อนุทินล่าสุด


krupong
เขียนเมื่อ

@ คนเรามักสร้างเส้นทางชีวิตไว้หลายทางเลือก เพื่อหาความหวังตามความฝันของตัวเอง บางครั้งสับสน ไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหนดี หลายคนชอบเดินตามทางเดิมที่เคยชนะ ไม่อยากเจอคำว่าแพ้บนเส้นทางใหม่ จึงทำให้ยิ่งมองไกลกำลังใจยิ่งหมด โลกนี้จึงกว้างเท่าที่เห็น คนเราต้องไม่ยอมแพ้กับชีวิต บางสถานการณ์คำว่า สู้นะโว้ย ก็ช่วยเพิ่มพลังได้ดีเหมือนกันนะ แต่ถ้าพลาด แพ้อีกแล้ว ก็ไม่เห็นเป็นไร ยังไงชีวิตย่อมมีท่าไม้ตายเก็บไว้ใช้ในคราวต่อไป เหมือนมิสเตอร์ลีโอ เบอร์เนทท์เคยพูดไว้ว่า...เมื่อคุณเอื้อมมือคว้าดาว คุณอาจไม่ได้ดาวเลยสักดวง แต่สิ่งที่ได้ติดมือมาย่อมไม่ใช่โคลนตมแน่นอน @ 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ ในความทรงจำ เป็นที่เก็บเรื่องราวมีทั้งดีและร้าย ที่เราประสบพอเจอตามรายทางและกาลเวลา เรื่องราวใดที่ประทับใจ หัวใจรู้สึก ส่งต่อให้สมองคิดและเลือกจำ ในเรื่องของความรัก/ความผูกพันกับใครซักคน บางครั้งสมองชอบล้อเล่นกับหัวใจ บางสิ่งตั้งใจจำ มันแกล้งลืม บางอย่างบังคับให้ลืม มันกลับตอกยำว่าต้องจดจำ  แต่ถ้าจำแล้วต้องทนเจ็บนานๆ แผลอาจเรื้อรัง การป้อนข้อมูลบังคับให้สมองและหัวใจจำว่า คนที่เรายกย่องบูชาไร้คุณค่าต่อเรา ก็เป็นการใช้การจำเพื่อการลืมได้ดีเหมือนกัน ถึงมันจะใจร้าย แต่ในเมื่อหัวใจเป็นของเราจะให้มันเศร้าได้อย่างไร @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ จงพอใจกับสิ่งที่มี ยินดีกับสิ่งที่ได้ ทำอะไรให้สุดๆและหยุดอยู่ตรงคำว่าพอ (ทันตแพทย์สม สุชีรา:คู่มือแสวงพรสวรรค์) เราทุกคนวาดแผนที่ชีวิตและเดินตามแผนที่นั้นได้ด้วยตนเอง บ้างมีประสบการณ์ประทับใจ น่าจดจำ บ้างก็จำต้องผ่านเหตุเลวร้ายที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ ความสุขที่เพียงพอมันรออยู่ ณ จุดไหน ถ้าสิ่งที่ทำและเป็นสุขแท้ มันจะอยู่ ณ จุดไหน เราอย่าไปใส่ใจ ยังไง ยังไง วันหนึ่งก็ต้องหาเจอ  



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ หวานเป็นลม ขมเป็นยา คนส่วนใหญ่มักติดรสหวาน ไม่ว่าจะเป็นรสหวานของความรักหรือความสำเร็จ และคาดหวังว่าต้องได้ดังหวัง ในทิศทางเดินของชีวิตเราไม่ควรไปตั้งแง่กับความขมฝาด เพราะธรรมชาติสร้างความหวานและความขมเพื่อเป็นสมดุลในชีวิต วันใดวันหนึ่งข้างหน้าหลงติดรสหวานมากเกินไป หวานกับขมจะช่วยผสมเป็นสูตรที่ลงตัว เมื่อหวานเป็นลม ขมก็จะช่วยปฐมพยาบาลได้ @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ ดอกฟ้าถึงอยู่สูงกว่าดอกหญ้า แต่จะมีคุณค่าอะไรหากไม่มีใครจะเอื้อมถึง ดอกหญ้าแม้อยู่ตำ เสี่ยงต่อการถูกเหยียบถูกยำ แต่มันไม่ต้องชำใจเท่าดอกฟ้าที่ถูกตราหน้าว่า...มีค่าได้แค่เป็นที่หมายปองของหมาวัด @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ เมื่อมีรักแล้วทำให้เหนื่อยใจ การมีระยะห่างไกลกันบ้างก็ถือเป็นการหยุดพัก   แต่ถ้านานนัก ถึงอย่างไร...รักนั้นก็มักจะหาย @

                           



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ เมื่อมีสิ่งหนึ่ง ย่อมมีอีกสิ่งหนึ่ง ปัญหาจะเป็นปัญหา เมื่อใจเราเข้าไปยุ่งและดึงมันมาเป็นปัญหา การยอมรับและไม่จมปลักอยู่กับปัญหา จึงเป็นการเปลี่ยนคุณค่าของความหมาย มุมมอง และความรู้สึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โอกาสข้างหน้าความรู้สึกกลายเป็นความรัก จะทำให้เรารู้จักให้อภัย ทุกย่างก้าวที่มุ่งต่อไป ปัญหาที่จำต้องแก้ไข ยังไงย่อมมีค่ามากกว่าศูนย์ @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ โอกาสและจังหวะของเวลา ไม่ได้ผ่านมายิ้มและหยุดเป็นเพื่อนเราเสมอไป หนึ่งวินาทีของคนที่รู้ค่า รู้จักเพิ่มประสบการณ์ในอดีต  เติมประสิทธิภาพในปัจจุบัน และก้าวทันสถานการณ์รอบด้าน  ย่อมดีกว่าหนึ่งวันของคนที่ชอบจ้องมองและเฝ้ารอนับแต่วันเวลาเสมอ @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ ชีพจรชีวิตจะเดินไปถูกจังหวะ การตัด/ลดละอะไรบางอย่างในชีวิตออกบ้าง บางครั้งก็มีพลังมากกว่าการมุ่งแสวงหาบางสิ่งมาใส่เพิ่ม การค่อยๆคิด ค่อยๆเติมความรู้ใส่ตัว ลบความหวาดกลัวที่จะผิดพลาด รู้จักใช้ประสบการณ์อย่างชาญฉลาด เส้นทางในการค้นหาความสว่างแห่งชีวิต ของคนที่คิดว่าตัวเองไม่ฉลาด ย่อมมีเสน่ห์และยั่วให้อยาก มากกว่าคนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักปราชญ์เสมอ @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ บนถนนชีวิต ทุกคนมีสิทธิ์เป็นพระเอก/นางเอก ต่างกันที่อุดมคติและวิถีชีวิต การเที่ยวไปป่าวประกาศหรือติดป้ายแก่ใครๆ เราส่วนเรา เขาส่วนเขา เรา เขา และโลกไม่มีความเป็นอันเดียวกัน จึงทำให้ชีวิตนี้จำต้องโดดออกมาเดี่ยวและยอมรับความเดียวดาย  สวรรค์เปรียบสุข นรกเทียบทุกข์ สุข/ทุกข์คิดแทนกันไม่ได้ ทะเลอาจเป็นนรกสำหรับคนอกหัก บาร์คลับเป็นดั่งสวรรค์ของนักดื่มสุรา โลกนี้เปรียบเหมือนกระจกบานใหญ่ ถ้ามองด้วยใบหน้าที่สดใส เราจะรู้ว่าจิตใจเรานั้นงดงาม อยากเป็นคนใจงาม หมั่นสำรวจตรวจสอบตัวเอง แสวงหาจุดร่วม สงวนความคิดที่ต่าง เราก็จะไม่อ้างว้างตามรายทางที่ก้าวเดิน @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความฝันนั้น เรายากที่จะควบคุม มีแต่โลกแห่งความจริงที่เราสร้างสรรค์ได้ คนเรามีศักยภาพในตัวเองมากมาย ถึงแม้จะมีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน หากมีใจอดทน มุ่งมั่น รู้จักเดินหน้าหาโอกาสที่ดี ชีวิตนี้ย่อมมีแต่กำไร@



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ บางจังหวะของอารมณ์มีความรู้สึกว่า นาฬิกาหรือใจเรากันแน่ ที่เป็นตัวกำหนด บรรจงขีดเส้นให้ชีวิตนี้ ต้องวิ่งตามหาอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา มันจึงไม่แปลก ที่ความรู้สึกอ้างว้าง จึงไม่ยอมห่างหายจากใจเรา จริงอยู่ เราไม่จำเป็นต้องไปขุดคุ้ยหาเหตุผล พร้อมทั้งคำตอบให้ทุกอย่าง แต่การลงโทษ บ่น ด่าโชคชะตาหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าเป็นตัวการ จึงเป็นการไม่ยุติธรรม เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายล้วนต้องทำหน้าที่ของมัน เช่น นาฬิกาบอกเวลา เมฆให้ฝน คนต้องสูดอากาศหายใจ ฯลฯ และการมัวแต่ไปตั้งแง่กับปัญหา แล้วจะเอาเวลาตรงไหนไปชื่นชมสรรพสิ่งรอบกาย ความว่างและรู้จักปล่อยวาง จึงเป็นหนทางขจัดทุกข์ และเพิ่มสุขให้ทุกชีวิตนี้ มีขวัญและกำลังใจ มุ่งสู่เส้นชัยอย่างที่ได้ตั้งใจ @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ สรรพสิ่งในโลกนี้ไม่คงที่ และเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอยู่ตลอดเวลา ชีวิตก็ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่เพราะกรอบความคิดขวางกั้นโลกทัศน์เรา จากการรู้และเข้าใจชีวิต ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่เราทุกคนก็ได้รับทุกข์เป็นของขวัญจากธรรมชาติมาคนละหลายๆอย่าง เมื่อมีปัญหา จิตพร่องจึงยากในการเติมเต็ม ความใจร้อนและรีบเกินไป อาจทำให้ใจยิ่งเจ็บชำกว่าเดิม การฝึกจิตให้สงบนิ่งมีผลดีต่อสมาธิและปัญญา สุขและทุกข์ย่อมเป็นของคู่กัน ในสุขย่อมเจอทุกข์ ในทุกข์ย่อมพบสุข และทุกข์ก็มิใช่สิ่งน่ารังเกียจอันใด ช่วงเวลาบางครั้งบางคราว ยามมีทุกข์ทำให้คนเราเห็นอกเห็นใจกัน  แต่ยามมีสุขมักจะทนกันไม่ค่อยจะได้ ก็มีให้เราได้พบ ได้เห็นอยู่เสมอ @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ นาฬิกาแห่งชีวิตถูกไขลานไว้เพียงรอบเดียว และไม่มีใครรู้ว่ามันจะหยุดเดินเมื่อไหร่ การเรียนรู้บทเรียนของคนอื่นจึงเป็นสูตรลัดเพื่อประหยัดเวลา เพราะเราไม่สามารถเรียนรู้ความผิดพลาดนั้นได้ทั้งหมดในชีวิตของเรา เวลาของการเรียนรู้ที่แท้จริงเป็นการเรียนรู้ให้รู้ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นที่สุด  และทุกวินาทีมีคุณค่าเท่ากัน ขอให้ทุกขณะที่กระทำการใดๆรู้จักใช้ปัญญานำศรัทธา  ยึดมั่นในคุณความดีแค่นั้น เพราะทุกอย่างมันมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตัวมันเองเสมอ @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ วาทะท่านพุทธทาส...