ประวัติย่อ

เรียนอะไรมาบ้าง

• คงเป็นเพราะระหว่างเรียนปริญญาตรี ณ มอ.ปัตตานี ผมเลือกวิชาภาษาญี่ปุ่นเป็นวิชาเอกและเลือกเรียนภาษาเยอรมันเป็นวิชาโท จึงมีความรู้พื้นฐานทางภาษา สังคมและวัฒนธรรมของทั้งญี่ปุ่นและเยอรมัน รู้สึกว่าตัวเองเก่งและมีความรู้พอตัว ณ ขณะนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญหรือครูบาอาจารย์ก็ยังเทียบชั้นไม่ได้ 
• หลายปีต่อมาด้วยความสนใจที่ต่องเนื่อง พยายามไปหาที่เรียนและหาทุนต่อต่างประเทศ มี 2 สถาบันเสนอให้ทุนเรียนด้าน Asian Studies แต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวจึงต้องอำลาไม่รับทุน 
• ต้องหาที่เรียนปริญญาโทในประเทศ ได้สมัครเรียนสาขาการทูตและการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต เนื่องจากจัดสรรเวลาไม่ลงตัว เรียนไปเกือบครึ่งปีแล้วจึงขอย้ายไปสาขาจีนและอาเซียนในระบบเศรษฐกิจโลก ยังไม่ทันได้เรียนหลักสูตรต้องปรับปรุงและงดรับนักศึกษา จึงได้ย้ายมาเรียนสาขาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และที่นี่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปอีกก้าวสำคัญ 
• ต่อมาก็เข้าเรียนปริญญาเอกด้าน Peace Studies (สันติศึกษา) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เป็น ดร. กับเขาบ้างตามที่ได้ตั้งใจเกี่ยวโยงผูกพักประสบการณ์ทางวิชาการอันหลากหลาย หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและประเทศ

ทำงานอะไรมาบ้าง

• ตอนที่เรียนจบปริญญาตรี ก็ได้บรรจุเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยทักษิณ รับผิดชอบเกี่ยวกับการสอนภาษาญี่ปุ่นและดูแลกิจกรรมของนักศึกษา ช่วนนั้นเพิ่งจบใหม่ ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กจบใหม่ ยังสนุกสนาน มีครั้งหนึ่งเอารถเข็นมาเล่นเป็นสเก็ตบอร์ดกับเพื่อนอาจารย์อีกคนที่ระเบียงทางเดินของคณะฯ บังเอิญจ๊ะเอ๋… คณบดีเดินทางเห็น ก็เรียกเข้าไปแนะนำ แอร์ห้องคณบดีเย็นเฉียบยังกะขั้วโลก ตอนนั้นผู้ใหญ่เสนอให้ทุนพัฒนาอาจารย์ไปเรียนต่อโท-เอก ที่ญี่ปุ่น ณ ขณะนั้น อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้ลาออก
• เมื่อลาออกจากมหาวิทยาลัยทักษิณ ย้ายมาทำงานบริษัทญี่ปุ่น เป็นผู้ประสานงานต่างประเทศ (Japanese Coordinator) โอ้โห..เงินเดือนที่ได้รับเยอะกว่าเป็นอาจารย์ถึง 4 เท่า ณ ขณะนั้น ถือว่าเยอะมากสำหรับคนเพิ่งผ่านประสบการณ์ทำงานเพียงปีเดียว อย่างไรก็ตาม ผมก็ได้ลาออก
• ตอนที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย ได้ทราบว่าจะมีสถาบันการศึกษาญี่ปุ่นมาเปิดในไทย ระหว่างทำงานที่บริษัทญี่ปุ่น เพื่อนญี่ปุ่นในบริษัทส่งประกาศรับสมัครเจ้าหน้าที่ประสานต่างประเทศของสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น มาให้ ผมได้รับการสัมภาษณ์ปรากฎว่าจากประสบการณ์เคยเป็นอาจารย์มาก่อน จึงได้รับการจ้างเป็นอาจารย์ประจำสำนักวิชาพื้นฐานและภาษา สอนวิชาภาษาญี่ปุ่น ผมถือว่าเป็นอาจารย์ไทยคนแรกประจำประจำสำนักวิชาพื้นฐานและภาษา
• ต่อมาได้รับทุนไปอบรม ณ The Japanese-Language Institute, Urawa ประเทศญี่ปุ่น พอกลับมาสอน ได้รับการโยกย้ายมาประจำสาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมและสาขาบริหารธุรกิจญี่ปุ่น คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น สาเหตุสำคัญที่ได้รับการโยกย้าย คือ ความคิดเห็นไม่ตรงสอดคล้องและพฤติกรรมของตนเองยังไม่เหมาะกับผู้อำนวยการ สำนักวิชาพื้นฐานและภาษา ขนาดโดนติดชื่อห้ามเข้า สอนได้ประมาณ 8 ปีก็ลาออก
• กลับมาเคลียร์ปัญหาที่บ้านสักพัก ก็เริ่มเข้าประจำการเป็นนักวิเคราะห์นโยบายและแผน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี
• สักพักย้ายมาเป็นนักวิจัยอาวุโส สถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ เป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง และต่อมาก็ย้ายมาเป็นพนักงานวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ 

ปัจจุบันอัตเดตเร็ว ๆ นี้ครับ 

หน้าที่สำคัญนอกเหนืองานหลัก

• ผู้ประนีประนอมประจำศาลแรงงานภาค 1 (ระหว่างเดือนมีนาคม 2563 - พฤษภาคม 2566)
• ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพ.ร.บ. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 (ระหว่างกรกฎาคม 2565 - มิถุนายน 2568)
• ที่ปรึกษาและนักวิชาการอิสระ 
• อาจารย์พิเศษและวิทยากร

หลักสูตรอบรมสำคัญ

• หลักสูตรผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง (นพม.) รุ่นที่ 14 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)
• หลักสูตร WIPO-Summer school in IP management
• หลักสูตรไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพ.ร.บ. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 รุ่นที่ 3 โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ถ้าจะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างสร้างสรรค์กับผมโดยตรงที่  

Line : https://line.me/ti/p/Wi9YqqRQna 

twitter: @nathjarat