สัปดาห์ที่ 17

  สัปดาห์นี้รุ้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง  เนื่องจากไม่มีกิจกรรมอื่นนที่เข้ามาแทรก  จะมีก็คงแต่พี่ๆที่เตรียมบรรจุ  ต้องวุ่นๆกันหน่อย  แต่สิ่งหนึ่งที่น่ากังวล คือ ตอนนี้  เริ่มสอนไมทันแล้ว  เพิ่งจบหน่อย2ของป.5 อยู่เลย  ต้องเร่งหน่อยละ  คะแนนก้ยังเก็บน้อย  ต้องรีบๆๆแล้วล่ะ

สัปดาห์ที่16

สัปดาห์นี้เป้นอีกสัปดาห์ที่ดูจะวุ่นๆ เพราะแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ต้องจัดเตรียมเอกสารและผลงานทางวิชาการของนักเรียนไว้นำเสนอในกิจกรรม open house ของโรงเรียน และกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ซึ่ง มีทีมงานทั้งหมด 3 คนที่ต้องช่วยกันรังสรรค์เต้นท์ ให้ออกมาสวยงามที่สุด  ซึ่งกิจกรรมในเต้นท์ประกอบด้วย  การนำเสนอผลงานของนักเรียน ผลิตภัณฑ์นักเรียน การทำเทียนเจล เกมส์ห่วงโซ่อาหาร  แบบจำลองผลึกแร่  รำลึกโทมัส เอดิสัน  และคลิปลอยน้ำ  ซึ่งในเวลาจริงกิจกรรมต้องทยอยทำ เนื่องจากเวลาไม่ทันเพราะบุคคลากรที่รับผิดชอบมีน้อย  แต่สุดท้าบยทุกอย่างก้ลงเอยด้วยดี

สัปดาห์ที่ 15 

สัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่ วุ่ยวายพอสมควร เนื่องจากต้องจัดโครงการต่อเนื่องจากสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์  คือกิจกรรมวันวิทยาศาสาตร์ภายในโรงเรียน  ได้แก่ การประกวดระบายสี ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 คำขวัญและเรียงความ ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6  และอีกกิจกรรมคือการแสดงทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น ป.6 ที่จะต้องทำการเตรียมตัวเตรียมอุปกรณ์ และทำการซักซ้อมให้แก่เด็กๆ ซึ่งเมื่อถึงวันเด็กๆกลุ่มนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อสามารถเรียกเสียกรี๊ด เสียงฮือฮา  แบบว่า WOw wow wow จากรุ่นน้องและคุณครูได้  บอกเลยว่าสนุกสุดไปเรย

สัปดาห์ที่ 14
สัปดาหเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่เริ่ทต้นด้วยโครงการในวันเสาร์และอนาคต ตอนนี้ผมรู้จักกับความว่าครูแล้ว ครูนอกจากจะเป็นครูในเวลาเเล้ว ยังต้องเป็นครูตลอดเวลา เบื้องหลังความสำเร็จของเด็กๆแล้ว นอกจากสถาบันครอบครัว ก็ยังมีสถาบันการศึกษานี่แหละที่คอยอุ้มชูอยู่ ต่อด้วยกิจกรรมสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์ที่ต้องนำนักเรียน จำนวน 170 คนไปดูงานที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เด็กๆรู้สึกตื่นเต้นมากกับกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ตนเองไม่เคยทราบมาก่อน การเรียนรู้นี่มันเกิดได้ทุกที่จริงๆ ว่ามั้ยครั

สัปดาห์ที่ 13
การเรียนการสอนในสัปดาห์ดูเหมือนผมจะเริ่มปรับตัวได้ เริ่มชินกับการเป็นครูอย่างเต้มตัว กับภาระการสอน 22ชั่วโมง แต่ครูพี่เลี้ยงที่น่ารักก็ดทรมาสอบถาม ให้คำแนะนำเป็นระยะๆ อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจ ความสัมพันธืของกระผมกับนักเรียนชั้น ป.6 เริ่มดีขึ้น มีความคุ้นเคยกันมากขึ้น หลังจากที่ได้เป็นผู้ควบคุมกีฬาให้กับพวกเขา เห็นแววตาที่จริงใจของเด็กๆแล้วชื่นใจ มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.6 ถามผมว่า"ทำไมครูต้องทุ่มเทให้กับพวกผมขนาดนี้" คนฟังแล้วก็ชื่นใจ ก็เลยตอบไปว่า "ครูอยากให้พวกเธอได้ไง" ชื่นใจเนอะ และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจคือ การนำลูกชาย 3 คน ไปแข่งขันประกวดสอ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ แต่ดูเหมือนผมจะตื่นเต้นกว่าเด็กๆซะอีก ผลปรากฏว่า นักเรียนของผมได้รับรางวัลชนะเลิศระดับจังหวัด และผ่านเข้าสู่รอบระดับประเทศ หายเหนื่อยเลยครับ

สัปดาห์ที่ 12 

เข้าสู่สภาะวะปกติอีกครั้ง  สัปดาห์ข้าพเจ้าได้กลับมาสอนอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งโดยเนื่อหาใน ป 5 จะเรียนกันในหน่วยของวัสดุและสมบัติของวัสดุ และ ป 4 จะเรียนในหน่วยดินในท้องถิ่น  ซึ่งข้าพเจ้าได้จัดเตรียมเนื้อหาสำหรับการจัดกิจกรรมในห้องเรียนไว้  และในสัปดาห์มมีการซ้อมกีฬา เพื่อแข่งขันกีฬาโรงเรียนในกลุ่ม อบจ.ภูเก็จ  ซึ่งข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้ควบคุมกรีฑา รุ่น อายุ 12 ปี  แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้ายังคงคิดว่าเป็นข้อบกพร่อง คือ การบริหารเวลาในชั้นเรียน ซึ่งบ่อยครั้งที่การสนทนาเกิดการนอกเหนือจากเรื่องที่เรียน และการแบ่งเวลาของข้าพเจ้า ในการปฏิบัติงานที่นอกเหนือจากการสอน เช่น การเตรียมแผนการสอน  การเตรียมสื่อ การจัดทำกรณีศึกษา การจัดทำรายงาน เป็นต้น  ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าต้องได้รับการปรับปรุงโดยเร็ว   แต่โดยรวมแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกพอใจกับผลงานโดยรวม

สัปดาห์ที่11

สัปดาห์ที่11 เป็นอีกสัปดาห์ที่ข้าพเจ้าต้องไปราชการ ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ในงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติครั้งที่ 6 ในวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2556 ซึ่งเป็นงานแสดงผลงานทางด้านดครงการคุณธรรมภายใต้สโลแกน "สร้างไทย สร้างชาติ สร้างใจซื่อตรง" ซึ่งข้าพเจ้าได้เข้ารับฟังปาฐกถาพิเศษจาก ดร.สุรินทร์พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ซึ่งท่านได้กล่าวทิ้งไว้ว่า  ความซื่อตรงของเด็ก คือทางรอดของประเทศ  ซึ่งก็เหมือนกับทิ้งไว้ให้ทางสถาบันครอบครัว การศึกษา และสังคมที่จะต้องเป็นผู้อบรมสั่งสอนเด็กปลูกฝังการมีคุณธรรมให้แก่เด็กเพื่อเป็นบุคลากรของชาติที่มีคุณธรรมในอนาคต  และในงานเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเครือข่ายการศึกษา และองค์กรต่างๆในเครือข่ายคุณธรรม  ซึ่งเป็นงานที่เป็นประโยชน์ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าการปลุกฝังทางด้านคุณธรรมจะเป็นทางแก้ไขปัญหาที่สำคัญอย่างการคดโกง คอรัปชั่น ในประเทศได้

สัปดาห์ที่ 10

สัปดาห์นี้กลับเข้าสู่การเรียนการสอนอีกครั้ง  การเรียนการสอนเป็นไปตามปกติ  แต่หน้าที่นอกจากการสอน มีบ่อยจัง  ซึ่งมีคำสั่งออกมาว่า ให้ไปราชการระหว่างวันที่ 24-27 กรกฏาคม 2556 ซึ่งเป็นงานสมัชชาคุณธรรม ณ อิมแพ็ก อารีน่า เมืองทองธานี ดังนี้งานที่ค้างไว้อย่าง การประกวดสิ่งประดิษฐ์ที่ค้างไว้ ก็ต้องรีบปั่นอย่างไว้  ซึ่ง ณ ปัจจุบัน เวลาที่กำลังเขียน อนุทิน  ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว  และยังมีการคัดเลือกนักกรีฑา เพื่อเป็นตัวแทนโรงเรียน เพื่อไปแข่งขันกีฬาโรงเรียนใน กลุ่ม อบจ. ซึ่งก็ได้รับหน้าที่ควบคุม กรีฑารุ่น อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุดของโรงเรียน ร่วมกับ เพื่อนร่วมงานที่น่ารักที่สุดอย่าง ยุวดี ดำหาย หรือนางส้มเช้งของพวกเรา ซึ่งก็รับปากว่าจะทำให้ดีที่สุด  ต่อด้วยการอบรมแก็สชีวภาพ ในวันเสาร์  และนำนักเรียนไปทำบุญตักบาตร เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และต่อด้วยค่ายคณิตศาสตร์จากสาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต  ซึ่งทุกอย่างในสัปดาห์ผ่านไปด้วยดี ซึ่งในตอนนี้รู้สึกว่าตนเองกำลังแข่งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ กับหน้าที่ที่มีเกียรติอย่างการเป็นครู  และเชื่อว่าการรักษาความดีอย่างต่อเนื่องจะทำให้เราประสบกับความสำเร็จในอนาคตอันใกล้.................ขอบคุณครับสำหรับประสบการณ์ดีดี ที่อบจ. บ้านนาบอนของเรา

สัปดาห์ที่ 9 

     สัปดาห์นี้  ตามภารกิจแล้ว ไม่มีการสอน เนื่องจากต้องนำนักเรียนชั้น ป.5-6 ไปจัดค่ายวิทยาศาสตร์ ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 9-13 กรกฏาคม 2556 ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสดีสำหรับเด็กๆที่จะได้ไปเรียนและเที่ยว หาประสบการณ์นอกโรงเรียน ซึ่งในค่าวิทย์มีกิจกรรมดีๆและสื่อมากมาย อย่างเช่น กิจกรรมฐานวิทยาศาสตร์ การปลูกป่าชายเล่น การดูดาวภาคสนาม การทำเข็มกลัด การเพ้นท์ถุงผ้า และการนันทนาการที่แสนสนุก ซึ่งยังกล่าวไม่หมด  เด็กๆตื่นตัวที่จะเรียนรู้ และก็ได้รับคำชมสำหรับเรื่องมารยาท ซึ่งก็สามารถพูดได้เต็มปากว่า โรงเรียน อบจ.บ้านนาบอนเป็นโรงเรียนต้นแบบคุณธรรม....อิอิ แต่ดูเหมือนที่เด็กๆจะได้ประสบการณ์มากที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องการบริหารเงิน  เพราะนักเรียนบางคนเงินหมดตั้งแต่วันออกเดินทาง โดยซื้อขนมตลอดเส้นทางที่รถหยุดพัก  แต่ดีนะที่ครูได้วางแผนการเอาไปแล้ว  คือจะจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงในวันสุดท้าย ซึ่งทำให้นักเรียนที่เงินหมด มีกำลังใจขึ้นมาบ้าง  อีกสิ่งหนึ่ง คือการที่ครูฝึกสอนอย่างเราๆ ได้ประสบการณ์มากมาย  ในการนำนักเรียนออกนอกสถานที่ในต่างจังหวัดครั้งแรก   ช็อป  ชอบมากมาย

                                             สัปดาห์ที่8.  

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ทุกคน ยุ่งหัวปั่นกับการเตรียมงาน เพื่อเข้ารับการประเมินและติดตามโรงเรียนพระราชทาน ซึ่งโรงเรียนอบจ.บ้านาบอนเคยได้รับเมื่อปี พ.ศ.2537การเตรียมงานไม่ใช่เป็นการทำขึ้นมาใหม่ แต่เปรียบเสมือนเป็นการหาสมบัติจากกรุเก่า ซึ่งเป็นผลงานที่คณะครูได้เคยทำมาแล้วทั้งสิ้น เพียงแค่นำมาจัดแสดงเป็นผลงานวิชาการทั้ง8สาระการเรียนรู้ และเมื่อถึงวันศุกร์ โรงเรียนก็ได้เ้ารับการประเมินโรงเรียนพระราชทาน ซึ่งผลปรากฏว่า ไม่ผิดหวัง โรงเรียนอบจ.บ้านนาบอนได้รับการคัดเลือกเป็นโรงเรียนพระราชทานต่อไป แล้วต่อในวันเสาร์-อาทิตย์กับค่ายวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น ป3-4 และอบรมโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น ป5-6 ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากสาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไป คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ซึ่งเป็นน้องๆในสาขา ทั้งปี3และปี4 ทางโรงเรียนพยายามที่จะอำนวยความสะดวกเรื่องสวัสดิการในเรื่องของอาหารการกิน แต่ด้วยในเรื่องงบประมาณ+จำนวนนักศึกษาที่เข้าร่วมมีจำนวนมากจึงไม่สามารถจัดการให้ได้ทั่วถึง และในเรื่องสถานที่ซึ่งจัดพร้อมกันทั้ง2โครงการ ทำให้สถานที่อาจจะไม่สดวกเพียงพอต่อการทำกิจกรรม ซึ่งต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วยซึ่งในภาพรวมแล้ว ผลการทำกิจกรรมโครงการพัฒนาศักยภาพขแงผู้เรียนเป็นที่น่าพอใจ ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งสังเกตได้ การตอบสนองของนักเรียน มีความสุข ให้ความร่วใมือ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับกิจกรรม ซึ่งต้องขอขอบคุณสาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไปอีกครั้งหนึ่ง และหวังที่จะได้ร่วมงานกันอย่างนี้อีก. 

                                                                                                                         ขอบคุณครับ

สัปดาห์ที่ 7.doc

สัปดาห์ที่ 6

            สัปดาห์นี้เหมือนกับได้ฝึกซ้อมสอนอย่างเต็มตัว  ทั้งในบทบาทของครูผู้สอนและบทบาทของครูประจำชั้น  เนื่องจากคุณครูพี่เลี้ยงติดราชการต้องนำนักเรียนส่วนหนึ่งเดินทางไปแข่งขันทักษะทางวิชาการที่จังหวักนครศรีะรรมราชเป็นเวลา 5วัน  ซึ่งรับผิดชอบการสอนวิทยาศาสตร์ชั้น ป.4-6 จำนวน 6 ห้องเรียน กิจกรรมแนะแนว ชุมนุมวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม และอาเซียนศึกษา   รวม 21 ชั่วโมง  ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี และหลังจากนี้อีก 1 เดือนเศษ ก็จะต้องสอนรายวิชาของคุณครูพี่เลี้ยงทั้งหมด เนื่องจากคุณครูพี่เลี้ยงต้องลาคลอด ซึ่งหวังว่าการปฏิหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นี้จะผ่านไปได้ด้วยดีอีกครั้งหนึ่ง  และในวันศุกร์ การเป็นครูให้ความรู้ประจำฐานในกิจกรรมเสริมทักษะทางคณิตศาสตร์ ก็ยังเป็นอีกบทบามหนึ่งที่ยังคงสนุกเช่นเคย

ขอบคุณครับ

            สัปดาห์ที่ 4  วันที่ 10-14 มิถุนายน 2556

           ในสัปดาห์ที่4 เป็นสัปดาห์ที่ครบรอบ 1 เดือนของชีวิตการเป็น ครู  นับจากวันแรกจนถึงวันนี้ 1 เดือน  ได้สอนประสบการณ์อะไรหลายๆอย่างของการเป็นครู การวางตัวในโรงเรียน  แต่ก็ยังถือว่า เป็นแค่จุดเริ่มต้นเนื่องจากอนาคตจากนี้อีก 30กว่าปี จะต้องเป็นคุณครูเเละเมื่อถึงวันนั้นหลายคนคงจะนึกถึงชีวิตวันแรกของการเป็นครู

            สัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยฝนตกตลอดทั้งสัปกาห์ทำให้การเข้าแถวของเด็กนักเรียนต้องย้านมาเข้าแถวหน้าห้องเรียน และเมื่อมีฝนตก ด้วยเด็กมีความซุกซนตามวัยจึงต้องมีการกวดขันเรื่องความสะอาดและการออกนอกห้องเรียนเป็นพิเศษ รวมถึงการพูดคุยถึงการปฏิบัติตนเมื่อมีฝนตก

           วันที่ 12-13 มิถุนายน เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ประทับใจ  คือการนำเด็กส่วนหนึ่งเข้ารับการอบรม เรื่อง  พลังงานทางเลือก Biodesel  ณ อาคารไบโอดีเซล  ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต.วิชิต  อ.เมือง  จ.ภูเก็ต  ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความรู้และเป็การปลูกฝังในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย

สัปดาห์ที่ 4.doc

สัปดาห์ที่ 3.doc

สัปดาห์ที่ 2.doc

อนุทิน สัปดาห์ที่ 1.docx