วันนี้ เป็นวันพ่อของอเมริกันชน แล้วเขาประกาศเป็นวันหยุดประจำปีด้วย แต่วันพ่อของลุงแซม มิได้กำหนดไว้ตายตัวเหมือนของไทย ถือเอาวันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นวันพ่อ..... สำหรับที่มาที่ไป มีรายละเอียดอย่างไรฉันไม่รู้  รู้แค่นี้ก็พอแล้วนี่นา..จะรู้ไปทำไมมากมาย หุหุ

ผี เป็นสิ่้งที่น่าเกลียด น่ากลัว แม้นว่าจริงๆแล้วไม่ค่อยมีใครได้เห็น ...โดยเฉพาะเด็กเล็กจะกลัวมาก จะหาเด็กไทยที่ไม่กลัวผี หายากแน่ เหมือนงมเข็มในมหาสมุทรประมาณนั้น ทำไมเด็กพอรู้ความจึงกลัวผี ยังหาคำตอบเจ๋งๆไม่ได้ ผีเป็นหนึ่งในสิ่งไม่กี่อย่างที่เด็กรู้จักต้นๆ รองลงมาที่เด็กรู้จัก คือ ตำรวจ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ใช้กำหราบเด็ก เมื่อเด็กมีอาการดื้อ ซึ่งก็ใช้ได้ผลมาก ฉันเองกลัวทั้งผี กลัวทั้งตำรวจเหมือนกับเด็กทั่วไป

พอเป็นผู้ใหญ่ขึ้น รู้ว่าอะไรเป็นอะไร กลัวผีเริ่มลดลง ลดลงเท่านั้นนะ มิได้หายขาด แต่ความกลัวที่มีต่อตำรวจไม่เคยเสื่อมคลาย เมื่อเป็นเด็กกลัวตำรวจจับ เพราะถูกผู้ใหญ่ขู่มาตลอด พอโตขึ้นก็ยังกลัวตำรวจอยู่ แต่ไม่ใช่กลัวถูกจับ แต่กลายเป็นกลัวตำรวจเปลี่ยนจากจับปืน มาเป็นจับคันไถ

พอทีสำหรับตำรวจ ขอกลับไปเรื่องผีๆ ดีกว่า เคยถูกถามว่า ผีอะไรเอ่ย ทั้งสวย ทั้งน่ารัก แรกๆคิดไม่ออก คิดได้เพียงว่า ธรรมชาติของผีน่ากลัวออกจะตาย จะสวยได้ยังไง หือ....พอบอกยอม ผู้ทายเฉลยว่า "ผีเสื้อ" ไง เลยถึงโรงเรียนบางอ้อแบบรถไม่ติด....วันนี้ไปเที่ยวตลาดน้ำเกาะกลอย พบงานฝีมือชิ้นหนึ่ง งดงามมาก แถมราคาถูกอีกต่างหาก ขายเพียงตัวละ ๒๐ บาท ถ้าซื้อ ๕ ตัว คิดเพียง ๙๕ บาท เชิญชมผลงานของชาวบ้านได้ตามรูปข้างล่าง

อาหารเช้าวันนี้ เป็นข้าวแกงที่ตลาดปะตง สอยดาว จันทบุรี ท้องฟ้า แจ่มใส อากาศเย็นสบาย จากนั้นแวะเข้าไปหาที่ทำเล็บในตลาด มีอยู่ร้านหนึ่งเห็นว่างคน จึงแวะเข้าไป เจ้าของร้านไม่อยู่ พบแต่ลูกจ้าง เป็นสาวสวยวัยยี่สิบต้นๆ ผิวขาว หน้าตาดี
ถามว่า "ทำเล็บหรือเปล่า"
" ได้เลยคุณลุง" นี่คือ คำตอบ เข้าทางฉันแล้ว

"หนูเป็นคนที่นี่หรือ"...
"เปล่า หนูเป็นคนฝั่งโน้น"

คนฝั่งโน้น ความหมายก็คือ เป็นคนเขมร เธอมาอยู่ที่นี่นานสามปีกว่า จึงไม่แปลกเลยที่สำเนียงไทยของเธอค่อนข้างชัดเจน ผิวเธอขาว เป็นลูกครึ่งเขมรญวน

รู้เพิ่มว่า เธอถือพาสปอร์ตเขมร มีวีซ่าเข้ามาอย่างถูกต้อง ประมาณสองเดือนต้องไปที่ด่านชายแดน เพื่อปั๊มหลักฐานการเข้าออก เพื่อจะได้อยู่ต่อ เวลาเข้าๆออกๆด่านเล็กๆชายแดนเขมรไทย จะสะดวก เด็กคนนี้ เป็นคนช่างพูด ชวนลูกค้าคุยตลอด

"ปกติเสียเงินด่านละร้อย แต่บางทีหนูไม่เสียตังค์นะ หนูใช้ความสวยแทนเงิน ไอ้พวกตม.ทั้งสองฝั่งแหละชอบกอร่อกอติกกับหนู ทำให้หนูประหยัดไปได้เยอะ" เธอเล่าให้ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ

"ระหว่างอยู่ที่นี่ เวลาออกไปตลาด ถูกเจ้าหน้าที่ไทยขอตรวจบัตรบ่อยมาก"
"ทำไมล่ะ" ฉันซักต่อ
"ลุงเข้าใจไหม หนูหน้าตาดีไงลุง เขาจึงหาเรื่องตรวจหนูอยู่เรื่อย มีคนเขมรเยอะแยะ ที่เข้ามาอยู่อย่างไม่ถูกต้องนัก แต่ไม่ค่อยถูกตรวจบัตร เพราะสาวเขมรส่วนใหญ่ไม่สวยและดำ"

คนน่าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง อันนี้ทุกคนรู้ แต่คนหน้าตาขี้เหร่บางครั้งได้เปรียบนี่สิ ไม่ค่อยได้ทราบกัน...ว่าไปแล้ว ยุติธรรมดีเน๊าะ

อ่านพบจากหนังสือเล่มหนึ่งนานมาแล้วจนจำไม่ได้ว่า หนังสือเล่มนั้น ชื่ออะไร ชื่อคนแต่งก็จำไม่ได้เหมือนกัน แต่ความที่ฉันสนใจในเนื้อหาของข้อเขียน จึงบันทึกไว้ สาระมีว่า

"ถ้าเราอยากมีความสุข ก็ต้องตกแต่งใจดวงนี้ให้มันดี คนเกิดมาในยุคนี้สมัยนี้ เป็นผู้มีกรรมมาก มีอายุสั้น... โรคภัยไข้เจ็บมากมาย ผู้เขียนยืนยันว่า สมัยก่อนคนอายุยืนยาว เนื่องจากมีโรคอยู่เพียงสามอย่างเท่านั้น ได้แก่

• โรคหิวข้าวหิวน้ำ
• โรคหิวหลับหิวนอน
• โรคปวดอุจจาระ ปัสสาวะ

มีเพียงเท่านี้จริงๆ

เขาสาธยายต่อไปว่า คนจึงอายุยืนเป็นร้อยปี เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว คนอายุลดลงหนึ่งปี ทุกๆ ร้อยปี เดี๋ยวนี้เราจึงมีอายุเฉลี่ยประมาณ ๗๕ ปี"

ตามความรู้ที่ฉันพอมี โรคทั้งสามอย่างที่เขากล่าวถึง ทางการแพทย์ปัจจุบันไม่นับเป็นโรค ชัดเจนแล้วว่า ที่คนในยุคปัจจุบันอายุสั้นเพราะอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ไม่บริสุทธิ์ มลภาวะสูงมาก....สรุปเลย ว่า มลภาวะทั้งมวลในปัจจุบันเป็นต้นตอของโรคภัยไข้เจ็บ อยากอายุยืนต้องร่วมมือกันขจัดมลภาวะ ไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ

สืบเนื่องจากอนุทินวันวาน ขอลงภาพประกอบเรื่องราวของ Varanus salvator  ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

Varanus salvator คือ สัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง อยู่ใน “บัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง” ของทางราชการ ซึ่งในความเป็นจริง พบเห็นนอกป่ามากกว่าในป่า เมื่อสักครู่รุกคืบเข้ามาในเขตบ้าน   ควักอาวุธประจำกาย “เทเล่” ส่อง ไม่พลาดเป้าหมายสามารถหยุด วรนุช ได้....โปรดใช้วิจารณญาณ มันเป็นเพียงสัตว์ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย..อนาคตเราจะดีขึ้นหรือเลวลง อยู่ที่การกระทำหรือกรรมของเรา..........วรนุชไม่เกี่ยว

เพื่อความเหมาะสมไม่ขอเสนอภาพประกอบ

เคยตั้งใจไว้ว่า หากจะไปเที่ยวเขมร ต้องไปพระตะบองก่อน พระตระบองเป็นเมืองเขมรเมืองแรกที่ฉันรู้จักเมื่อเริ่มรู้ความ มีญาติทางแม่ เคยรับราชการตำรวจ และไปเที่ยวเขมรบ่อย ย้อนรำลึกก็อยู่ในช่วงปี ๒๔๙๐ - ๒๔๙๑ ซึ่งตอนนั้นสงครามโลกครั้งที่สองยุติได้ไม่นาน ญาติคนนี้กลับจากพระตระบองทีไร จะขนเสื้อผ้ามือสองติดมือมาขาย เป็นผ้าลายสอง เวสท์พอยท์ เสียเป็นส่วนใหญ่ ช่วยลดโสหุ้ยในการเดินทางได้มากทีเดียว พูดถึงสินค้ามือสอง ทำให้นึกถึงตลาดโรงเกลือ ที่อรัญประเทศ นี่แสดงว่า สินค้ามือสองประเภทเครี่องนุ่งห่มมีที่มาจากเขมรมานมนานแล้ว เพียงแต่ว่า คนใช้มือหนึ่งไม่ใช่คนเขมร เมืองเขมรเป็นแค่ทางผ่าน

ถึงวันนี้ เปลี่ยนใจ ต้องการเปลี่ยนจุดหมายเที่ยวเขมร จากพระตระบองมาเป็นเสียมราฐ เพราะข้อมูลล่าสุดที่อ่านพบในเว็บไซต์ บอกว่า ถนนจากปอยเปตไปยังเมืองเสียมราฐลาดยางตลอด มีเก๋งแคมรีให้เช่า ราคาไม่แพงเพียงประมาณ ๑๒๐๐ บาท อยู่ที่ความสามารถในการต่อรอง คนขับพูดไทยได้ และรับเงินบาท ไม่ต้องไปเสียเวลาแลกเปลี่ยน ซึ่งทำให้เสียเวลาและอาจเสียอารมณ์

ไปเสียมราฐทำไม ...ต้องการไปชมให้เห็นกับตา สิ่งก่อสร้างฝีมือมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่อลังการเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ใช่แล้ว "นครวัต นครธม"...See Angkor Wat and die เป็นประโยคอมตะของอาโนลด์ ทอยน์บี นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ เคยมีคนแปลเป็นภาษาไทยไว้ว่า "ยลนครวัดแล้วตายตาหลับ...."

ไปแน่ ไปแน่ กำลังหาเพื่อนร่วมทางที่ถูกใจ และรอกำหนดวันที่แน่นอน

วันนี้เปลี่ยนจากเดินช่วงเย็น ไปเป็นเดินช่วงเช้า ไม่มีอะไรเพียงแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ พบแพทย์อาวุโสท่านหนึ่่ง เกษียณแล้วหลายปีพอๆกับฉัน....รู้จักกันมานานแต่ไม่ค่อยได้พบกัน เข้าไปคุยด้วย

 "ทำไมต้องไสวอล์คเกอร์นำ ล่ะ" 

"ระยะนี้สุขภาพไม่ดี คนเคยล้มต้องระวัง"

" มีโรคประจำตัวเยอะไหมหมอ"

"ก็พอสมควร"

"เจ้าโรคนี่น่าจะยกเว้นให้หมอบ้างนะ"

"โอย ไม่หรอก คนไหนหมอไม่หมอ โรคโม่รู้"

คุยกันพักใหญ่ ทำให้รู้เพิ่มเติมว่า คนมีโรคต่อมลูกหมาก ควรดื่มน้ำให้มากๆ เป็นโรคนี้จะฉี่ไม่สุด มีน้ำปัสสาวะค้างอยู่จำนวนหนึ่งเสมอ เป็นทฤษฎีใช้น้ำไล่น้ำ..

อองซานซูจี เธอเป็นหญิงแกร่ง เก่งกาจ รักชาติ รักประชาชน ยากที่จะหาหญิงใดเทียมในรอบทศวรรษนี้ หลังจากที่คนในพรรคของเธอได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งมาจำนวนพอสมควรที่พม่าเมื่อเร็วๆนี้ เธอเริ่มเดินสายออกนอกประเทศเป็นครั้งแรก จากที่ถูกควบคุมให้อยู่ในบริเวณบ้าน เป็นเวลายาวนานร่วมยี่สิบปี...เธอเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายแรกของการเดินทาง เข้าร่วมประชุมเวิร์ลอีคอนอมิคฟอรั่มที่กรุงเทพฯ ไปมหาชัยเยี่ยมและให้กำลังใจแรงงานพม่า ไปศูนย์อพยพชนกลุ่มน้อยที่ตาก.....จากนั้นภาระกิจของเธอไปต่อที่ยุโรป ...เจนีวา ออสโล ลอนดอน และออกซ์ฟอร์ด ถิ่นเก่าที่เคยศึกษา......เธอจัดหนัก และยาวทีเดียวทริปนี้

เฮ้อ .......ตามพจนานุกรมแปลว่า เซ็ง

ถ้าเช่นนั้นอยากจะบอกว่า จิตใจของฉันกำลังเฮ้อสุดสุด
กำลังเฮ้อ กับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้  มันจะจบกันอย่างไรเนี่ยะ มันจะจบช้าหรือจะจบเร็ว และไม่ว่าจะจบช้าหรือจบเร็ว บ้านเมืองเสียหายยับเยินแน่นอน  ไม่ใช่แค่ทำร้ายประเทศไทย มันถึงขั้นที่เรียกว่า ฆ่าประเทศไทย ได้เลย

คนที่ปลงตกอาจจะบอกว่า  อะไรจะเกิดให้มันเกิด พูดแบบนี้ปลงได้จริงหรือ
น่ากลัวนะครับ มีสิ่งบอกเหตุหลายอย่าง อาจเห็นคนไทยทำร้ายกัน ฆ่ากัน อีกครั้งหนึ่ง ได้แต่ภาวนาว่า อย่าเกิด อย่าเกิด

คุยกับบางคนที่เขาคิดบวก บอกว่า ไม่น่าน่ะ...อย่างน้อยบ้านเรามีพระสยามเทวาธิราช ดูแลปกป้องบ้านเมืองของเราอยู่...ฉันว่า ท่านช่วยมาหลายครั้งหลายหนแล้วนะ พระสยามเทวาธิราชก็เถอะ..ท่านเหนื่อย ท่านล้าเป็นเหมือนกัน
บ้านเมืองเรา...ยังเป็นของเราจริงหรือไม่ ฉันเริ่มสงสัย และไม่แน่ใจแล้ว...มีความคิดผุดขึ้นมาในใจ "ไม่อยากเสียภาษี"  ถ้าไม่ใช่บ้านเราเมืองเรา เสียทำไม

อ่านพบทวีตในวันหนึ่ง ความคิดคนมันช่างหลากหลาย ลองอ่านดู เขาคิดได้ยังไงเนี่ยะ เขาเขียนว่า

 เกิดเป็นคนอเมริกัน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน จะไม่รู้จักความเท่ของการเป็น "นักเรียนนอก"

ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งโดยไม่มีเงื่อนไข

ประเทศไทยสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ชั้นนำไปอีกหนึ่งท่านในบ่ายวันนี้...

จากมติชนออนไลน์....เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 มิถุนายน ศ.นพ.ประสพ รัตนากร เสียชีวิตที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ร่วมด้วยโรคไตวายเรื้อรัง ทั้งนี้ ศ.นพ.ประสพเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม รวมอายุ 92 ปี โดยในเวลา 13.00 น. ได้เคลื่อนศพออกจากโรงพยาบาลรามาธิบดีไปยังวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ศาลา 7 และจะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 17.30 น. ของวันที่ 6 มิถุนายน 2555

ด้วยรักและอาลัย...

วันนี้เป็นวันสำคัญ วันวิสาขบูชา เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งของชาวพุทธ ใครที่อ้างตนเองว่าเป็นพุทธศาสนิกชน แล้วไม่รู้วันนี้เป็นวันอะไร มีความสำคัญอย่างไร สมควรถูกดีลีทออกจากระบบได้แล้ว เพราะนับถือพุทธเพียงแค่เปลือก เป็นชาวพุทธตามสำเนาทะเบียนบ้าน  ถ้าใครไม่สะดวกทำดี อย่างน้อยต้องละชั่ว ศีลห้าถ้าห่างไปนาน วันนี้ไม่ควรห่าง

ที่บางพลัด อากาศดีปลอดโปร่งมาทั้งวัน พอถึงหกโมงเย็น ฝนเกิดโปรยลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ดินฟ้าอากาศเอาแน่ไม่ได้จริงๆ อยู่เหนือกำกับดูแลของมนุษย์ ตั้งใจว่าไปเวียนเทียนตอนค่ำ ไม่รู้ว่าจะไปสะดวกหรือเปล่า กำลังเฝ้าดูอยู่อย่างใจจดจ่อ

ก่อนนอนเมื่อคืน เขียนอนุทินไว้แล้ว กะว่าวันนี้ตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน จะนำมาโพสต์ คลิ๊กไปคลิ๊กมาข้อความถูกลบออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่ระวัง ข้อผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งเป็นคราว แม้ไม่บ่อย แต่มันทำให้อาการหงุดหงิดเกิดขึ้นในใจได้มากจริงๆ เหมือนถูกปล้นสิ่งที่เราสะสมไว้ เหมือนที่ทักษิณโฟนอินว่า ถูกปล้นเงินสี่หมื่นหกพันกว่าล้านบาท ที่เขาว่าเขามีอยู่ก่อนเข้ามาเล่นการเมือง ประการหลังเนี่ยะ คนที่ได้ฟังแล้ว เชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่เห็นมีคนทำโพลล์มาอวดกัน

สุดสัปดาห์นี้และต่อเนื่องไปอีกเล็กน้อย มีงานที่น่าไปเที่ยวอยู่สองงาน ประเดี๋ยวจะไปเที่ยวงานพุทธชยันตี...ที่สนามหลวงแก้เซ็ง สำหรับงานเกษตรแฟร์ค่อยไปวันพรุ่งนี้

29พ.ค.-4มิ.ย.งานพุทธชยันตีฯ สนามหลวง / 30พ.ค.-7มิ.ย.งานเกษตรแฟร์ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน

เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ระยองมีพายุกระโชกแรง ต้นไม้สั่นไหวน่ากลัว เช้าวันนี้มองดูระดับน้ำในลำน้ำหน้าบ้าน ยังอยู่ในระดับต่ำมาก แสดงว่า น้ำจากฝนเมื่อคืนเหนือลำน้ำยังไหลมาไม่ถึง

ข่าวจะดังหรือไม่ดัง ไม่ได้อยู่ที่ต้นตอข่าว เนื้อหาของข่าว หรือแหล่งข่าวเท่านั้น แต่อยู่ที่ว่า มีข่าวซึ่งเป็นที่สนใจของสาธารณะมากกว่า เกิดขึ้นในช่วงเดียวกันหรือไม่...ดูกันจากของจริง ตัวข่าวที่ดังระดับโลกอย่างอองซานซูจี มาเมืองไทย ออกสื่อกันอย่างแพร่หลายเฉพาะในช่วงเช้าของ ๓๐ พฤษภาคม เท่านั้น พอตกบ่ายข่าวการเมืองไทยที่เกิดการแย่งเก้าอี้ประธาน (แย่งเก้าอี้กันจริงๆ ไม่ใช่สำนวนไทยที่ใช้ในกรณีแย่งตำแหน่ง) กันในอาคารรัฐสภา เบียดข่าวซูจี ตกขอบ และแทบหายไปจากจอหรือหน้ากระดาษกันเลยทีเดียว

จะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรม อาจจะไม่ถูกต้องนัก ถ้าเรียกว่า มาตรฐานกลาง ๆ หรือ norm น่าจะได้ กำลังจะเขียนว่า ทำไมกีฬาไทยประเภททีมจึงไม่ค่อยถึงหรือไม่ถึงดวงดาวสักที ถ้าสู้กันเดี่ยวๆละก้อ คนไทยเก่ง ยกตัวอย่างก็ได้ อย่างเช่น กีฬามวย แม้จะเป็นมวยสากลหรือมวยฝรั่ง ไทยเคยเป็นแชมป์มานานหลายสิบปี คนแรกคือ จำเริญ ทรงกิตติรัตน์ คนที่สอง คือ โผน กิ่งเพชร ต่อมาเมื่อย้อนหลังจากปัจจุบันไปอีกประมาณสิบปี มีนักมวยแชมป์โลกที่เป็นคนไทยอีกมากมาย จนแทบจำชื่อไม่ค่อยได้ .....มาถึงพวกสู้กันแบบทีม ไม่ไหว แม้ฟุตบอลจะเป็นกีฬายอดนิยมก็เหมือนกัน สลับเท้าซอยขาอยู่กับที่ บางเวลาถอยหลังด้วยซ้ำ ...มันเกิดจากอะไร น่าจะมีการศึกษา ทำการวิจัยให้เป็นเรื่องเป็นราว เมื่อรู้ต้นตอแห่งปัญหาแล้ว จะได้เดินไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง....เคยได้ฟังนักคิดนักพูดคนหนึ่งพูดไว้น่าฟังมาก (จำชื่อผู้พูดไม่ได้) ท่านพูดไว้พอสรุปได้ดังนี้

การรวมตัวของคนไทยมีปัญหา (ทีมวอร์ค) ถ้ามาเดี่ยวๆไม่ค่อยเป็นสองรองใคร

• คนไทยคนเดียวสู้กับฝรั่งคนเดียว สู้ได้สบายมาก
• คนไทยสองคนสู้กับฝรั่งสองคน ชักจะสูสี
• ฝรั่งสามคนสู้กับคนไทยสามคน คนไทยแพ้เลย เพราะคนไทยจะหันมากระทืบกันก่อน ๕๕๕๕

ฉันเชื่อ นอกจากเชื่อแล้ว ยังเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์

ค่าครองชีพสูง ข้าวของแพงเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องที่ผู้บริโภคคิดเอาเองเหมือนที่ใครบางคนบอกเรา ของบางอย่างถูกลงตามฤดูกาล เช่นผลไม้ เพราะผลผลิตมาก เก็บไว้นานไม่ได้ มันจะบูดเน่า ราคาจึงลดลงมาตามกลไกของธรรมชาติ ไม่ใช่ถูกเพราะฝีมือในการบริหารจัดการของใคร อย่างเช่นวันวาน (๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕) ไปเดินเที่ยวที่ตลาดสด ศูนย์การค้าสตาร์ ระยอง ผลไม้ขายถูกจัง เงาะโรงเรียนแม้จะลูกไม่ใหญ่เท่าเงาะโรงเรียนต้นฉบับที่นาสารก็เถอะ ยังไงก็พูดว่าแพงไม่ได้ โลละ ๑๕ บาท ถ้าซื้อ ๓ โล คิดแค่ ๔๐ บาท สละเนินวง ไม่เด่นดังเหมือนสุมาลี ขายกัน ที่ ๓ โลร้อย น่าซื้อชะมัด ผลไม้ช่วงนี้เป็นตลาดของผู้ซื้ออย่างชัดเจน ใครที่อยากลิ้มลองผลไม้รสดีราคาถูก ขอให้รีบมาเที่ยวภาคตะวันออกไวไว เลือกระยอง หรือจันทบุรี ได้ตามสะดวก....ถ้ามีความรู้สึกรักพี่เสียดายน้อง ไปมันทั้งสองแห่ง ก็ไม่มีใครว่า

มาเที่ยวตลาดสดแล้วนี่นา จะดูแค่ผลไม้กระไรได้ ของกินอย่างอื่น ที่เห็นและจำได้ ไข่ไก่ขนาดปานกลางแผงละ ๖๕ บาท มีกี่ฟองไม่ได้นับ แต่คนที่ช้อปประจำเขารู้ดี จำได้อีกอย่าง ขนมจีน โลละ ๒๕ บาท

ไม่ได้ตั้งใจมาสำรวจตลาดแบบจริงจังอะไรหรอก เพียงเดินผ่าน ขอรายงานราคาสินค้าเท่าที่เห็นและพอจำได้แม่น ก็แค่นั้น

ฉันได้รับเอสเอ็มเอสจากกัลยาณมิตร เตือนว่า วันนี้เป็นวันพระ เตือนไม่เตือนเปล่า บอกด้วย อีก ๗ วัน จะครบ ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้....สาธุ มีกัลยาณมิตรดีอย่างนี้เอง ชี้นำไปในทิศทางที่ถูกต้องเสมอ

ทำอะไรบ้างล่ะในวันนี้ ให้ตาจ้อยไปซื้อปลา แล้วฉันก็จัดการปล่อยไปเรียบร้อย ตกสายๆ อยากเดินตลาด แวะเข้าตลาดสดแม่แดง พบภาพบาดตาบาดใจ พ่อค้าคนหนึ่งกำลังหยิบไม้ ขนาดใกล้เคียงกับไม้ตีพริก มือขวากำท่อนไม้แน่น ประจงทุบหัวกบทีละตัว แล้วโยนใส่กาละมัง ชีวิตกบหลายตัวดับดิ้นไปต่อหน้าต่อตา...ไม่ใช่หนทางอันประเสริฐ ไม่ใช่สัมมาอาชีพ ฉันเดินจากจุดนี้ไปด้วยหัวใจหดหู่ ปลง ปลง และปลง "กัมมุนา วัตตติ โลโก" สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม

วันนี้ถ่ายรูปไม่เป็นสับปะรดเลย ทั้งๆที่มีสับปะรดกองใหญ่ให้ถ่าย ทำไมหรือ หนึ่ง เพราะฝีมือฉันยังไม่ดีพอ สอง ฉันต้องการเน้น หรือโฟกัสที่ตัวแม่ค้า และตาชั่ง เพื่อให้เป็นนางเอกพระเอกของภาพ

ภาพถ่ายแม้เพียงหนึ่งภาพ สามารถบอกอะไรต่อมิอะไรให้เราได้ทราบมากมาย   หรือจะพูดว่า ภาพๆหนึ่งสื่อความหมายหรืออธิบายความได้ดีกว่าสื่อด้วยถ้อยคำ อย่างนี้ก็ไม่ผิด

มาดูกันสำหรับภาพนี้ มีอะไรบ้าง และบอกอะไรแก่ฉัน...ในภาพก็มี ตัวแม่ค้า สินค้า และตาชั่ง

หนึ่ง...ในภาพรวมฉันมองว่า วันนี้แม่ค้าขายของได้ไม่ดี ดูได้จาก

• ใบหน้าและดวงตาของแม่ค้า
• จำนวนสับปะรดซึ่งยังเหลือกองโต ซึ่งตลาดใกล้จะเลิกแล้ว อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงจากนี้ จะมืดไม่มีแสงพอ
• ...คุณยายอีกคนใส่เสื้อคอกระเช้าที่อยู่ข้างหลัง ยกแขนเอามือเกยคาง แบบเซ็งๆ ก็บอกให้เรารู้สภาพตลาดได้เหมือนกัน

สอง...ความมั่นคงของเงินในกระเป๋า  ณที่นี้ยังไม่น่าไว้วางใจ แค่วางไว้หน้าตักไม่พอ แม่ค้าต้องแขวนไว้บนไหล่

สาม... การขายตามน้ำหนัก หรือ ชั่งเป็นกิโล สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า มากกว่าการซื้อขายเป็นลูกหรือใบๆ

สี่... ตาชั่ง ยังอยู่คู่เคียงกับความยุติธรรมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่มีสองมาตรฐาน แต่สำหรับตัวตาชั่ง ไม่ว่าที่ไหน ไม่เชื่อลองไปสังเกตกันดูได้ ในตลาดสดเกือบทุกแห่ง สกปรก น่าจะเช็ดถูกันบ้าง  ทั้งๆที่มันเป็นตัวช่วยในการทำมาหากินอยู่ทุกวี่วัน...

ห้า.... ผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดระเบียบในพื้นที่ ละเลย เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ยอมให้พื้นที่บนสะพานกลายเป็นตลาดย่อมๆ ก่อความสกปรก รกรุงรัง และกีดขวางทางเดินสาธารณะ

มีโอกาสได้คุยกับคนไต้หวัน ซึ่งนับถือพุทธเหมือนกับชาวเรา ต่างกันเพียงนิกายเท่านั้น คือ ไทยพุทธเถรวาท ส่วนที่ไต้หวัน เป็นนิกายมหายาน

แนวคิดของคนไต้หวัน เขาบอกว่าจะบรรลุธรรมหรือไม่ ไม่สำคัญเท่าการได้ช่วยเหลือผู้อื่น คนไต้หวันส่วนใหญ่จะมีความสุขกับการช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งเป็นหัวใจของปรัชญาพุทธแนวมหายาน ....สังเกตให้ดี ตรงเป๊ะ กับคำว่า "จิตอาสา" ซึ่งกำลังฮิตอยู่ในไทยขณะนี้

ของเล่นคนมีกะตัง....จะตั้งราคาให้สูงเสียดฟ้ายังไง ก็ทำไปเต๊อะ เนื่องจากไม่ใช่ปัจจัยสี่ ฉันไม่เดือดร้อนอะไรเลยและจะไม่ซื้อเด็ดขาด อะไร หิหิ ก็ของเล่นที่ฉันชอบอยู่ในขณะนี้ไง

ราคาตั้งในไทย Leica M-Monochrom อยู่ที่ 293,250 บาท ส่วนเลนส์ APO-Summicron-M 50mm f/2 อยู่ที่ 260,720 บาท สินค้าเข้าประมาณช่วงเดือนสีงหาคม ท่านใดสนใจติดต่อทางร้านได้ครับ ล็อคแรกแว่วมาว่าสินค้าเข้ามาไม่มากครับ

Leica M9-P Edition Hermès ชุด 1 เลนส์ ราคา 813,250 บาท (ผลิตแค่ 300 ชุด)
Leica M9-P Edition Hermès ชุด 3 เลนส์ ราคา 1,626,500 บาท (ผลิตแค่ 100 ชุด)

สินค้าเข้ามาเมืองไทยน้อยถึงน้อยมาก ท่านที่สนใจโทรสอบถามได้กับทางร้านโดยตรงครับ

ต้องเปลี่ยนบรรยากาศบ้างจึงจะดี แล้วความสดชื่นก็จะมา บางคนชอบความเปลี่ยนแปลง (CHANGE) แต่มีอีกหลายคนไม่ชอบ

วันนี้มาเที่ยวตลาดสดที่อยู่ใกล้กับโรงแรมสตาร์ ระยอง จากที่จอดรถต้องเดินผ่านตัวโรงแรมก่อน รถบัสหลายคันจอดเต็มพื้นที่ เหลือบไปเห็นคัทเอ๊าท์แผ่นเบ้อเริ่ม ขอต้อนรับ.......หนึ่งในนั้นมีคณะของ กทม. ซึ่งพาข้าราชการมาสัมมนาที่นี่ ดีสำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนา คือ ได้เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนที่นอน สำหรับชุมชนคนชอบน้ำเปลี่ยนนิสัย ยิ่งดีใหญ่ ได้เปลี่ยนที่ดวดเหล้า ท้องถิ่นรับประโยชน์ด้วยเช่นกัน อย่างน้อยเงินสะพัด ช่วงนี้เป็นฤดูผลไม้ ชาวสวนร่วมแจมรับทรัพย์ไปโดยปริยาย

ในโลกแห่งความเป็นจริง จะชอบหรือไม่ก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงอย่างไรเสียต้องมี พรรคดีโมแครทของเมกา นำ CHANGE มาเป็นธีมในการหาเสียง ได้รับผลสำเร็จ ปัจจุบัน ดีโมแครทภายใต้การนำของโอบามา นำธีมเดิมมาใช้รณรงค์หาเสียงอีก

กลัวอะไร กลัวไปเต๊อะ แต่อย่ากลัวความเปลี่ยนแปลง.....เพราะแท้จริงแล้วมัน คือ อนิจจัง

การประพฤติพรหมจรรย์ เป็นการดำรงชีวิตอันประเสริฐ มีอยู่สิบข้อด้วยกัน หนึ่งในสิบข้อนั้นมี งดเว้นจากการเสพกาม (เมถุนวิรัติ) อยู่ด้วย มีคำอธิบายว่า การประพฤติพรหมจรรย์ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นพระเท่านั้น ฆราวาสผู้ครองเรือนก็ประพฤติพรหมจรรย์ได้

เคยสงสัยว่า ระหว่างที่อยู่ในสมณเพศ พระจะมีอารมณ์ทางเพศหรือไม่ เมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจอันเกิดจากสีกา เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งเคยบวชมานานร่วมสิบปี ตอบให้ฟังอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า "มี" แต่ไม่ทุกครั้งที่เห็น เมื่อเร็วๆนี้มีโอกาสได้อ่านบล็อก เขียนไว้ว่า มีพระอาจารย์รูปหนึ่งที่พำนักอยู่ที่ชิคาโก เทศน์ไว้ด้งนี้

"เวลาพระไปเห็นสีกาแก้ผ้าแล้วเกิดกามราคะ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดที่เรียนมา จะมามัวยุบหนอ พองหนอ หรือพิจารณาอสุภกรรมฐาน โครงกระดูกหนอ มันก็จะไม่ทันการ ถ้ามีกองขี้หมาอยู่ใกล้ๆ ก็ให้เหยียบเลย จะได้หายจากความกำหนัด"

ชัดแจ้งแดงแจ๋หายสงสัยโดยพลัน แต่เกิดคำถามในใจว่า พระไปเห็นสีกาแก้ผ้าได้อย่างไร ที่จะเห็นโดยบังเอิญ แหมมันเกิดขึ้นได้ยากนะ จะมีผู้หญิงที่ไหนมาแก้ผ้าให้พระดู ตาพระคงสอดส่ายไปหาดูเองละมั๊ง คิดอย่างนี้จะบาปหรือเปล่าเนี่ยะ แล้วอีกอย่างหนึ่ง ทำให้รู้เพิ่มเติมว่า ขี้หมา...ของไม่ดี ที่ใครๆก็รังเกียจนั้น ยังมีประโยชน์อยู่ อย่างน้อยมันช่วยให้ดับกามราคะได้ เพียงแต่ว่า เมื่อเกิดราคะ จะมีกองขี้หมาที่ไหนมาให้เหยียบเท่านั้นเอง

เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวสั้นๆชิ้นหนึ่งรายงานไว้ในทวิตเตอร์ว่า

กรุงเทพมหานคร คือ เมืองที่มีคนใช้ facebook มากที่สุดในโลก
"กรุงเทพมหานคร" มีคนใช้มากกว่าแปดล้านคน
รองมาได้แก่ อินโดนีเซีย แล้วก็พวกเมกาใต้

จากข่าวนี้ สะท้อนความจริงให้เราทราบมากมายเป็นต้นว่า

• สังคมกรุงเทพฯ เป็นสังคมเปิด การติดต่อสื่อสาร หรือพูดคุยกันระหว่างคนที่คุ้นเคย และไม่คุ้นเคย ทำได้อย่างแพร่หลาย โดยปราศจากข้อจำกัด
• คนกรุงเทพฯ ไม่เป็นคนกดเก็บ รู้อะไรไม่อยากเก็บไว้คนเดียว อยากให้คนรอบข้างได้รู้ด้วย
• คนกรุงเทพฯ เป็นคนทันสมัย สามารถใช้เครื่องมือเครื่องใช้ด้านไอทีได้เป็นอย่างดี
• ธุรกิจการค้าการขายสินค้าไอทีในไทย จะรุ่งเรืองไปได้อีกนาน โดยเฉพาะในเขตเมืองหลวง