ลูกคือผู้เดินทางแทนเรา แต่ลูกไม่ใช่ของเรา การเดินตามรอยเท้าคนอื่นในมุมมองของเด็กสมัยนี้หลายคน อาจเป็นศัตรูกับความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีสิทธิ์กล่าวอ้างนำไปเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง บางเรื่องราวในชีวิต ความจำเป็นกับความรู้สึกอาจเดินสวนทางกัน การเลียนแบบถ้าเราคิดอีกมุมมองหนึ่ง มันไม่ใช่สิ่งที่แสดงถึงการจนมุมทางความคิด แต่กลับเป็นการแสดงถึงความจริงใจ  ยิ่งเป็นการเดินรอยตามเท้าบุพการี ยังไงความจริงใจย่อมไม่มีลวดลาย  ซับซ้อน หรือซ่อนเงื่อน หรือผู้ใหญ่สมัยนี้มีลวดลายให้เด็กเห็นนะ ถึงมีลูกเทวดาอยู่เต็มไปหมดในสังคม @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ ถ้าเราเป็นทุกข์เมื่ออยู่ในสายตาของคนอื่น อาจลองเอาตัวเองอยู่ในสายตาตัวเองบ้าง ใจคนเราเปลี่ยนแปลงไปตามเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่มากระทบ จึงทำให้เรามีวันที่สุขหรือเศร้าใจ บางคนชอบคิดถึงแต่เรื่องเศร้าในอดีต และผูกติดมันไว้อย่างแน่นหนาตรงที่กลางใจ หลายคนเฝ้าจินตนาการ วาดฝันถึงแต่สิ่งดีๆที่ใจปรารถนาในปัจจุบันและอนาคต โลกนี้จึงเต็มไปด้วยคนที่ใจสลายเต็มไปหมด การรู้จักดูแลใจ หมั่นปรับปรุงแก้ไขชีวิต จะทำให้เราlive and learn อย่างมีความสุข... คนเข้มแข็งจะเป็นเหมือนเสาหลัก คอยเป็นที่พักให้คนอ่อนแอได้แอบอิงใจ ในยามที่ชีวิตเหนื่อยล้าได้ตลอด@ 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ บนถนนสายชีวิต เราจำต้องเจอะต้องเจอผู้คนมากหน้าหลายตา หลายคน ยิ้มให้ก็ลบความหมายของคำว่า คนแปลกหน้า บางคน เหมือนมีแรงดึงดูด อยากหยุดพักเข้าไปทักทาย และขอแค่เพียงนเดียว ที่อยากกอดคอเป็นเพื่อนตาย... เพื่อนจะเป็นยาสามัญประจำใจ ความผูกพันย่อมมีได้ ถ้ารู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา การเอาใจเรามาใส่ใจเรา ความผูกพันแปรค่าไปเป็นความผูกมัด ส่งผลต่อระบบหายใจทำให้อึดอัด... เพื่อนตายกลายเป็นเพื่อนหน่าย เพื่อนกินหาง่าย  เพื่อนตายหายาก จึงเป็นสัจธรรมตลอดกาล ที่นำมาเป็นข้ออ้างในยามพรากจากกัน @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ ฤดูร้อน  ฤดูหนาว ฤดูฝน ล้วนมีความสวยงามแตกต่างกัน ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ควรได้รู้ร้อน รู้หนาว รู้จักเอาความชุ่มฉำให้ใจบ้าง ชีวิตจึงจะมีนำอดนำทน ไว้คอยยิ้มรับวันที่สุขหรือทุกข์ใจ ... บนเส้นทางชีวิตย่อมมีอุปสรรคขวากหนาม ที่เปรียบเสมือนกำแพง คอยขวางกั้นให้เราจำต้องบุกป่าฝ่าฟัน  มีชัยชนะและความพ่ายแพ้ไว้รออยู่แค่นั้น  ถ้าใจเข้มแข็งเสียอย่าง...ใช้มันกระโดดข้ามไปก่อน  แล้วเดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะตามไปเอง @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ หลายครั้ง หลายหนเราได้กำลังใจในการก้าวย่างไปข้างหน้าบนโลกใบนี้จากคนรอบข้าง เมื่อวันหนึ่งได้มายืนในจุดที่พอใจอย่าลืม ขอบคุณ ไม่ใช่ทำให้ตัวเองดูดี แต่เป็นมารยาททางสังคมที่ควรเป็นมรดกสืบทอดให้ลูกหลาน เพราะเรามักถูกกรอบแห่งชีวิตกำหนด,ปรุงแต่งกรอบแห่งความคิดให้แปรเปลี่ยนไปตามสิ่งเร้า ทำให้สิ่งดีๆหลายสิ่ง หลายอย่างในสังคมผ่านกาลเวลาไปอย่างน่าเสียดาย @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ เมื่อกาลเวลาผ่านมาทักทาย และผ่านเลยไปทำให้บางสิ่งแปรผันแล้วสิ้นสุด บางอย่างผันแปรสู่สิ่งใหม่ และทิ้งสุขและทุกข์ไว้ให้เสมอ ขอบคุณกาลเวลาที่ทำให้ชีวิตหนึ่งที่ผ่านมาและชีวิตนี้...สุขที่ได้มองเห็น  และได้เรียนรู้ทุกข์อย่างรู้เท่าทัน เหนืออื่นใด...ทำให้รู้สึกเยือกเย็นที่ตรงหัว @ 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการเคลื่อนไหว  จะเคลื่อนไหวไปหาความดีหรือความชั่วย่อมขึ้นอยู่กับโลกทัศน์ของเจ้าของชีวิต  บางชีวิตพยายามทำดี  แต่ถูกมองยังไม่มีโอกาสเลว  บางห้วงเวลาสำคัญ  สัญชาตญาณเพื่อความอยู่รอด  คนดีก็แปลงร่างเป็นคนเลวได้  เพราะโลกนี้ยังไม่สะอาดพอ ที่จะรับฟังความจริงได้ทุกเวลานั่นเอง @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ บางวัย บางเวลาของบางคนชอบทำตัวเป็นสมุดไดอารี่ หวนกลับไประลึกนึกถึงความทรงจำเก่าๆ จริงอยู่ว่า...บางเรื่องราวอาจเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่สร้างสรรค์ คงไม่จำเป็นที่จะไปหาเหตุผลกับทุกสิ่ง แต่บางสิ่ง ถ้าเป็นการพัฒนาเซลล์สมอง และอดีตช่วยตอบคำถามในปัจจุบัน สามารถโยงใยไปในอนาคตให้ชีวิตนี้มีความหมาย ก็ถือว่าเป็นการเติมมูลค่าเพิ่มให้กับชีวิต @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

ความลึกซึ้งของมิตรภาพ

@ เร็วหรือช้าไม่ใช่เงื่อนไขของเวลาที่ได้รู้จักกัน และเพียงแค่เศษเสี้ยวของวินาทีที่ไม่เข้าใจกันก็พร้อมจะห่างไกลทั้ง...ระยะทางและความรู้สึก @

                                       ขอบคุณเพื่อน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@ เซน...เปรียบชีวิตเราเหมือนดวงจันทร์บนผิวนำ  ดวงจันทร์ไม่เคยเปียกนำและไม่แย่งที่นำ ทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เราเห็นที่เราสัมผัสล้วนเป็นมารยา สอดคล้องกับพุทธที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนเกิดขึ้น  ตั้งอยู่ และดับไป แล้วไยคนเราจึงชอบหลงติดกับบางสิ่ง บางอย่างจนเกิดทุกข์เล่า... แต่หลงอะไรก็คงไม่เท่าหลงตัวเอง @



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

krupong
เขียนเมื่อ

@72154 ขอร่วมเติมอารมณืดีดีและรำลึกความหลังในฐานะแฟนคลับพระมหาสมปองและศิษย์เก่ามช.ค่ะ@



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท