สวัสดีครับพี่ชิว

   มิน่า พี่ชิวถึงยุ่งเชียว อิอิ

   ร้านกาแฟก็ไปได้เรื่อยๆครับ ทำเลไม่ดีเท่าไหร่ แต่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าใคร เลยสบายๆครับ ก็มีลูกค้าประจำมาเรื่อยๆครับ พอดีแม่ค้าสวยครับ อิอิ (แต่ห้ามหนุ่มๆจีบครับ หวง)

   เรื่อง thai PBS ผมชอบมากครับ โดยเฉพาะสารคดีช่วงดึกๆ สารคดีเรื่องอียิปต์ ก็น่าสนใจครับ แถมมีสามก๊กของโปรดอีกต่างหาก ขอปรบมือให้เลยครับ ใครจะว่าไงก็ช่างผมชอบสารคดีครับ ม่วนหลายเด้อครับ

   พี่ชิวสบายดีนะครับ อยากหักโหมนะครับ อิอิ รักษาสุขภาพด้วยครับ ระวังจะไม่สบายแบบผมครับ ตอนนี้ผมป่วยครับ เป็นโรคอ้วนๆๆๆๆๆ อิอิ

 สวัสดีครับ

สวัสดีครับ พี่เบิร์ด

   พอดีช่วงหลังๆไม่มีเวลาเข้ามาเลยครับ ไปทำร้านกาแฟครับ เลยไม่มีเวลาช่วงวันหยุดแล้วครับ เลยหายหน้าไปนานเลยครับ

   ขอบคุณนะครับสำหรับความคิดถึง แล้วจะแวะมาทักทายถ้ามีโอกาสนะครับ

   ขอบคุณอีกครั้งครับ

 ป.ล.ไม่ได้ไปลงทุนที่ลอนดอนครับ แต่กำลังจะไปควักกระเป๋าที่ฮ่องกงแทน อิอิ (จนแน่งานนี้)

 สวัสดีครับพี่ชิว

    เข้าไปทดลองใช้แล้วครับ ใช้ง่ายจริงๆด้วยครับ เสียแต่ว่าข้อมูลไม่ค่อยอัพเดทเท่าไหร่ อาจจะเป็นภาพที่ถ่ายไว้ราวๆ 4-6 เดือนมาแล้วเป็นอย่างน้อย แต่ก็ให้รายละเอียดได้ดีครับ เห็นหลังคาบ้านด้วยครับ อิอิ

   ขอบคุณพี่ชิวที่แนะนำของเล่นใหม่ให้นะครับ

 สวัสดีครับพี่แป๋ว

   ช่วงนี้ยุ่งมากจริงๆครับ ช่วงปลายเดือนที่แล้วไปอบรมบ่มนิสัยที่เชียงใหม่ 1 สัปดาห์ แล้วช่วงนี้กำลังแปลงร่างเป็นเจ้าของร้านกาแฟครับ เลยยุ่งๆหน่อย ไม่มีเวลามาแลกเปลี่ยนกับพวกพี่ๆเลยครับ

   หวังว่าพอร้านเปิดคงพอจะมีช่วงว่างบ้าง (มั้ง) หวังว่าพี่แป๋วคงสบายดีเช่นกันครับ  ช่วงนี้เงินหมดเลยครับ เอาไปลงร้านกาแฟหมด อิอิ

  ขอบคุณพี่แป๋วที่เป็นห่วงครับ

สวัสดีครับน้องหนิง

  ก่อนอื่นต้อขอโทษที่มาตอบช้าไปหน่อยครับ เนื่องจากช่วงก่อนยุ่งมากๆๆ เลยไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาที่นี่เท่าไหร่ กำลังลงทุนอย่างอื่นอยู่ครับ อิอิ

  เรื่องหุ้นที่มีปันผลมีหลายแบบอีกเช่นกันครับ มีแบบปันผลเป็นเงิน ปันผลเป็นลูกหุ้น(เราได้หุ้นเพิ่มจากหุ้นที่ถืออยู่เดิม) หรือปันผลเป็นใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้น (warrant) แต่ที่จะแนะก็เป็นแบบที่ปันเงินสดน่าจะดีกว่า เพราะสองแบบหลังนานๆจะมีปันให้ และมีเป็นบางบริษัทที่เค้าจะมีการเพิ่มทุนเป็นส่วนใหญ่ครับ

  หุ้นที่มีการปันผลมีหลายแบบในแง่ระยะเวลาปันผล เช่น ปันปีละครั้ง ปันราย 6 เดือน หรือปันรายสามเดือน แล้วแต่ชอบครับ แต่ส่วนใหญ่จะปันผลปีละ 2 ครั้ง

  หุ้นที่มีการปันผลมักเป็นหุ้นที่มีราคาไม่ค่อยขึ้นลงจนน่ากลัว เนื่องจากมีคนเข้าไปถือนานๆเพื่อรับปันผลก็เลยไม่ค่อยขึ้นลงในเรื่องราคาส่วนหนึ่ง เรามักรเยกหุ้นพวกนี้ว่า defensive stock (เขียนถูกมั้ยเนี่ย) หรือพวกหุ้น blue chip มักเป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่ และมีฐานะทางการเงินของบริษัทค่อนข้างมั่นคง จึงจ่ายปันผลได้ต่อเนื่อง แต่ต้องศึกษานะครับ เพราะบางบริษัทจ่ายไม่สม่ำเสมอ เราต้องเลือกที่มีประวัติการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ ทุกๆปี

   ตัวอย่างหุ้นที่จ่ายปันผลต่อเนื่อง เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค หรือจ่ายปันผลสูงๆ เช่น กลุ่มเดินเรือ

   ส่วนเรื่องเค้าจะปันผลเท่าไหร่ก็ต้องไปค้นหากันครับ เข้า web ของ settrade.com ก็ได้ครับ พิมพ์หาราคาหุ้นที่ด้านบนขวา แล้วเข้าไปดูรายละเอียดจะมีบอกครับว่าจ่ายปันผลกี่เปอร์เซน และจ่ายกี่ครั้งต่อปี ควรเลือกที่จ่ายมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และคิดเรื่องการโดนหักภาษีด้วยนะครับ

   แล้วสงสัยสอบถาม broker ที่ดูแลบัญชีเราครับ เค้าช่วยได้แน่นอน

หวังว่าคงโชคดีกับการลงทุนนะครับ

ไปดูมาแล้วนะครับ สวยงามมากครับ วาดสวยจังครับพี่หุย

พี่ชิวครับ

  ผมไม่มีความสามารถในงานประดิษฐ์เท่าไหร่เลยครับ ประมาณว่าชอบทำแต่ออกมาไม่ดีเท่าไหร่ เคยซื้อตำราพับกระดาษมาด้วยครับ แต่เอาให้เด็กข้างบ้านไปแล้ว เพราะเห็นเค้าชอบ อิอิ แล้วจะแวะไปชมบ่อยๆนะครับ

ขอบคุณครับพี่ต้น แต่อ่านแล้วรู้สึกว่ายากมาก

แต่ต้องขอขอบคุณอีกครั้งนะครับ

โห... อาจารย์ครับ เล่นเอา blog ผมเละเลย โหดจัง ยังกะ เจสัน ศุกร์ 13 มาเอง เล่นซะขาดทั้งจอ...5555

ทำไงอ่ะครับ ยังสงสัยอยู่ดี.... แบบว่าอ่อนแอทาง IT ครับ

เรียน อาจารย์บัญชา ที่เคารพ

      เรื่องยาทานก่อนอาหาร ผมคงตอบเป็นแนววิชาการ เพื่อป้องกันคนอื่นที่รู้จริงจะต่อว่าเอาได้ (แอบยืมสำนวนอาจารย์มาใช้อีกแล้ว)

 ก่อนอื่นคงต้องขอทราบรายละเอียดของตัวยาครับ ว่าเป็นยาอะไร ผมจะตอบได้ชัดเจน และรัดกุมขึ้น

   แต่หากจะตอบคร่าวๆ ยาทานก่อนอาหารอาจอยู่ในกลุ่มยาดังต่อไปนี้

1. ยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ยาแก้อักเสบ มักเป็นยาที่ต้องรับประทานก่อนอาหาร โดยเฉพาะยากลุ่ม Penicillins เนื่องจากอาหารมีผลลดการดูดซึมของยาพวกนี้อย่างมาก

2. ยาเบาหวาน ที่ต้องรับประทานก่อนอาหารเพื่อ ให้ยาออกฤทธิ์พอดีกับช่วงที่ทานอาหาร เพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดช่วงที่มีการดูดซึมอาหารพอดี

3. ยาที่ออกฤทธิ์ในระบบลำไส้ เช่น ยาแก้อาเจียรต่างๆ เนื่องจากยาต้องออกฤทธิ์ก่อนที่อาหารจะลงไปถึงลำไส้เล็ก จึงจะช่วงลดการอาเจียรได้

4. ยาอื่นๆที่การดูดซึมจะเปลี่ยน เมื่อ pH ในกระเพาะอาหารเปลี่ยนไป ก็ต้องให้ในช่วง pH ที่ดูดซึมได้ดี เช่น ยาโรคกระเพาะบางชนิด

5. ยาที่กินเวลาใดก็ได้ แต่มียาที่ต้องทานในมื้อเดียวกัน แต่เป็นยาที่เกิดอันตรกิริยากันระหว่างยาทั้งสอง จึงต้องแยกกันทานในมื้อเดียวกัน เช่น ยาลดกรด และ ยาลดการหลั่งกรดชนิดหนึ่ง เมื่อทานด้วยกัน ยาลดกรดจะลดการดูดซึมของยาลดการหลั่งกรด จึงต้องให้ทานยาลดกรดก่อนมื้ออาหาร และให้ทานยาลดการหลั่งกรดหลังมื้ออาหาร ซึ่งยาทั้งสองจะต้องทานห่างกันอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เป็นต้น

  ดังนั้นอาจารย์คงต้องกลับไปดูนิดนึงครับว่ายาที่ทานเป็นยาชนิดใด แต่หลักการทั่วไปคือ ยาก่อนอาหารควรทานก่อนอาหารอย่างน้อย ครึ่งถึง 1 ชั่วโมงครับ หากลืมรับประทานและเป็นยาที่ไม่อันตรายอะไร ให้ทานหลังอาหารไปแล้ว 2 ชั่วโมงครับ

  หวังว่าคงไม่วิชาการจนเกินไปนะครับ