BM.chaiwut
พระมหาชัยวุธ โภชนุกูล ฉายา ฐานุตฺตโม

อนุทินล่าสุด


BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

@4904 ภาษานี้ลึกซึ้งจริงๆ อ่านๆ แล้ว ก็นึกเทียบกับคำไทย

  • Alone = โดดเดี่ยว
  • Lonely = เดียวดาย

เจริญพร



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

เพิ่งกลับมาจากเทสน์ ๒ ธัมมาสน์ (ปุจฉา-วิสัชชนา) ที่งานศพวัดพรุเตาะ หาดใหญ่ พรุ่งนี้จะไปเทศน์งานศพพ่อของอาจารย์พิชิตอีก..

ตั้งแต่บวชมา ก็เคยเทศน์ปุจฉาวิสัชชนา ๒-๓ ครั้ง แต่ก็ไม่เทศน์หลายปีแล้ว เกรงใจท่านพระครูฯ วัดท่าข้าม ผู้นิมนต์

........

ตอนเย็นก่อนไปเทศน์ ไชยาซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องพาเพื่อนฝรั่งมาเยี่ยม ฝรั่งสองคนนี้เป็นพ่อลูก และเล่นดนตรีอยู่หาดใหญ่ เค้าเล่าว่ามาอยู่เมืองไทยเกือบยี่สิบปีแล้ว...

ฝรั่งคนเป็นลูกสนใจพระพุทธศาสนา  เล่าว่า เคยไปอยู่สวนโมกข์มาแล้ว...  คุยกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง  จึงให้หนังสือไปสองเล่ม เค้าว่าค่อยมาเยี่ยมอีก...

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

@4695

  • สาธุ
  • เจริญพร


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • ไปงานศพที่วัดสระเกษ

พ่อของเพื่อนน้องชายถึงแก่กรรมหลายวันแล้ว วันนี้เห็นโอกาสดีจึงพาจีวรชุดหนึ่งพร้อมเบี้ยทำบุญอีกเล็กน้อยไปช่วยงาน และถือโอกาสฉันข้าวที่งานด้วย...

ตอนไปก็นั่งรถเครื่องรับจ้าง ขากลับต้องการเดินดูเค้าขายต้นไม้ เพราะวันนี้มีตลาดนัดวันอาทิตย์ ออกทางประตูหน้าวัดสระเกษ ซื้อเปลือกมะพร้าวสับกับมูลโค (ขี้วัว) อย่างละถุง ๒๐ บาท เอามาฝากหลวงพี่ที่กุฏิ เพราะท่านบ่นว่าหาเปลือกมะพร้าวเพาะกล้วยไม้ไม่ได้...ฝนโปรยลงมา จึงต้องกลับเข้าไปในวัด พอฝนซาก็ตัดสินใจออกทางประดูข้างวัดซึ่งใกล้กว่า...

เดินออกมาแล้วเลี้ยวเข้าทางหลังสถานีรถไฟเก่า เห็นแผงขายหนังสือเก่า จึงแวะเข้าไปชม มีหนังสือต่างประเทศอยู่กองหนึ่ง เข้าไปพลิกดูก็เห็นเป็นนิยายอ่านเล่นเกือบทั้งนั้น... บางเล่มเปิดดูก็รู้ว่ามิใช่ภาษาอังกฤษ แต่ไม่แน่ใจว่าภาษาใด...

หยิบหนังสือเล็กๆ มาสองเล่ม ๒๐ บาท เอามาอ่านเล่น และเผื่อใครมาคุยเรื่องภาษาอังกฤษก็จะได้ให้ไปหัดอ่าน... หนังสือภาษาอังกฤษอ่านนอกเวลาระดับมัธยมเล่มเล็กๆ ทำนองนี้ เมื่อก่อนผู้เขียนชอบซื้อมาอ่านเล่นเพื่อฝึกการอ่าน และก็ให้น้องบ้างหลายบ้างไปหมด ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพวกที่เอาไปนั้น จะเคยอ่านจบบ้างหรือไม่...

ตลาดนัดมีของขายเยอะ แต่ผู้เขียนไม่เคยออกไปเที่ยวเพราะคนมากเกินไป วันนี้โอกาสดี ไปงานศพ ผ่านตลาดนัด จึงได้เดินชมของซื้อของขายไปด้วย...

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • ดูข่าว พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

 ซึ่งเมื่อเสร็จงานแล้ว มีคนแย่งกันเก็บข้าวปลูก มีคนนำข้าวปลูกที่เก็บได้มาขาย และมีพวกมิจฉาชีพนำข้าวปลูกปลอมมาขาย โดยอ้างว่าเป็นข้าวปลูกในพระราชพิธี...

จำได้ว่า หัสนิยายชุดสามเกลอ พล นิกร กิมหวน มีเรื่องทำนองนี้อยู่ด้วย... ผ่านไปหลายสิบปีแล้ว เหตุการณ์ทำนองนี้ ก็ยังคงเหมือนเดิม....

