ดอกไม้


Wasawat Deemarn
เขียนเมื่อ

| อนุทิน ... ๕๔๖๐ |

"..."

สำหรับพ่อแม่ ... ลูก คือ ทุกสิ่งทุกอย่างของท่าน

แต่สำหรับลูก ... พ่อแม่ คือ ทุกสิ่งทุกอย่างของลูกหรือเปล่า

(วลีสำหรับถามนักศึกษาที่คิดได้เมื่อเช้านี้)

9
4
papit_s
เขียนเมื่อ

สวัสดีทุกคนค่ะ

เนื่องจากเป็นคนที่ชอบทำขนมมาตั้งแต่เด็ก และไม่ได้จดสูตรเอาไว้เลย พอเวลาผ่านไปก็พบว่าเราลืมสูตรที่เคยทำไปหมดแล้ว จึงเริ่มมีแนวคิดว่า เราควรจะต้องบันทึกเอาไว้ซะหน่อย แต่ถ้าบันทึกไว้ในสมุดเราก็จะอ่านได้เพียงคนเดียว แต่เราอยากจะแบ่งปันประสบการณ์และสูตรที่ทำให้กับเพื่อนๆ ด้วย จึงเอามาบันทึกในนี้ค่ะ

วันนี้จะเป็นวิธีการทำเครปเค้กสตรอเบอรี่ค่ะ ซึ่งทำไปแล้ว 2 ครั้ง ผลตอบรับออกมาค่อนข้างดี จึงนำมาแบ่งปันกันค่ะ มีรูปของทั้ง 2 ครั้งมาให้ดูด้วยค่ะ ถ่ายกับ ipad แต่ถ่ายไม่ครบทุกขั้นตอนนะคะ เพราะตอนแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะมารีวิว

สูตรที่ใช้ปรับส่วนผสมมาจาก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=anadiar&date=03-03-2009&group=15&gblog=25 (ให้เครดิตเจ้าของค่ะ)

วิธีทำ เครปเค้กสตรอเบอรี่

ส่วนผสมของแป้งเค้ก

ไข่ไก่เบอร์ 0 จำนวน 6 ฟอง

แป้ง 2 ถ้วยตวง (ประมาณ 250 กรัม)

นมสด 250 cc

นมข้นจืด 200 cc

น้ำตาลทราย 85 cc

น้ำมัน 100 cc

น้ำเปล่า 300 cc

เกลือ 2.5 cc

วานิลลา 5 cc

วิธีทำแป้งเครป

1 อุ่นนมสด และ นมข้นจืดให้ร้อน และตั้งจนเย็น

2 ตีไข่ทั้งหมด และนำนมเทลงไปในไข่ จากนั้นทยอยใส่แป้ง และตีไปเรื่อยๆ ตามด้วยนม น้ำตาลทราย น้ำมัน น้ำเปล่า และ วานิลลา ตีไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมเข้ากันและเนื้อแป้งเนียน จากนั้น ก็นำไปกรอง และแช่ตู้เย็นค้างไว้ 1 คืน

3 หลังจากผ่านไป 1 คืน นำแป้งออกมาจากตู้เย็นตั้งทิ้งไว้เพื่อปรับอุณหภูมิ (แป้งที่นำออกมาจากตู้เย็นจะมีการแยกชั้นระหว่างแป้งกับไขมัน ก่อนจะทอดแป้งก็ให้กวนแป้งจนเข้ากันอีกครั้ง)

4 นำแป้งไปทอด โดยใช้กระทะเทฟล่อน ตักแป้งครั้งละประมาณ 1/4 ถ้วย (ขึ้นอยู่กับขนาดของกระทะ) เปิดไฟเบาๆ และเทแป้งวนรอบกระทะให้ทั่ว สังเกตว่าเมื่อแห้งเริ่มสุก จะไม่ติดกระทะ เอาตะหลิวแซะๆ ก็จะหลุดออกมา จากนั้นก็นำแป้งไปพักไว้ให้เย็น

ตอนทอดแป้งจะเสียเวลาหน่อยนะคะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากส่วนผสมตามนี้จะได้แป้ง 20-25 แผ่นค่ะ (ขึ้นอยู่กับความหนาของแป้งที่ทอดค่ะ)

 

 

ส่วนผสมวิปปิ้งครีม

วิปปิ้งครีม 600 cc

น้ำตาลาลไอซ์ซิ่ง 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำวิปปิ้งครีม

ผสมวิปปิ้งครีมและน้ำตาลไอซ์ซิ่ง ตีไปเรื่อยๆ จนครีมเริ่มตั้งยอดอ่อน (ถ้ายังตีต่อไปครีมจะแตกตัวเป็นเม็ด จับตัวเป็นก้อน และกลายเป็นเนย) 

เมื่อแป้งเครปที่พักไว้เย็นแล้วก็นำมาทาวิปปิ้งครีมทีละชั้นจนแป้งหมด จากนั้นก็นำเค้กไปแช่ตู้เย็นประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งและครีมเซตตัว และนำมาราดซอสรับประทานได้เลย

ส่วนผสมซอสสตรอเบอรี่

สตรอเบอรี่แช่แข็ง 500 กรัม

น้ำตาลทราย 200 cc

น้ำเปล่า 100 cc

วิธีทำซอสสตรอเบอรี่

น้ำสตรอเบอรี่ น้ำตาลทราย และน้ำเปล่า ไปต้มจนเดือด พักไว้ให้เย็น แล้วนำไปปั่นแบบหยาบ

 

 

5
1
Chatchai sukkeerod
เขียนเมื่อ

ทดสอบการใช้งาน

2
0
ยายธี
เขียนเมื่อ

"วันนี้"..ลมแรงมากๆ..ตั้งแต่เช้าตรู่...มาถึงบัดนี้...ก็ยังพัดโบกสบัดโบย..ใบไม้..ทิ้งใบไปตามลมแรง...(คิดถึงวลีที่ว่า)...................ควะคว้างใบไม้ปลิว...ละลิ่วสู่..บนพื้นดิน...เอื่อยๆธาราริน...มิรู้สิ้น..ณ.  หนใด...................

ลมนี้..พัดพา..ความเย็นยะเยือก..มาด้วย.......(เย็นเยียบเข้า..ขั้วหัวใจ...เมื่อ..หวาดหวั่น..แล  กลัว..ว่า..จะสิ้นหวัง.).........

ความหฤโหด..ที่ได้ยิน..ได้เห็น..ยังฝังแน่น..ในจิตใจ.....(ภาพของแม่..ที่เต้นโลด..ขาดสติ..แทบเป็นบ้า..หรือ..จะเป็นไปแล้ว..เพราะรับ..สภาพ..ความทารุณโหดร้ายนั้นไม่ได้..."เด็กสองคนถูกฆ่าตายพร้อมหญิงอีกหนึ่งคน"....เป็นข่าว..ที่ สยดสยอง..ที่เกิด..ขึ้นกับ..สังคมนี้.....บ้านเรา...

...ทุกวันนี้..มีอะไร..เป็นสาเหตุ..มีอะไร..ที่เรามองข้ามไป....มีอะไร..ที่เกิดขึ้น..แล้วเรา..สามารถ..เพิกเฉยกันได้...

10
1
krupound
เขียนเมื่อ

นานแล้วไม่ได้มาแบ่งปัน หลังจากนี้คงได้เริ่มกันอีกครั้ง...

7
0
"พี่หนาน"
เขียนเมื่อ

๑๓/๐๑/๒๕๕๗

อนุทิน ๑๑๓.

“แนะนำ”

เมื่อวาน ๑๒ ม.ค.๕๗  เวลาประมาณ ๑๑ โมงเช้า มีส.อบต.หมู่ ๑๕ ท่านหนึ่งขับรถเครื่องมาจอดหน้าบ้าน เข้ามาถึงก็ทำมือกำกำปั้นใส่ปากถามว่า “หนาน แนะนำการพูดให้หน่อย”  ผมเองก็งงก็ถามในลักษณะว่า “พูดอะไรเหรอ?”  เขาบอกว่า “การจับไมค์พูดไง”  ผมถึงบางอ้อ  ส.อบต.ท่านนี้เป็นคนใหม่ที่ได้รับเลือกเข้ามา  หลายคนว่าเขาการศึกษาน้อย แต่เป็นคนที่มีความพยายามที่จะเรียนรู้หลาย ๆ สิ่งเพื่อให้ตนเองได้ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำ(ชาวบ้าน)อย่างภาคภูมิ  ผมเองก็ชื่นชมในความไม่สันโดษในการแสวงหาความรู้ของเขามาก  จึงได้แนะนำวิธีการฝึกพูดแบบกระชับ รวบรัดดั่งที่เคยเรียนมา เมื่อครั้งเรียน ป.ตรี กับ อ.วิเชียร เกษประทุม ที่นครสวรรค์  ท่านให้ท่องจำหลักว่า...”เตรียมตัวให้พร้อม  ซักซ้อมให้ดี  ท่าทีให้สง่า  วางท่าให้สุขุม  ทักที่ประชุมไม่วกวน  เริ่มต้นให้โน้มน้าว เรื่องราวต้องกระชับ  ตาจับที่ผู้ฟัง  เสียงดังแต่พอดี  อย่าให้มีเอ้ออ้า  มีท่าทางประกอบ  ตรวจสอบอารมณ์ขัน  หมั่นดูเวลาพอครบ  สรุปจบให้จับใจ  ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดการพูด”...

ซึ่งผมก็ให้คำอธิบายในแต่ละข้อความ ว่ามีความหมายอย่างไร  จากนั้นก็ ลองให้เขากำหนดประเด็นว่าเราจะพูดเรื่องอะไร...ยกตัวอย่างเช่น  จะถ่ายทอดความรู้ให้ชาวบ้านเรื่องใดเรื่องหนึ่ง...ก็ให้กำหนดประเด็นหลัก ๆ ง่าย ๆ เอาไว้ว่า  ๑.ใคร  ๒.ทำอะไร ๓.ที่ไหน ๔.เมื่อไหร่ ๕.อย่างไร  เมื่อมีหนังสือมาจากอำเภอหรือ อบต.แจ้งมาก็ให้นำมาเข้ากับประเด็นดังกล่าวว่า...จะถ่ายทอดเรื่องดังกล่าวอย่างไร เช่น เรื่องภัยแล้งก็ให้อ่านทำความเข้าใจก่อนว่า...

-       ทางอำเภอ นายอำเภอ หรือ นายก อบต.

-       มีหนังสือแจ้งเตือนชาวบ้านเกี่ยวกับภัยแล้ง

-       ว่าปีนี้มีภัยแล้งนาน จากเดือน ธันวาคม ถึงเดือน พฤษภาคม ๕๗

-       รายละเอียดมีอย่างไร  ให้มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ใส่น้ำเก็บเอาไว้ให้พร้อมเพื่อรองรับภัยแล้งให้พอใน ระยะ ๕ เดือน ฯลฯ

-       แล้วก็เอาแต่เนื้อความมาพูด  ไม่ต้องไปอ่านเอกสารทุกตัวให้ชาวบ้านฟัง  เขาจะเบื่อเซ็งเอาได้

โดยแนะนำขั้นตอนหลัก ๆ คือ

๑.      ทักที่ประชุม    กล่าวทักทายว่า  สวัสดี... กราบสวัสดี...  เรียน... คงไม่ต้องถึงกับกราบเรียนหรอก เพราะกราบเรียนปกติจะใช้กับระดับ สส. หรือ สว. ขึ้นไป

๒.     แนะนำตัว... เกริ่นนำ...   วันนี้เป็นวันอะไร...  จะมีการประชาสัมพันธ์เรื่องอะไร...

๓.     เนื้อเรื่องที่จะนำมาถ่ายทอด   ตามเบื้องต้น...และอย่าลืมสรุปสั้น ๆ อีกครั้ง...ปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ วันเวลาที่ชัดเจน

๔.    ตอนท้ายก็บอกว่ามีเรื่องที่จะชี้แจงให้ฟังและปฏิบัติตามเพียงเท่านี้

*แนะนำข้อสังเกตการพูด คือ  อย่าพูดออกนอกประเด็น หรือนอกเรื่องโดยไม่จำเป็น เช่น พูดเรื่องคนอื่น ใครทำงาน ใครไม่ทำงาน  เรื่องตนเอง วันนี้จะทำอะไร จะอยู่หรือไม่อยู่ ไม่ต้องไปพูด  พูดตามขั้นตอน  จบแล้วจบเลย  อย่าเหิรแบบเครื่องบินที่ลงสนามบินไม่ได้เพราะสภาพรันเวย์ไม่เอื้ออำนวย 

ผมปริ้นท์เอกสารหลักการพูดหรือขั้นตอนการเตรียมตัวพูดให้หนึ่งแผ่น  ด้านหลังก็เขียนหลักการพูดดังกล่าวเบื้องต้นให้เขา... เขาก็ถามว่า “เอาเท่าไหร่เนี่ย?”  ผมบอก "ไม่ต้องหรอกให้เป็นวิทยาทานก็แล้วกัน  หากจะหาหนังสือไปอ่านก็คงจะเสียเวลาทำมาหากินมากอยู่นะ...ทำตามที่แนะนำให้ได้ก็แล้วกัน...ที่สำคัญต้องมีความมั่นใจในตนเอง...อย่ากลัว...พอแล้ว" ...คุยกันอยู่ประมาณ ๑ ชั่วโมง ...เขาพยักหน้ารับ ขอบคุณแล้วก็ขอตัวลากลับ...ก่อนกลับผมก็พูดว่า “อยากได้ความรู้อะไรต้องไปหาครูอาจารย์...อย่าให้ครูอาจารย์ไปหาลูกศิษย์ อยากได้ธรรมะต้องไปถามพระมันถึงจะถูกต้อง”   “ถ้าอยากเรียนคอมหรือค้นข้อมูลก็มาจะแนะนำให้”...เขายิ้มพยักหน้ารับแล้วก็เดินออกจากร้านไป

 

15
5
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท