วัฒนธรรมไทย

๑. วัฒนธรรมอันดีของคนไทย

ยกมือประนมไหว้ทักทายกัน

เด็กๆมีหน้าที่สืบสานต์

ให้สิ่งดีงามนั้น คงอยู่ตลอดไป

๒. อยู่บ้านสวัสดีคุณพ่อ

งานหนักไม่ท้อคุณพ่อสู้ได้

หาเงินให้ครอบครัวใช้จ่าย

เหน็ดเหนื่อยมากมายลำบากกายา

๓. เข้าครัวสวัสดีคุณแม่

ที่ช่วยดูแลหุงหาข้าวปลา

เลี้ยงเราให้เติบใหญ่ภายหน้า

อบรมจรรยาให้เป็นคนดี

๔. สวัสดีคุณปู่ คุณ ย่า

คุณยาย คุณตา ญาติๆ น้องพี่

ทุกคนมีน้ำใจไมตรี

เอื้อเฟื้อน้องพี่อุดหนุนจุนเจือ

๕. ไปโรงรียนสวัสดีคุณครู

ผู้ให้ความรู้กับเราทุกเมื่อ

เรียนรู้เป็นหน้าที่ไม่มีเบื่อ

เพื่อนๆมากเหลือ สนุกเฮฮา

๖. เข้าวัดนมัสการพระพุทธองค์

ก้มกราบพระสงฆ์ฟังธรรมเทศนา

ฝึกจิตนั่งสมาธิวิปัสสนา

ศีลธรรมศาสนาทำให้คนเป็นคนดี

๗. ที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด

เราพึงกราบไหว้นายหลวงและราชินี

ทรงเป็นที่เคารพของไทยนี้

เด็กๆที่ดี ก้มกราบเคารพบูชา

๘. คุณทอม เวลคัมทู เมืองไทย

คุณรู้จักไหม การกราบไหววันทา

ทำผิดไม่ได้คิดเจตนา

พนมมือขึ้นมา แล้วคำกล่าวว่า ขอโทษ

๙. เหนื่อยจังกำลังจะกลับ

คุณแม่มารับพร้อมนมกล่องของโปรด

กินนมแข็งแรงดีไม่มีโทษ

ขอบคุณครับ ของโปรดพวกเราชอบใจ

๑๐. กลับบ้านสอนน้องสวัสดี

ต้องทำแบบนี้สวัสดีรู้ไหม

เด็กดีต้องรู้จักการไหว้

เป็นวัฒนธรรมไทยตั้งแต่โบราณมา

๑๑. ตอนเย็นก่อนจะเข้านอน

ทำการบ้านก่อนฝึกหัดวิชา

เติบโตเป็นผู้ใหญ่ภายหน้า

จะได้มีวิชาพัฒนาชาติไทย

๑๒. วันหยุดเราหัดเล่นกีฬา

ใช้เวลาให้มีค่า ออกกำลังกาย

ครอบครัวอบอุ่นสุขใจ

เพื่อสังคมไทย สุขสดใส เบิกบาน

กิฟท์ ท่าตะโก ประพันธ์

ตุลาคม ๒๕๕๑

จับปากกาเขียนกลอนตอนบ่ายๆ

ตอบจดหมายสำนวนหวานอาจารย์นิ่ม

อันหวานอื่นหมื่นใดเคยได้ชิม

รสหวานนิ่มหวานนานเกินหวานใด

............................................

ยินมนต์เพลงฉบับสุดท้ายจดหมายรัก

คิดถึงนักวันพี่ยาร่วมปราศัย

แว่วเสียงเพลงหดหู่ชู้ทางใจ

แสนพิไลรำพรรณในวันเยี่ยน

...................................................

เมื่องไมซอร์วันนี้ฟ้าสีหมอง

หน้าพี่น้องหม่นไหม้เหมื่อนไร้เพื่อน

หวังหยาดหยดอัมฤทธิ์สกิดเตือน

อย่าลืมเพื่อนลืมน้องชาย เมืองปลายฟ้า

................................................

Pelican วันนี้ไม่มีนิ่ม

หน้าเปื้อนยิ้มใสใสไม่เห็นหน้า

คงจะลืม Bogardi แล้วพี่ยา

ไม่เห็นหน้าเห็นหนวดแสนปวดใจ

------------------

แล้ววันที่ฟ้าสีฟ้าก้อมาถึง

ใจมันซึ้งมันซ้านสะท้านไหว

เมื่อได้รับ ส.ค.ส. จากแดนไกล

คือคำพรจากพี่ชายเมืองทมิฬ

...........................................

ประหนึ่งหยาดน้ำค้างกระจ่างใส

หยดที่ก้นบึ่งใจให้ถวิน

ดังหมูดาวสุขสกาวไร้ราคิน

มิตรภาพยังไม่สิ้นในวันนี้

.............................................

เพราะสายฝันพันกันขอบฟ้าไกล

เลือดลูกไทยไม่เคยเศร้าหม่นหมองสี

แม้ฟ้ากว้างทางไกลไร้รวี

ต่างธานีก้อเหมือนอยู่ มาตุภูมิ

........................................

PS. ประสงค์จะให้บทกวี ฉายภาพแช่มชื่นของ

มิตรภาพในอดีต ให้สว่างใสในดวงตา

ประหนึ่งว่า มันยังกลุ่นอยู่ในใจ

จากน้องพี่......

กิฟท์ ท่าตะโก