อนุทินล่าสุด


Benjaporn Khanom
เขียนเมื่อ

One fine day : หนึ่ง วัน สบาย ผ่อน คลาย ความ เครียด

                ใกล้จะสิ้นปีแล้วความสุขก็เข้าใกล้มาทุกทีเมื่อเราได้คิดถึงการพักผ่อน ปลดปล่อยชีวิต ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆหรือครอบครัว ยิ่งถ้าได้กินอาหารอร่อยๆสถานที่ที่ไปแล้วไม่เครียดสามารถออกำลังกายหรือนั่งพักผ่อนได้ตามอัธยาศัยก็จะทำให้มีความสุขที่สุดในวันหยุดที่กำลังจะมาถึง

                          

                คะ…เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวนะคะที่ “อ่าวฉลอง” ก็เป็นสถานที่หนึ่งที่น่าไปพักผ่อนออกกำลังกายหรือไม่ก็ไปเดินเล่นตอนเย็นๆหลังจากเลิกงานหรือวันหยุด อ่าวฉลองเป็นท่าเทียบเรือด้วยที่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศขึ้นและลงเรือมาจากเกาะมีรถรับ-ส่ง เพราะระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรที่เป็นประภาคารยื่นออกไปในทะเลบางคนที่ไม่อยากเดินก็ขึ้นรถฟรีไปด้วยก็ได้ แต่ส่วนมากจะมีผู้คนไปเดินเล่นเพื่อออกกำลังกายและเมื่อได้ไปเดินบนประภาคารระยะทางที่ยาวแล้วเราก็จะได้วิวสวยๆและรู้สึกสดชื่นกับลมที่พัดมาจากบริเวณรอบๆทำให้เพลิดเพลินรู้สึกว่าไม่เบื่อได้มองเห็นเกาะและภูเขาสีเขียวราวกับว่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทำให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยกันเลยทีเดียว….

                               

                หลังจากที่เดินมาทั้งวันจากระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรทั้งไปและกลับแล้วรู้สึกหิวพอดี กระหายน้ำ ก็เริ่มหมดแรงรู้สึกว่าอยากกินขนมหวานอร่อยๆแล้วละ ก็ต้องร้านนี้เลย “ทับทิมกรอบ-สลิ่ม” เป็นร้านขนมหวานร้านหนึ่งที่อร่อยที่สุดของภูเก็ตก็ว่าได้อยู่หน้า บขส. เก่า ร้านทับทิมกรอบ-สลิ่ม มีคนกินเยอะมากต้องรอคิวนานกว่าจะได้กินเพราะของเค้าอร่อยจริงไปกินแค่ครั้งเดียวก็ติดใจและราคาก็เป็นกันเองมากแค่ 20 บาทถึงแม้ราคาจะถูกแต่ก็ได้มาซึ่งความอร่อย ส่วนมากที่ไปกินแล้วติดใจก็จะเป็นทับทิมกรอบ ทับทิมกรอบของเค้ากรอบจริงๆยิ่งกิน ยิ่งมัน      ส่วนประกอบภายในถ้วยก็จะมี ทับทิมกรอบ ถั่ว สมหวัง และอีกอย่างคือมะพร้าวกะทิ มะพร้าวกะทิที่หมายถึงคือจะเป็นมะพร้าวที่แก่แล้วจะไม่แข็ง มันจะมีเนื้อนิ่มยิ่งสุกยิ่งนิ่มแต่ก็มีสีขาวเหมือนกับมะพร้าวปกติ และอีกอย่างคือเขามีน้ำกะทิที่ไม่เหมือนร้านอื่นแน่นอน น้ำกะทิร้านนี้หอม หวาน มัน และเก็บไว้ได้ 2 วันแต่ต้องอยู่ในตู้เย็นสังเกตหลายครั้งแล้วถ้าน้ำกะทิร้านอื่นเอามาแช่แค่คืนเดียวก็เสียแล้วคะ อยากให้ทุกคนได้ลองไปชิมขนมหวานร้านนี้ขอคอนเฟิมว่าอร่อยแน่นอนจ้า…..

                การที่เราได้ผ่อนคลายความเครียดทำให้สุขภาพและจิตที่ดีก็จะตามมา หากเราอยู่กับการทำงานมากเกินไปทำให้ชีวิตเราก็จะดูเศร้าหมอง ไม่มีชีวิตจิตใจ ไม่มีความสุขและอีกอย่างหากเราได้ทำอะไรตามใจตัวเองบ้างก็จะนำมาซึ่งความสุขและพบจุดที่ดีที่สุดในชีวิต

 

           

   เรื่อง กิน เล่น เต้น เที่ยว ที่ ราชภัฎภูเก็ต     

                    

              หลายคนที่เข้ามาเรียนหรือที่ผ่านเข้ามาในราชภัฎภูเก็ตมองผ่านอาจจะไม่มีอะไรที่น่าสนใจแต่หากมองลึกหรือได้มีโอกาสเข้ามาสักครั้งก็จะรู้ว่ามีอาหารและห้องสมุดหรือสถานที่เที่ยวมีตั้งแต่สมัยก่อน ก็อยากให้ผู้คนที่ไม่เคยแวะมานั่งหรือคนที่ผ่านเข้ามาอยากให้ลองสักครั้งแล้วจะติดใจ

              จากที่เคยได้เข้ามาศึกษาในราชภัฎภูเก็ตได้รู้หลายอย่างว่าในราชภัฎภูเก็ตมีห้องสมุดหลายชั้นแต่ละชั้นก็จะแบ่งแยกกันออกไปตามประเภทของหนังสือและมีร้านอาหารหลายร้านซึ่งจะอร่อยหมดทุกร้านก็ว่าได้แต่ร้านที่จะพาไปกินวันนี้คือ “ร้านอาหารหวานใจ” มันเป็นร้านที่อยู่หน้ามหาวิทยาลัยเป็นร้านเล็กๆแต่อาหารของร้านอร่อยมาก ภายในร้านจัดบรรยากาศได้เหมาะกับอากาศที่เป็นอยู่ตอนนี้มากเพราะอากาศร้อนถ้าหากได้เข้าไปข้างในร้านก็จะเจอกับอากาศที่เย็นสบาย อาหารมีให้เลือกครบทุกรสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด มัน แต่อาหารที่อยากให้ทุกคนลองไปชิมกันคือ “เขียวหวานไข่เจียว” ภายในอาหารก็จะมีไข่เจียว,ฟักเขียว,ใบสาระแน,พริกหยวก,มะเขือพวง ซึ่งอาหารหลายคนอาจจะคิดว่ามันจะเข้าด้วยกันหรอ? มันจะออกมารสชาติยังไง? บางทีก็คิดเหมือนกันว่ารสจะออกมายังไง แต่พอได้สั่งมากินก็เจอรสชาติที่กลมกลืนมีครบทุกรสชาติไม่ว่าเผ็ดมาจากพริกหยวกที่โรยหน้ามาพร้อมกับสาระแน หวานมาจากเนื้อของฟักเขียว หวานมาจากเนื้อมะเขือเทศที่ใส่ผสมกับไข่เจียว เมื่อกินเสร็จแล้วก็มีของหวานที่บุฟเฟ่ต์มากๆทางร้านจะมีถ้วยมาให้แค่ใบเดียวหลังจากนั้นเราก็ตักขนมหวานมาเองโดยที่ทางร้านไม่ต้องนำมาเสิร์ฟทีหลังทางร้านเป็นกันเองกับทุกคนและมีคนเข้าไปกินเยอะมากเพราะได้กินอาหารที่อร่อยแล้วยังมีเจ้าของร้านที่ใจดีอีกด้วยถือว่าเป็นเคล็ดลับเรียกลูกค้าอีกอย่างหนึ่ง

 

             หลังจากที่กินข้าวสบายๆโดนแอร์เย็นๆก็ถึงเวลาพักผ่อนหามุมอ่านหนังสือที่มีบรรยากาศเงียบๆเย็นๆ ก็อยากจะแนะนำที่ห้องสมุดชั้น 3 จะมีโต๊ะตั้งโน๊ตบุ้คแยกออกเป็นแต่ละคนเพื่อป้องกันการโดนแอบส่องเพราะบางครั้งอาจจะมีความเป็นส่วนตัวและไม่อยากให้ใครรู้การจัดห้องสมุดอยากบอกเหมือนห้องนอนยังไง ยังงั้น เพราะมีทั้งโซฟา แอร์ ทีวี พัดลม ขนมและลิฟต์ให้ใช้บริการเพื่อที่จะขึ้นไปข้างบน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยหากจะยืมหนังสือก็เพียงแค่ใช้บัตรนักศึกษาสแกนอย่างง่ายไม่เหมือนสมัยก่อนจะต้องลงลายมือเขียนบรรยากาศภายในห้องสมุดเป็นอะไรที่เงียบสุดเท่าที่เคยได้เข้าไปอ่านเงียบจนวังเวง ระแวง ไปหมดทุกอย่างถ้าอยู่คนเดียวคงจะเหงาน่าดู หากคิดที่จะลงมืออ่านหนังสือ ท่องจำ หรือทำอะไรที่ต้องใช้ความจำอยากให้ผู้คนที่อยู่รอบๆมหาวิทยาลัยลองเข้าห้องสมุดดูสักครั้งเพราะมีความเงียบเหมาะสมกับการอ่านหนังสือมีแต่ผู้ใหญ่หรือคนที่ทำงานแล้วก็มักจะคิดเป็นว่าควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไรและอีกอย่างมีการบริการที่ดีและการต้อนรับเป็นอย่างดี

             ถ้าหากชอบอีกบรรยากาศนึงถ้าคนที่ไม่ชอบแอร์หรือไม่เป็นธรรมชาติชอบบรรยากาศที่ลมพัดเบาๆร่มรื่น อยากมีอารมณ์เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติรอบๆมหาลัยเพราะทางมหาลัยได้มีซุ้มหลังคา,โต๊ะม้าหิน พร้อมกับต้นไม้รอบๆทำให้สดชื่น เช่นลานหน้าอาคาร 5 , ลานพระที่ติดกับอาคาร 3 , ทางเดินไปอาคาร 9 เพราะทุกที่ก็จะมีโต๊ะม้าหินนั่งไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน พร้อมกันนี้ถ้าใครที่อ่านหนังสือแล้วอยากจะทำให้จิตใจสงบทำบุญ ทำทาน ก็ซื้ออาหารปลาให้ปลาเพื่อความเพลิดเพลินและทำให้ได้บุญไปในตัวด้วย

            อาจจะมองภายนอกก็มีแค่ตึกและต้นไม้สีเขียวแต่ถ้ามองให้ลึกก็จะเห็นว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีความทันสมัยและเข้าใจรู้ทันในโลกของเทคโนโลยีเพราะฉะนั้นควรคิดว่าการที่เราดูคนเราต้องมองให้ลึกถึงจะรู้ว่าคนนั้นเป็นอย่างไร อันนี้ก็เหมือนกันเราควรดูให้ลึกและศึกษาให้รู้จริงก็จะรู้ว่ามีอะไรดีๆอีกมากมาย

 

           

 วันหนึ่งในฤดูหนาว

        เมื่อปีใหม่เข้ามาเยือนผู้คนที่อยู่ต่างจังหวัดต่างก็ทยอยกลับไปบ้านเกิดของตัวเองไปพบปะเพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้องก็เป็นเรื่องปกติที่มีการเลี้ยงอำลาปีเก่าต้อนรับปีใหม่และไม่จำเป็นเสมอไปว่างานเลี้ยงนั้นจะต้องใหญ่โตมโหฬารแค่เรามีกันฉันและเธอก็เป็นงานเลี้ยงได้แบบพอมี พอใช้ก็สุขใจแล้ว

        สำหรับงานปีใหม่ปีนี้เป็นปีที่มีความสุขมากเพราะได้พาครอบครัวไปเที่ยวที่ “สวนสัตว์สงขลา” จะเป็นวันที่ทุกคนในครอบครัวว่างตรงกันในวันที่ 1 มกราคม 2557 สำหรับปีก่อนๆที่ผ่านมาก็อยู่กันที่บ้านซื้อของมาปิ้ง ย่าง กันจัดงานเล็กๆภายในครอบครัวแต่สำหรับปีนี้ได้ไปเที่ยวที่สวนสัตว์สงขลาทางสวนสัตว์เขาก็มีการจัดกิจกรรมปีใหม่เพื่อให้ได้ร่วมกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นสวนน้ำให้เราได้ผ่อนคลายโดยการว่ายน้ำจะมีทั้งพื้นที่ของเด็กและผู้ใหญ่และทางสวนสัตว์ก็ได้จัดโชว์ของสัตว์ต่างๆมากมาย ทำให้ได้สัมผัสกับสัตว์แบบถึงเนื้อถึงตัว แม้ว่าการไปเที่ยวปีใหม่ครั้งนี้จะไม่ได้ไปพบปะกับเพื่อนๆแต่คิดว่าเพื่อนวันไหนก็ได้ที่เราอยากจะเจอ แต่ครอบครัวหากยากนักที่จะมีเวลาว่างตรงกันเพราะต่างคนต่างทำมาหากิน ทางสวนสัตว์ได้มีการต้อนรับเป็นอย่างดีมากไม่ว่างจะบอกทางไปสวนสัตว์ ที่จอดรถ ร้านค้า และร้านเครื่องดื่มก็มีบริการทุกจุด

               

        ส่วนมากผู้คนที่ไปสวนสัตว์ก็จะไปกับครอบครัว พาพ่อแม่ที่แก่แล้วไปพักผ่อนตามม้าหินที่ทางสวนสัตว์ได้จัดไว้รองรับผู้คนที่ไปเที่ยว ส่วนมากทางร้านค้าคนที่ไปซื้อก็จะไปซื้อน้ำเปล่ามากินเพราะทางครอบครัวได้เตรียมอาหารไว้แล้วเพื่อจะได้นั่งกินกันตามสบายไม่เหมือนกับไปนั่งกินตามร้านเพราะจะต้องแข่งกับเวลาทำให้ไม่สนุกกับการกิน

        “สวนสัตว์สงขลา”  

                

ถือว่าเป็นสวนสัตว์ที่มีสัตว์เยอะมากในตอนนี้ถ้าเทียบกับสวนสัตว์แถวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ฮิปโปโปเตมัส  นกหายาก แรด หมีขอ งูที่หายาก เสือขาว สิงโต กวาง ช้าง วัวกระทิง วัวแดงฯลฯ ซึ่งสัตว์เหล่นี้เป็นสัตว์ที่หายากมากแล้ว และกลิ่นของสัตว์ในกรงจะไม่มีกลิ่นเลยทางสวนสัตว์ได้ทำความสะอาดและระงับกลิ่นได้อย่างดีมาก จะทำให้ไม่เกิดกลิ่นของสัตว์และอีกอย่างที่ทางสวนสัตว์ได้จัดโชว์และเอาใจนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติทุกคนคือ การโชว์การแสดงของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเสือ แมวน้ำ และอื่นๆอีกมากมาย การโชว์เสือทำให้ผู้ชมได้เสียวไส้กันไปเลยทีเดียวเพราะทางสวนสัตว์จะเอาเนื้อและเอาไปหย่อนในที่ของเสือแต่พอเสือจะกินก็ดึงเนื้อกลับก็เลยทำให้เสือโมโหร้องเสียงดังและก็ปีนต้นไม้เพื่อที่จะไปเอาเนื้อหลังจากนั้นเสือก็ได้กินเนื้อไปทำให้ผู้คนที่ดูวิ่งกันใหญ่เลยตอนที่เสือวิ่งมาปีนต้นไม่เพราะกลัวว่าเสือจะหลุดออกมานอกกรง การโชว์ของเสือก็ทำให้เรียกเสียงปรบมือไปอย่างดีเลยทีเดียว

             

         สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวในการจัดงานของสวนสัตว์ก็ไม่มีอะไรจะมีความดีใจและภูมิใจมากกว่าที่ทางสวนสัตว์ได้ต้อนรับเป็นอย่างดีมีการบริการที่ดี ถ้าถามว่างานที่จัดดีหรือไม่ถือว่าเป็นการจัดงานที่ดีเลยมีการโชว์ที่ตระการตา และมีสัตว์ที่หาดูยากมากแล้วตอนนี้ทำให้ไม่เสียใจที่ได้ไปร่วมงานปีใหม่ที่สวนสัตว์สงขลา

        และสุดท้ายต้องขอขอบคุณ คุณเฉลิมวุฒิ เกษตรสมบูรณ์ มากนะคะที่จัดงานได้ดี แม้งานจะจัดแค่วันเดียว ทำให้ผู้คนที่ไปไม่เสียใจที่ได้ไปสวนสัตว์สงขลา มีการจัดเตรียมสถานที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ สถานที่รับประทานอาหาร การบริการเครื่องดื่ม การเดินทางในสวนสัตว์ และการโชว์ของสัตว์ที่หาดูได้ยาก

        แม้ว่าปีไหนๆจะผ่านพ้นไปด้วยดีหรือไม่ก็ควรที่จะปล่อยวางหากมัวแต่คิดเรื่องเดิมๆก็จะทำให้ความทุกข์ไม่หมดไปจากตัวเรา ฉะนั้นเราก็ควรทำแต่สิ่งที่ดีๆแค่นี้ก็จะทำให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้นแล้ว

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
Benjaporn Khanom
เขียนเมื่อ

หญิงจีนหวิดตาบอด เพราะ 'นอนเล่นมือถือ' วันละหลายชั่วโมง

(ภาพตัวอย่างการใช้โทรศัพท์มือถือในที่มืด ซึ่งแพทย์ชี้ว่าหากกระทำพฤติกรรมดังกล่าวเป็นเวลานานติดต่อกัน อาจเสี่ยงต่อภาวะจอประสาทตาเสื่อมจนนำไปสู่การตาบอดถาวรได้ ภาพ - เอเยนซี)

      ซั่งไห่ เดลี่ - สตรีจีนหวิดมองไม่เห็นตลอดชีวิต หลังจ้องจอมือถือวันละหลายชั่วโมงจนจอประสาทตาหลุดลอก หมอชี้แบ่งเวลาใช้งานให้สมดุล อย่าเล่นเกินความจำเป็น
       
       รายงานข่าว (23 ก.พ.) กล่าวว่า สตรีจีนแซ่หลิวรายหนึ่งในมณฑลเจ้อเจียง ต้องทนทุกข์กับภาวะ “จอประสาทตาเสื่อม” อย่างมิอาจหลีกเลี่ยง หลังหญิงสาวเล่นโทรศัพท์มือถือในห้องที่ปิดไฟจนมืดสนิทโดยเฉลี่ยวันละ 2-3 ชม.มานาน ซึ่งหลิวเผยว่าตนเองเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของดวงตาข้างขวาในสัปดาห์ก่อน โดยมักจะมองวัตถุผิดสัดส่วนจากความเป็นจริง และเหมือนเห็นหมอกควันจางๆ อยู่ตลอดเวลา
       
       “เมื่อคุณหมอปิดตาข้างซ้ายของฉัน ทุกอย่างที่ฉันเห็นด้วยตาข้างขวานั้นดูไม่ชัดเจนไปเสียหมด อย่างเช่นวัตถุรูปทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากก็กลายเป็นทรงรีๆ กลมๆ แทน”
       
       ทั้งนี้นายแพทย์ผู้ทำการรักษาระบุว่า หลิวประสบกับภาวะจอประสาทตาบางส่วนหลุดลอก ซึ่งเป็นผลมาจากการจ้องจอโทรศัพท์มือถือในที่มืดเป็นเวลานานเกินไป
       
       ด้านนายเจ้า ปิงคุน จักษุแพทย์ในมณฑลเจ้อเจียง กล่าวว่า การจดจ้องจอภาพของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในที่มืดหรือมีแสงสว่างไม่เพียงพอนานๆ หลายชั่วโมง จะทำให้กล้ามเนื้อซิลิอารี (Ciliary muscle) หรือกล้ามเนื้อยึดเลนส์ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมเลนส์สายตาให้มีการปรับโฟกัสสั้น-ยาว เพื่อมองภาพวัตถุในระยะทางต่างๆ ได้ชัดเจน เกิดการชำรุดเสียหายขึ้นมาได้
       
       นอกจากนั้น ภาวะจอประสาทตาหลุดลอกยังสามารถนำไปสู่ภาวะตาบอดสนิทถาวรอีกด้วย โดยจักษุแพทย์จำนวนมากต่างยืนยันว่าผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องล้วนมีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวเป็นต้นเหตุ โดยเฉพาะผู้ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภทในชีวิตประจำวัน
       
       ก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ย. 2556 ชายชาวจีนรายหนึ่งจากมณฑลฝูเจี้ยน ต้องสูญเสียการมองเห็นของดวงตาข้างขวา หลังเขาใช้เวลากว่า 10 ชม.ของแต่ละวันนั่งอยู่หลังจอคอมพิวเตอร์ เพื่อดำเนินธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพดวงตากระตุ้นเตือนคนรุ่นใหม่ให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างสมเหตุสมผล และจัดแบ่งเวลาใช้งานและพักสายตาให้สมดุลอยู่เสมอ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
Benjaporn Khanom
เขียนเมื่อ

เรียนอาจารย์ที่เคารพคะ ชื่อเบญจพร ขนอม เลขที่22 นิเทศศาสตร์ กศ.บป ภูมิลำเนาอยู่ที่นครศรีธรรมราช แต่ได้เข้ามาทำงานและเรียนที่ภูเก็ตปีกว่าๆแล้วคะ ตอนนี้ได้เปิดร้านเพ้นท์เล็บเป็นธุรกิจส่วนตัวทำร่วมกับพี่สาวและแฟนคะ ร้านตั้งอยู่ที่สามกอง ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ภายในร้านก็ขายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความสวย ความงาม ทั้งหญิงและชาย ทั้งปลีก-ส่ง พร้อมส่งทั่วประเทศ

         โดยส่วนตัวและจะเป็นคนที่เงียบๆเหมือนกับหยิ่งแต่ไม่ได้หยิ่งคะ ถ้าได้คุยกับใครแล้วราวกับว่าสนิทกันมาเนิ่นนาน เป็นคนหัวเราะง่าย ชอบหัวเราะเสียงดัง ถ้าจะสังเกตในห้องเรียนก็สังเกตได้ง่าย คือ จะเป็นคนที่หน้าผากกว้างเพราะเมื่อก่อนตอนเด็กๆ พ่อ แม่ น้าๆ ชอบเล่าให้ฟังว่าเป็นเด็กที่หัวล้านไม่ค่อยมีผมและผมจะแดงเหมือนลูกฝรั่ง น้ำมูกไหลย้อยพูดง่ายๆว่าเป็นเด็กที่สกปรก ตัวดำ ผอม  และซนมาก เหมือนกับผู้ชาย

แต่ก็จำได้ว่าเมื่อก่อนชอบเล่นกับผู้ชายจริงๆเพราะไปไหนก็จะไปกับเพื่อนผู้ชายชวนเพื่อนผู้ชายมาเล่นที่บ้านบางทีก็ปั่นจักรยานไปเล่นกันในสนามหญ้าที่โรงเรียนครั้งหนึ่งจำได้ว่าแม่บอกให้อยู่ที่บ้านแม่จะไปสวน นึกสนุกขึ้นมาก็ชวนเพื่อนผู้ชายเรียนห้องเดียวกันเป็นญาติกันด้วยขึ้นตามแม่ไปแต่ปั่นจักรยานกันไปเพื่อนผู้ชายเป็นคนปั่นเรานั่งซ้อนท้ายทางที่ไปสวนของพ่อและแม่มันไปยากมามีขึ้นเขาลงห้วย เมื่อไปถึงทางที่จะเข้าสวนของแม่แล้วมันเป็นถนนสูงและมีหลุมเยอะมากพอดีรถจักรยานไม่มีเบรก เพื่อนก็หันมาถามว่าจะเอาไงลงไหม เราก็บอกว่าลงไปเลยเดี๋ยวเราจับท้ายรถให้เองแต่ด้วยความสูงของถนนและความเร็วของจักรยานก็เอาไม่อยู่ทั้งเราและเพื่อนก็ลงไปอย่างไม่เป็นท่า แก้มข้างซ้ายถลอกเป็นเป็นแผลและมีทรายอยู่ในแผลด้วย ส่วนเพื่อนผู้ชายปากถลอกทรายก็อยู่เต็มในปาก เมื่อลุกขึ้นมาเห็นหน้ากันก็หัวเราะแล้วก็ไปล้างในลำธารที่อยู่ข้างๆทางและจะเป็นเด็กที่โก๊ะมาก เมื่อเราทำผิดแม่ก็จะรู้แล้วมาถามเราเราก็จะหลบหน้าแม่แล้วก็บอกว่าไม่มีอะไรแล้วก็วิ่งหนีแถมหัวเราะไปด้วย

            นอกจากโก๊ะแล้วเป็นเด็กที่ชอบแต่งตัวและขี้อายมากถึงมากที่สุดไม่ค่อยกล้าแสดงออกแต่ตอนเด็กๆอนุบาลจนถึง มัธยม 3 ต้องติดในกิจกรรมของโรงเรียนทุกปีไม่เว้นเลยสักปีถ้าคุณครูไม่เลือกก็จะร้อง ด้วยความที่เป็นเด็กชอบแต่งตัวแถมขี้อายก็อยากจะมีส่วนร่วมกับคนอื่นด้วยเพราะชอบทาลิป แต่งตัวสวยๆ จนพ่อกับแม่บอกว่าหยุดสักปีไม่ได้หรอลูกแกขี้เกียจตื่น เพราะต้องตื่นไปรอตั้งแต่ตี 3 ด้วยความที่ยังเป็นเด็กก็เลยบอกว่าไม่เอาหนูอยากสวย อยากทาลิปสีแดง  แต่ตอนนี้พอโตขึ้นมาจนถึงปัจจุบันคนที่เคยพูดไว้ว่าหนูเป็นเด็กที่หัวล้าน ดำ ขี้มูกไหลย้อย ซน กลับตกใจเลยว่าทำไมผิดกับเมื่อก่อนมันสวยขึ้นเยอะมาก

5555 จากที่เป็นเด็กหัวล้านตอนนี้ผมหนา พอง แถมหยิกด้วย ก็เลยบอกน้าๆว่า “อย่าตำหนิลูกเค้าตอนยังเป็นเด็ก” อะไรก็เกิดขึ้นได้ น้าก็เลยบอกว่าใช่ๆๆๆๆ เห็นด้วย เวลานึกขี้เกียจสระผมขึ้นมาก็ไปสระที่ร้านบางครั้งก็นึกสงสารช่างขึ้นมาว่าผมอยู่แบบนี้ช่างจะทำยังไง แต่ที่ยังเหลืออยู่จากตอนที่ยังเป็นเด็กคือขี้อาย ตอนนี้ก็ยังอายอยู่ ไม่ค่อยกล้าแสดงออกแต่รู้สึกว่าเมื่อได้มาเรียนนิเทศศาสตร์อาจารย์จะให้ออกไปหน้าห้องเยอะมาก ออกไปนำเสนองานหรือสุ่มเรียกเลขที่ออกไปเสนองานของตัวเองหรือการแสดงละคร บางครั้งที่สุ่มโดนบ้างไม่โดนบ้างก็รอดตัวไปแต่เมื่อโดนแล้วก็ต้องนั่งทำใจและมือไม้สั่น  แต่เมื่อได้ออกไปแล้วก็ไม่มีอะไรมากก็จะเริ่มชินไปเองเพราะรู้สึกว่าการเรียนนิเทศศาสตร์ต้องกล้าแสดงออกให้มาก แต่หลังๆนี้มาเรียนไปเรื่อยๆมันก็จะชินไปเอง  รูปร่างจะเป็นคนเตี้ย ขาวแบบซีดๆ(มีคนบอก) ส่วนที่ติดมาจากตอนยังเป็นเด็กคือ ยังผอมอยู่เหมือนเดิมเคยน้ำหนักมากสุดที่ 47 กิโลกรัม ตอนนั้นจะเครียดมากเพราะน้ำหนักขึ้นมา 2 กิโลกรัมจากเมื่อก่อน 45 กิโลกรัมก็เลยปฏิบัติการลดน้ำหนักด่วน ทำโดยการออกกำลังกายตีแบดมินตันกับพ่อ แม่ และพี่  จากนั้นน้ำหนักก็ลดเหลือลงเท่าเดิม แต่ตอนนี้เริ่มจะเครียดอีกเหมือนเดิมเพราะมีคนทักว่าผอมแต่บางคนก็ว่าหุ่นดีจากน้ำหนัก 45 กิโลกรัม มันก็ลดลงมาเองโดยที่ไม่อดหาหารแต่อย่างใดเลย น้ำหนักตอนนี้เหลือแค่ 43 กิโลกรัม เมื่อใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปจะมีคนถามว่าลดความอ้วนหรอ ???? บอกได้เลยว่าไม่คะน้ำหนักมันลดลงเองซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ตลกตอนนี้กินยาบำรุงเลือดแม่ซื้อให้กินแกบอกว่าถ้ากินแล้วจะกินข้าวได้เยอะแล้วอ้วนด้วย ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าน้ำหนักจะเป็นยังไงเพราะไม่ได้ชั่งมา

นานมากแล้ว เวลากลับบ้านไปแม่ก็จะถามว่าอยู่ที่ภูเก็ตไม่ได้กินข้าวเลยหรอหรือว่าลดความอ้วนอีก บอกว่าไม่ได้ลดคะแต่กินแล้วไม่อ้วน ส่วนมากน้าๆที่อยู่ภูเก็ตเค้าก็มักจะถามว่าในแต่ละวันกินข้าวบ้างหรือป่าวบอกว่ากินคะกินเยอะด้วย แล้วเค้าบอกว่าทำไมไม่อ้วนก็เลยไปว่าไม่ทราบคะสงสัยมันจะเท่านี้แล้ว

            การแต่งตัวเวลาไปเรียนก็จะใส่ชุดทำงานไปส่วนน้อยที่จะใส่ชุดนักศึกษาไปเพราะสะดวกในชุดทำงานมากกว่าเพราะมีมากกว่าชุดนักศึกษาแต่ก็มีบ้างบางครั้งนึกอยากจะใส่ชุดนักศึกษาไป แต่ผิดกับเมื่อก่อนมากตอนจบจากมัธยม6 ใหม่ๆอยากจะแต่งชุดนักศึกษาใจจะขาดเพราะเห็นพี่ๆแต่งกันสวยและอยากเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยเร็วๆ แต่พอได้เข้าไปเรียนก็ดูใจกันยากไม่เหมือนกับเพื่อนๆที่คบมากันตอนที่เรียนมัธยมก็เบื่อไม่อยากจะเรียน คิดว่าเพื่อนที่สนุกที่สุดก็ในตอนมัธยมจะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดมีสุขมีทุกข์ด้วยกันกินอยู่ด้วยสนิทกันมากเหมือนเป็นพี่น้องกัน ทำเรื่องไม่ดีก็ทำด้วยกัน เรื่องดีก็ทำด้วยกันเป็นอะไรที่สนุกมาก แม้ว่าจะแต่งชุดทำงานไปก็มีความเคารพในสถาบันจะใส่กระโปรงนักศึกษาที่ยาวหรือกระโปรงสามส่วน บางครั้งถ้าฝนตกก็ใส่กางเกงไปเพราะมันจะสะดวกและคล่องตัวกว่าใส่กระโปรงไปและขับมอเตอร์ไซค์ทำให้คล่องตัว

         นิเทศศาสตร์ได้สอนให้เป็นคนที่กล้าแสดงออกมากขึ้นจากเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกก็ทำให้มีความกล้าแสดงออกขึ้น กล้าคิด กล้าพูด ทำให้มีความมั่นใจในการที่จะพูดและแสดงท่ากิริยาท่าทางและมีความมั่นใจในการที่จะทำอะไรมากขึ้น เช่นเวลาลูกค้ามาที่ร้านก็พูดแนะนำสินค้าได้ดีกว่าเมื่อก่อน แต่เมื่อก่อนจะพูดแบบติดๆขัดๆ ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองหรือสินค้าที่กำลังอธิบายลูกค้าอยู่ บางทีทำให้เสียลูกค้าได้  เมื่อการเรียนนิเทศศาสตร์สอนให้เราเป็นคนที่กล้าแสดงออก ฉะนั้นเราก็คิดไม่ผิดที่เลือกเรียนวิชานี้และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันกับการทำงานได้ดียิ่งขึ้น

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท