หล่อพระบูชา พระเครื่องบูชา

อาชีพที่เปรียบเสมือน การอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในชุมชน

วันนี้จำปีมีอีกหนึ่งสิ่งดีๆที่จะมาบอกต่อให้กับเยาวชนคนดี ที่ร่วมใจกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยนะค่ะ อาชีพที่ว่านี้ก็คือการหล่อพระเคื่องบูชา ซึ่งในชุมชนของเรามีครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่ง (นั่นก็คือครอบครัวของจำปีเอง) ซึ่งตั้งอยู่ บ้านเลขที่128 ม.2  ต.หอกลอง  อ.พรหมพิราม  จ.พิษณุโลก 65150  ประกอบอาชีพโดยการหล่อพรเครื่องบูชา พระบูชาต่างๆ โดยการหล่อแบบอนุรักษ์วัฒนธรรมคือหล่อแบบโบราณ ทั้งการเทหุ่นเท ปั้นช่อ ติดช่อ การเผาเบ้า การเททอง ซึ่งวิธีการต่างๆเหล่านี้จำปีก็ได้ถ่ายรูปมาไว้ให้ ผู้ที่สนใจในการอนุรักษ์วัฒธรรมได้ชมค่ะ ซึ่งอาชีพนี้เป็นได้ทั้งการอนุรักษ์วัฒนธรรมและการศึกษาประกอบการเรียน ค่ะและก่อนที่จำปีจะจบเรื่องราวดีๆของชุมชนในวันนี้ จำปีก็ขอฝากให้ทุกๆคน ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงามต่างๆไว้ เพื่อให้เด็กไทยรุ่นใหม่ได้ศึกษาในวันข้างหน้านะค่ะ ขอบคุณค่ะ

และนี่น่ะค่ะเป็นขั้นตอนการหล่อพระเครื่องบูชาแบบคร่าวๆเท่านั้นค่ะ
จำปีขอขอบพระคุณคนดีทุกท่านที่ร่วมใจกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยนะค่ะ

 แผนที่คนดี
ทหารพรานผู้เสียสละ
สวัสดีค่ะหนูชื่อนางสาว สุกัญญา สวนม่วง นักศึกษา ปวช. สาขาการบัญชี ชั้นปีที่ 1 วันนี้ขออนุญาตเป็นผู้สัมภาษณ์
คุณ ภูเบศร์ สื่อสวน นายทหาร วัย 21 ปี ที่อุทิศเวลามุมานะทำความดีเพื่อแผ่นดิน

ประวัติส่วนตัว โดยย่อ
ชื่อ คุณภูเบศร์ นามสกุล สื่อสวน เกิดวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2535 อายุ 21 ปี
ภูมิลำเนาเดิม (บ้านเกิด) บ้านเลขที่ 107 ม.8 ต.บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ 53120
ที่อยู่ปัจจุบัน 70/2 ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส วัดบางนารา จ.นราธิวาส 96000

..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................    ค่ะก่อนจะเข้าสู่การสัมภาษณ์ ขออนุญาตเรียก คุณภูเบศร์ ว่าพี่ภูเบศร์ แล้วกันน่ะค่ะ
คำถามแรก : เหตุผลอะไรที่ทำให้พี่ภูเบศร์เสียสละความสุขส่วนตัวมาทำประโยชน์เพื่อสังคมเพื่อแผ่นดิน โดยการเป็น อาสาสมัครทหารพราน ค่ะ
เหตุผลของพี่หรอครับ พี่เป็นคนไทย เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย รักพ่อหลวงของแผ่นดิน พ่อหลวงยังเสียสละเพื่อเยาวชนชประชาชนคนไทยมากมายขนาดนี้ ตัวพี่เองก็พร้อมที่จจะสละความสุขของตัวเองเพื่อปกป้องแผ่นดินทองแผ่นดินไทยของเราคนไทยเอาไว้ เพื่อความสุขของไทยทั้งผองครับ
คำถามที่ 2.พี่ภูเบศร์ รู้สึกเสียดายความสุขที่ตัวเองควรได้รับไปหรือไม่? จากการเสียสละครั้งนี้
เสียดายไหม? ไม่เสียดายเลยครับ เพราะความจริงพี่มีความสุขมากที่ได้ทำความดี ครั้งหนึ่งในชีวิตเกิดมาเป็นคน เป็นผู้ชาย ถ้าไม่รู้จักทำความดี ชาตินี้คงจะไม่มีความสุขอย่างแท้จริง
คำถามที่ 3. จากการทำความดี มีครั้งไหนไหมที่ ตัวพี่ภูเบศร์เอง รู้สึกว่า ท้อแท้ เหนื่อยล้า จนคิดว่าการทำความดีมันยากเกินไป หรืออีกแง่มุมหนึ่ง คือ มีครั้งไหนไหมที่ไม่อยากจะทำความดีอีกแล้ว เพราะมันยากลำบาก
เหนื่อยครับเหนื่อยมาก ลำบากมาก ก็อย่างที่ทราบเป็นทหารอยู่ภาคใต้ เสี่ยงมากๆ อัตรายสุดๆ แต่ถามว่ากลัวไหม ท้อไหม ไม่กลัวไม่ท้อครับ หากพี่ต้องเสียสละชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินทองของพ่อหลวงไว้ได้ เพียงเท่านี้พี่ก็มีความสุขมากแล้ว ที่สำคัญสำหรับพี่การทำความดีไม่มีคำว่ายากหากใจเรามุ่งมั่นที่จะทำด้วยหัวใจ 
คำถามที่ 4. และจากความลำบากที่ได้รับ ที่แลกมากับความดีที่กระทำ และยังทำให้แผ่นดินไทยยังคงอยู่ ยังทำให้เยาวชนคนไทยยังมีที่อยู่อาศัย ทำให้พี่ภูเบศร์มีความรู้สึกอย่างไรค่ะ
สิ่งที่ได้จากความลำบากคือความสุขครับ พี่มีความสุขมากที่ได้ทำความดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน

และคำถามสุดท้าย หรือข้อสุดท้ายค่ะ : อยากจะให้พี่ภูเบศร์ได้ฝากข้อคิด จากการทำความดีโดยที่ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน รู้จักการให้อภัย การเสียสละ ไม่หลงอยู่กับวัตถุนิยม และหันกลับมาทำความดี เพื่อประเทศชาติที่ยั่งยืนค่ะ
ครับพี่อยากจะฝากน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ อย่ามั่วแต่หมกมุ่นอยู่กับเทคโนโลยีค่านิยม วัตถุนิยมจนมากเกินไปเลยครับ หากว่าสิ่งเหล่านั้นดี ก็ควรจะใช้ให้เกิดประโยชน์ ใช้แต่พอควร อย่าใช้ให้มาทำลายชีวิตของตัวเอง และเกิดมาเป็นคนทั้งทีก็ความจะทำความดี รู้จักเสียสละ มีน้ำใจซึ่งกันและกันบ้าง เพราะไม่มีใครบนโลกนี้จะอยู่อย่างเพียงลำพัง สุดท้ายก็ขอให้ทุกๆคนนะครับร่วมกันตั้งมั่นอยู่บนรากฐานของความดี เพื่อชีวิตที่ดีในวันข้างหน้าครับ
ค่ะขอบคุณพี่ภูเบศร์มากๆเลยนะค่ะ ที่ให้หนูสัมภาษณ์ในครั้งนี้ หนูก็ขอให้ความดีที่พี่ภูเบศร์กระทำ คุณงามความดีต่างๆ รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบนสากลโลก ดลบันดาลให้พี่ภูเบศร์ และเยาวชนคนดี คิดดี ทำดี ทุกท่านทุกคน ประสบแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้าในชีวิตนะค่ะ สุกัญญา สวนม่วง ผู้สัมภาษณ์