ชื่อเรื่อง การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม
เรื่องการต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านเกาะสาหร่ายชัยพัฒนา
จังหวัดสตูล
ผู้วิจัย นายบรรลือ หนูนุ่ม
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนบ้านเกาะสาหร่ายชัยพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2555
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม เรื่องการต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลการใช้หลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม เรื่อง การต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในด้านความรู้ ความเข้าใจ ทักษะปฏิบัติ และความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ มี 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในระยะของการพัฒนาหลักสูตร ได้แก่ ศึกษานิเทศก์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล จำนวน 5 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 10 คน ผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 1 คน ครูโรงเรียนบ้านเกาะสาหร่ายชัยพัฒนา จำนวน 15 คน ภูมิปัญญาท้องถิ่น จำนวน 5 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ในปีการศึกษา 2553 จำนวน 60 คน รวมทั้งสิ้น 96 คน และ 2) กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในระยะของการศึกษาผลใช้หลักสูตร ได้แก่ นักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนบ้านเกาะสาหร่ายชัยพัฒนา จังหวัดสตูล จำนวน 6 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม เรื่องการต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ 4) แบบวัดทักษะการปฏิบัติงาน 5) แบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) การทดสอบค่าที (t - test) แบบ Dependent Group
ผลการวิจัยพบว่า
1. หลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม เรื่องการต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส มีประสิทธิภาพ 83.06/84.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 เป็นไปตามสมมติฐาน
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความรู้ความเข้าใจตามหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม เรื่องการต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 6.00 และค่าเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 16.50 เป็นไปตามสมมติฐาน
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะการปฏิบัติที่เกิดจากการเรียนรู้ตามหลักสูตร สถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม เรื่อง การต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส หลังเรียนเท่ากับ 3.22 และมีค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.22 คิดเป็นร้อยละ 80.41 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 ที่สถานศึกษากำหนด เป็นไปตามสมมติฐาน
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถาน ศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม เรื่องการต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ อยู่ในระดับมาก ( ค่าเฉลี่ย = 4.13 , S.D. = 0.22 ) เป็นไปตามสมมติฐาน
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
1. หลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการ เรียนรู้เพิ่มเติม เรื่องการต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นหลักสูตรที่สามารถนำไปสอนบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆได้
2. หลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระการ เรียนรู้เพิ่มเติม เรื่องการต่อเรือไฟเบอร์กล๊าส สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นหลักสูตรที่สามารถใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพและนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 3. ระยะเวลาในการใช้หลักสูตรสถานศึกษาสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของ ผู้เรียนและโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา
ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป
1. ควรมีการวิจัยและพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่นในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ต่อไป
2. ควรนำรูปแบบและวิธีการของหลักสูตรที่พัฒนาขึ้น ไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาหลักสูตรในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีในชั้นเรียนอื่นๆ
ไม่มีความเห็น