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • อาจารย์ประเวสน์มาเยี่ยม...

มีเสียงเรียกมาจากนอกห้อง เมื่อออกไปดูจึงเห็นอาจารย์ประเวสน์ ท่านนำภัตตาหารใส่ปิ่นโตมาถวาย...

อาจารย์ประเวสน์เป็นมหาเปรียญเก่า ตอนนี้เป็นข้าราชการบำนาญ ใช้เวลาว่างโดยการนำปิ่นโตไปถวายพระคุ้นเคยตามวัดต่างๆ เพื่อจะได้สนทนาธรรมไปด้วย หลายๆ เดือนก็จะผ่านมาที่กุฏิผู้เขียนสักครั้งหนึ่ง...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • ท่านมหาสมคิด แวว และกบ มาเยี่ยม

บ่ายวันนี้ ท่านมหาสมคิดโทรมาว่า จะพาแววมาเยี่ยม โดยให้กบเป็นผู้พามา...

แววและกบ เป็นเพื่อนร่วมห้องกับผู้เขียนและท่านมหาสมคิด ตอนเรียนมหาจุฬาฯ ที่กรุงเทพ เมื่อสิบกว่าปีก่อน... ซึ่งตอนนั้นทั้งสองยังคงเป็นเณรอยู่ ส่วนผู้เขียนกับท่านมหาสมคิดเป็นพระ แต่ตอนนี้ ทั้งสองก็ลาสิกขาไปหลายปีแล้ว...

แวว ทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กอยู่กรุงเทพ มีโอกาสกลับมาบ้านเพื่อร่วมงานบวชน้องชายที่นคร จึงแวะมาเยี่ยมท่านมหาสมคิดที่หาดใหญ่ ส่วนกบเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่หาดใหญ่ จึงโทรนัดแล้วก็ชวนกันมาเยี่ยมผู้เขียน...

ทั้งสามคน ให้ผู้เขียนช่วยทำนายทายทักดวงชาตา และให้ข้อแนะนำเพิ่มเติมบางอย่างด้วย ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นหมอดูสมัครเล่นและอายุมากกว่า...

นอกจากนั้นก็ไต่ถามสุขทุกข์คนโน้นคนนี้ ที่น่าสนใจก็คือครรชิต ได้ข่าวว่าไปเป็นช่างเชื่อมอยู่ญี่ปุ่น... จำได้ว่า ตอนเรียนปีหนึ่งนั้น เณรครรชิตอายุ ๑๘-๑๙ และกำลังเรียนประโยค ๘ (มีแววว่าจะเป็นสามเณรประโยค ๙)...

ขณะนั้น น้องเณรครรชิตมีหน้าตาสดใสเปล่งปลั่งบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ... ตอนนั้นรัฐบาลชาติชายกำลังมีนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า น้องเณรเริ่มหัดเรียนภาษาเขมรด้วยตนเอง เธอเล่าว่า เรียนจบจะไปอยู่เขมรเพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ผู้เขียนรู้สึกทึ่งและบูชาในความมีอุดมการณ์ของเธอ...

เมื่อขึ้นปีสาม น้องเณรครรชิตก็เลือกไปเรียนสันสกฤต ส่วนผู้เขียนมาเรียนปรัชญา จึงเริ่มห่างกันไป... ต่อมาก็ได้ข่าวว่า เค้าไปต่อป.โทที่ศิลปากร ผู้เขียนมาต่อที่มหิดลได้นิดหน่อยแล้วก็ออกท่องเที่ยวอีกครั้ง... ข่าวคราวก็ขาดหายกันไปตั้งแต่ครั้งนั้น

สิบกว่าปี ได้ข่าวอีกครั้ง ครรชิตลาสิกขาแล้วไปเป็นช่างเชื่อมอยู่ญี่ปุ่น... นับว่าเป็นเรื่องธรรมดาจริงๆ (5 5 5...) 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • ตอนบ่าย (อดีต) เณรเล็กมาเยี่ยม...

ได้ยินเสียงคนพูดกับหลวงพี่ที่นอกห้อง รู้สึกว่าคุ้นๆ หู เมื่อได้ยินว่า อาจารย์อยู่หม้าย ? จึงเปิดประตูออกไป จึงรู้ว่าเป็น (อดีต) เณรเล็ก มาในชุดทหารเต็มยศ...

พอรู้ว่าเป็นทหารมหาดเล็ก ผู้เขียนก็เข้าใจทันที เพราะญาติผู้เขียนก็เคยเดินทางนี้ กล่าวคือ กรมทหารมหาดเล็กฯ จะรับจากทหารกองหนุนที่เคยเป็นทหารเกณฑ์และมีวุฒิการศึกษาตามกำหนด... ซึ่งมักจะเปิดรับเป็นประจำเกือบทุกปี...

เณรเล็กบอกว่า เพิ่งฝึกเสร็จ ยังไม่ได้ติดยศ แต่น้องถึงแก่กรรมจึงลากลับมาเป็นกรณีพิเศษ... ผู้เขียนจึงให้็ผ้าสบงไป ๔-๕ ผืน เป็นการทำบุญ แล้วก็ให้พระเครื่องหลวงปู่อุ้ยไปหนึ่งองค์ ซึ่งเพิ่งได้มาจากวัดคอหงส์เมื่อวาน....

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • เพิ่งกลับมาจากหาดใหญ่...

เมื่อคืนวานพักที่กุฏิพระมหาสมคิด วัดคลองเรียน ๑ คืน ไปถึงก็ใกล้ค่ำแล้ว กลางคืนก็ดูบอลไปเรื่อยๆ เพราะที่กุฏิวัดยางทองไม่ได้ต่อเคเบิล จึงไม่ค่อยได้ดูบอล... และคุยกันไปพราง พอคู่สุดท้ายดูบาเซโลน่าชนะ ๖-๐ จบ ตีสองกว่าๆ ก็จำวัด...

ท่านมหาสมคิดเรียนจบปรัชญาที่ มจร.กรุงเทพฯ รุ่นเดียวกัน เมื่อมีโอกาสไปหาดใหญ่ บางครั้งก็แวะไปเยี่ยม นอนเล่นสักคืน ไม่ได้ไปหลายเดือนแล้ว ครั้งนี้จึงนับว่าเป็นโอกาสดี...

รุ่งเช้ามาช่วยงานวัดคอหงส์ ช่วยเป็นโฆษกบ้าง บางโอกาส เพราะท่านมหาสำราญปิยมิตรเป็นหัวหน้าแผนกนี้ และตอนอยู่วัดคอหงส์ ผู้เขียนก็จะช่วยงานอยู่ที่แผนกนี้... ตั้งแต่เมื่อวานจนกระทั้งวันนี้เสร็จงาน... ตอนบ่ายจะกลับแล้ว เจออาจารย์สมเกียรติ ไปธุระวัดคอหงส์ โอกาสดีจึงให้ท่านเลยมาส่งที่วัด...

มีงานออกร้านในวัดคอหงส์ด้วย ไปเดินดู เห็นร้านขายต้นไม้ จึงซื้อกิ่งกล้วยไม้มา ๕ มัด เพื่อมาเพาะปลูกที่วัด... ผู้เขียนชอบต้นไม้อยู่บ้าง ไปไหนเจอต้นไม้ถูกใจมักซื้อมา แต่มิใช่คนปลูก หลวงพี่ที่อยู่ร่วมกุฏิท่านก็ชอบต้นไม้ ดังนั้น ท่านจะนำไปปลูกเอง บางต้นก็อยู่ได้หลายปี บางต้นก็ตาย ธรรมดา...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

ไปงานวัดคอหงษ์ หาดใหญ่ อีก ๑-๒ วันกลับ...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

@ 2625 อาจารย์มาเที่ยววัดยางทอง ถ้าโอกาสดี จะได้สาเกกลับไปเชื่อมหรือนึ่งสัก ๒-๓ หน่วย...

แม้ชื่อวัดยางทอง แต่ปัจจุบันนี้ ต้นสาเกเป็นสัญลักษณ์ของวัด....

บางคนจำชื่อวัดไม่ได้ แต่พอบอกว่า วัดที่มีต้นสาเก เค้าก็นึกออก...

เจริญพร

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • เพิ่งกลับมาจากเผาศพลุงแมว ที่วัดประดู่หอม สทิงพระ

ลุงแมว มีศักดิ์เป็นลุงเขย มาได้กับป้าเนื่อมซึ่งมีศักดิ์เป็นป้า และบ้านอยู่ติดกับบ้านก๋ง ที่กระดังงา...

งานศพตั้งที่วัดกระดังงา แต่พาไปเผาที่วัดประดู่หอม เพราะผู้ตายสั่งไว้ว่าให้พากลับไปเผาบ้านเกิด...  ตายหลายวันแล้ว  ผู้เขียนเพิ่งทราบ  และไม่มีใครเอารถมารับ  ส่วนวันนี้วันเผา  จึงต้องไปรถประจำทาง  เจอโยมแม่ในรถประจำทางเหมือนกัน... 

โยมแม่บ่นว่าคอยรถเกือบชั่วโมงแล้ว  เมื่อนั่งในรถ  พนักงานเก็บค่าโดยสารบอกว่า รถหยุดวิ่งวันละ ๓ คัน  ผลัดเปลี่ยนกันไป เพราะน้ำมันแพง  ไม่คุ้ม.....

ไปลงหน้าวัดกระดังงา เจอศพอีกงานอยู่ในวัดเหมือนกัน จึงเข้าไปเยี่ยมศพหน่อยหนึ่ง ก่อนจะกลับมาฉันข้าวงานศพลุงแมว... เกือบบ่ายโมงจึงเคลื่อนศพไปวัดประดูหอม...

วัดประดูหอม อยู่ในตำบลคลองรี ติดโสดล่าง ริมทะเลสาบสงขลา... ส่วนวัดกระดังงา อยู่ตำบลกระดังงา ติดโสดเนิน ฝั่งทะเลหลวง ห่างกันประมาณ ๓ กิโล... ลุงแมวเป็นคนโสดล่าง มาได้กับป้าเนื่อมคนโสตเนิน มีลูก ๖ คน ส่วนหลานเหลนก็อีกหลายคน...

  ลูกๆ ของลุงแมวป้าเนื่อม ผู้เขียนคุ้นเคยทุกคนตอนเล็กๆ แต่หลานๆ เหลนๆ ไม่ค่อยรู้จักหรือคุ้นเคย... คิดๆ ไปวงศาคณาญาติ ก็มักจะนับรุ่นกัน ๒-๓ ชั้นเท่านั้น...

พอเวลาผ่านไป รุ่นใหม่ๆ พวกเค้าก็จะนับรุ่นกันต่อไป ส่วนรุ่นแก่ๆ พวกเขาก็จะไม่รู้จัก และห่างออกไป การนับญาติก็จะค่อยๆ ขาดจากกัน... ที่ยังนับกันอยู่ ก็อาศัยว่าอยู่ใกล้กันเท่านั้น ถ้าอยู่ไกลกันก็ต่างคนต่างอยู่...

ตอนทำพิธีนั้น ผู้เขียนไม่ได้เข้าร่วมในศาลา ออกมานั่งคุยกับบรรดาญาติๆ ใต้ไม้หน้าโรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ภายในวัด... เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น และมีคนมาตามว่า ให้ไปพิจารณาผ้าบังสุกูล เพราะโฆษกเรียกนานแล้ว แต่เมื่อผู้เขียนเข้าไปด้านในศาลา พระอีกรูปก็บอกว่า ให้รูปอื่นขึ้นแทนไปแล้ว... อีกครู่หนึ่ง ท่านอาจารย์เจ้าอาวาสซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานผู้ตายก็เข้ามาบอกว่า ไม่ได้บอกไว้ นึกว่านั่งอยู่ใกล้ๆ ศาลา...

การประกาศชื่อพระที่พิจารณาผ้าบังสุกูล อาจเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพและผู้เขียนด้วย... เพราะใครๆ ได้ยินหรือได้เห็น ก็จะได้ทราบว่ามางานนี้ด้วย และเป็นญาติกับผู้ตาย... ประมาณนี้

เผาศพเสร็จประมาณบ่าย ๓ โมงก็เดินทางกลับ แต่ตอนกลับพี่เสริฐซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้พี่ของผู้เขียน มากับลูกและหลานเท่านั้น พารถส่วนตัวมา จึงอาสามาส่งผู้เขียนที่วัด แล้วก็เลยไปส่งโยมแม่ที่บ้าน
...

ลูกของพี่เสริฐอายุยี่สิบกว่าๆ แต่มีครอบครัวแล้ว จึงเรียกผู้เขียนว่า น้าหลวง... ส่วนลูกของลูกพี่เสริฐอีกที  ก็ต้องเรียกผู้เขียนว่า ตาหลวง ...

เจองานนี้ มีเด็กๆ ที่เรียกผู้เขียนว่าน้าหลวงหรือลุงหลวง ค่อยๆ มีครอบครัวและมีลูกเพิ่มขึ้น ซึ่งลูกของพวกเขาก็ต้องเรียกผู้เขียนว่า ตาหลวง...

สรุปว่า คำว่า ตาหลวง ! ตาหลวง ! ...ผู้เขียนจะได้ยินเด็ก ๆ เรียกมากยิ่งขึ้นๆ ในงานต่อๆ ไป...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • กลิ่นปลาไก่โชยมาอีกแล้ว...
  • เริ่มหายใจไม่ค่อยเต็มปอด เพราะหมิ่น...
  • ไปหาน้ำมันหม่องมาทาจมูกดีกว่า......


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

เมื่อวานตอนเย็น ไปนอนเล่นกุฏิท่าออก ใช้กระป๋องใส่ยาเส้นใบจากหนุนนอนแทนหมอน เผลองีบไป...

สะดุ้งตื่น เพราะศรีษะหล่นจากกระป๋องแล้วกระแทกเอากับพื้น รู้สึกมึนๆ จะนอนต่อก็ไม่ได้เพราะมึนๆ จึงลุกขึ้น นั่งคุยกับน้องหลวงพี่หลวงนิดหน่อยก็กลับกุฏิ เปิดเครื่อง...

เขียน เรื่องเผล้ง. ตามตั้งใจไว้ รู้สึกมึนๆ แต่ก็ฝืนเขียนจนจบ... ยังมึนๆ อยู่ ดูหน้าจอแล้วตาลายๆ จึงปิดเครื่อง นอนปิดตา ฟังข่าวจากโทรทัศน์.... ก็รู้สึกมึนๆ ทั้งคืน หลับบ้างตื่นบ้าง...

เช้าตื่นขึ้นมาก็ยังรู้สึกมึนๆ ชงกาแฟแล้วมาเขียนบันทึกไว้...

คลำศรีษะด้านหลัง ก็มิได้บวมหรือโน เพียงแต่ภายในหัวรู้สึกมึนๆ มันคงสั่นสะเทือนภายใน...

ถือว่าโชคดีก็แล้วกัน เพราะความมึนๆ ทำให้เรามีพลังชีวิตเกิดขึ้นเพื่อต้องการความเป็นปกติเหมือนเดิม ทำให้เราไม่เซ็งจำเจ (.....)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

พอฝนเริ่มตก ก็เริ่มแพ้อากาศ เริ่มเบื่อชีวิต.........

คิดถึงโยมพ่อ เวลาฝนตก ท่านมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ แต่ตอนนั้น เราไม่เข้าใจ..........

.........

  • ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น ทุกข์เท่านั้นตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นดับไป นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรเกิด ไม่มีอะไรดับ......
  • เครื่องยนต์คือสรีระ มี ๔ ล้อ มี ๙ ประตู อันข้าพเจ้าพึงจะขับเคลื่อนไปได้อีกหรือไม่ ?
  • เครื่องยนต์คือสรีระ มี ๔ ล้อ มี ๙ ประตู อันข้าพเจ้าจะต้องขับเคลื่อนต่อไป.....


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • ฝนมาอีกแล้ว....
  • ครั้งนี้ น่าจะตกพอสมควร...
  • จำได้ เมื่อมาอยู่กุฏิหลังนี้ใหม่ๆ พอฝนตก ก็มักจะกุลีกุจอเพื่อรองน้ำฝนไว้....
  • แต่ เรื่องนี้ ขาดหายไปเมื่อไหร่ ก็จำไม่ได้...
  • เมื่อถึงพ.ศ.นี้ การพลอยยินดียามฝนตกเพื่อรองน้ำฝนเก็บไว้ คงจะมีน้อยยิ่งนัก เมื่อเทียบกับสมัยเด็กๆ...


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ
  • คืนนี้ บ่อยาง ฝนตก หลังจากขาดหายไปนาน........
  • เริ่มซาแล้ว........
  • แม้ว่าฝนตก แต่อากาศก็ยังคงร้อนอบอ้าว เหมือนดังทุกคืนที่ผ่านมา......
  • ฝนหายแล้ว.......

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

เมื่อวานคุณดำ พระเพิ่งบวชมาพักที่กุฏิ วันนี้ก็ติดต่อท่านมหาสมคิดว่าฝากไปเรียนหนังสือวัดคอหงส์...

เมื่อสิบกว่าปีก่อน คุณดำเคยบวชเณรฤดูร้อน ซึ่งผู้เขียนเป็นผู้ดูแล... จำได้ว่า ตอนนั้นเณรดำจำบทสวดมนต์ได้ดี จะให้บวชเรียนต่อก็ไม่ได้ เพราะเพิ่งจบป.๔ จะขึ้นป.๕... หลังจากลาสึกขาจากการเป็นเณรแล้ว คุณดำก็ไปเรียนต่อ จบป.๖ และ ม.๓ ตามลำดับ พอขึ้นม.๔ ก็เริ่มเหลวไหลจนกระทั้งออกโรงเรียน แต่ก็ไปสมัครเรียนจนจบม.๖ ของ กศน.

คุณดำหายไปจากชีวิตผู้เขียนหลายปี จนกระทั้งเมื่อปีที่แล้วก็มาเยี่ยมผู้เขียน และบอกว่ามาเอาวุฒิ ม.๖ ที่ กศน. ด้วย... จากคำบอกเล่า คุณดำเที่ยวมาเยอะตามประสาลูกผู้ชาย และบอกว่าจะบวชเรียนหนังสือ พอกันทีเรื่องที่ผ่านมา... แล้วคุณดำก็จากไป กลับมาอีกครั้งก็ห่มจีวรมา บอกว่ากลับไปบวชมาจากสุราษ แล้วก็มาปรึกษาเรื่องการเรียน

ผู้เขียนก็แนะนำว่า ให้กลับไปเที่ยวก่อน ปลายเดือนมีนาหรือต้นเดือนเมษาค่อยกลับมา จะพาไปฝากเรียนวัดคอหงส์...

 

ตอนผู้เขียนแรกบวชจำคำของพระเถระรูปหนึ่งได้ว่า...

  • ผู้ศรัทธาจะบวชมีมาก แต่ผู้ศรัทธาจะศึกษาเล่าเรียนมีน้อย

ผู้เขียนจำคำนี้ไว้ แล้วก็มาคิดต่อว่า...

  • และผู้ศรัทธาที่จะปฏิบัติเพื่อการบรรลุมรรคผลมีน้อยที่สุด

จึงตั้งใจว่า แม้จะจัดตนเองอยู่ในจำพวกมีน้อยที่สุดไม่ได้ ก็ขอจัดตนเองอยู่ในจำพวกที่มีน้อย....

ส่วนคุณดำ จะไปได้ไกลแค่ไหน คงขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีส่วนตัว ซึ่งใครๆ ก็ไม่อาจบังคับได้ เพียงแต่ส่งเสริมเท่าที่พอจะเป็นไปได้เท่านั้น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

เมื่อวานตอนเย็นไปหาดใหญ่ จำวัดที่วัดคอหงษ์...

วันนี้ตอนเพลก็ไปฉันข้าวที่บ้านพรุซึ่งเป็นบ้านญาติของเพื่อนสหธัมมิก ไปกัน ๓ รูป เจ้าภาพเลี้ยงฉลองที่ลูกสาวสามารถสอบโอเน็ตเอเน็ตผ่านตามจุดประสงค์ที่วางไว้...

ตอนบ่ายก็เลยเข้าไปโคกม่วง คลองหอยโข่ง เพื่อหายาบ้อง (ยาเส้นห่อใบชิงแล้วย่างไฟตามกรรมวิธีโบราณ) ก็ได้มา ๓ บ้อง แล้วก็กลับมารดน้ำศพโยมที่คุ้นเคยกันยังวัดคอหงษ์ แล้วก็กลับมาวัดยางทองสงขลา...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

เมื่อคืนตื่นตีสิบ แล้วก็นั่งเขียนบันทึกบ้าง ตอบบ้าง อ่านบ้าง จนกระทั้งตีห้ากว่าแล้ว จึงตัดสินใจจำวัด หลับไปตื่นหนึ่ง ก็มีพระมาเรียกว่า มีกิจนิมนต์จะไปหรือไม่ ผู้เขียนก็ตอบกลับไปว่า ไม่ไปเพราะเมื่อคืนนอนตีห้ากว่าแล้ว ก็ตั้งใจว่าจะหลับต่อ...

ใกล้ๆ จะหลับก็ระลึกขึ้นได้ว่า พี่ท่านวัดสุวรรณคีรีนิมนต์ไว้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้ ตัดสินใจนอนต่อ... ถ้าเค้าโทรมาต่อว่า ก็จะบอกว่าไม่โทรมาย้ำอีกครั้ง (ปกติ ถ้านิมนต์ล่วงหน้าหลายวันก็ต้องโทรมาย้ำก่อนงานหนึ่งวัน)... พอดีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จึงจำเป็นต้องลุกไปรับโทรศัพท์...

ญาติของเพื่อนโทรมาจากหาดใหญ่ ว่าจะนิมนต์ฉันข้าวฉลองลูกสาวสอบผ่านในวันพรุ่งนี้ จะว่างหรือไม่... ผู้เขียนไม่แน่ใจ จึงจำเป็นต้องโทรไปถามพี่ท่าน ปรากฎว่าที่นิมนต์ไว้เป็นวันนี้ และไม่มีพระอื่นไปแทน ดูนาฬิกาสองโมงกว่าเอง จึงสรงน้ำแล้วก็เดินไปลงเรือหางยาวรับจ้างเพื่อไปฝั่งแหลมสน (อยู่ปากอ่าวทะเลสาบสงขลา แต่เป็นฝั่งอำเภอสิงหนคร ส่วนวัดที่อยู่เป็นฝั่งบ่อยาง อำเภอเมือง)
...

เป็นงานทำบุญสรงน้ำผู้สูงอายุที่บ้านบ่อสวน โดยทางหมู่บ้านร่วมกับเทศบาลสิงหนครจัดขึ้นมา... สถานทีจัดงานก็ตรงข้ามกับวิหารที่ปักกลดหลวงพ่อทวด...

สิบกว่าปีก่อน มีคนทรงเจ้าแถวนั้น บอกว่าหลวงพ่อทวดเคยมาปักกลดตรงนี้เพื่อค้างแรมก่อนที่จะข้ามมาฝั่งบ่อยาง (สงขลา) อาศัยบารมีคนทรงเจ้า จึงได้สร้างวิหารขึ้นมา มีการสร้างเหรียญหลวงพ่อทวดขึ้นมาด้วย...

สมัยแรกเริ่มนั้น ผู้เขียนก็ยังบิณฑบาตอยู่แถวนี้ ค่อนข้างแปลกใจและขัดแย้ง เพราะคนทรงหลวงพ่อทวดเป็นผู้หญิง อายุก็น่าจะรุ่นๆ กับผู้เขียน (ตอนหลังพัฒนาเป็นทอม) แต่ก็บุญน้อยถึงแก่กรรมไปหลายปีแล้ว เหลือเพียงอนุสรณ์คือวิหารที่ยังอยู่คู่กับบ้านบ่อสวน...

ฉันเสร็จก็ให้รถมาส่งท่าเรือแล้วก็ข้ามเรือหางยาวกลับมาฝั่งบ่อยาง เมื่อถึงวัดโยมก็โทรมายืนยันเรื่องที่จะไปหาดใหญ่ ผู้เขียนก็รับปากว่าจะไปเองเย็นๆ ไม่จำเป็นต้องพารถมารับ คืนนี้จะไปนอนหาดใหญ่ พรุ่งนี้ฉันข้าวเสร็จก็อาจกลับ หรือนอนเล่นอีกคืน เพราะวันที่สิบเจ็ดมีงานต้องไปฉันที่บ้านโยมที่วัดสุวรรณคีรีอีก...

ไปบ่อสวนวันนี้ มองทิวทัศน์รอบข้างก็เห็นแต่อดีต... ยี่สิบปีก่อนผู้เขียนเดินสองกิโลจากวัดสุวรรณคีรีมาบิณบาต หน้าแล้งก็เหยียบก้อนกรวดบาดเท้าเป็นแผล หน้าฝนบางครั้งก็บุกโคลนสกปรกจีวร เดียวนี้เป็นเทศบาลมีถนนราดคอนกรีต มีรถนั่ง ไม่ต้องเดินพักใต้ร่มไม้ดังสมัยก่อน...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

สงกรานต์วันนี้ น้องชายมารับตั้งแต่หกโมงเช้า แล้วเลยไปรับโยมแม่เพื่อไปบังสุกุลที่ป่าช้าบ้านแหลมวัง...

รถไปถึงป่าช้าประมาณสองโมงเช้า ญาติบางส่วนยังอยู่ในหมู่บ้าน จึงชวนกันไปเที่ยวสวนข้างออกป่าช้า เจอต้นชมพู่มีลูกเต็มต้น ที่โยมพ่อปลูกไว้ ให้น้องชายเก็บถวายชิม ๔-๕ ลูก ก็ฝาดๆ ไม่ค่อยหวาน... น้องและโยมแม่ก็หักช่อใหญ่ๆ มาอวดญาติอีก ๒-๓ ช่อ... ส่วนมะม่วงอยู่ด้านใน สวนรกจึงไม่ได้เข้าไปดู... สวนนี้ถือว่าเป็นสถานที่หนึ่งในบั้นปลายชีวิตของโยมพ่อ หลังจากท่านสิ้นสวนก็ร้าง

กลับออกมายังไม่เจอใครจึงพารถเวียนเข้าไปในบ้านคูขุด ก็ไม่เจอใคร เมื่อเวียนมาถึงโรงไม้ (เลิกกิจการ) ก็เจอน้าชาย ท่านบอกว่า เข้าไปในป่าช้าสองครั้งแล้วไม่เจอใคร... จึงชวนกันมาที่ป่าช้า เจอน้าสาวกับยาย  ยายขอศีลอุโปสถ  ให้ศีลให้พรแล้วก็ไปบังสุกุลบัว (รูปเดียว) แล้วก็ชวนกันกลับมายังโรงไม้... ฉันข้าวเสร็จที่โรงไม้ก็ปล่อยให้โยมแม่และญาติๆ ทานข้าว ส่วนตนเองเดินออกมา แล้วไปดูสระพังจาก ซึ่งอยู่ท่าตกหลังโรงไม้...

สระพังจากก็สระเดิมซึ่งผู้เขียนเคยมาใช้ชีวิตอยู่แถวนี้เสมอตอนเด็กๆ... อ่านป้ายดู อบต.ได้งบประมาณขุดใหม่ ลึก 4 เมตร กว้างและยาวด้านละ 50 เมตร แต่ป้ายกลับเขียนว่าสระพังหลา (กลับไปคุย ญาติบอกว่าเค้าเขียนผิด)... ก็นั่งฟังเสียงนกเขาจากต้นตะโหนดอยู่ครู่หนึ่ง ตัวหนึ่งขัน ๒ กุก อีกตัวเสียงดีพิเศษ แต่ไม่ค่อยได้อรรถรสเสนาะโสตสักเท่าไหร่ เพราะมีเสียงรถวิ่งเข้าหูรบกวนมากไปหน่อย...

ประมาณตีเก้าครึ่งก็ออกจากโรงไม้ เข้าไปเยี่ยมยายและตาสองครอบครัว อีกครอบครัวหนึ่งปิดบ้านจึงผ่านไป... ออกจากคูขุดก็ไปกระดังงา ดูนาฬิกาก็เพิ่งตีสิบเอ็ด คุยกับน้องว่า นี้เราไปฉันก๋วยเตียวได้สักมื้อเหลย  พอไปถึงหน้าวัดกระดังงา ตรงข้ามเป็นป่าช้าซึ่งมีฮวงซุ้ยและบัวบรรจุกระดูกโยมพ่อและบรรพบุรุษอยู่ที่นี้  (คูขุดตระกูลโยมแ่ม่)... เห็นญาติๆ รออยู่แล้ว แต่รถเลี้ยวไม่ได้ เพราะถนนสี่เลน มีเกาะกลางถนน.. (ผู้เขียนเพิ่งไปครั้งแรกหลังจากถนนเสร็จ)

ยูเทอนไกลมาก สองกิโลกว่า เพราะถนนโค้งไปโค้งมา จึงเสนอความเห็นว่าไปหาพุงวัวฉันที่สนามชัยดีกว่า น้องชายเห็นสม จึงเลยไปอีกสองกิโล... ถึงสนามชัยผู้เขียนก็ฉันพุงวัวถ้วยเดียว น้องชายสั่งพุงวัวกับข้าวราดแกง ส่วนโยมแม่ไม่ทานอะไร (เคยผ่านมากินกันที่นี้หลายครั้ง แต่เป็นตอนบ่ายหรือเย็น ผู้เขียนต้องนั่งคอยหรือเดินเล่นเสมอ ฉันไม่ได้ วันนี้จึงถือโอกาส...)

ฉันเสร็จทานเสร็จก็กลับมายังป่าช้า นั่งคุยกับบรรดาญาติๆ นินทาคนโน้นวิจารณ์คนนี้อยู่ครู่หนึ่ง ก็ชวนกันไปจุดธูปเทียนหน้าบัวพิจารณาบังสุกุลแล้วก็คุยกันอีกนิดหน่อยแล้วก็กลับ...

มาแวะร้านน้องสาว ซึ่งตอนนี้มีแผงหนังสือวางหน้าร้านด้วย... ผู้เขียนพูดว่า นึกถึงโยมพ่อ นี้ถ้าโยมพ่อยังอยู่คงจะถูกใจ เพราะได้อ่านหนังสือฟรี ไม่ต้องนั่งรถจากสทิงพระมาซื้อสงขลาไปกลับครึ่งวันดังเช่นตอนผู้เขียนเด็กๆ...

กลับมาถึงวัดบ่ายแล้ว เปิดเครื่องคอมฯ ครู่หนึ่ง รู้สึกง่วงก็ปิดเครื่องนอน นอนหลับไปตื่นหนึ่ง ได้ยินเสียงเครื่องคอม ปรากฎว่ายังไม่ได้ชัดดาว จึงลุกขึ้นมาชัดดาวแล้วก็นอนต่อ (คงจะเหนื่อย...)

ตื่นมาก็ตีสิบ ถึงสามก๊กพอดี อ่านเสร็จจึงวิจารณ์สามก๊กแล้วมาเขียนอนุทิน....

กลับบ้านเดิมครั้งใด ทุกสิ่งที่เห็น จะมีอดีตตามมา คุยกับน้องในรถว่า เรื่องนั้นก็เขียนได้ เรื่องนี้ก็เขียนได้...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

๑๐ เม.ย. ของทุกปี จะเป็นวันทำบุญสงกรานต์ของวัดยางทอง...

ช่วงนี้เทศกาลกินเจ บิณฑบาตจึงได้อาหารเจเป็นส่วนมาก เมื่อวันนี้ทำบุญใหญ่ประจำปี น้องหลวงพี่หลวงในวัดจึงช่วยกันถ่ายอาหารบางส่วนใส่หม้อรวมกัน และเมื่อตอนบ่ายก็ให้คุณโยมหน้าวัดจัดการปรุงให้เป็นแกงสมรม...

ตอนนี้ แกงสมรมหม้อใหญ่พอควรวางอยู่หน้าห้อง พรุ่งนี้เช้า ถ้ายังมีชีวิตอยู่คงจะได้ฉันแกงสมรมแน่นอน...

............

ตอนบ่าย เจี้ยบมาเยี่ยม บอกเล่าว่าภรรยาจะคลอดลูกคนที่สองเดือนหน้า ผู้เขียนก็ปลื้มใจ.....

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

Bookmark: พระไตรปิฎก

http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/

ผู้สนใจค้นหาเรื่องราวต่างๆ ในพระไตรปิฎก เชิญที่นี้

Tags:



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

Bookmark: คุยเรื่องการอ่าน การเขียน และเรื่องอื่นๆ

http://learners.in.th/blog/reader

การอ่าน การเขียน และเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Tags:



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

BM.chaiwut
เขียนเมื่อ

Bookmark: Stanford Encyclopedia of Philosophy

http://plato.stanford.edu/entries/supererogation/

ประเด็นปัญหาเรื่อง การกระทำเหนือหน้าที่ (supererogation) ในทฤษฎีจริยศาสตร์

Tags:



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท