ผู้นำเสนอ นางสาวรังรอง วภักดิ์เพชร
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อจับใจความชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ข้อดี มีความมั่นใจในการนำเสนอ
ข้อปรับปรุง เนื้อหาในแต่ละเฟรม มากเกินไป พูดเร็ว
ข้อเสนอแนะ ควรกระชับเนื้อหาและเวลา
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
/ |
|
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
/ |
|
4 |
ภาพ ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออก เสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
/ |
|
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
- |
8 |
1 |
ผู้นำเสนอ นายไพฑูรย์ เขียวรัตน์
ชื่อเรื่อง การพัฒนาโปรแกรมการฝึกการอบรมตามแนวไตรสิกขา เพื่อเสริมสร้างความมีวินัย
ในตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ข้อดี เนื้อหาและเวลาเหมาะสม
ข้อปรับปรุง พูดเร็ว
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
|
/ |
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
/ |
|
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออก เสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
/ |
|
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
|
7 |
2 |
ผู้นำเสนอ นางดารณี ภูมนิคม
ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้รูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาการคิดและการทำโครงงาน
ข้อดี สามารถอธิบายเนื้อหาได้ดี
ข้อปรับปรุง ใช้เวลาในการนำเสนอมากเกินไป
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (น้อย 1 ) (ปานกลาง 2) (มาก 3 )
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
|
/ |
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
/ |
|
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออกเสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
|
/ |
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
/ |
|
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
|
6 |
3 |
ผู้นำเสนอ นายสว่าง พิมพิชัย
ชื่อเรื่อง ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือแบบ STAD กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและ เทคโนโลยี เรื่องเกษตรอินทรีย์กับวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ข้อดี เนื้อหา และเวลาเหมาะสม
ข้อปรับปรุง เนื้อหาแต่ละเฟลม ควรอธิบายเพิ่มเติม
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
|
/ |
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
|
/ |
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออกเสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
/ |
|
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
|
6 |
3 |
ผู้นำเสนอ นางสาวพรทิพย์ อาจวิชัย
ชื่อเรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และความสามารถด้านการคิดอย่างมี วิจารณญาณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ประกอบการเขียน แผนผังมโนมติ กับการสอนตามปกติ
ข้อดี เนื้อหา และเวลาเหมาะสม
ข้อปรับปรุง สีตัวหนังสือกลมกลืนกับพื้นหลังเกินไป
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
/ |
|
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
/ |
|
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออกเสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
/ |
|
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
|
8 |
1 |
ผู้นำเสนอ น.ส.ธัญญรัตน์ แสนคำ
ชื่อเรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนจากวีดิทัศน์แบบ ปฏิสัมพันธ์กับการสอนปกติ เรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
ข้อดี เนื้อหาเหมาะสมกับเวลา
ข้อปรับปรุง อธิบายเร็ว
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
|
/ |
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
|
/ |
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออกเสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
/ |
|
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
|
6 |
3 |
ผู้นำเสนอ นางดวงฤดี แก้วเสถียร
ชื่อเรื่อง ผลการใช้เทคนิคยังกราฟฟิกในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ที่มีต่อการนำเสนอข้อความรู้ด้วยผังกราฟฟิก และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
ข้อดี เนื้อหาเหมาะสมกับเวลา มีการเตรียมตัวดี
ข้อปรับปรุง -
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
|
/ |
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
/ |
|
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออกเสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
|
/ |
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
/ |
|
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
|
6 |
3 |
ผู้นำเสนอ นางสุภาภรณ์ น้อยทรง
ชื่อเรื่อง การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมด้านวินัยนักเรียนช่วงชั้นที่ 3
โรงเรียนบ้านโพนสวรรค์ สพท.สกลนครเขต 3
ข้อดี เนื้อหาเหมาะสมกับเวลา
ข้อปรับปรุง ตัวหนังสือ
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
/ |
|
2 |
สีตัวอักษร |
|
/ |
|
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
/ |
|
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
|
/ |
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออกเสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
|
/ |
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
|
/ |
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
|
6 |
3 |
ผู้นำเสนอ นางสาวปราณี กุลมิน
ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ข้อดี เนื้อหาเหมาะสมกับเวลา
ข้อปรับปรุง
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
|
/ |
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
|
/ |
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออกเสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
|
/ |
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
/ |
|
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
|
5 |
4 |
ผู้นำเสนอ นางอรัญญา ช่วยวัฒนะ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการอ่านและการเขียนแจกรูปสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบฝึกทักษะ
ข้อดี เนื้อหาเหมาะสมกับเวลา
ข้อปรับปรุง
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
|
/ |
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
|
/ |
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
6 |
เทคนิคการเคลื่อนไหวระหว่างประโยค ระหว่างหน้า เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
7 |
วิธีการนำเสนอของผู้นำเสนอการ การพูด การออกเสียง เหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
8 |
เทคนิคพิเศษอื่นๆถ้ามี |
|
|
/ |
9 |
สรุปผลการประเมิน |
|
/ |
|
รวม |
|
5 |
4 |
ผู้นำเสนอ นางดุษฎี เหลาแหลม
ชื่อเรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบปกติ
กับการจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศการเรียนจากการสืบเสาะหาความรู้
ข้อดี เนื้อหาเหมาะสมกับเวลา
ข้อปรับปรุง
ข้อเสนอแนะ -
สรุปผลการประเมินระดับความเหมาะสม (ปานกลาง 2)
เกณฑ์การประเมินผู้นำเสนองาน
ลำดับที่ |
รายการ |
ระดับคะแนน |
||
น้อย ( 1 ) |
ปานกลาง (2) |
มาก ( 3 ) |
||
1 |
ขนาดตัวอักษร |
|
|
/ |
2 |
สีตัวอักษร |
|
|
/ |
3 |
การออกแบบพื้นหลัง |
|
|
/ |
4 |
ภาพประกอบรวมทั้งภาพเคลื่อนไหวเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
|
5 |
เสียงประกอบเหมาะสมหรือไม่ |
|
/ |
ไม่มีความเห็น
สรุปการเรียนรู้แบบผสมผสาน ( Blended learning )
เบล็นเด็ดเลินนิ่ง หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ ที่ผสมผสานรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ผสมผสานกับการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ผู้เรียนผู้สอนไม่เผชิญหน้ากัน หรือการใช้แหล่งเรียนรู้ที่มีอยู่หลากหลาย กระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมเกิดขึ้นจากยุทธวิธี การเรียนการสอนที่หลากรูปแบบ เป้าหมายอยู่ที่การให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้เป็นสำคัญ
การสอนด้วยวิธีการเรียนรู้แบบผสมผสานนั้น ผู้สอน สามารถใช้วิธีการสอน สองวิธีหรือมากกว่า ในการเรียนการสอน เช่น ผู้สอนนำเสนอเนื้อหาบทเรียนผ่านเทคโนโลยีผนวกกับการสอนแบบเผชิญหน้า แต่หลังจากนั้นผู้สอนนำเนื้อหาบทความแขวนไว้บนเว็บ จากนั้นติดตามการดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้อีเลินนิ่ง ด้วยระบบแอลเอ็มเอส (Learning Management System ) ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องแล็บ หลังจากนั้นสรุปบทเรียน ด้วยการอภิปรายร่วมกับอาจารย์ผู้สอนในห้องเรียน
"Blended learning เป็นสิ่งสำคัญของการศึกษาและเทคโนโลยี ,blended learning มีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว,เป็นการบูรณาการระหว่างการเรียนในชั้นเรียนและการเรียนแบบออนไลน์,สามารถช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนและการใช้เวลาในชั้นเรียนได้เหมาะสม"
การเรียนแบบผสมผสาน (Blended learning)
การเรียนแบบผสมผสาน (Blended learning)การเรียนแบบผสมผสาน เป็นการรวมกันหรือนำสิ่งต่างๆมาผสม โดยที่สิ่งที่ถูกผสมนั้น คือ
- รวม รูปแบบการเรียนการสอน
- รวม วิธีการเรียนการสอน
- รวม การเรียนแบบออนไลด์ และรูปแบบการเรียนการสอนในชั้นเรียนการเติบโตของการเรียนแบบ ผสมผสานตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตการเรียนรู้แบบผสมผสาน โดยในอดีตนั้น การเรียนแบบผสมผสานคือส่วนที่ได้มีการรวมเข้าหากันจาก 2 รูปแบบสภาพแวดล้อมของการเรียนแบบเดิม นั้นก็คือ การเรียนแบบเผชิญหน้าในชั้นเรียนกับ การเรียนแบบออนไลน์ ซึ่งในอดีตนั้นการเรียนทั้ง 2 รูปแบบจะมีช่องว่างหรือระยะห่างระหว่างกันค่อยข้างมาก คือจะมีการจัดการเรียนการสอนเฉพาะของตัวเองมีรูปแบบ และการดำเนินการในรูปแบบที่ต่างกันเพราะว่าต่างก็ใช้สื่อและเครื่องมือที่แตกต่างกัน และมีสถานที่ในการเรียนที่แตกต่างกันเพราะมีกลุ่มผู้เรียนที่ต่างกันด้วย แต่ในขณะเดียวกันนั้นการเรียนแบบทางไกลก็กำลังมีการเติบโตและแผ่ขยายอย่างรวดเร็วซึ่งได้เข้ามาในรูปของเทคโนโลยีใหม่ ที่มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่การเรียนแบบออนไลน์นั้นจะมีการแผ่ขยายเข้ามาสู่การเรียนใน ชั้นเรียนอย่างรวดเร็วในปัจจุบันการเรียนแบบออนไลน์นั้นได้เข้ามามีส่วนร่วมในการติดต่อสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมในการเรียนการสอนในชั้นเรียนเกิดเป็นการเรียนแบบผสมผสานขึ้นมาซึ่งคาดว่าในอนาคตนั้นการเรียนแบบผสมผสานจะมีการขยายตัวที่มากขึ้นตามรูปแบบการเรียนแบบออนไลน์ที่จะมีการเติบโตขึ้นมากกว่าปัจจุบัน จึงส่งผลให้การเรียนแบบผสมผสานนั้นมีการขยายวงกว้างออกไปจากเดิมยิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อดี-ข้อเสีย
การเรียนแบบผสมผสานสรุป Blended Learning การเรียนการสอนแบบผสมผสาน ความหมายและความสำคัญ
1. การเรียนแบบผสมผสาน (blended learning) เป็นการเรียนที่ใช้กิจกรรมที่ต้องออนไลน์และการพบปะกันในห้องเรียนจริง (hybrid) โดยใช้สื่อที่มีความหลากหลายเหมาะกับบริบทและสถานการณ์ การเรียนรู้ เพื่อตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
2. การเรียนแบบผสมผสาน เป็นการรวมกันหรือนำสิ่งต่าง ๆ มาผสม โดยที่สิ่งที่ถูกผสมนั้น การเรียนอาจจะเรียนในห้องเรียน 60% เรียนบนเว็บ 40% ไม่ได้มีกฎตายตัวว่าจะต้องผสมผสานกันเท่าใด เช่น- รวม รูปแบบการเรียนการสอน- รวม วิธีการเรียนการสอน- รวม การเรียนแบบออนไลน์ และรูปแบบการเรียนการสอนใน
ชั้นเรียน
3. การเรียนแบบผสมผสาน (Blended learning) การเติบโตของการเรียนแบบผสมผสานตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตการเรียนรู้แบบผสมผสาน โดยในอดีตนั้น การเรียนแบบผสมผสานคือส่วนที่ได้มีการรวมเข้าหากัน จาก 2 รูปแบบ
3.1 สภาพแวดล้อมของการเรียนแบบเดิม นั้นก็คือ การเรียนแบบเผชิญหน้าในชั้นเรียน
3.2 การเรียนแบบออนไลน์ ซึ่งในอดีตนั้นการเรียนทั้ง 2 รูปแบบจะมีช่องว่างหรือระยะห่างระหว่างกันค่อยข้างมาก คือจะมีการจัดการเรียนการสอนเฉพาะของตัวเองมีรูปแบบ และการดำเนินการในรูปแบบที่ต่างกันเพราะว่าต่างก็ใช้สื่อและเครื่องมือที่แตกต่างกัน และมีสถานที่ในการเรียนที่แตกต่างกันเพราะมีกลุ่มผู้เรียนที่ต่างกันด้วย แต่ในขณะเดียวกันนั้นการเรียนแบบทางไกลก็กำลังมีการเติบโตและแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้เข้ามาในรูปของเทคโนโลยีใหม่ ที่มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่การเรียนแบบออนไลน์นั้นจะมีการแผ่ขยายเข้ามาสู่การเรียนในชั้นเรียนอย่างรวดเร็วในปัจจุบันการเรียนแบบออนไลน์นั้นได้เข้ามามีส่วนร่วมในการติดต่อสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ร่วม ในการเรียนการสอนในชั้นเรียนเกิดเป็นการเรียนแบบผสมผสานขึ้นมาซึ่งคาดว่าในอนาคตนั้นการเรียนแบบผสมผสานจะมีการขยายตัวที่มากขึ้นตามรูปแบบการเรียนแบบออนไลน์ที่จะมีการเติบโตขึ้นมากกว่าปัจจุบัน จึงส่งผลให้การเรียนแบบผสมผสานนั้นมีการขยายวงกว้างออกไปจากเดิมยิ่งขึ้นอีกด้วย
สรุป
1. การเรียนการสอนแบบผสมผสาน Blended Learning เป็นการเรียนรู้แบบผสมผสานหลากหลายวิธี เพื่อให้ผู้เรียนได้มีการเรียนรู้ที่หลากหลาย และเพื่อผู้เรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพเหมาะกับบริบทและสถานการณ์ การเรียนรู้และตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลเกิดการเรียนรู้และเกิดทักษะด้านการปฏิบัติ (Practice Skill )โดยใช้เทคโนโลยี เช่น การเรียนการสอนในชั้นเรียนร่วมกับการเรียนการสอนแบบออนไลน์(a combination of face-to-face and Onine Learning) การเรียนแบบหมวก 6 ใบ, สตอรี่ไลน์ จุดมุ่งหมายสูงสุดอยู่ที่ผู้เรียน โดยอัตราส่วนการผสมผสาน จะขึ้นอยู่กับลักษณะเนื้อหา และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กรณี - ครูผู้สอนสั่งงานทาง e-mail หรือ chatroom หรือ webbord ถือเป็นการเรียนรู้แบบผสมผสาน- ครูสั่งให้ส่งงานเป็นรูปเล่มรายงานถือว่าเป็นการเรียนรู้แบบผสมผสานเช่นกัน เพราะต้องไปค้นคว้าสืบค้นข้อมูลและนำมาอภิปราย สรุป เนื้อหาเป็นแนวเดียวกัน ผู้เรียนทุกคนเข้าใจตรงกัน
2. การใช้งานจริง ณ ขณะนี้ สรุป การใช้ Blended Learning ในองค์กร หรือบริษัท ช่วยในการประชุม การสั่งงาน โดยมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระบบเครือข่าย ส่วนมาก นิยมใช้ระบบ LMS เป็นระบบการบริหาร ผ่าน Sever เป็นระบบเครือข่ายผู้ใช้งานในระบบ
2.1 กลุ่มผู้บริหาร Administrator ทำหน้าที่ดูแลระบบ
2.2 กลุ่ม ครู อาจารย์ Instructor/ teacher ทำหน้าที่สอน
2.3 กลุ่มผู้เรียน Student /Guest นักเรียน นักศึกษา
สำหรับขั้นตอนการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานของ Beijing Normal University (BNU) ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลักดังนี้
1. ขั้นก่อนการวิเคราะห์ (Pre-Analysis) เป็นขั้นตอนแรกของการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน ประกอบการพิจารณาข้อมูลทั่ว ๆ ไป ได้แก่
1.1 การวิเคราะห์คุณสมบัติของผู้เรียน
1.2 การวิเคราะห์วัตถุประสงค์ในการเรียนรู้
1.3 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของการเรียนรู้แบบผสมผสานผลลัพธ์ที่ได้จากขั้นตอนแรก จะเป็นรายงานผลที่จะนำไปใช้ในขั้นต่อไป
2. ขั้นการออกแบบกิจกรรมและการออกแบบวัสดุการเรียนรู้ (Design of Activity and Resources) เป็นขั้นตอนที่สองที่นำผลลัพธ์ที่ได้จากขั้นตอนแรกมาออกแบบกิจกรรมและวัสดุการเรียนรู้ ซึ่งจำแนกออกเป็น 3 ส่วนย่อย ๆ ได้แก่
2.1 การออกแบบภาพรวมของการเรียนรู้แบบผสมผสาน ประกอบด้วย
- กิจกรรมการเรียนรู้แต่ละหน่วยเรียน
- กลยุทธ์การนำส่งบทเรียนในการเรียนรู้แบบผสมผสาน
- ส่วนสนับสนุนการเรียนรู้แบบผสมผสาน
2.2 การออกแบบกิจกรรมแต่ละหน่วยเรียนประกอบด้วย
- นิยามผลการกระทำของผู้เรียน
- กิจกรรมในแต่ละวัตถุประสงค์
- การจัดกลุ่มของกิจกรรมทั้งหมด
- การประเมินผลในแต่ละหน่วยเรียน
2.3 การออกแบบและพัฒนาวัสดุการเรียนรู้ประกอบด้วย
- การเลือกสรรเนื้อหาสาระ
- การพัฒนากรณีต่าง ๆ
- การนำเสนอผลการออกแบบและการพัฒนาผลที่ได้จากขั้นตอนที่สอง จะเป็นรายละเอียดของการออกแบบบทเรียนในแต่ละส่วน
3. ขั้นการประเมินผลการเรียนการสอน (Instructional Assessment) เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานประกอบด้วย
3.1 การประเมินผลขั้นตอนการเรียนรู้
3.2 การจัดการสอบตามหลักสูตร
3.3 การประเมินผลกิจกรรมทั้งหมดผลที่ได้จากขั้นตอนสุดท้าย จะนำไปพิจารณาตรวจปรับกระบวนการออกแบบในแต่ละขั้นที่ผ่านมาทั้งหมด เพื่อให้การเรียนรู้แบบผสมผสานมีประสิทธิภาพและเกดประสิทธิผลกับผู้เรียนอย่างแท้จริง
ขั้นตอนการออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน
การเรียนรู้แบบผสมผสานมีสิ่งต่างๆจะต้องพิจารณา ดังนี้
1. เพิ่มทางเลือกของวิธีการนำส่งการเรียนรู้ไปยังผู้เรียนให้มีความหลากหลายมากขึ้น จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ออกแบบ
2. เกณฑ์การตัดสินความสำเร็จในการเรียนรู้แบบผสมผสานไม่ได้มีเพียงเกณฑ์เดียว เช่น รูปแบบการเรียนรู้และวิธีการเรียนรู้ ซึ่งสามารถนำมาพิจารณาร่วมกันได้
3. การออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานจะต้องพิจารณาประเด็นของความเร็วในการเรียนรู้ ขนาดของผู้เรียน และการสนับสนุนช่วยเหลือผู้เรียน
4. สภาพแวดล้อมทางการเรียนของผู้เรียน จะมีความแตกต่างกันเป็นธรรมชาติซึ่งการจัดการเรียนรู้จะต้องสนับสนุนให้ผู้เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์เป็นสำคัญ
5. หน้าที่ของผู้เรียน จะต้องศึกษาและค้นพบตัวเอง เพื่อสร้างสรรค์ความรู้ตามศักยภาพของตนเอง
6. การออกแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานต้องการทีมงานออกแบบที่มีความรู้เรื่องการปรับปรุงด้านธุรกิจด้วยเช่นกัน
กรณี - การเรียนการสอนทางไกลของ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ) ถือว่าเป็นการเรียนการสอนแบบผสมผสานเช่นกัน
คอร์สการเรียนภาษาอังกฤษทางไกล ของ แอนดรูส์ บิ๊ก ที่ใช้ระบบ(Bkended Learning for Distance Learning) ซึ่งสามารถสอนนักเรียนพร้อมกันทีเดียวได้เป็นพันคน
3. ประโยชน์ ข้อดี และข้อเสีย
ประโยชน์ ข้อดี
1. แบ่งเวลาเรียนอย่างอิสระ
2. เลือกสถานที่เรียนอย่างอิสระ
3. เรียนด้วยระดับความเร็วของตนเอง
4. สื่อสารอย่างใกล้ชิดกับครูผู้สอน
5. การผสมผสานระหว่างการเรียนแบบดั้งเดิมและแบบอนาคต
6. เรียนกับสื่อมัลติมีเดีย
7. เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง Child center
8. ผู้เรียนสามารถมีเวลาในการค้นคว้าข้อมูลมาก สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลได้อย่างดี
9. สามารถส่งเสริมความแม่นยำ ถ่ายโอนความรู้จากผู้หนึ่งไปยังผู้หนึ่งได้ สามารถทราบผลปฏิบัติย้อนกลับได้รวดเร็ว (กาเย่)
10. สร้างแรงจูงใจในบทเรียนได้(กาเย่)
11. ให้แนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้(กาเย่)
12. สามารถทบทวนความรู้เดิม และสืบค้นความรู้ใหม่ได้ตลอดเวลา (กาเย่)
13. สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่รบกวนภายในชั้นเรียนได้ ทำให้ผู้เรียนมีสมาธิในการเรียน
14. ผู้เรียนมีช่องทางในการเรียน สามารถเข้าถึงผู้สอนได้
15. เหมาะสำหรับผู้เรียนที่ค่อนข้างขาดความมั่นใจในตัวเอง
16. ใช้ในบริษัท หรือองค์กรต่างๆ สามารถลดต้นทุนในการอบรม สัมมนาได้
ข้อเสีย
1. ไม่สามารถแสดงความคิดเห็น หรือถ่ายทอดความคิดเห็นอย่างรวดเร็ว
2. มีความล่าช้าในการปฏิสัมพันธ์
3. การมีส่วนร่วมน้อย โดยผู้เรียนไม่สามารถมีส่วนร่วมทุกคน
4. ความไม่พร้อมด้าน ซอฟแวร์ Software บางอย่างมีราคาแพง (ของจริง)
5. ใช้งานค่อนข้างยาก สำหรับผู้ไม่มีความรู้ด้าน ซอฟแวร์ Software
6. ผู้เรียนบางคนคิดว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เพราะราคาอุปกรณ์ค่อนข้างสูง
7. ผู้เรียนต้องมีความรู้ ความเข้าใจด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์ เพื่อเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
8. ผู้เรียนต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเองอย่างสูง ในการเรียนการสอนแบบนี้
9. ความแตกต่างของผู้เรียนแต่ละคนเป็นอุปสรรคในการเรียนการสอนแบบผสมผสาน
10. สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมในการใช้เครือข่าย หรือระบบอินเทอร์เน็ต เกิดปัญหาด้านสัญญาณ
11. ขาดการปฏิสัมพันธ์แบบ face to faec (เรียลไทม์)
ความเป็นไปได้ในการไปใช้งานจริงของ Blened Learning การเรียนการสอนแบบผสมผสาน
1. มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุค ICT ทำให้มีการเรียนรู้ที่หลากหลายวิธี เช่น 2 วิธี หรือมากกว่านั้นได้
2. ดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ e-Learning
3. สามารถนำไปใช้ได้จริงในสถานศึกษา เช่น โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย รวมไปถึง บริษัท องค์กร ต่าง ๆ เพื่อประหยัดงบประมาณและต้นทุน
4. เป็นไปได้หรือไม่ในการนำไปใช้งานได้จริงขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ความเหมาะสมขององค์ประกอบในการจัดการเรียนการสอน อุปกรณ์ ผู้เรียน และผู้สอน
จากการศึกษาการเรียนรู้แบบผสมผสาน ( Blended learning )
สามารถนำไปใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนากรบวนการเรียนการสอนให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ทั้งด้านความรู้ เจตคติ และทักษะ นอกจากนี้ยังทำให้รู้จักเลือกใช้วิธีการสอนหลายๆวิธีอย่างผสมผสานกัน ให้สอดคล้อง เหมาะสมกับสานการผู้เรียนและเนื้อหาวิชาซึ่งทำให้การเรียนการสอนสนุก น่าสนใจ และเปลี่ยนบรรยากาศการเรียนการสอนให้ดีขึ้น
ไม่มีความเห็น
- วิเคราะห์ข้อสอบปรนัยแบบอิงกลุ่ม / แบบอิงเกณฑ์
- วิเคราะห์ข้อสอบแบบอัตนัย
- หาประสิทธิภาพของแบบทดสอบ ได้แก่
1) ความตรง (Validity) ได้แก่ ดัชนี IOC และ IOA
2) ความเชื่อมั่น (Reliability) ได้แก่ ใช้วิธีสอบซ้ำ (Test - Retest) ใช้แบบทดสอบคู่ขนาน (Equivalence Forms) ใช้วิธีแบ่งครึ่ง (Split-Half) ใช้วิธีคูเดอร์ริชาร์ดสัน (KR-21)
- หาประสิทธิภาพแผนการจัดการเรียนรู้ / สื่อและนวัตกรรม / แบบฝึก,ชุดฝึก โดยให้ค่าสถิติ T-test ก่อนเรียนและหลังเรียน ให้ค่า C.V. ให้ค่า E.I. และให้ค่า E1/E2 ตลอดจนสามารถสรุปได้ว่าแผนการจัดการเรียนรู้/สื่อและนวัตกรรม/แบบฝึกชุดฝึกดีหรือไม่ดี
- หาค่าสถิติวิจัยเชิงทดลอง 2 วิธี คือ
๑) โดยใช้กลุ่มเดียว สอบก่อนเรียนและหลังเรียนแล้วคีย์คะแนนหาค่าสถิติ
๒) โดยใช้กลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง เช่น กลุ่มควบคุมสอนแบบบรรยาย กลุ่มทดลองสอนแบบสาธิต
- หาค่าสถิติวิจัยเชิงบรรยายได้ เช่น สถิติรายข้อ (ทั้งกลุ่มตัวอย่างที่เป็นอิสระและไม่เป็นอิสระต่อกัน) เปรียบเทียบตัวแปรต้น 2 ตัวแปร จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นอิสระและไม่เป็นอิสระต่อกัน
มันยาวเกินกว่าจะอ่านได้ในอนุทินนะคะนี่ น่าเอาไปใส่เป็นบันทึก
เรื่อง การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สาระวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ครูผู้สอนได้นำกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์มาใช้ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหา แสวงหาหรือสร้างความรู้ได้ด้วยตนเอง และกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ สามารถนำทฤษฎีพหุปัญญามาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้
การวิจัยในครั้งนี้ เพื่อเปรียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ ของนักเรียน ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญาและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2549 โรงเรียนบ้านพระบาทท่าเรือ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 96 คน จาก 2 ห้องเรียน ได้กลุ่มตัวอย่างมาโดยการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive Sampling) เพื่อใช้เป็นกลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ โดยประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญา และกลุ่มควบคุมที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองมี 4 ชนิด ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนแบบปกติ แบบละ 16 แผน ทำการสอนแผนละ 2-3 ชั่วโมง รวมแต่ละแบบ 45 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 3 ฉบับ ฉบับที่ 1 เรื่อง การดำรงชีวิตของพืช จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากรายข้อตั้งแต่ .21 ถึง .76 ค่าอำนาจรายข้อจำแนกตั้งแต่ .21 ถึง .68 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .85 ฉบับที่ 2 เรื่อง การดำรงชีวิตของสัตว์ จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากรายข้อตั้งแต่ .21 ถึง .76 ค่าอำนาจรายข้อจำแนกตั้งแต่ .21 ถึง .84 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .89 ฉบับ แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากรายข้อตั้งแต่ .21 ถึง .63 ค่าอำนาจรายข้อจำแนกตั้งแต่ .21 ถึง .89 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .83 แบบประเมินโครงงานวิทยาศาสตร์ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มี 2 ฉบับ แบบประเมินโดยนักเรียน จำนวน 25 ข้อ ฉบับที่ 2 แบบประเมินโดยครูผู้สอน 5 ระดับ จำนวน 18 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนวิทยาศาสตร์ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) 5 ระดับ จำนวน 18 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rxy) ตั้งแต่ .21 ถึง .86 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .73 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ค่าเฉลี่ยเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test (Independent Sanples)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยทางสถิติที่ระดับ .05
2. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ มีมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานวิทยาศาสตร์ มีความพึงพอใจในการเรียนสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ไม่มีความเห็น