ตี 5 ครึ่งเสียงนกดุเหว่าและนกอะไรไม่ทราบ(เสียงร้องจะดังมาก)อาศัยอยู่บนต้นไม้กฤษณาและต้นหูกวางข้างบ้าน ปลุกให้ตื่นทุกๆเช้า แม่บ้านซึ่งนอนข้างล่างตื่นก่อนแล้ว ซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้าน ส่วนผู้เขียนทุกเช้ากิจวัตรประจำวันก็ดูข่าว ต้มน้ำชงกาแฟ และวันนี้ต้องเข้าฐานฯไปปฏิบัติหน้าที่ที่พระตำหนักทักษิณ ต้องเตรียมเสื้อผ้าสิ่งของจำเป็นเข้าไปข้างใน ซึ่งในฐานฯตอนนี้มีงานชุมลูกเสือของกลุ่มอำเภอตากใบ ที่มีอาจารย์ประดับ ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน เป็นหัวหน้าวิทยากร ส่วนในกองร้อยตอนนี้ทหารได้ขอจองพื้นที่เพื่ออบรมเยาวชน ตามโครงการเยาวชนสัมพันธ์ห่างไกลยาเสพติด ซึ่งจะมีไปถึงวันที่ 24 ก.ค. 2551
ในส่วนของผู้เขียนก็คงอีกสิบกว่าวัน จึงจะได้กลับมาเขียนอนุทินอีก ท่านสมาชิกผู้ใดมีข้อแนะนำดีๆ กรุณาช่วยบอกกล่าวชี้แนะผู้เขียนด้วยว่าในระหว่างที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่จะทำอย่างไรดี การเขียนบันทึกไม่ขาดตอน ในการเขียนบล็อกเป็นหัวข้อ เป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งยาวมากประมาณ 2-3 หน้ากระดาษ พอคลิกบันทึกเก็บมัน eror ทุกครั้ง(3 ครั้งแล้ว) หรือเป็นเพราะผู้เขียนยังมือใหม่กระมังครับ
ไม่มีความเห็น
6 โมงเย็นหลังเคารพธงชาติ ดูรายการแดนสนธยา ทางช่อง 9 Mcot ตอน"แดนมหัศจรรย์ แดนมังกร" รู้สึกทึ่งมาก ดื่มดำกับธรรมชาติและสัตว์ป่า สีสันของดอกไม้นานาชนิด ภริยาผู้เขียนเล่าว่าเมื่อตอนเด็กๆ ที่บ้านเกิดได้ อ.บันนังสตา ขี่หลังพ่อเดินไปในป่า ซึ่งเมื่อสมัยเมื่อ 40-50 ปีที่แล้วป่าไม้ยังอุดมสมบูรณ์ ได้พบดอกไม้หลายหลากพันธุ์ ร่วงหล่นตามทางเดินเกลื่อนกราดดูสวยงามน่าอภิรมย์ นั่นคือความประทับใจของภริยาผู้เขียนในสมัยวัยเด็ก ทัศนคติในเรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมของผู้เขียนและภริยาจะเหมือนกัน จึงทำให้ผู้เขียนโชคดีที่ได้เป็น ตชด.ซึ่งต้องอยู่กับป่าไม้ สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อมที่บริสุทธิ์ ถึงแม้ในปัจจุบันนี้ธรรมชาติจะเริ่มร่อยหรอลงทกที ในระยะเวลา 1 ปีที่ผู้เขียนอยู่เขาตันหยง พระตำหนักทักษิณฯ อยู่กับธรรมชาติป่าไม้ที่ยังสมบูรณ์ สัตว์ป่า ฝูงลิง ฝูงค่าง กระรอกใหญ่หายาก(ตัวสีดำ ท้องสีเหลือง นกนานาชนิด และกวาง แถมอยู่ใกล้ทะเล มีกุ้ง หอย ปูปลา มันเป็นความสุขที่แสนประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต
ไม่มีความเห็น
2-3 วันมานี้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ หลายพื้นที่ ทางกรุงเทพฯก็มีเรื่องยุ่งๆของกลุ่มพันธมิตร กับรัฐบาล มีการแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน ในฐานะผู้เขียนเป็นข้าราชการแน่นอนที่สุดต้องให้เครดิตฝ่ายรัฐบาลไว้ก่อน เหมือนอดีตพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ เคยกล่าวไว้ต้องให้โอกาสรัฐบาลได้บริหารงานให้ครบวาระเสียก่อน ท่านจะให้กำลังใจทุกรัฐบาลที่ขึ้นมาบริหารประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าแก่คู่คนใต้อย่างพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคที่ได้เสียงมากแถบภาคกลางอย่างพรรคชาติไทย หรือพรรคเฉพาะกิจอื่นๆ การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ เพราะฉะนั้นพวกเราประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องสนใจติดตาม จะเบื่อไม่ได้เด็ดขาด
สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็รุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีการสูญเสียนายตำรวจอนาคตไกล คือ ร.ต.ต.กฤติกุล บุญลือ หรือชื่อเล่น "หมวดตี้"นายตำรวจพลร่มจากค่ายนเรศวรหัวหิน ออกลาดตระเวนถนนสายสันติ-เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา โดนผู้ก่อความไม่สงบดักซุ่มโจมตี จนมีการปะทะซึ่งแน่นอนฝ่ายเจ้าหน้าที่อยู่ในจุดที่เสียเปรียบอยู่แล้ว จึงทำให้มีการสูญเสียและบาดเจ็บดังกล่าว ในขณะที่หมวดตี้เสียชีวิตอายุครบ 24 ปีพอดีเพราะเกิดวันที่ 20 มิถุนายน 2527 ขอแสดงคาวมเสียใจอย่างสุดซึ้งมา ณ.ที่นี่ด้วย ส่วนอีกเหตุการณ์ในวันเดียวกันแต่เป็นช่วงเย็น เฮลิคอปเตอร์ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าที่นำนายทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ เข้าไปช่วยเหลือและพิสูจน์ทราบเจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่มที่โดนซุ่ม ซึ่งตอนนั้นสภาพอากาศคงมีเมฆ ทำให้ ฮ.เสียการทรงตัวจึงเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งลำเสียชีวิตรวม 10 คน ซึ่งก่อนหน้านั้น 1 วันคือวันที่ 19 ก็เหตุระเบิดคอสะพานที่ อ.ทุ่งยางแดง ปัตตานี เป็นเหตุให้ ท่านรอง ผกก.ทุ่งยางแดง และพลขับเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนรถพังยับเยิน
ส่วนในจังหวัดนราธิวาสก็มีการวางระเบิด ทหารร้อย ร.3121 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ใน อ.รือเสาะ เขตพื้นที่ ต.โคกสะตอ หมู่ 7 เจ้าที่ทหารบาดเจ็บเล็กน้อย
ในห้วง 21-22 มิถุนา ได้รับข่าวจากภาคประชาชนว่าผู้ก่อความไม่สงบจะดำเนินการปฏิบัติการครั้งใหญ่ในเขตพื้น จ.นราธิวาส เพราะฉะนั้นผู้เขียนจึงอยู่เตรียมพร้อมเฝ้าวิทยุสื่อสาร ตลอดทั้งคืน ตั้งแต่คืนวันที่ 20 มาแล้ว เพราะหัวหน้าทหารเสียสั่งให้ทุกชุดเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก ทหารจะเช็ค ว.(วิทยุ)ทุก 1 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น"จงสุขเถิดปวงประชา ทหาร(และ ตชด.)กล้าจะคุ้มภัย"
ไม่มีความเห็น
วันนี้อุตส่าห์เขียนบล็อกในหัวข้อ"มนุษย์เกิดมาเพราะความไม่รู้" จำนวน 2 หน้ากระดาษ แต่พอคลิกบันทึกเก็บ มันไม่เข้าเกิด errer จนข้อความหายไปหมด น่าเสียดาย
เช้าวันนี้ผู้เขียนพาแม่บ้านไปโรงพยาบาลแผนกจิตเวช เพราะยากินที่หมอสั่งเมื่อศุกร์ 16 พค.หมดแล้ว พยาบาลเคยนัดไว้ว่าหมอดำรงค์ หมอจากโรงพยาบาลยะลา จะมาวันนี้ 8 โมงมาถึงคลินิกจิตเวช คนไข้ที่หมอนัดไว้ก็มา 3-4คนแล้ว พยาบาลบอกว่าวันนี้หมอดำรงค์ไม่มา(อีกแล้ว) จะมาในวันที่ 20 มิ.ย สักพักพยาบาลผู้ซักประวัติเข้าถามไถ่แม่บ้านผู้เขียนๆผู้เขียนก็บอกว่านอนไม่หลับมา 2-3 วันแล้ว เพราะยาหมด พยาบาลเลยพาเข้าห้องเก้าอี้นวดบำบัด นวดประมาณ 15 นาที ก็ออกมาคอยหมอ วันนี้หมอเวร เป็นหมอฝึกหัดชื่อ น.พ.ธวัชชัย หมอก็เขียนใบสั่งยาตามที่หมอวิชัย เคยให้ไว้เมื่อ ศุกร์ที่ 16 พ.ค. , เวลา 11 โมง 35 ไปแวะร้านหนังสือรวมมิตร หลังจากออกจากร้านหนังสือแม่บ้านผู้ทำท่าอาการไม่ดี เหนื่อยหอบ ครั้งแรกเป็นลมหน้าร้านขายเสือผ้า อยู่สักพักผู้เขียนประคองข้ามถนนเพื่อจะขึ้นรถสองแถวกลับไปกองร้อย แม่บ้านก็เป็นลมอยู่หน้าร้านขายยาพรชัยเภสัชอีกครั้ง เจ้าของร้านซึ่งคงสังเกตเห็นเมื่อตอนเป็นลมครั้งแรกแล้วกูลีกูจอเอาเก้าอี้พลาสติกมาให้แม่บ้านผู้เขียนนั่ง แถมให้ยาดม และน้ำชาเห็ดหลินจือให้ดื่ม (ต้องขอขอบคุณมา ณ.ที่นี่ด้วยครับ สำหรับน้ำใจ) พอประเดี๋ยวนึงก็มีคนขายนมเปรี้ยว(รู้จักกับแม่บ้านมาก่อน) เห็นชื่อปักที่หน้าอก ชื่อ อารีย์ นีรานนท์ มาบีบมานวด มาพัดมาวีให้ จนอาการค่อยดีขึ้น แม่บ้านเห็นท่าไม่ดีถ้าเดินทางไปกับรถสองแถวเพราะมีคนเต็มรถ เดี๋ยวก็เกิดเป็นลมในรถเขาอีกเป็นแน่ เลยโทรไปให้ลูกสาวมารับ เอ้อ! ปีนี้เป็นปีอะไรหนอ แม่บ้านผู้เขียนถึงเข้าออกโรงพยาบาล 4 เดือนเข้านี่แล้ว
ไม่มีความเห็น
ขอแก้ไขอนุทินของ 01 มิ.ย. 51 จากน้ำหนักแรกเกิด 4,500 กรัม เป็น 2,380 กรัม (ผิดพลาดข้อมูล)
เมื่อวาน (10 มิ.ย 51) ลงจากเขา(ตันหยง) 11 โมง 40 โดยพี่โญ มีน้ำใจมาส่ง ผู้เขียนเกรงใจแทบแย่ ธรรมดาแล้วผู้เขียนเป็นคนชอบเดินมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาไปในเมืองชอบเดินดูสิ่งของวางขายตามร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะร้านหนังสือ,แผงหนังสือต้องอยู่ดูนานเป็นพิเศษ ทำให้นึกถึงเพลงเพื่อชีวิตของพี่หงา ที่มีเนื้อเพลงว่า "ฉันชอบดูหนังสือตามแผงของแพงฉันไม่สน ฉันเลือกคบคนบางคนฉันเกลียดสังคมชนชั้น" นิสัยรักการอ่านของผู้เขียนนี้ติดมาจากคุณพ่อของผู้เขียนเอง สมัยตอนเด็กๆอายุ 5 -11 ขวบ พ่อแม่จะไม่ให้ไปไหนไกลๆเด็ดขาดนอกจากไปกับแม่ เพราะผู้เขียนเป็นลูกคนเล็กสุดท้องนั่นเอง พ่อแม่จึงไม่ปล่อยไปไหนง่ายๆ (ผู้เขียนมานั่งคิดดูการกักลูกให้อยู่แต่ในบ้าน มันมีแต่ผลเสียตามมาเยอะเลย) อาทิตย์หนึ่งก็จะติดตามแม่ไปร้านค้าประจำหมู่บ้าน ถ้าถึงหน้าเทศกาลเกี่ยว(เก็บ)ข้าวเสร็จซึ่งเป็นเดือน 4 (ระโนดตอนนั้นสภาพสิ่งแวดล้อมยังดีอยู่) พอถึงเดือน 5 จึงจะมีหนังกลางแปลงมาฉายให้ชาวบ้านพร้อมลูกเด็กเล็กแดงที่เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วได้ดูผ่อนคลายความเมื่อยล้าตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นผู้เขียนก็จะขลุกอยู่แต่ในบ้าน เพื่อนเล่นก็ไม่มี แต่ในบ้านจะมีอยู่อย่างนั่นคือหนังสือ ซึ่งเป็นหนังสือสะสมของพี่ชายคนโตซึ่งขณะนั้นขึ้นไปเรียนที่เมืองบางกอก เรื่องแรกที่อ่านเป็นเรื่องสั้นชื่อ "หมาผู้ซื่อสัตย์" จำคนแต่งไม่ได้แล้ว ตอนนั้นผู้เขียนอยู่ ป.3 ด้วยเหตุนี้จนทำให้ผู้เขียนเป็นผู้รักการอ่านจนมีหนังสือเต็มบ้านในปัจจุบันนี้
ถึงกองร้อยเที่ยง 20 เห็นคู่ทุกข์คู่ยาก นอนซมเพราะป่วยเป็นไข้ แต่ก็ไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ หน้าที่สามีก็ต้องปรนนิบัติอย่างเต็มที่
ไม่มีความเห็น
เช้าขึ้นมาดูข่าวเกี่ยวกับเหตุบ้านการเมืองทางช่อง 3 ช่อง 9 และช่อง NBT ปรากฎว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ยังชุมนุมเคลื่อนไหวต่อ รู้สึกสะท้อนใจมากๆ แต่เอาเถอะในฐานะที่ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขก็ต้องให้กลุ่มการเมืองที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันประท้วงเพื่อผลประโยชน์ส่วนใหญ่
สะพานมัฆวานรังสรรค์ สะพานประวัติศาสตร์การเมือง ซึ่งผู้เขียนเคยเดินเล่นในสมัยเด็กๆ มีน้ำพุรูปน้ำพุ 3 ชั้น 2 ข้างสะพาน ริมคลองผดุงกรุงเกษม ผู้เขียนเคยเป็นเด็กวัดมกุฏกษัตริยาราม สมัยฝั่งตรงข้ามยังเป็นอาคารศาลาสันติธรรม ข้างๆวัดมกุฏฯหรือหลังศาลาสันติธรรมยังเป็นสลัมอยู่เลย ตอนนั้นสมเด็จพระสังฆราชพระอริยะวงศาคตญาณ องค์ที่ 16 เป็นเจ้าอาวาส หน้าวัดสมัยนั้นเด็กวัดยังลงเล่นน้ำในฤดูน้ำหลาก
พอตอนเย็นหลานคนโปรดซึ่งไปเที่ยวตะลอนๆบ้านเพื่อนบอกว่าไปทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์กลับมาพร้อมแม่เขาเปียกฝนมา และก็เริ่มโดนสัมมนาจากทั้งแม่และยาย ส่วนยายก็โกรธสุดขีด จนเป็นลมต้องขอยาอมใต้ลิ้นมาอมบรรเทาอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เอ้อ!มีหลานรักคนทั้งดื้อและชอบเที่ยว มันน่าหนักใจจริงๆ
ไม่มีความเห็น
เมื่อวานตื่นแต่ตี 5, ตี5ครึ่ง รีบอาบน้ำเพราะพี่ถมนัดเอาไว้ว่าจะออกไปบ้านราว 7 โมงเช้า ผู้เขียนแต่งตัวเสร็จ 7.45 น.ก็เดินลงมาทางบ้านพักชายทะเล ซึ่งสวนทางกับพี่ถมที่เดินขึ้นไปทางหน้ากองรักษาการณ์(ย่อย) 7 โมงกว่าๆ พี่ถมขับรถไปส่งสถานีขนส่ง ผู้เขียนไปรถตู้หมายเลข 0595, 8 โมงออกเดินทางด้วยผู้โดยสารแค่ 4 คน ราคาค่าโดยสาร 70 บาท ถึงโก-ลก 9 โมงกว่า ฝนตกพรำๆ ภรรยาผู้เขียนตรวจอยู่คลินิกหูคอจมูก กว่าจะเสร็จก็ 11 โมงพอดีโทรศัพท์ลูกสาวโทรมาว่าจะมารับราวๆบ่ายโมง ภรรยาก็เลยถือโอกาสตรวจโรคเกี่ยวกับอายุรเวช ตามที่หมอโรคหูแนะนำมา ตกลงวันนี้คุ้มสุดๆ หมอให้ยามาเป็นกระตั้กๆ 12.40 ลูกสาวมารับเลยไปกินข้าวที่ร้านจีนข้างๆโรงพักโก-ลก แวะซื้อของ และไอ้ณะ(ลูกเขย)ไปเติมน้ำมันมาเลย์ที่ร้านลักลอบขายน้ำมันเถื่อนที่ร้านอู่ซ่อมรถและที่ร้านดงงูเห่า รวมทั้งสิ้น 60 ลิตร ราคาเกือบ 2,000 บาท ซึ่งประหยัดไป 700 กว่าบาท กลับถึงกองร้อย 5 โมงกว่า
ไม่มีความเห็น
เมื่อคืนนอนดึกหน่อย เพราะต้องสวดมนต์ยาวกว่าทุกคืน มีบทสวดพระธัมมจักรกัปปะวัตนะสูตรเข้ามาด้วยเนื่องในวันพระใหญ่(วิสาขบูชา) สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งตี 4 กว่าๆ เพราะคนนอนข้างๆละเมอว่ามีคนสองคนจะมาเอาตัวไป(วิญญาณ) เข้าใจว่าน่าจะเป็นพวกยมทูต อะไรประมาณนั้น ภรรยาผู้เขียนบอกยังไม่ไปเป็นห่วงลูกหลานอยู่ พอดีมีคนนอน(ตาย)อยู่สองคน ชื่อเหมือนกัน ภรรยาผู้เขียนบอกว่าไม่ใช่ฉันแต่เป็นคนโน้น ในขณะที่ผู้ชายสองคนช่วยกันหามภรรยาผู้เขียน ในเมื่อภรรยาผู้เขียนร้องบอกแบบนั้น ชายสองคนก็โยนภรรยาผู้เขียนโครม แล้วก็สะดุ้งตื่น ภรรยาผู้เขียนฝันในทำนองนี้ในรอบหลายปีสองครั้งแล้ว ถ้าฝันครั้งที่สามก็คงต้องทำใจ ระยะนี้ผู้เขียนแสนจะทุกข์ใจแต่บอกใครไม่ได้ เพราะเป็นห่วงกังวล ไม่มีใครช่วยดูแล ลูกหลานก็อยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งต้องทำงานและเรียน ภรรยาผู้เขียนเป็นโรคประจำตัวหลายโรครุมกัน ต้องกินยาทีเป็นกำ ตอนหลังมีโรคซึมเศร้าเข้ามาด้วย ต้องมีคนเข้าใจดูแลอย่างใกล้ชิดซึ่งลูก(คนดียว)ก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรลึกซึ้งมากนัก พูดจาไม่ให้กำลังใจแล้ว ยังใช้คำพูดที่บั่นทอนจิตใจแม่เขาอีก เห็นคนป่วยแล้วน่าสงสารมาก วันนี้ผู้เขียนต้องเข้าไปทำงานที่ตำหนักเขาตันหยง กว่าจะกลับก็อีก 10 วัน ก็คงกังวลอยู่เหมือนกัน แต่จะไม่ให้เสียงานเด็ดขาด
ไม่มีความเห็น
วันนี้(จันทร์ที่ 19 พ.ค. 2551)เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันวิสาขบูชา ซึ่งทางองค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันสำคัญของโลก เพราะฉะนั้นเราคนไทยในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน จงปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติของชาวพุทธในวันวิสาขบูชา ซึ่งมี 7 ข้อด้วยกัน และก็ในวันสำคัญนี้ ผู้เขียนขอถือโอกาสเข้าเป็นสมาชิกใหม่ บล็อก GotoKnow ด้วยคนเพื่อต่อความยาว สาวความรู้กับบรรดาเพื่อนสมาชิกทุกสาขาอาชีพ ตอนนี้ผู้เขียนรับราชการเป็นตำรวจ(ตระเวนชายแดน)ประจำอยู่กองร้อย ตชด.447 อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ทำงานอยู่ในพื้นที่ทั้งใน จว.ยะลา,ปัตตานี และนราธิวาส ตลอดระยะเวลา 27 ปี สำหรับพื้นเพดั้งเดิมเป็นคน อ.ระโนด จ.สงขลา ดินแดนสร้างปัญญาชนไปได้ดิบได้ดี ณ.ที่ต่างๆมาเยอะแยะนั่นแหละ ตอนนี้ผู้เขียนทำหน้าที่ รปภ.ณ.กอ.๙๙ ปภ.ตชด.พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์(เขาตันหยง)ต.กลูวอเหนือ อ.เมือง นราธิวาส ทำงาน ลว.ร่วมกับทหารรักษาพระองค์(ทหารเสือ) ก็ภูมิใจนะ ไม่ท้อไม่ถอยครับผม(ชูสองนิ้ว)
ไม่มีความเห็น