"
การอ่านมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่รักความก้าวหน้า เพราะการอ่านจะช่วยเปิดสติปัญญาของเราให้เป็นคนรู้ทันโลก และเข้าใจในหลักวิชาการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย แต่น่าเสียดายที่น้องๆ หลายคนไม่รักการอ่านเอาเสียเลย หลายคนมาบ่นให้ฟังว่าการอ่านนั้นช่างแสนน่าเบื่อหน่าย วันนี้ ท่านพี่จึงได้นำเคล็ดลับดีๆ ที่จะทำให้น้องๆ สามารถอ่านหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนี้ค่ะ
1.สร้างสมาธิในการอ่าน โดยก่อนการอ่านทุกครั้งให้หลับตาสูดหายใจลึกๆ นึกถึงธรรมชาติและทิวทัศน์ที่งดงามทำจะทำให้จิตใจของน้องๆ สดชื่นแจ่มใส
2. สิ่งรบกวนต่างๆ เช่นวิทยุ โทรทัศน์เสียงดังๆ นั้นให้ปิดเสีย ควรเปิดเพลงที่ฟังแล้วสบายอารมณ์มากกว่า
3. ทำความเข้าใจกับเนื้อหาหนังสือทั้งเล่มด้วยการอ่านหน้าคำนำก่อน พอเรารู้คร่าวๆ ถึงเนื้อหาที่เราต้องการจากหนังสือเล่มนั้นแล้ว เราจะมีภาพอยู่ในใจและทำให้อ่านหนังสือเล่มนั้นได้เข้าใจยิ่งขึ้น จากนั้นจึงเริ่มอ่านรายละเอียด
4. จัดทำสรุปย่อ โดย การบันทึกความเข้าใจในแต่ละหัวข้อของเราเป็นข้อเขียน เขียนสรุปโดยใช้ภาษาของเราเองลงในกระดาษ หรือขีดเส้นใต้ส่วนสำคัญลงในหนังสือ
5. ทบทวน โดยการอ่านจากบันทึกย่อของเราหรืออ่านตรงที่ขีดเส้นใต้ไว้ เป็นการทบทวนความจำของเราอีกครั้งหนึ่ง
เราอ่านรายละเอียดในหนังสือเพื่อสร้างความเข้าใจ แต่เราอ่านสรุปย่อของเราเพื่อเพิ่มพูนความจำ ซึ่งหากน้องๆ ทุกคนทำอย่างที่พี่แนะนำไว้ให้ได้แล้ว ก็จะเป็นนักอ่านตัวยงที่สามารถจดจำได้ทั้งตำราเรียน และหนังสือความรู้ต่างๆ ได้อย่างวิเศษทีเดียวค่ะ"
ที่มา...
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย ครูไทเลย
น่าจะนำไปเขียนเป็นบันทึก มากกว่าเป็นอนุทินนะคะ เพราะจะทำให้มีผู้อ่านจำนวนมากกว่า
"ศตวรรษที่ 21 สถานการณ์โลกมีความแตกต่างจากศตวรรษที่ 20 และ 19 ระบบการศึกษา ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะความเป็นจริง
ในประเทศสหรัฐอเมริกาแนวคิดเรื่อง "ทักษะแห่งอนาคตใหม่: การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21" ได้ถูกพัฒนาขึ้น โดยภาคส่วนที่เกิดจากวงการนอกการศึกษา ประกอบด้วย บริษัทเอกชนชั้นนำขนาดใหญ่ เช่น บริษัทแอปเปิ้ล บริษัทไมโครซอฟ บริษัทวอล์ดิสนีย์ องค์กรวิชาชีพระดับประเทศ และสำนักงานด้านการศึกษาของรัฐ รวมตัวและก่อตั้งเป็นเครือข่ายองค์กรความร่วมมือเพื่อทักษะการเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 (Partnership for 21st Century Skills) หรือเรียกย่อๆว่า เครือข่าย P21
หน่วยงานเหล่านี้มีความกังวลและเห็นความจำเป็นที่เยาวชนจะต้องมีทักษะสำหรับ การออกไปดำรงชีวิตในโลกแห่งศตวรรษที่ 21 ที่เปลี่ยนไปจากศตวรรษที่ 20 และ 19 จึงได้พัฒนาวิสัยทัศน์และกรอบความคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21ขึ้น สามารถสรุปทักษะสำคัญอย่างย่อๆ ที่เด็กและเยาวชนควรมีได้ว่า ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม หรือ 3R และ 4C ซึ่งมีองค์ประกอบ ดังนี้
แนวคิดทักษะแห่งอนาคตใหม่: การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 คืออย่างไร และคุณลักษณะที่เด็กและเยาวชนพึงมีในโลกยุคใหม่คืออย่างไร http://www.scribd.com/doc/97624333/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-21">คลิกเพื่ออ่านต่อและดาวน์โหลดเอกสารที่นี่
นอกจากนี้ยังมีนักการศึกษาอีกท่านหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันเรื่องการฎิรูปการเรียนรู้ดังกล่าวให้กว้างขวางขึ้น คือ เซอร์เคน โรบินสัน นักการ ศึกษาระดับโลก โดยได้เน้นยำ้ถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงแนวคิดการจัดการศึกษาระบบโรงงาน มาเป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้คิดอย่างสร้างสรรค์และเข้า กับบริบทของโลกที่ได้เปลี่ยนแปลงไป ชมแอนิเมชั่นด้านบน การเปลี่ยนแปลงแนวคิดด้านการศึกษาในศตวรรษที่ 21 (Changing Education Paradigms) โดย เซอร์เคน โรบินสัน
กรอบแนวคิดข้างต้นเองก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตใหม่ใน ประเทศไทยและท่านที่ริเริ่มและมีบทบาทสำคัญในการผลักดันได้แก่ ศ.นพ. วิจารณ์ พานิช โดยท่านได้เขียนลงบล็อก http://www.gotoknow.org อยู่เป็นประจำ รวมถึงได้เขียนหนังสือออกมาชื่อว่า
วิถีสร้างการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21
(สามารถดาวน์โหลดหนังสือได้ที่ http://www.noppawan.sskru.ac.th/data/learn_c21.pdf)
หรือชมวีดีทัศน์ "วิถีสร้างการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21" โดย ศ. นพ. วิจารณ์ พานิช"
นี่ก็ยิ่งน่านำไปเขียนเป็นบันทึกค่ะ
เห็นด้วยกับอาจารย์ไอดิน-กลิ่นไม้ครับ