ขอเชิญทุกท่านไปเป็นกำลังใจให้อาจารย์อายุด้วยนะคะ..
เตือนเองก็จะไปหมือนกัน
ขอให้ท่าน มท.1 say "YES" ซักทีนะคะ
สำหรับกรณี "น้องวิษณุ" เกิดจาก
1. พ่อและแม่ไม่มีเอกสารอะไรเลย
2. พ่อและแม่ไม่มีความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของการจดทะเบียนการเกิด
3. พ่อและแม่กลัวที่จะไปแจ้งเกิดให้ลูกเพราะกลัวจะถูกจับ เนื่องจากไม่มีบัตร
4. วิษณุเกิดที่โรงพยาบาลและมี ทร.1/1 แต่ยังอยู่ที่โรงพยาบาล พ่อและแม่น้องไม่ได้กลับไปเอาเพราะกลัวถูกจับ
5. แม้แต่การเข้าโรงเรียน ก็ต้องแสร้งทำเป็นว่า น้องวิษณุ เป็นลูกของเพื่อนบ้าน ยืมนามสกุลเพื่อนบ้าน, ทะเบียนบ้าน ของเพื่อนบ้านมาใช้ เพื่อให้ได้เข้าเรียนหนังสือ
อันนี้ คือ จากที่เตือนได้พูดคุยกับครอบครัวน้องวิษณุเองค่ะ
สรุปแล้วเกิดจาก "ความกลัวและความไม่รู้" ค่ะ
ขอบคุณ ดร.จันทวรรณ และ อาจารย์แหววค่ะ สำหรับข้อคิดเห็น
อยากจะเป็นกำลังใจให้คนไร้รัฐไร้สัญชาติทุกคน และอยากให้พวกเขาทำความเข้าใจเสียใหม่ ว่าจริงๆ แล้วพวกเขามีสิทธิตามกฎหมายที่จะทำอะไรได้มากกว่าที่พวกเขาคิดค่ะ
อาจารย์อายุค่ะ..
นอกจากนี้อาจารย์ยังสามารถขายหนังสือที่เป็นลิขสิทธิ์ของอาจารย์ได้ด้วยนะคะ
คนไร้สัญชาติก็ทำนิติกรรมได้ค่ะ..
กรุณาอ่าน
http://gotoknow.org/blog/bongkot-classroom/39087
ขอบคุณค่ะ
อ่านทั้งหมดนี่แล้ว.. พูดไม่ออกเลยนะคะ
หากไม่ถูกหาว่าเวอร์ซะก่อน..ก็จะบอกว่า..เหมือนมันอึ้งๆ น้ำตาจะไหล ด้วยความซาบซึ้งใจแทนอาจารย์อายุ
ทุกคนมีความรักและความหวังดีมอบให้อาจารย์อายุเสมอค่ะ.."โลกไม่ลืมจารึกชื่อคนดีๆ" ไว้หรอกค่ะ
ดิฉันเป็นหนึ่งในบรรดาลูกศิษย์อาจารย์แหววที่ช่วยเหลืองานของท่านในด้านนี้อยู่ค่ะ
ดิฉันต้องขอขอบพระคุณอาจารย์จันทวรรณเป็นอย่างยิ่งที่ช่วยทำให้เรื่องราวของท่านอาจารย์อายุ ซึ่งเป็นคนไร้สัญชาติ ที่อาจารย์แหววใช้คำว่า "มนุษย์ล่องหน" เป็นประเด็นขึ้นมาในสังคม แม้จะเป็นแค่ในแวดวงวิชาการก็ตาม แต่นั่นก็มีความหมายมากสำหรับคนที่เรียกได้ว่า "ตกอยู่ในมุมมืด" มุมหนึ่งในสังคมไทยค่ะ
ตอนนี้..ดิฉันก็ได้แต่หวังว่า..เสียงเล็กๆ ของเราจะสามารถไปถึงหู และปัญหาของเราจะสามารถอยู่ในสายตา ของท่านๆ ผู้มีอำนาจได้บ้าง ไม่มากก็น้อย..
ขอบคุณและยินดีมากค่ะ..ที่ได้มีโอกาสแบ่งปันความรู้ให้คนอื่นๆ
ขอเชิญมาเขียนขอเสนอแนะได้ตลอดเลยนะคะ
ส่วนความหมายของตัวเลขตัวอื่นๆ ในบัตรประชาชน จะรีบไปค้นหาความรู้ที่ถูกต้องมาเขียนให้ทราบนะคะ
ขอบคุณทุกคนนะคะ..ทั้งพี่ต้อง พี่โก๋ และก็อาจารย์แหวว
หนูเองก็มี "ความอยาก" มากมายเหลือเกิน อยากทำนู้น อยากทำนี่ อยากช่วยคนนั้นคนนี้ แต่ก็ยังระลึกถึงคำสอนของพี่ต้องอยู่ตลอด
ตอนนี้หนูเหมือนเป็นเด็กที่กำลังหัดเดิน จะให้วิ่งเลย ก็คงต้องหกล้มบ่อยแน่ๆ
จะขอเดินให้เชี่ยวชาญก่อน แล้วต่อไปจะไปวิ่งแข่งโอลิมปิคเลย
หนูน่ะ..จับประเด็นได้นะ
แต่เรื่องวิเคราะห์-สังเคราะห์.. ยังไม่ได้เรื่องเลย
สอนมั่งดิ
หนูก็เป็นคนนึงที่..เคยงงอยู่กับเรื่องการจดทะเบียนการเกิดนี้อยู่มาก ทั้งในแง่ของขั้นตอนและความสำคัญ
แต่พอได้ไปร่วมโครงการสัมมนานี้..ภาพในหัวก็ชัดขึ้นอีกมากมาย เพราะได้ฟังทั้งหลักทฤษฎีจากฝ่ายวิชาการ และแนวทางในการปฏิบัติจริงจากนายทะเบียนด้วย
ตอนนี้..หนูก็คิดเหมือนกับพี่โก๋
สิ่งที่สำคัญ คือ การปรับทัศนคติ
แล้วเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมาก็มีการแสดงดนตรีของท่านอาจารย์อายุ ที่เชียงใหม่ด้วยค่ะ..
น่าเสียดายที่ตัวเองไม่ได้ไป
คนที่ได้มีโอกาสเข้าชมรบกวนเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมค่ะ
อยากให้มีการแสดงของท่านที่กรุงเทพฯ จัง คนแถวนี้จะได้มีโอกาสชื่นชมในความสามารถของท่านบ้าง
ขอบคุณค่ะ..อาจารย์ :)
ห้องเรียนนัดหน้า..จะเป็นห้องเรียนสำหรับ "คนต่างด้าวที่ต้องการสัญชาติไทย" อันประกอบด้วย
1. คุณฟองจันทร์ สุขเสน่ห์ และพี่ชาย
2. คุณอนิรบัณ ตาลุกดา และคุณแม่
3. คุณเดย่า ซูเซโล
เนื่องจากเรารับปากพวกเขาไว้ และก็เลื่อนนัดกันมาด้วยเหตุต่างๆ หนูจึงขอนัดคนกลุ่มนี้ก่อนค่ะ..
น่าจะเป็นประมาณกลางเดือนกรกฎาค่ะ เสาร์-อาทิตย์นี้หนูจะทำการนัดให้เรียบร้อยค่ะ