การศึกษา
ระดับอนุบาลถึงป.6 โรงเรียนอนุบาลนราธิวาส
ระดับมัธยม ม.1 ถึงม. 6 โรงเรียนนราธิวาส
ระดับปริญญาตรี พยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา (นี่ถ้าที่นราธิวาสมีมหาวิทยาลัยนะ ก็เรียนอยู่ที่นั่นนั่นแหล่ะ) เปลี่ยนชีวิตมาเป็นเด็กหอ มีเวลาเข้าออกหอพัก ไปไหนมาไหนต้องเซ็นชื่อเข้าออก 4 ปีกับชีวิตเด็กหอ แต่ไม่รู้สึกอึดอัด
เรียนจบก็เริ่มทำงานกับการเป็นครูพยาบาลที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา จริงๆแล้วเป็นนักเรียนทุน ต้องกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลนราธิวาส แต่เรื่องมันยาว ย่อลำบาก สรุปว่าไปเป็นครูละกัน
เป็นครูพยาบาลได้ 2 ปีก็คิดจะไปเรียนต่อ ไงล่ะ คือเราก็จบปริญญาตรี สอนนักศึกษาปริญญาตรี มันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนอกจากการถ่ายทอดจากรุ่นพี่เท่านั้น ไม่ใช่การสอนแบบครูกับศิษย์ คิดได้อย่างนั้นก็เริ่มหาสาขาที่จะเรียน เราน่ะเป็นพวกชอบรู้เรื่อยเปื่อย ไม่ชอบรู้ไชรูเท่าไหร่ เลยตัดสินใจเลือกเรียนสาขาการบริหารการพยาบาล (เป็นคนแรกของที่ทำงานที่เรียนสาขานี้) แต่ต้องรอประสบการณ์ครบ 4 ปีก่อนถึงจะเรียนได้ เรียนจบกลับมาก็สอนวิชาบริหาร ได้แนวคิด ทฤษฎีกลับมาเต็มไปหมด สอนได้ 3 ปี ไฟหมด วิชาที่ชอบตอนเรียนโทคือวิชาระเบียบวิธีวิจัย เป็นวิชาที่สอนการคิดอย่างเป็นระบบ หลักการนำไปใช้ได้กับทุกเรื่องแม้เป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน
หลังจากนั้นก็เริ่มคิดไปเรียนต่อเอก (เป็นคนแรกของที่ทำงานอีกเหมือนกันที่ไปเรียนต่อป.เอก) ความรู้อ่านเอาได้จากหนังสือ แต่ก็ยังไม่สุด เหมือนเป็นข้อมูลชั้นสอง น่าจะทำอะไรได้เต็มที่กว่านี้ คิดว่าป.เอกน่าจะให้คำตอบได้ สาขาที่เลือกเรียนก็คล้ายตอนเรียนป.โท คือชอบรู้เรื่อยเปื่อย เลยเรียนสาขาการจัดการการพยาบาล เรียนได้ 1 ปีก็ย้ายมาอยู่หาดใหญ่ ชีวิตเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทุกสิ่งล้วนเป็นสิ่งที่ดี
ป.เอก วิชาที่ชอบสุดๆคือวิชาปรัชญา เป็นเรื่องราว (ไม่ใช่วิชา) ที่บอกเล่าแนวทางการค้นหาทางออก แนะวิธีคิดในเส้นทาง ไม่รู้หรอกว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่รู้ว่าจะค้นหาทางเดินได้อย่างไร อยากแนะนำกระทรวงศึกษาธิการให้บรรจุเป็นหลักสูตรสอนตั้งแต่ระดับประถม เด็กไทยจะได้คิดหาทางออกกับทุกสิ่งได้ด้วยตัวเอง (ถ้าเรียนปรัชญา ไม่ต้องเรียนป.เอกก็ได้)
การทำงาน
ค่อยเล่าครั้งหน้า ไม่ได้ยาวมากนัก แต่อยากบอกเรื่องหน้าต่างแห่งโอกาสที่เปิดรับเราเสมอๆ กับเรื่อง "เป็นผู้บริหารได้ไม่ยากเลย"