ใครที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองและคิดว่าจะให้ลูกหลานสืบทอดเรามาดู

การสืบทอดธุรกิจของครอบครัวตามทฤษฎีของ Longenecker นี้แบ่งออกได้เป็น 7 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 : ก่อนเข้าสู่ธุรกิจ

ระยะที่ 2 : การแนะนำเบื้องต้น

ระยะที่ 3 : การแนะนำเข้าสู่การปฏิบัติงาน

ระยะที่ 4 : การปฏิบัติงาน

ระยะที่ 5 : การปฏิบัติงานระดับสูง

ระยะที่ 6 : การรับช่วงเบื้องต้น

ระยะที่ 7 : การรับช่วงอย่างสมบูรณ์แบบ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tcdc.or.th/src/16437/www-tcdcconnect-com/%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A7">http://www.tcdc.or.th/src/16437/www-tcdcconnect-co...

"เรามารู้จักหุ้น IPO กัน เป็นความรู้มากๆเลย"

หุ้น IPO คืออะไร?

ไอ พี โอ หรือ IPO ย่อมาจากคำว่า Initial Public Offering ซึ่งก็คือการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก การจะมีหุ้นไอพีโอออกเสนอขายหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่า บริษัทมองหาแหล่งเงินทุน (ที่นอกเหนือจากเงินกู้) เพื่อขยายกิจการหรือไม่ ถ้าบริษัทต้องการเงินทุนและกระจายการถือครองหุ้นให้ประชาชนทั่วไป ก็สามารถนำหุ้นของตนออกเสนอขายได้ โดยจะต้องทำผ่านบริษัทหลักทรัพย์ที่รับเป็นผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (underwriters) ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. และต้องจัดทำหนังสือชี้ชวนตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนดไว้

หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าจะออกหลักทรัพย์เสนอขายแก่ประชาชน บริษัทผู้เสนอขายหลักทรัพย์ (Issuer) ก็จะปรึกษากับ "ที่ปรึกษาทางการเงิน" จัดทำหนังสือชี้ชวนการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ให้มีข้อมูลครบถ้วน ถูกต้อง เพื่อให้นักลงทุนอ่านทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจจองซื้อหุ้นได้

คราวนี้มารู้จักกับ "ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์" หรือที่เราเรียกกันว่า อันเดอร์ไรท์เตอร์ (Underwriter) ซึ่งก็คือบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตให้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ทำหน้าที่เสนอขายหลักทรัพย์แก่ประชาชนทั่วไปแทนบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ซึ่งการเสนอขายหุ้นไอพีโอแต่ละครั้งจะไม่มีกฎเกณฑ์แน่นอนตายตัวว่าจะจองด้วยวิธีใด ผ่านช่องทางไหน จ่ายเงินอย่างไร หรือจัดสรรอย่างไร ผู้ลงทุนจะต้องศึกษารายละเอียดต่างๆจากหนังสือชี้ชวนเอง เมื่อหุ้นได้รับจัดสรรเรียบร้อยแล้ว ก็จะถูกนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีโอกาสซื้อขายเปลี่ยนมือบนกระดาน ตลท.ต่อไป

อ่านต่อได้ที่เลย http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/StaticPage/Education/ipo_investor_t.html

วิธีแก้ไขปัญหาเมื่อขาดสภาพคล่องในการชำระหนี้

ฉันคิดว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งเพราะเราคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินเป็นปัจจัยการทำธุรกิจที่ทรงคุณค่ามากที่สุด การจัดหาเงินทุนเข้ามาเติมเต็มในระบบจึงเปรียบเสมือนเป็นการต่อลมหายใจเข้าออกให้กับธุรกิจเลยก็ว่าได้ ซึ่งหนึ่งในวิธียอดนิยมที่เหล่าบรรดานักธุรกิจทำกันมากที่สุดคงเห็นจะหนีไม่พ้น "การกู้เงิน" จากสถาบันการเงิน เพราะมันเอื้อประโยชน์ให้กับการทำธุรกิจมากกว่าการควักกระเป๋าตังค์ตัวเอง ว่าจริงไหมแต่ก็ว่าไปทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเพราะหากเราบริหารไม่ดีเราก็จะขาดสภาพคล่องกลับกลายเป็นลูกหนี้ที่ขาดชำระหนี้เจ้าหนี้เพราะฉะนั้นในฐานะนักการเงินเราควรบริหารสภาพคล่องของบริษัทให้ดี จะขอยกตัวอย่าง4ข้อ ดังนี้

1. เจรจาประนีประนอมกับเจ้าหนี้ 2. ยอมชำระค่าปรับ 3. ขอส่งดอกเบี้ยอย่างเดียว 4. ยืดเวลาการชำระหนี้

เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเราขาดสภาพคล่องและกู้เงินมานั้นเราก็ควรจะบริหารเงินให้ดีเพื่อไม่ให้กลายเป็นลูกหนี้ที่ขาดชำระถ้าเราบริหารดีเงินที่กู้มาก็จะสร้างผลกำไรให้เราต่อไป