อุปมา คนที่พวกเขาเคลือบแคลงสงสัยในพระเจ้า แล้วพวกเขากล่าวว่า ‘’ พระเจ้าอยู่ที่ไหนล่ะ ‘’โดยไม่ได้มองดูไปยังธรรม ที่พระเจ้าประทานลงมาว่าธรรมนั้นบริบูรณ์สำหรับมนุษย์ขนาดไหน ความจริงแล้ว ธรรมเหล่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์การมีอยู่ของพระองค์แล้ว
ดั่ง คนที่ติดโรค ซึ่งสามารถสัมผัสได้จากอาการของเขา แล้วพวกเขากล่าวว่า “ ไม่ ฉันไม่เชื่อ”ต้องแสดงเชื้อโรคให้ฉันเห็นก่อนสิ ต้องให้เห็นด้วยตาเปล่าสิ โดยไม่สนใจอาการภายนอกที่ร่างกายแสดงออกมาเลย ความจริงแล้วอาการเหล่านั้นก็สามารถบอกถึงโรคได้
ไม่มีความเห็น
ท่านจง ยำเกรงอัลลอฮ์ ผู้ยิ่งใหญ่ จงกลัววันซึ่ง ความอัปยศจะประสบ แด่ผู้ปฏิเสธ
ชีวิตหลัง ความตายนั้น จะต้องประสบอย่างแน่นอน ท่านจะ ยับยั้งความตาย ได้กระนั้นหรือ
เปล่าเลย ! ท่านเพียงดื้อรั้น และไม่เชื่อมัน ท่านจง ยับยั้ง ความตาย ให้ได้สิ หวังว่าบางที ท่านจะไม่ต้อง ประสบพบกับมัน
ไม่มีความเห็น
เพราะเป็นมนุษย์ จึงต้องรู้ว่าเกิดมาในโลกนี้มีหน้าที่อะไร
มนุษย์เราไม่ได้ถูกกำเนิดขึ้นมาในโลกนี้อย่างไร้จุดหมาย อย่างไม่ต้องมีภาระหน้าที
ปล่อยให้ชีวิตผ่านพ้นไปแต่ละวัน สุดท้ายก็ตายกลายเป็นดินหรือเถ้าถ่าน ไม่มีสิ่งใดมาตอบแทน
ฉะนั้นแล้วหน้าที่อันดับแรกของเราคือ การค้นหาพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสร้าง พร้อมทั้งทำความรู้จักและเข้าหาพระองค์ ต้องรู้ว่าพระองค์ได้วางกฎเกณฑ์อะไรบ้างแก่มนุษย์ เมื่อมนุษย์ต้องรู้กฎเกณฑ์ในบ้านเมืองที่ตัวเองอาศัยอยู่ฉันใด มนุษย์ก็ต้องรู้กฎเกณฑ์ของพระองค์ที่สร้างโลกนี้ให้เรามาอยู่ฉันนั้น
พระองค์จึงไม่ได้ปล่อยวางเรา พระองค์เป็นผู้ดูแลเราเสมอ พระองค์จะกำกับและตอบแทนเรา พระองค์ได้มอบหน้าที่อันยิ่งใหญ่แก่มนุษย์โดยที่พระองค์ไม่ได้มอบแก่สัตว์และสรรพสิ่งอื่นใด คือ การเป็นผู้ ปกครองคอยบริหารกิจการบนแผ่นดินนี้ นับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ พระองค์จึงสร้างสิ่งที่มหัศจรรย์และล้ำค่าที่สุด แก่มนุษย์คือ สติปัญญา โดยที่ไม่ได้สร้างให้แก่สัตว์และสิ่งต่าง ๆ พระองค์จึงทรงโกรธและจะตอบแทนการลงโทษหลังความตายแก่ผู้ที่สร้างความหายนะ ฉ้อโกงคนอื่น และใช้ปัญญาไปหนทางที่ผิด หรือกิน เสพสิ่งมึนเมาที่ทำลายสติปัญญาที่พระองค์ ทรงมอบให้
ไม่มีความเห็น