อนุทินล่าสุด


ลิขิต
เขียนเมื่อ

ว่าด้วย เรื่องไข้ขน… ในสังคมท้องถิ่นชนบท ยุคปัจจุบัน เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย ก็อาจขอความรู้ฯ จากเพื่อนๆ ในสังคมโซเชียลฯ

“ที่ไหนขายยาไข้ขนบ้างครับ?”“แล้วใครเคยเป็นบ้างขอความรู้หน่อยคับ”

มีผู้เข้ามาให้คำตอบมากมาย… หนึ่งในนั้น คือ ตัวผู้เขียนเอง

…ไข้ขน คุณหมอกชกร รพ.ตะกั่วป่า อธิบายไว้ คือ ไข้ไทฟอยด์ เกิดจาก เชื้อแบคทีเรีย อาจเกิดจาก ละอองเกสร ที่ถูกพัดมา ก็ได้ ยาฆ๋าเชื้อฯ ที่คุณหมอจ่ายให้ คือ DOXYCYCLINE 100 mg cap ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร เช้า-เย็น คุณหมอที่ รพ.บางไทร ให้ทานติดต่อกัน 10 วัน มิเช่นนั้น เชื้อฯจะกลับมาอีกค่ะ กรณีมีไข้สูง ก็รับประทานยาลดไข้ ตามปกติควบคู่ค่ะ หาซื้อได้ที่ร้านขายยาทุกร้านค่ะ กรณีท้องเสีย ก็ทานเกลือแร่ด้วย จนหยุดถ่าย

ไข้ขนติดต่อกันได้ทางอาหารและน้ำ ผู้ป่วยต้องระมัดระวังนะคะ เริ่มต้นจะมีไข้ อ่อนเพลีย ท้องเสียถ่ายเหลว หรือท้องผูก แน่นท้อง ถึงอาเจียน รู้สึกเหมือนมีเข็มตำไปทั่วตัวตอนจับไข้หนาวสั่น ถ้าเราลองคลึงตามลำตัวผู้ป่วยด้วยไข่ต้มอุ่นๆ ที่แกะเปลือก แล้วแกะไข่ขาวออกดู ผิวไข่แดงจะขรุขระ ไม่เรียบปกติ เป็นวิธีทดสอบของคนโบราณว่าเป็นไข้ขนค่ะ เพราะอุณหภูมิในตัวเราจะไม่สมำ่เสมอนั่นเอง เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น ลองสังเกตดู จะติดเชื้อนี้ ช่วงฝนแรก หรือ แล้งแรก น่ะค่ะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ไม่ฆ่าเชื้อ อาจป่วยเป็นเดือน ทรมานมาก ถ้าไปตรวจเลือด ค่าเม็ดเลือดขาวจะต่ำ ผู้ป่วยต้องการนอนพักผ่อนมากเลยล่ะค่ะ แบบหมดแรง รับประทานอาหารได้น้อย เป็นข้าวต้มขาวดีที่สุด เคยเป็นกันทั้งครอบครัวค่ะ (เราเพิ่งย้ายมาจากภาคกลาง) ตอนนี้พร้อมรับมือแล้ว ในอดีตที่ญาติผู้ใหญ่เล่าว่า เราจะมีเรื่องความเชื่อกับโรคไข้ขน และเข้าใจว่า ต้องใช้ยาแผนโบราณ หรือ น้ำมนต์เสก หรือ ยาหมอตี๋ อะไรทำนองนี้ค่ะ โรคนี้ พบมาก แถบภูเก็ต พังงา บ้านเราน่ะค่ะ เน้นว่ารีบฆ่าเชื้อฯให้เร็ว จะฟื้นตัวตั้งแต่ 2-3 วันแรก แต่ต้องกินยาจนครบ แล้วแต่ว่าจะเลือกรักษาทางไหนนะคะ ขอให้หายป่วยไวๆค่ะ



ความเห็น (3)

Any suggestion to ‘clean food and water’ (to disable the bacteria)?

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ฤดูกาลนี้ เราสัมผัสภาวะขาดสมดุลธรรมชาติได้ชัดเจน…

ผู้เขียนมองดู… ดอกบัวหลวงสีชมพูงดงามที่บานเพียงครึ่งดอก หลายๆรอบ

มองดู… ผลไม้ในสวน ที่ร่วงหล่นแบบแท้ง เกลื่อนกลาดไปทั่ว ปีนี้ผู้เขียนแทบไม่ขายผลไม้ เนื่องจาก ไม่ได้คุณภาพ

มองดู… การระบาดของหนอนบุ้งดำทั่วสวน ก่อนพายุฝนจะมา…

แม้จะมีฝนตก แต่เรากลับรู้สึกร้อน…ผู้เขียนเลือกซื้อ เสื้อผ้าประเภท เสื้อคลุม และเนื้อผ้าปรับสภาพได้ดีตามอุณหภูมิ

ก่อนฝนจะตกในคืนหนึ่ง เสียงฟ้าร้อง อสุนีบาตฟาดลงมาดังลั่น เสียงดังน่ากลัวที่สุด ตั้งแต่รู้ความ

แม้โรคระบาดในรอบปัจจุบัน จะเป็นที่ยอมรับว่า เดือดร้อนกันถ้วนหน้า แต่การบริจาคที่เห็นดาษดื่นในรอบแรกนั้นแทบไม่เกิดขึ้น

การตระหนักความจริง เพื่อปรับตัวให้อยู่รอด อย่างเป็นสุข

อีกาจำนวนมาก พากันมากัดกิน ดอกทุเรียนในปีนี้ เนื่องจาก ต้นไม้ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยในวัด ถูกท่านเจ้าอาวาสฯ สั่งตัดทิ้ง เพื่อปรับพื้นที่ ไว้รองรับ ความสะดวกสบายของคน ในเวลานี้กลับไม่ได้มีคนจำนวนมากขึ้น พากันไปวัด ด้วยเหตุปัจจัยที่เราทราบกันดี

ผู้เขียนคาดว่า ปีนี้อาจไม่ได้กินทุเรียน แต่ในเวลานี้ กลับมีทุเรียนดีๆเพียงพอ สำหรับครอบครัว อาจเหลือพอแบ่งขาย หลังจากได้ ทำบุญสุนทาน ทั้ง นักบวช ฆราวาส



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ลีลี่ เป็นชื่อที่ผู้เขียนตั้งให้ ลูกสุนัขตัวนี้ ผลิตผลของเจ้าจิ๊กกี๋ กับเจ้าแว่น คอกนี้มี ๔ ตัว ตัวผู้ ๓ ตัว จะมีคนเอาไปเลี้ยงหมด เหลือ ตัวเมียอยู่กับแม่ตัวเดียว จิ๊กกี๋เริ่มพาสุนัขตัวน้อยนี้มาที่สวนก่อนตรุษจีน เพราะรู้สึกปลอดภัย และมักจะไปคาบอาหารมาให้ลูกเสมอ ลีลี่ ฉลาดแสนรู้ ขี้อ้อน และชอบฝึกฝน วิ่งได้รวดเร็ว ซ่อนตัวเก่ง ในที่สุด เราอดไม่ได้ ต้องเตรียมอาหารไว้เลี้ยง ครอบครัวสุนัข ๓ ตัวนี้ ด้วยเวลานี้ แม้แต่คนยังหากินยาก อยู่ด้วยความอดอยาก พวกมันก็ได้ทำหน้าที่ หมาเฝ้าบ้าน อย่างสมบูรณ์ และ ออกวิ่งตรวจการสวน กับเจ้าของ หรือ แม้แต่การไล่อีกาที่มากินดอกทุเรียน เจ้าลีลี๋ก็ร่วมทีมทุกครั้ง เมื่อกลับถึงบ้าน จะได้รับขนมเป็นรางวัล มันกิน ผลไม้ เช่น กล้วย ส้ม ม่วงมุด ฯลฯ ซึ่งแตกต่างจากพ่อแม่ เป็นสัตว์เด็กรุ่นใหม่ ที่ปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู คอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน จึงได้รับปลาฟรีมาเป็นอาหารหลักเสริมสร้างความฉลาดแสนรู้ พ่อแม่ฝึกสอนการต่อสู้ ออกกำลังให้มันเสมอ สวนนี้แรกๆก็เหมือนโรงเรียนฝึกสอน ฝึกเล่น ที่พ่อแม่ร่วมสอนด้วย ในที่สุดกลายเป็นบ้าน อย่างไรก็ตาม พวกมันอาจออกไปเฝ้าปากทางบ้าง ถ้ามีเสียงผิดปกติ เช่น เจ้าหน้าที่ตัดต้นไม้ของการไฟฟ้าฯ มันจะวิ่งเข้ามาที่สวนอย่างรวดเร็ว และส่งเสียงเห่า หลายพฤติกรรม ของสุนัขครอบครัวนี้ ทำให้เราต้องเปรียบเทียบกับ ครอบครัวคน แม่ที่รักลูกทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนอย่างสิ้นเชิง เต็มไปด้วยความเสียสละ พ่อแม่ที่ห่วงลูก ยามลีลี่ข้ามเขตไปเห่าสุนัขสวนติดกันตอนตามผู้เขียนไปเก็บยอดผักท้ายสวน พวกมันรีบไปตามกลับบ้านทันที ลีลี่มีเล่นรองเท้าบ้าง หลังจากถูกทำโทษ ก็เอามาคืน และเลือกเล่นเฉพาะรองเท้าเสียที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น มันเติบโตอย่างรวดเร็ว ในอนาคต… เราจะได้เห็น ลูกสุนัขที่เติบโตอย่างอบอุ่นกับครอบครัวที่สมบูรณ์ ทดแทนสุนัขรุ่นเก่าอย่างพ่อแม่ของมัน



ความเห็น (4)

ท่าจะป็นขวัญใจของบ้านและสวนต่อไปนะคะ เจ้าลีลี่

คงเป็นเช่นนั้นค่ะ คุณหมอธิ

ขอบคุณค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

วันนี้ไม่ใช่วันพระ เราไปทำบุญถวายภัตตาหารเช้าที่วัด เพียงรายเดียว มีพระสงฆ์เพียง ๒ รูป ภัตตาหารจากการออกบิณฑบาตมีจำนวนมาก ระหว่างรอพิธีสวดมนต์ถวายภัตตาหาร เจ้าแมวเหมียวก็เข้ามาทักทายใกล้ชิด…



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา…

ฝูงปลาพวง ที่อุทยานแห่งชาติศรีพังงา ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ให้สุขแก่จิตใจมนุษย์ ปลาไม่ตื่นหนีผู้คน แหวกว่ายน้ำในสายธารอย่างเป็นสุข



ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ คุณแก้ว คุณเพชรฯ

          น้ำใสและเย็นสดชื่นมากค่ะ คลายร้อนในวันนั้นได้เลยค่ะ  

ขอแสดงความนับถือคุณลิขิต

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

วันนี้เจ้าจ๋อเก็บมะพร้าวได้ เกือบ ๑๐๐ ลูก ก็เหน็ดเหนื่อย พร้อมเดินทางกลับบ้าน มันใช้ทั้งมือเท้าปาก เพื่อจัดการกับมะพร้าวให้หลุดจากต้น รางวัลที่ได้รับ คือ ผลไม้ ขนม และนมสด ก่อนกลับมันเก็บมะพร้าวอ่อนให้หนึ่งทะลาย แล้วลงมาเก็บสมุนไพรดอกหญ้ากิน ผู้เขียนสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างคนกับสัตว์ เช่นการสื่อสาร ความเข้าอกเข้าใจ บางทีดูเป็นเรื่องสมเหตุผลมากกว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างเชื้อชาติสายพันธุ์ด้วยซ้ำไป



ความเห็น (1)

เห็นลิงแล้วสงสาร แต่ก็เป็นวิถีชีวิตของลิงกับคนเลี้ยงลิง(เพื่อเก็บมะพร้าว) แถวบ้านยังมีลิงกังมาเก็บมะพร้าวให้เห็นอยู่บ้าง มะพร้าวเริ่มมีน้อยเมื่อเทียบกับสมัยเรายังเด็ก ๆ ที่เก็บมะพร้าวครั้งละเกือบพันลูก อีกหน่อยในรุ่นลูกหลานเราคาดว่าไม่น่าจะเห็นลิงเก็บมะพร้าวกันแล้ว

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

มะพร้าวแกงกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดท้องถิ่น การซื้อมะพร้าวไปขูดคั้นกะทิเองเพื่อทำอาหาร กิน หรือ ขาย ประหยัดกว่า ซื้อกะทิคั้น และมีคุณภาพดีกว่าด้วย ระบบทุนนิยมแบบค้ากำไรเหมาซื้อมะพร้าวชาวสวนเริ่มได้รับผลกะทบจากการปรับพฤติกรรมผู้บริโภค ประกอบกับธรรมชาติได้กำหนดให้ออกผลผลิตจำนวนไม่มากเท่านั้น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ระหว่างนั่งขายยอดผักที่ตลาดสด ผู้เขียนเหลือบเห็น เจ้าแมลงสีแปลกตาเกาะใบผัก จึงบันทึกภาพไว้…



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

วันนี้มีโอกาสได้ไปผ่อนคลายเล่นน้ำทะเล ที่ชายหาดบางสัก ช่วงเช้า(๐๘.๓๐ น.)ประมาณ ๑ ชั่วโมง เช้านี้ไม่มีแสงแดด มีฝนโปรยเล็กน้อยไม่ต่อเนื่อง น้ำทะเลอุ่นสบาย ชายหาดกว้างใหญ่ไม่มีผู้คนมาใช้บริการ เพราะเป็นเช้าวันศุกร์ ดอกผักบุ้งทะเลเบ่งบานสวยงาม สุนัขก็พากันมาผ่อนคลายเช่นกัน ๒ ตัววิ่งเล่นขุดหลุมตามชายหาด ผู้เขียนพบเปลือกหอยสวยงามมากมายที่น้ำทะเลซัดขึ้นมาบนหาดทราย คลื่นเล็กสลับคลื่นใหญ่เป็นชุดๆไป คลื่นใหญ่จะซัดทรายหยาบและเปลือกหอยแตกขึ้นมา ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ ขยะไม่ย่อยสลายถูกทิ้งไว้เกลื่อนกลาดหาดทรายสวยงาม

ผู้เขียนหวนนึกถึงวัยเด็กที่เคยได้ไปปิคนิคเล่นน้ำทะเลที่ภูเก็ต กับญาติๆและเพื่อนบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ นึกถึงผู้คนที่ต้องดำรงชีวิตในเมืองหลวงเวลานี้ ปรารถนาให้ได้รับพลังธรรมชาติที่เป็นสุข เช่นผู้เขียน…



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

เสียงเพลงทรงพลังฟังเสนาะhttps://www.facebook.com/100030455062587/videos/407803656911466/



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร ทำอย่างไร? เราจึงมีความรู้ความสามารถในการแยกแยะ ระหว่าง เท็จกับจริง สำหรับผู้เขียน การจัดการความรู้ ก็เป็นศาสตร์หนึ่งในการฝึกทักษะ ระดับสมาธิสัมพันธ์กับระดับการรับรู้ ดังนั้นการหมั่นฝึกฝนทางจิต ก็เป็นภาคปฏิบัติหนึ่ง

ในอดีตก่อนยุคเทคโนโลยีเบ่งบาน ข้อมูลข่าวสารถูกกลั่นกรอง มีระเบียบแบบแผน ตามระบบบริหารบ้านเมือง ความสามารถในการแยกแยะข้อมูลอาจไม่ถูกเอ่ยถึง

เหรียญมีสองด้านฉันใด สรรพสิ่งไม่น้อยที่ให้คุณและโทษได้ ผู้เขียนเคยได้รับคำถามว่า “ต้องการปัญญาหรือ? ปัญญามีทั้งคุณและโทษ แต่เมตตา ไม่มีโทษ” แต่นั้นมา ผู้เขียนทบทวนอยู่เสมอ และอาจเปลี่ยนความคาดหวังไปแล้วโดยไม่รู้ตัว เพียงได้สติ จากการให้สติ ด้วยความเมตตาของครูบาอาจารย์



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ภาษาไทย เป็นเอกลักษณ์ และมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ของชนชาวไทย มีความลึกซึ้ง ถึงลึกล้ำ หลายระดับ ที่ยากต่อการแปลความ เพราะ ต้องใช้การตีความเชิงปรัชญา ดังนั้น เมื่อผนวกใช้กับเทคโนโลยี ให้มีการกระจายสื่อสารได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ย่อมได้เปรียบกว่าการสร้างรหัสลับใหม่ๆ เพราะมีความหมายแคบ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

คนที่มีสัญชาติไทย เชื้อชาติไทยนั้น ย่อมมีจุดร่วมในสายเลือดไทย การแสวงหาจุดร่วม และใช้จุดร่วมจะส่งผลบวก เช่น จุดต่างใช้ประโยชน์ในการสร้างความแตกแยก จุดร่วมจะใช้เพื่อสร้างความสามัคคีได้เป็นอย่างดี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

เทคนิคหนึ่งในการปรับกลยุทธ์การค้าของชาวตลาด คือ ให้คนรุ่นลูกเข้ามาช่วยทำการค้าร่วมกันเป็นความร่วมมือของครอบครัวแบบทีม กลุ่มร้านค้าที่ใช้เทคนิคครอบครัว จะปรับตัวได้ดีในสภาวะนี้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

วันนี้น้องน้ำมาจ่อรอเข้าบ้านแล้ว จากข่าวสาร ยังมีพายุต่อเนื่อง อีก ๒ ลูก ประกอบกับมรสุมฯ และน้ำทะเลหนุน ทำให้ เราต้องเตรียมตัว เผชิญกับ น้ำท่วม แบบเข้าบ้าน ด้วยการ เก็บข้าวของให้สูงจากระดับเดิม เตรียมอาหาร การใช้ชีวิตบนชั้น ๒

มีผู้ใจกุศล สอบถาม ความเดือดร้อน ผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อให้ความช่วยเหลือ กระจายข้อมูลข่าวสาร ความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย ด้วยเหตุที่เขาเป็นลูกหลานคนท้องถิ่นนี้ ผู้เขียนรู้สึกประทับใจเหตุแห่งการทำความดีของเขา และชมเชย ความคิดสร้างสรรค์ในการเลือกกระทำ

ในช่วงเวลาวิกฤติ ก็ย่อมมีสิ่งที่ดีงามมากมายก่อเกิด…



ความเห็น (1)

สมัยก่อน ตอนเด็กๆจำได้ว่า ฝนตกทีไรน้ำก็ท่วมแป๊บเดียวก็ลด เราก็สนุกไปกับทุกช่วงเวลาเพราะน้ำท่วมทีไร ปลาตัวใหญ่ๆก็ลอยมาติดสวิงเรา

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ปีนี้ วิกฤติระดับประเทศ เริ่มส่งผลชัดเจนขึ้น ผู้เขียนมีโอกาสได้ทดลองใช้ ผลผลิตแห่งการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ในวิกฤติองค์กร กว่า ๗ ปีที่แล้ว ทำงานบางชิ้นในวิกฤติปัจจุบัน นับว่าได้ผลดีเยี่ยม พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตผ่าน อุปสรรค ปัญหา ทุกรูปแบบ อย่างสบายๆ และปฏิบัติงาน ได้รวดเร็ว มีประสิทธิผล อย่างมืออาชีพแท้จริง เมื่อย้อนไปในอดีตวิกฤตการณ์ เป็นโอกาสในการพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ ที่ผู้เขียน ไม่ได้ละทิ้ง…



ความเห็น (2)

สบายดีนะครับ?ด้วยความระลึกถึงอยู่เสมอครับ

สวัสดีค่ะ คุณเพชรน้ำหนึ่ง

         สบายดีค่ะ  คนึงนิจ มิตรไมตรี ที่ GTK เช่นกันค่ะ
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ผู้เขียนย้อนทบทวน ประสบการณ์บริหารวิกฤติ ในยามที่องค์กรขาดเงินทุน เปรียบเปรยกับชาติบ้านเมืองเราในยามนี้ แม้จะเห็นภาพ… แต่ในความเป็นจริงคงมีความแตกต่างอีกมากมาย การตั้งอยู่ในความสงบ มีสติ คงเป็นทางที่ดีที่สุด เพื่อพร้อมเผชิญ ทั้งวิกฤติ และโอกาส



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

วันสารทไทยปีนี้ ฝนตกตั้งแต่เช้าตรู่ ผู้เขียนไม่ได้ถวายปิ่นโตที่วัด แต่เลือกการตักบาตรเช้า ชุดเล็กๆ ๗ ชุด ประกอบด้วย ข้าวสวย ไข่ ๔ แบบ ขนมเทียน ถ้วยฟู หมูหวาน หมูหยอง เป็นต้น เราขับรถหาพระสงฆ์ออกบิณฑบาต ผู้เขียนก็ตัวเปียกปอนไปด้วยตอนตักบาตร ที่ตลาดสด ผู้คนออกมาจับจ่าย ขนมสดที่ใช้ในพิธีกรรมท้องถิ่นหนาแน่น ผู้เขียนตักบาตรพระสงฆ์ ๖ รูป แล้วแวะไหว้สักการะพระประธานที่วัด เสร็จภาระกิจ ผู้เขียนถามแม่ชี ว่า “รับบาตรหรือไม่?” ท่านบอกว่า “ไม่ได้รับ แต่ที่ผู้เขียนจะถวายสามารถทานเป็นอาหารเช้าได้หรือไม่?” ท่านยังไม่ได้ทานอะไร เพราะรีบเตรียมงานดอกไม้บูชาพระต่างๆที่นี่ ผู้เขียนบอกให้ท่าน เอาชามช้าวมารับข้าวสวย เพราะผู้เขียนตักบาตรจากขันทองเหลืองของบรรพบุรุษ อาหารปลอดภัย เพราะปรุงเอง ท่านรับอาหาร ชุดสุดท้ายจากผู้เขียน และให้ศีลให้พร ผู้เขียนบอกท่านว่า สำหรับวันนี้ ตักบาตรชุดเล็กเป็นอันเสร็จพิธี และเดินทางกลับบ้าน

วันสารทไทยปีนี้ ผู้เขียน ไม่ได้ยินเสียงจากเครื่องเสียงของวัดเลย อาจไม่จำเป็นต้องใช้… ฝนตกหนักมากขึ้นจริงๆ จนเลยบ่ายไปแล้ว จึงซาลง…



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ทบทวนย้อนไปเกือบ ๒ สัปดาห์ เมื่อแนนซี่ คนไร้บ้าน ออกฤทธิ์ ที่ตลาดสด เธอเดินมาที่ตลาดแบบเมามายไร้สติ ยกมือทักทายผู้เขียน ไม่พูดคุยอะไร เมื่อกลับออกมา เธอเริ่มงอแง และล้มลุกคลุกคลานที่บันไดทางขึ้นตลาดสด อาจเพราะดื่มเหล้ามากไป จึงมีปัญหากับกระดูกหัวเข่า มีแม่ค้าเดินมาบอกอย่าขวางทางเดิน แต่ไร้ประโยชน์ พักใหญ่เธอบ่นงึมงำให้คนเดินผ่านไปมาช่วยพยุงลุกขึ้น แต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคน จ้องมองอยู่ห่างๆ และเริ่มพูดคุยถึงชะตากรรมของเธอ เธอพาตัวเองไปที่ถนนและนอนขวาง คล้ายต้องการให้รถชน แม่ค้ามาช่วยโบกรถ ให้หลีกเธอ สักพัก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเอาตัวไป ฐานกีดขวางการจราจร ผู้คนตะโกนว่า “เอาตัวไปเลย” ช่วงตลาดวายพอดี พ่อค้าบอกว่าเคยให้เงินเธอ ๑๐๐ บาท เธอมาขออีก จึงไม่ให้ เพราะเธอไม่ได้ทำตัวดีขึ้น มีกลุ่มคนแสดงความสงสาร อยากควักเงินช่วยเหลือ แต่ก็มีคนห้ามและเล่าพฤติกรรมของเธอ

ในความเป็นจริงที่สัมผัสได้ คือ ผู้คนไม่ได้มีความสุข หรือสบายใจ กับภาพเหตุการณ์ ในวันนั้น … ผู้ให้ และ ผู้รับ ในกาลเวลาที่แตกต่าง อะไร คือ ความพอดี…



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ผู้เขียนย้อนนึก การตักบาตรถวายสังฆทาน ข้าว อาหารคาวหวาน ดอกไม้ ธูปเทียน วัตถุปัจจัย รวมถึงเครื่องไทยทาน แด่ พระภิกษุสงฆ์ ครั้งล่าสุด ผู้เขียนฉู่ฉี่ปลาทะเลชิ้นโต พระคุณเจ้าฉันหมด เนื่องจากมีพุทธศาสนิกชนตักบาตรจำนวนมาก แม้ในท้องถิ่นนี้จะขายชุดตักบาตรชุดเล็ก และทำแบบอาหารจริงไม่ใช่ของเวียนเทียนแลกเงิน แต่ผู้เขียนเคยรับประทานอาหารจากการตักบาตรที่วัดแล้ว ไม่ได้มาจากครัวบ้านแบบโบราณ มีอาหารเหลือจากการฉันจำนวนมากจริง แต่การปรุงค่อนข้างหยาบ และแน่นอน วัตถุดิบที่ใช้ปรุงเป็นของราคาถูก กลุ่มปลาหาได้ยากมาก พระสงฆ์ก็จำเป็นต้องรักษาสุขภาพ ถ้าอาพาธก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมา

ผู้เขียนมักถวาย พวกพลาสเตอร์ยา ทิชชู เครื่องชงสุขภาพซองเล็กๆ และในยุคนี้ ก็มีหน้ากากอนามัยด้วย เครื่องไทยทานเล็กน้อยเหล่านี้ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติสมาธิ กวาดวัด อยู่วัด จะเลือกหยิบรับไว้ เพราะได้ใช้งาน



ความเห็น (2)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

วันนี้พ่อของผู้เขียนต้องเข้าตรวจสุขภาพรับยาเดิมรอบ ๓ เดือนที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ หลังวันหยุดราชการติดต่อกัน ทำให้มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ตู้ปันสุขในโรงพยาบาลไม่มีอาหาร เช่น ครั้งก่อนๆอีกต่อไป ผู้เขียนพกขนมจำนวนไม่มาก ตามที่เรามีเหลือ ไปแบ่งปันในตู้ปันสุข ด้วยคิดว่าช่วงนี้ คนยากลำบากจริงแล้ว ขนมอันตรธานไปในพริบตา

อาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้เขียนเพิ่งมีโอกาสเจอ คนไร้บ้านที่ตลาดสด เขาบอกว่าไม่ได้รับเงินเยียวยา ที่หายหน้าไป เพราะนอน กินข้าวกับเกลือ ผู้เขียนจึงให้ ยอดหน่อไม้ไผ่ตงต้ม ก่อนกลับเขาแวะมารับ กล่าวขอบคุณ และขอมะขามเปียกเพิ่ม ไปทำน้ำพริก ผู้เขียนเพิ่มใบมะกรูดให้ด้วย จากที่แบ่งหัวปลี ยอดส้มป่อย ยอดมะกรูด ให้เพื่อนแม่ค้าร้านขายปลา เขาบอกว่าได้ประกอบอาหารอีกหลายเมนูร่วมกับปลา

แต่ละชีวิต ต่างต้องเผชิญ ปรับตัว กับการเปลี่ยนแปลง…



ความเห็น (2)

น่ารักมากเลยค่ะคุณลิขิต ในสังคมปัจจุบันนี้หาคนมีน้ำใจไมตรีแบบนี้ยากขึ้นทุกวันค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณแม่มด

เมื่อลองใคร่ครวญดู การได้รับสวัสดิการก็มีการแบ่งชนชั้น เรามีโอกาสได้รับง่ายกว่าบางกลุ่มที่เขาขาดหลายสิ่งหลายอย่างค่ะ ดังนั้นพอช่วยอะไรได้ตามกำลัง เราก็ลงมือกระทำ ไม่ได้ทำตามกระแส จะทำให้ผู้ได้รับนำไปใช้ประโยชน์อย่างมีคุณค่าน่ะค่ะ สังคมรอบตัวเราก็พลอยเป็นสุขไปด้วยค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ในช่วงเวลานี้ ไม่ใช่เพียงคนที่อดอยาก สัตว์ก็ขาดแคลนอาหารเช่นกัน อาจเป็นเพราะไม่มีเศษอาหาร หรือมีน้อยนั่นเอง เจ้าแว่นสุนัขพันธุ์ทางไร้เจ้าของผอมจนเห็นซึ่โครง ดังนั้นนอกจากให้เศษกระดูก ผู้เขียนต้มเศษอาหารใส่ข้าวให้มันได้กินเยอะหน่อย เจ้าจิ๊กกี๋ก็มาร่วมแจมด้วย น่าแปลกที่มันได้กินแล้ว จะขยันทำงานตรวจการรอบสวนมาก กลางดึกก็วิ่งตรวจการหลายรอบ เราได้ยินเสียงเห่าเมื่อพบสิ่งผิดปกติ กลางวันก็จะคอยตรวจสอบและส่งเสียง เมื่อมีผู้มาเยือน เราก็ค่อนข้างงงๆกับพฤติกรรมเกินคาดหมายของมัน คล้ายรู้จักข้าวแดงแกงร้อน…



ความเห็น (2)

สัตว์ ยังรู้จักตอบแทนคนให้อาหารนะคะ

เรียน คุณแก้ว

     โชคดีที่เจอสัตว์นิสัยแบบนี้ด้วยน่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

วันนี้เป็นวันพระ ผู้เขียนมีดอกไม้ไหว้พระ และเงาะโรงเรียน ๑๒ กิโลกรัม เป็นสินค้าหลัก การพัฒนาตลาดในแง่สินค้าหลากหลายค่อนข้างดี มีการใช้ความรู้ ศิลปะการพับใบเตย การจัดช่อดอกไม้ พัฒนาสินค้า เข้าแข่งในตลาด การเลียนแบบสินค้ากระจายเป็นวงกว้าง ร้านค้าซื้อมาขายไปจะพยายามปรับสินค้าเป็นพืชผักปลูกเอง ร่วมกับสินค้าฝากขาย

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้เขียนปล่อยสินค้าตัวใหม่ คือ มันสำปะหลังเกษตรเชื่อมราดกะทิ เนื่องจากมันสำปะหลังในสวนได้ที่ และมีมะพร้าวเหลือพอ เรามีฝีมือความรู้ที่จะปรุง และเป็นของโปรดครอบครัว ได้รับความสนใจจากลูกค้า และพ่อค้าที่เชี่ยวชาญการค้าขายเมียงมองเป็นความรู้เพื่อพัฒนาสินค้าและการขายของเขา น่าเสียดายที่ส่วนราชการขาดความใส่ใจ ร่วมมือพัฒนาการจัดการสถานที่ ทำให้กลไกการตลาดเติบโตแบบซุกซ่อน

ผู้เขียนมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กพิเศษท่านหนึ่ง เกี่ยวกับการค้นหาทักษะความสามารถพิเศษในตัวเด็ก

และได้พูดคุยกับแม่ค้าดอกไม้ไหว้พระสูงอายุ เรื่องการรักษาสุขภาพ การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำท้องถิ่น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ไม่รู้จักพอ ก็พร่องอยู่เสมอ…

รู้จักพอ ก็เต็มอยู่เสมอ…

ปรัชญาคำสอนของครูบาอาจารย์ ที่ท่องจนขึ้นใจ เมื่อยามปฏิบัติ ในภาวะการณ์แบบนี้ กลับต้องแจกแจง รายละเอียดออกมามากมาย เมื่อรู้จักพอแล้ว มีแต่ความสงบสุข ไร้ความทุกข์ และ รู้สึกว่า เหลือเฟือ ด้วยซ้ำไป ดังนั้น การตั้งสติ อะไร จำเป็น ไม่จำเป็น อะไรที่ยังไม่พอจริงๆ อะไรที่จริงๆพอแล้ว เป็นจุดสำคัญ

ยังมีประชาชน จำนวนมาก ที่คาดหวัง หลังสถานการณ์โควิด ทุกอย่าง จะกลับเป็นเช่นเดิมแบบอดีต จึงไม่พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง กลายเป็นต้องเผชิญกับความทุกข์ เช่น การท่องเที่ยว จะเป็นแบบเดิมได้ เช่นนั้นหรือ?



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
ลิขิต
เขียนเมื่อ

ผู้เขียนได้ใช้น้ำเมือกจากดอกกะทือมาสระผม ช่วยให้ผมนุ่ม และมีกลิ่นหอมธรรมชาติ นอกจากใช้ น้ำต้มใบขี้เหล็ก ปกติที่อยู่ในภาคกลางผู้เขียนทำ น้ำขิง ดอกอัญชัญ และลูกมะกรูด ใช้ร่วมกับแชมพูเด็ก ทำให้ลดปัญหาผมร่วง และบำรุงเส้นผมได้ดี

สำหรับกระทือ เป็น สมุนไพรพื้นบ้าน เป็นที่ชื่นชอบของตลาดอาหารท้องถิ่น หลังจากใช้เมือกจากดอกแล้ว ก็สามารถนำมาจัดแจกันได้อีกหลายวัน เหง้า และ ใบ ก็สามารถใช้ประโยชน์ในครัวเรือน หรือ เครื่องสำอางได้ดี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท