เมื่อฉันพยายามทำดีต่อคนอื่นโดยการไปสอนพระคัมภีร์ฟรี...ขับรถไปหาเองถึงบ้าน...บางครั้งต้องเลี้ยงอาหาร...เมื่อเขามีปัญหาก็มาปรึกษาแต่ละเรื่องล้วนแต่เป็นปัญาหนักๆมาทั้งนั้น.....ต้องคอยให้คำปรึกษา...เมื่อสามี-ภรรยาทะเลาะกันก็ต้องฟังปัญหา...เป็นตัวกลางให้ทั้งสองฝ่ายมาระบาย.....โดยที่ไม่มีผลตอบแทน....เมื่อทำไปได้ซักระยะหนึ่ง...มันทำให้เกิดความคิดว่าทำไปทำไม...มันไม่ใช่เรื่องของเราเลย...เสียเวลา...เอาเวลามาดูแลลูกอยู่กับครอบครัวดีกว่ามั๊ย...เรื่องของใครก็เรื่องของมันสิ....จะขึ้นสวรรค์หรือลงนรก..ก็เป็นเรื่องของยู.... แต่...เมื่อคิดไปคิดมาแล้ว....ก็ทำให้เกิดความคิดขึ้นมาอีกว่า.....เราเกิดมา...เราต้องมีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น...จึงจะมีคุณค่า...ผลสุดท้ายก็ได้คำตอบให้ตัวเองว่า...เราต้องมีชีวิตที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น...โดยเฉพาะคนที่มีปัญหา...เพื่อสังคมจะได้ดีขึ้น...โดยทำจากจุดเล็กๆ...ที่มีโอกาสได้ลงมือ......ขอบคุณพระเจ้า.
ไม่มีความเห็น
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านวัตถุหรือไม่ใช่วัตถุก็ตาม มันมีทั้งจุดรุ่งเรืองและจุดเสื่อม สังเกตุจากอารยะธรรมทั้งหลายต่างก็มีจุดเสื่อมล่มสลายเช่นกัน ชีวิตจิตใจมนุษย์ก็เช่นกันวัฎะของโลกสามารถทำให้มนุษย์มาสู่จุดเสื่อมได้ถ้าไม่ระวัง ฉะนั้นเราต้องระวังที่จะไม่ให้จิตใจของเราไปสู่จุดเสื่อมนั้น จุดเสื่อมของจิตใจเรานั้นก็คือ การที่เราไม่พยายามรักษาความดีงามที่มนุษย์พึงกระทำ
ไม่มีความเห็น
ไม่ได้เขียนอนุทินนานมาก สวัสดีค่ะทุกท่านที่ติดตาม ช่วงที่ผ่านมายุ่งกับการเตรียมงานในคริสตจักร ทั้งงานวันเฉลิมพระชนม์พรรษาพระนางเจ้าสิริกิตพระราชินีนาถ วันเฉลิมพระชนม์พรรษาพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว งานคริสมาส งานแสดงความจงรักภักดีไว้อาลัยแด่สมเด็จพระพี่นางเธอฯ งานวันเกิดผู้นำในคริสจักร ติดต่อกันหลายงานมาก เมื่องานเสร็จลุล่วงในช่วงพีคนี้แล้วก็โล่งและสมองก็พร้อมที่จะรับงานต่อได้อีก ขอบคุณพระเจ้า สำหรับงานที่ทรงมอบให้ทำเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ และขอพระเจ้าทรงโปรดอวยพรแด่ทุกคนทั้งในประเทศไทยและทั้งโลกให้มีความสงบสุข ปัญหาบ้านเมืองขอให้คลี่คลายไปในทางที่ควรจะเป็น รักทุกคนที่อ่านนะค๊ะ......รัก.....รัก......
ไม่มีความเห็น
เมื่อวานไปคริสตจักรได้รับพระพรจากพระเจ้ามาก พระเจ้าสอนให้เราใช้ปัญญาเพื่อให้ได้มาไม่มาแบบไม่ได้ตั้งใจ ความรักของพระเจ้าทำให้เราสามารถอภัยให้กับคนที่เราเหม็นขี้หน้าได้(ที่เหม็นเพราะเขามารุกรานความเป็นส่วนตัวเราก่อน) หรือแม้กระทั่งคนที่เกลียดเรา
และได้ข้อคิดมา 1 ข้อ คือ มนุษย์นั้นมีแรงบรรดาลใจเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็น์เท่านั้น อีก 99 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือคือการลงมือทำอย่างหนักหน่วง ผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้นก็เพราะขาดการลงมือทำอย่างหนักหน่วงนั่นเอง
การทำงานอย่างหนักหน่วงทำอย่างไร ก็คือ คิดให้รอบคอบ มองให้ครบทุกแง่มุม คิดถึงผลกระทบที่จะตามมา หาวิธีการ หาข้อมูลให้ครบ ศึกษาจากประสบการณ์ของคนอื่นมาเป็นเยี่ยง มองให้เห็นประโยชน์
ไม่มีความเห็น