ผู้เขียนเคยเป็นเด็กวัดมกุฏกษัตริยาราม สมัยฝั่งตรงข้ามยังเป็นอาคารศาลาสันติธรรม ข้างๆวัดมกุฏฯหรือหลังศาลาสันติธรรมยังเป็นสลัมอยู่เลย ตอนนั้นสมเด็จพระสังฆราชพระอริยะวงศาคตญาณ องค์ที่ 16 เป็นเจ้าอาวาส หน้าวัดสมัยนั้นเด็กวัดยังลงเล่นน้ำในฤดูน้ำหลาก

      พอตอนเย็นหลานคนโปรดซึ่งไปเที่ยวตะลอนๆบ้านเพื่อนบอกว่าไปทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์กลับมาพร้อมแม่เขาเปียกฝนมา และก็เริ่มโดนสัมมนาจากทั้งแม่และยาย ส่วนยายก็โกรธสุดขีด จนเป็นลมต้องขอยาอมใต้ลิ้นมาอมบรรเทาอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เอ้อ!มีหลานรักคนทั้งดื้อและชอบเที่ยว มันน่าหนักใจจริงๆ 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

หมอน้อย
เขียนเมื่อ

เมื่อวานตื่นแต่ตี 5, ตี5ครึ่ง รีบอาบน้ำเพราะพี่ถมนัดเอาไว้ว่าจะออกไปบ้านราว 7 โมงเช้า ผู้เขียนแต่งตัวเสร็จ 7.45 น.ก็เดินลงมาทางบ้านพักชายทะเล ซึ่งสวนทางกับพี่ถมที่เดินขึ้นไปทางหน้ากองรักษาการณ์(ย่อย) 7 โมงกว่าๆ พี่ถมขับรถไปส่งสถานีขนส่ง ผู้เขียนไปรถตู้หมายเลข 0595, 8 โมงออกเดินทางด้วยผู้โดยสารแค่ 4 คน ราคาค่าโดยสาร 70 บาท ถึงโก-ลก 9 โมงกว่า ฝนตกพรำๆ ภรรยาผู้เขียนตรวจอยู่คลินิกหูคอจมูก กว่าจะเสร็จก็ 11 โมงพอดีโทรศัพท์ลูกสาวโทรมาว่าจะมารับราวๆบ่ายโมง ภรรยาก็เลยถือโอกาสตรวจโรคเกี่ยวกับอายุรเวช ตามที่หมอโรคหูแนะนำมา ตกลงวันนี้คุ้มสุดๆ หมอให้ยามาเป็นกระตั้กๆ 12.40 ลูกสาวมารับเลยไปกินข้าวที่ร้านจีนข้างๆโรงพักโก-ลก แวะซื้อของ และไอ้ณะ(ลูกเขย)ไปเติมน้ำมันมาเลย์ที่ร้านลักลอบขายน้ำมันเถื่อนที่ร้านอู่ซ่อมรถและที่ร้านดงงูเห่า รวมทั้งสิ้น 60 ลิตร ราคาเกือบ 2,000 บาท ซึ่งประหยัดไป 700 กว่าบาท กลับถึงกองร้อย 5 โมงกว่า



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

หมอน้อย
เขียนเมื่อ

เมื่อคืนนอนดึกหน่อย เพราะต้องสวดมนต์ยาวกว่าทุกคืน มีบทสวดพระธัมมจักรกัปปะวัตนะสูตรเข้ามาด้วยเนื่องในวันพระใหญ่(วิสาขบูชา) สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งตี 4 กว่าๆ เพราะคนนอนข้างๆละเมอว่ามีคนสองคนจะมาเอาตัวไป(วิญญาณ) เข้าใจว่าน่าจะเป็นพวกยมทูต อะไรประมาณนั้น ภรรยาผู้เขียนบอกยังไม่ไปเป็นห่วงลูกหลานอยู่ พอดีมีคนนอน(ตาย)อยู่สองคน ชื่อเหมือนกัน ภรรยาผู้เขียนบอกว่าไม่ใช่ฉันแต่เป็นคนโน้น ในขณะที่ผู้ชายสองคนช่วยกันหามภรรยาผู้เขียน ในเมื่อภรรยาผู้เขียนร้องบอกแบบนั้น ชายสองคนก็โยนภรรยาผู้เขียนโครม แล้วก็สะดุ้งตื่น ภรรยาผู้เขียนฝันในทำนองนี้ในรอบหลายปีสองครั้งแล้ว ถ้าฝันครั้งที่สามก็คงต้องทำใจ ระยะนี้ผู้เขียนแสนจะทุกข์ใจแต่บอกใครไม่ได้ เพราะเป็นห่วงกังวล ไม่มีใครช่วยดูแล ลูกหลานก็อยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งต้องทำงานและเรียน ภรรยาผู้เขียนเป็นโรคประจำตัวหลายโรครุมกัน ต้องกินยาทีเป็นกำ ตอนหลังมีโรคซึมเศร้าเข้ามาด้วย ต้องมีคนเข้าใจดูแลอย่างใกล้ชิดซึ่งลูก(คนดียว)ก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรลึกซึ้งมากนัก พูดจาไม่ให้กำลังใจแล้ว ยังใช้คำพูดที่บั่นทอนจิตใจแม่เขาอีก เห็นคนป่วยแล้วน่าสงสารมาก วันนี้ผู้เขียนต้องเข้าไปทำงานที่ตำหนักเขาตันหยง กว่าจะกลับก็อีก 10 วัน ก็คงกังวลอยู่เหมือนกัน แต่จะไม่ให้เสียงานเด็ดขาด



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

หมอน้อย
เขียนเมื่อ

วันนี้(จันทร์ที่ 19 พ.ค. 2551)เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันวิสาขบูชา ซึ่งทางองค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันสำคัญของโลก เพราะฉะนั้นเราคนไทยในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน จงปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติของชาวพุทธในวันวิสาขบูชา ซึ่งมี 7 ข้อด้วยกัน และก็ในวันสำคัญนี้ ผู้เขียนขอถือโอกาสเข้าเป็นสมาชิกใหม่ บล็อก GotoKnow ด้วยคนเพื่อต่อความยาว สาวความรู้กับบรรดาเพื่อนสมาชิกทุกสาขาอาชีพ ตอนนี้ผู้เขียนรับราชการเป็นตำรวจ(ตระเวนชายแดน)ประจำอยู่กองร้อย ตชด.447 อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ทำงานอยู่ในพื้นที่ทั้งใน จว.ยะลา,ปัตตานี และนราธิวาส ตลอดระยะเวลา 27 ปี สำหรับพื้นเพดั้งเดิมเป็นคน อ.ระโนด จ.สงขลา ดินแดนสร้างปัญญาชนไปได้ดิบได้ดี ณ.ที่ต่างๆมาเยอะแยะนั่นแหละ ตอนนี้ผู้เขียนทำหน้าที่ รปภ.ณ.กอ.๙๙ ปภ.ตชด.พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์(เขาตันหยง)ต.กลูวอเหนือ อ.เมือง นราธิวาส ทำงาน ลว.ร่วมกับทหารรักษาพระองค์(ทหารเสือ) ก็ภูมิใจนะ ไม่ท้อไม่ถอยครับผม(ชูสองนิ้ว)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท