อนุทินล่าสุด


เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

31 พ.ค.2563 เมื่อเกษียณราชการออกมาก็ยังต้องทำหน้าที่ของชีวิตต่อไปจะอยู่เฉยๆ ไม่ได้หรอกนะ ต้องกิน ต้องนอน ต้องปัดกวาดเช็ดถู
ต้องซักเสื้อผ้า เพราะรับราชการตลอดชีวิตมิได้ร่ำรวย ตั้งใจทำอาชีพมาเต็มที่ เต็มเวลา เต็มความสามารถ เงินเดือนพอเลี้ยงตนเองและครอบครัว ออกมาละต้องพึ่งตนเอง ต้องแข็งแรงกินบำนาญไปบริหารชีวิตไป จนกว่าจะได้เวลาหมดลมหายใจ เมื่อไหร่ไม่รู้ แรงมีน้อยก็ทำงานเล็กๆน้อยๆไปอิอิ ไม่ต้องเคร่งเครียดซีเรียสอะไร



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

งานซ้อน
วันนี้อยากแยกร่างให้เป็นสอง
คงสมปองแน่แท้แม่คุณเอ๋ย
จะไม่ขาดกิจกรรมแม่ทรามเชย
อบรมเอยมีประชุมกลุ้มใจจริง

หนึ่งพี่เลี้ยงเยาวชนที่โอนอ่อน
สองเรื่องสอนการงานสรรพสิ่ง
มีภาระรับไว้ไม่ประวิง
เลยต้องวิ่งสองงานอานแน่เรา.......555

ต้องสู้.....ต้องสู้.....ถึงจะชนะ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

ผ่านพ้นไปสำหรับการส่งนักเรียนเข้าแข่งขันงานทักษะวิชาการ
ภาคเหนือที่จังหวัดกำแพงเพชร นักเรียนทำได้ดี เต็มความสามารถ
ทั้งสองรายการ แม้จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน ครูก็ภาคภูมิใจ ประทับใจ
ที่นักเรียนได้เข้าร่วมแข่งขันระดับภาค

กวีน้อยของเรา.....
ทำดีที่สุดแล้ว ได้ระดับเหรียญทอง 
อันดับ 13 คะแนน 83 คะแนน
แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือประสบการณ์
แม้ไม่ได้ไปต่อ แต่ครูก็ภมิใจมาก
ที่สุดแล้ว เก่งมากค่า ขอเป็นกำลังใจให้
ฝึกฝนกันต่อไปนะคะ เชียร์ๆ
 — ที่ โรงเรียนบ้านแพะยันต์ดอยแช่


<p></p>



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

           วันพฤหัสบดีที่  ๙   พฤศจิกายน  ๒๕๖๐
                    วันนี้นำนักเรียนไปสอบธรรมศึกษา ในปัจจุบันนี้สังคมโลกซับซ้อน
  การเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้ประสบความสำเร็จในชีวิตคงทำได้ยากยิ่ง 
  หากผู้ที่มีความเก่งด้านวิชาการเพียงอย่างเดียวแต่ไม่มีความพร้อมทางด้านจิตใจ
  ดังนั้นเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้คู่คุณธรรมได้เรียนรู้และเข้าใจหลักพุทธธรรมที่ถูกต้อง
  สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน  เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  ให้ผู้เรียนห่างไกลอบายมุข สิ่งเสพติด   ทุกคน ทุกศาสนาในโลก ต้องศึกษา
   ต้องรู้หลักปฏิบัติธรรม เพื่อนำไปปฏิบัติให้เกิดเป็นความสุขความเจริญในชีวิต
   เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ต่อสังคมส่วนรวม ก็ต้องดำเนินการให้คนได้
   เข้ามาเรียนและตั้งใจเรียนธรรมศึกษามากขึ้น จึงควรส่งเสริม สนับสนุน
   ครูสอนธรรมศึกษา สื่ออุปกรณ์การเรียนการสอน ให้จัดกิจกรรม
   การเรียนการสอนหลักสูตรธรรมศึกษาในสถานศึกษา ทั้งในระบบ
    และนอกระบบการศึกษาได้อย่างต่อเนื่องจริงจัง


<p></p><p>
     </p>



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

         วันพุธที่  ๘   พฤศจิกายน  ๒๕๖๐
                      วันนี้เปิดเทอมมาครบหนึ่งสัปดาห์แล้วมี
ความตั้งใจว่าเทอมนี้ อย่างน้อยคงได้เรียนได้สอนอย่างเต็มที่
แม้จะมีกิจกรรมลูกเสือ กีฬา  แต่นั่นก็ถือเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่ง
ของการเรียนการสอน เพราะทุกคนต้องได้รับการฝึกทุกด้าน
เด็กเก่งวิชาการอย่างเดียวอาจจะเอาตัวรอดในสังคมซับซ้อนไม่ได้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันอังคารที่  7  พฤศจิกายน  ๒๕๖๐
              วันนี้ตื่นเช้าและทำกิจวัตรตามปกติ ตกบ่าย
ผอ.เรียกประชุมบุคลากรภายในโรงเรียน เรื่องแผนงบประมาณ
ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันทุกอย่าง แต่ในการทำแผนอาจจะ
แยกคนรับผิดชอบตามโครงการ  เพราะเราเป็นโรงเรียนเล็กการ
บริหารงานยังเป็นแบบพี่น้องกันทุกคน ซึ่งบางครั้งภาระหนักก็
อาจจะตกหนักกับคนที่เอาภาระ  เพราะบางคนเบาภาระ แลถือว่า
ตนเองฉลาดไม่ต้องรับผิดชอบมาก ซึงเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ
แต่ในองค์กรเล็กๆ ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร ก็ต้องแบกรับแทนกันไป หวังว่า
พี่น้องจะรู้สึกตัวกันบ้าง รอสักวันหนึ่ง....นี่ล่ะธรรมดาโลกโศกสลด



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันจันทร์ที่  ๖  พฤศจิกายน  ๒๕๖๐
            วันนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนกลับมาทำหน้าที่ตามเดิม
หลังจากออกบวชแสวงบุญ  ๔ เดือนช่วงพรรษา แถมมาถึง
วันลอยกระทง  กลับมาคราวนี้มีงานให้สะสางเยอะพอสมควร
แต่มีข่าวดีคือเราได้รับน้องบัณฑิตอาสามาพัฒนาจากมหา
วิทยาลัยธรรมศาสตร์มาฝึกปฏิบัติการหนึ่งคน เป็นเวลา ๗ เดือน
และได้รับงบก่อสร้างอาคารเรียนใหม่อีกหนึ่งหลัง เป็นอาคาร
สองชั้น  โรงเรียนคงมีห้องเรียนเพิ่มมากขึ้นพอแก่การใช้สอย
มีห้องเรียนและห้องพิเศษต่างๆ การทำงานพัฒนาโรงเรียน
และพัฒนาชีวิตคงดำเนินต่อไป หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นไป
ด้วยดี ด้วยความร่วมมือพร้อมเพรียงใจกันของบุคลากรทุกคน




<p></p>



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
ความจริงใจเป็นเรื่องสำคัญ ส่งผลต่อองค์กรอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็นความจริงใจต่องานหรือความจริงใจต่อเพื่อนร่วมงาน
การรักหน้าที่ รักในงานที่ทำก็เช่นกัน เพราะเมื่อเรารักงานที่เราทำ
เราก็จะมีความสุขและภาคภูมิใจเมื่อได้ทำงานนั้นๆ สิ่งเหล่านี้คือ
สิ่งที่หล่อเลี้ยงกำลังใจ ทำให้มีแรงบันดาลใจ ทำให้คิดสร้างสรรค์
มิเช่นนั้นเราจะทำงานแบบ เช้าช้ามเย็นชามเพราะเราไม่อยากทำงาน
ไม่มีแรงกระตุ้นไม่มีพลังใดใด มีหลายคนที่มีความสุขเสมอเมื่อได้ทำงาน
เขาจะขยันเขาจะห่วงและรักองค์กร เขาจะทุ่มเทและรับผิดชอบ
แม้จะหนักแค่ไหนไม่มีใครยกย่องเชิดชูให้เกียรตฺหรือให้รางวัลใดใด
แต่เขาก็จะทำเต็มกำลังความสามารถไม่เกี่ยง หรือหลบเลี่ยง
ดังนั้นเราควรปรับตนให้มีความจริงใจต่องานที่ทำ และต่อเพื่อนร่วมงาน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

       วันเสาร์ที่ ๔  พฤศจิกายน  ๒๕๖๐
                 เช้ารีบไปตลาด Love poon poon ลงของ
ให้ แก็ส ทอฝัน  กล้า เป็นคนเฝ้า  แล้วไปประชุมกรรมการ
ตัดสินงานทักษะวิชาการ หอประชุมจามจุรี สพป.ลำพูนเขต ๑
พบปะน้องสองคนที่เป็นกรรมการในกิจกรรมที่รับผิดชอบแล้ว
ตกลงกันเรียบร้อย  ไปต่อประชุมประจำเดือน สกว.ที่ มจร.ลำพูน
เที่ยงกว่าก็กลับมาตลาด  เด็กๆรับผิดชอบขายของเริ่มเบื่อ แต่รถยัง
ออกไม่ได้จึง ต้องรอ และเล่นไปก่อน  ขากลับแวะมงคลคาเฟ
ตลาดบ้านขว้าง  ธ.กรุงไทย พรุ่งนี้ประชุมเครือข่าย....คาระวีรีสอร์ท
เหนื่อยไหมคนดี...มีงานเยอะแยะ ^_^ ^_^ ^_^





ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

        วันศุกร์ที่  ๓   พฤศจิกายน  ๒๕๖๐
                   วันนี้ทำหน้าที่ครูเวรประจำ วันศุกร์ต้องแจ้งนักเรียนเรื่อง
สอบนักธรรมวันที่ ๙ พฤศจิกานี้ เพื่อให้นักเรียนเตรียมตัวล่วงหน้า
วันนี้เป็นวันลอยกระทงเด็กๆ เตรียมประดิษฐ์กระทงเพื่อไปลอยกระทง
ในตอนกลางคืน ต้องชี้แจงให้ระมัดระวังในการเที่ยวงานให้ไปกับผู้ปกครอง
เท่านั้น และระมัดระวังในการจุดประทัด ดอกไม้เพลิงต่างๆ
พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์เข้าร่วมประชุมเขต 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันพฤหัสบดีที่  ๒  พฤศจิกายน  ๒๕๖๐
                 เปิดเรียนเป็นวันที่สอง  การเรียนการสอนในแต่ละชั้น
แต่ละวิชา และกิจกรรมอื่นๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นปกติ
ธุรการโรงเรียนแจ้งว่าวันเสาร์นี้ต้องไปประชุมที่เขตพื้นที่ เพื่อปรึกษา
หารือหาข้อตกลงเรื่องงานทักษะวิชาการ ซึ่งทางเขตจะจัดขึ้นเพื่อ
แข่งขันและคัดเลือกตัวแทนไปแข่งขันระดับภาคต่อที่จังหวัดกำแพงเพชร
ภายในเดือนธันวาคมต่อไป  สำหรับวิชาภาษาไทยโรงเรียนเราได้เป็น
ตัวแทนระดับเครือข่ายเข้าไปแข่งขันระดับจังหวัด ที่โรงเรียนอนุบาล
ลำพูนสองรายการคือ ปริศนาวรรณคดีไทย  และกลอนสี่นั่นเอง
เอาใจช่วยนักเรียนทั้งสองทีมค่ะ สู้สู้



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันพุธที่  ๑  พฤศจิกายน  ๒๕๖๐
               เริ่มเปิดเทอมวันแรก เริ่มทำการเรียนการสอน
ตามตารางสอนเดิม  นักเรียนมาเรียนครบตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ
อาจจะเป็นเพราะว่าหยุดเรียนไปนานก็เป็นได้  การเปิดภาคเรียน
สำหรับบางคนก็หยุดอยู่บ้านและไม่ได้ไปไหน แม้แต่การ
เดินหรือขี่จักรยานเที่ยวเพราะผู้ปกครองเกรงจะเกิดเหตุ
อันตรายทั้งอุบัติเหตุและคนแปลกหน้าที่แอบแฝงเข้ามา
ในรูปแบบต่างๆ เช่น รถขายของ  บริการต่างๆ  ซึ่งไว้วางใจ
ไม่ได้  เด็กจึงดีใจที่เปิดเทอมเสียทีจะได้มีเพื่อนเล่นที่โรงเรียน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันอังคารที่ ๓๑  ตุลาคม ๒๕๖๐
            เตรียมตัวเปิดเทอมใหม่ คณะครูพบปะพูดคุยกัน
แต่มิได้ประชุมแบบเป็นทางการเพราะครูยังมาไม่ครบทีม
บ้างอบรม บ้างไปหาหมอ  สุขภาพนี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้า
เจ็บป่วยการทำงานก็คงไมเต็มที่



ความเห็น (1)

เด็ก ๆคงมาครบนะคะ ถ้าเป็นเด็ก ป ตรี ไม่ครบแน่นอน ปฏิรูป การศึกษาเริ่มที่วินัยน่าจะช่วยได้มากค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันจันทร์ที่  ๓๐  ตุลาคม  ๒๕๖๐

                    ร่วมงานทอดกฐินที่วัดทาดอยแช่  



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันอาทิตย์ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐
          เมื่อวานเย็นได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว
ในอำเภอแม่ทาของเรา เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ สมัยสร้าง
ทางรถไปจากกรุงเทพมาเชียงใหม่ ที่บ้านทาชมภู นั่นคือ สะพานขาว
ข้ามน้ำแม่ทา สร้างขึ้นหลังจากขุดอุโมงค์ขุนตานลอดใต้ภูเขามา 
อุโมงค์ขุนตาน เป็นอุโมงค์ทางรถไฟลอดผ่านที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
จากจำนวนทั้งสิ้น 7 อุโมงค์มีความยาวถึง 1,352.15 เมตร
ในอดีตบริเวณนี้ยังเป็นถิ่นทุรกันดาร เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ
ภูมิประเทศเป็นป่าทึบ และโขดเขาสูง การก่อสร้างจึงต้องใช้
ความอุตสาหะพากเพียรอย่างยิ่ง สะพานขาว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2462
โดยมีนายพลเอก กรมขุนกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นวิศวกรควบคุมงาน
เป็นสะพานทางรถไฟสีขาวโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางทุ่ง ถัดจากอุโมงค์ขุนตาล
แตกต่างจากสะพานรถไฟอื่น คือเป็นโครงคอนกรีตเสริมเหล็ก ยาว 87.3 เมตร
ซึ่งนับเป็นเรื่องแปลกและท้าทาย ด้วยการคำนวณและควบคุมงานที่ยอดเยี่ยม
ทำให้สะพานทาชมพูยังคงใช้งานได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่อายุเกือบ 100 ปีแล้ว



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันเสาร์ที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๐  
             วันนี้ไปขายของตลาดรักพูนพูน ตลาดอินทรีย์ของลำพูนบ้านเรา
LOVE POON POON Organic Market  ที่นี่ดีตรงที่ไม่ใช่แค่ตลาดซื้อขาย
เท่านั้น  แต่เป็นที่พบปะสังสรรค์  แม่ค้า  ลูกค้าเป็นคนที่มีใจตรงกัน รู้จักคุ้นเคยกัน
เป็นกัลยาณมิตรต่อกัน  อยากให้ อยากสนับสนุน กันและกัน มีความสุขที่ได้
ช่วยเหลือ แบ่งปันของดี มีคุณค่า ดีต่อใจ  ดีต่อสุขภาพร่างกายเราจึงชอบที่จะ
ไปขายของที่นี่ และชอบให้ใครๆ ไปแอ่วกันตลาดเลิฟ พูน พูน @ลำพูน
Lampoon Organic Market



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐
           วันนี้ไปอยู่เวรโรงเรียน  อากาศดีเช่นเดิม
จากนั้นไปงานขาว ดำของคุณตาน้องหญิง ท่านเสียตั้งแต่
วันปิยะ  แต่ชาวบ้าน และพระติดงานหลวง จึงจำเป็นต้องกำหนด
วันฌาปนกิจศพไว้ อีกหลายวัน แม่น้องหญิงเล่าว่าท่านปกติดีๆ
อยู่แท้  บทจะไปก็ไป เหมือนหลับไป แต่พวกลูกก็ทำใจได้เพราะ
ท่านไปไม่ทรมาน อายุท่าน ๘๕ ปี   เกิดปี พ.ศ.๒๔๗๕ ปีที่เขาปฏิวัติ
เปลี่ยนแปลงการปกครอง  เคยเป็นผู้ใหญ่บ้านติดต่อกัน ๑๕  ปี



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันพฤหัสบดีที่  ๒๖  ตุลาคม ๒๕๖๐
          วันนี้ได้ไปร่วมงานพิธีวางดอกไม้จันทร์ และเผาดอกไม้จันทร์
ที่วัดศรีมงคลเหมืองลึก  ซึ่งเป็นสถานที่จัดของอำเภอแม่ทา มีประชาชน
พ่อค้า ข้าราชการ และจิตอาสาจากตำบล หมู่บ้านต่างๆมากมาย เดินทาง
มาวางดอกไม้จันทร์  พิธีจัดได้อย่างดี ราบรื่น เรียบร้อย รู้สึกเศร้าแต่ก็มี
กำลังใจว่าคนไทย ยังรักและสามัคคีกัน ทุกคนรักในหลวง สำนึกในพระ
มหากรุณาธิคุณ ต่างสัญญาว่าจะทำดีตามรอยพระยุคลบาท ถ้าเป็นไปเช่นนั้น
บ้านเมืองเราต้องเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันพุธที่ ๒๕  ตุลาคม ๒๕๖๐

             การพึ่งพาสิ่งนอกตัวเป็นรื่องลำบาก เพราะมีเหตุปัจจัย
ที่เหนือการควบคุมบังคับหลายประการ  ลองนึกถึงแค่ตัวเราเอง
บางครั้งยังไม่เข้าใจตนเอง บังคับตัวเองยังไม่ได้  นับประสาอะไร
กับคนอื่นจะบังคับใครได้  "หวังพึ่งพี่ก็เจ็บท้อง  หวังพึ่งน้องก็เจ็บใจ"
ดังนั้นเกิดเป็นคนต้องหัดช่วยเหลือตนเอง  พึ่งตนเองให้ได้ก่อนไป
หวังพึ่งคนอื่น  การเที่ยวฝากความหวังไว้กับคนอื่นนั้น จะทำให้เรา
เสมือนบุคคลไร้ความสามารถ ถึงคราลำบาก ไม่มีใครช่วยเหลือเราได้
ก็จะต้องสูญเสีย ประสบเคราะห์กรรม ก็ไม่อาจคิดป้องกัน หรือปกป้อง
ตนเองได้  นอกจากหัดพึ่งตนเองแล้วเมื่อจำเป็นก็ต้องช่วยเหลือคนที่เขา
ด้อยโอกาสด้วย  ใครจะไปรู้จากมิตรสัมพันธ์ที่เราเคยช่วยเหลือคนอื่น
เมื่อถึงคราวลำบาก ใครสักคนที่เราเคยให้น้ำใจต่อเขาอาจจะให้
การช่วยเหลือเราบ้าง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันอังคารที่  ๒๔   ตุลาคม  ๒๕๖๐

       เตรียมตัว เตรียมใจอีกสองวันก็จะถึงงานถวายพระเพลิง
พระบรมศพพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙   รู้สึกใจหาย หนึ่งปีผ่านไป
ยังไม่ลืมเลือนวันที่ ๑๓  ตุลาคม ๒๕๕๙ ทรงเสด็จสวรรคต
คนไทยทั้งชาติตกอยู่ในความเงียบงันทั้งประเทศ ถึงแม้เวลาจะ
ผ่านไปหนึ่งปี  แต่ก็ยังรู้สึกทุกครั้งที่นึกถึง พระองค์ทรงสถิตใน
ดวงใจคนไทยชั่วนิรันดร์  เป็นเช่นนั้นจริงๆ  พระมหากรุณาธิคุณ
หาที่สุดมิได้  ยังน้อมรำลึกตลอดไป  ขอเป็นข้ารองบาททำดี
เพื่อพ่อและแผ่นดินไทยต่อไป จนกว่าชีวิตหาไม่

พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

                                       ข้าพระพุทธเจ้า..นางดอกไม้  ปานพาน
                                                   



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันจันทร์ที่  ๒๓  ตุลาคม  ๒๕๖๐

วันปิยมหาราชอีกครั้ง  ก่อนจะถวายพระเพลิง
พระบรมศพ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ 
๒๖  ตุลาคม ๒๕๖๐  เดือนตุลาคมช่างเป็น
เดือนแห่งความวิปโยคโศกเศร้าของคนไทย
โดยแท้.....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันอาทิตย์ที่ ๒๒  ตุลาคม ๒๕๖๐

               ได้หยุดพักกายใจ และทำธุระส่วนตัวบ้าง
ก็ในวันอาทิตย์  ส่งหลานชายไปแข่งฟุตบอล ซ้อมเตะ
อุ่นเครื่อง  กับทีมพี่น้องเพื่อเหย้าเยือนกัน  การได้เล่นกีฬา
ช่วยให้ชีวิตมีความมั่นใจ และเห็นคุณค่าในตนเองมากขึ้น
มีเพื่อน  มีครู  ฝึกฝนตนเองเอาชนะใจตนเองได้ แม้จะไม่ได้
ก้าวไปสู่จุดสูงสุดแต่ก็ทำให้ผ่านช่วงชีวิตวัยเด็กอย่างมีความสุข
และมีความหมาย



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันเสาร์ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๐
             คนเราเมื่อพบก็มีพรากไม่ว่าจะรักกันมากเพียงใด
บุญวาสนาและกรรมที่กระทำร่วมกันมาย่อมเป็นปัจจัยให้
พบปะและผูกพันกันไม่ว่าในสถานะใดใด ร่วมโชคชะตา
ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมผืนแผ่นดิน และร่วมโลกเดียวกันแต่ใน
ความเป็นจริงนั้น ทุกคนล้วนรู้แต่เวลาเกิดแต่ไม่มีใคร
รู้วัน เดือน ปี กำหนดเวลาที่จะจากโลกนี้ไป  ดังนั้นหากตรึกตรอง
ดูให้ดี เราทุกคนล้วนมาและจากไปอย่างโดดเดี่ยวตามบุญ
กรรมที่กระทำมา  ไม่มีใครเดินทางร่วมสองในเวลาจากโลกนี้ไป
ผลการประพฤติปฏิบัติตนเมื่อยังอยู่ในโลกนี้ เท่านั้นที่ฝากเอาไว้
ให้คนรำลึกนึกถึง และเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตาม
ในสิ่งที่ดี  ชีวิตสำคัญที่ปัจจุบัน  อดีตหวนกลับไปไม่ได้  ส่วนอนาคต
ก็ยังไปไม่ถึง ตั้งสติให้มั่นทำปัจจุบ้นขณะให้ดีที่สุด เมื่อนั้นแม้จะจาก
โลก(ร่างกาย)นี้ไป ก็จะมีสุขคติเป็นที่หมายอย่างแน่นอน.....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันศุกร์ที่ ๒๐  ตุลาคม ๒๕๖๐

เพื่อนเราไม่เก่าเลย
30 ปีก่อนเคยเรียนร่วมกัน
ความผูกพันไม่เปลี่ยนแปร

ล่องแพ กับเพื่อนเอก ประวัติศาสตร์20
วค. ลำปาง  ที่เขื่อนกิ่วลม  ลำปาง




ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
เก็จถะหวา
เขียนเมื่อ

วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๐
            การเรียนรู้ อันยิ่งใหญ่และกว้างขวาง
ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่ยังไม่มีการประดิษฐ์
คิดค้นอักษร หรือตำรานั้น  คนสมัยโบราณเรียนรู้
จากการสังเกต และจดจำ มวลประสบการณ์และ
การรวบรวมความคิด หรือการคิดไตร่ตรอง คิดทบทวน
หรือต่อมาเรียกว่า คิดอ่านหรือคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์
ก่อนตัดสินใจทำอะไร  กลายเป็นปัญญาความเฉลียวฉลาด
ที่ทำให้มนุษย์เอาตัวรอด จากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่มากมี
อันตราย จนเป็นผู้ครองโลกในปัจจุบัน แต่ถึงกระนั้นในปัจจุบัน
มนุษย์ มีตำรา ความรู้บันทึกไว้มากมายให้ศึกษา อ่าน เขียน
เรียนรู้ แต่มนุษย์ก็ยังต้องอาศัย การคิดอ่าน ด้วยปัญญาแห่ง
ความเป็นจริง(สัจธรรม) อยู่ดี ปัจจุบันโลกไม่มีสัตว์ร้ายที่อันตราย
เหมือนยุคก่อน แต่มนุษย์นี่แหละคือตัวอันตรายสำหรับกันและกัน
เพราะความโลภ โกรธ  หลงบังตา  จึงสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง
ได้  มนุษย์จึงเรียกร้องสันติภาพ เรียกร้องความยุติธรรม ถ้ามนุษย์
 คิดอ่านเป็นตามเป็นจริงไม่ฝืนสัจธรรม โลกคงไม่ลุกเป็นไฟ........ 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท