...PARADOX...

นิยามของคำว่า คนดี 

เรามักจะจับคู่คนดีกับความซื่อ 

และเราก็มักจับคู่ความซื่อกับความบื้อ

สรุปว่าคนดี ต้องซื่อๆ บื้อๆ !! ซะงั้น !

.

โบราณ คำว่าคนดี หมายถึงคนที่มีอุปนิสัยที่ดี และสติปัญญาไหวพริบดีครับ

จึงจะเป็น คนดี

คำว่ากุศล รากศัพท์ไม่ได้แปลว่าบุญ  ...แต่แปลว่า สติปัญญา หรือน่าจะตรงกับภาษาอังกฤษว่า Solution

กุศล = Solution ไม่ใช่แค่ Good

เป็นการสมดุลย์ความดีกับความฉลาด

.

อย่าดีเกินฉลาด และ อย่าฉลาดเกินดี

มิฉะนั้น จะดีจนโง่ หรือ ฉลาดจนชั่ว ไปซะ

มนุษย์ต้องการความรู้คู่ความสุข

ถ้าเปิดดูแต่คลิปตลก ร้องเพลง เกมส์โชว์ ก็ได้ความสุข แต่จะโง่ คิดอะไรไม่เป็น

ถ้าค้นหาแต่ความรู้ ก็จะไม่โง่ แต่ขาดความสุข ก็จะเครียด

สมองมี 2 ซีก เราเดินสายกลาง ต้องรู้จักสมดุลย์ ทั้ง Info และ Emotion 

สมองถึงจะอิ่มครับ

ตามนี้เลย...

วิชาที่ผมสอน ... ต่อจากวิชาจีบ

สำหรับผม การสอนคนหนึ่งคลาส 

ต้องมีผลสัมฤทธิ์ครบ 4 อย่าง

1. ปลุกกำลังใจ หรือสร้างแรงบันดาลใจ

2. ให้ความรู้อันลึกซึ้ง ด้วยการอธิบายอย่างง่ายๆ

3. สร้างความสุข สนุกกับการเรียน

4.  ทำให้เกิดความซาบซึ้ง

ทำครบตามนี้ ผู้เรียนจะเกิดความสนใจ จดจำ มีกำลังใจ 

และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ครับ

เรานับถือพระพุทธเจ้าเป็นบรมครู

กราบ  ยกย่องคำสอนว่า งดงามทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย
บริบูรณ์ทั้งอรรถะ ทั้งพยัญชนะ

ท่านสอนบางคนครั้งเดียว จบเลย สอนอย่างน่าอัศจรรย์
แต่ทำไมเราไม่ถอดองค์ความรู้ หลักการ รวมทั้งวิธีการของท่านมาทำหลักสูตรการสอน
ไปเอาความรู้ และวิธีการของคนอื่นที่ไม่ได้บริบรูณ์เท่าท่าน มาใช้…
น่าแปลกใจไหมครับ  ?

พอยุคคนคลั่งศาสนา ก็บอกว่าฝ่ายวิทยาศาสตร์เป็นพ่อมดแม่มด
แต่พอถึงยุคคนคลั่งวิทยาศาสตร์ ฝ่ายศาสนาก็กลายเป็นเรื่องงมงาย

คนมีสติปัญญา จึงจะรู้ลึก / รู้กว้าง / รู้ทุกแง่มุม

เห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง  ไม่ปล่อยความคลั่งมาครอบงำจิตใจ

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้คนตาสว่าง (รู้แจ้ง) ครับ

การสอนไม่ใช่การอธิบาย  ... การอธิบายเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสอน

การสอนเริ่มจาก การสร้างแรงบันดาลใจ

สอง ให้ความรู้ที่ เอาไปใช้ได้จริงในชีวิต

สาม สอน วิธีคิดให้คิดเองได้ ไม่ใช่แค่คิดตามๆ กัน

สี่ ให้ใจมั่น ตระหนักถึง จริยธรรม

จึงจะเป็นการกระทำที่เรียกว่า สอน จริงๆ

เวลาผมสอนไม่ค่อย มีคนตอบครับ
เพราะคนไทยกลัวโง่ เราถูกปลูกฝังมาให้ รักหน้าตามากกว่าปัญญา

คำว่าโง่เป็นอะไรที่หนักหนามาก   กลัวนานๆ เข้าก็พาลคิดอะไรไม่ค่อยออก

ความกลัวมันมีผล บั่นทอนความคิด !

ผมบอกเลยว่า เราดูโง่ 1 นาที  ดีกว่าโง่จริงๆ ตลอดชีวิต

ปล. Children สะกดผิด อันนี้คือความโง่ของผมเองครับ

.....

เมื่อจิตหยุดพอ จะเข้าใจเรื่อง เวลา

ผมว่าไอน์สไตน์ก็รู้ตรงนี้

เพียงแต่ทฤษฎีที่เขาประกาศออกมา เป็น ผล

เขาไม่ได้พูดถึง เหตุ คือ ขบวนการที่ จิตมันหยุด  แล้วส่งผลให้เกิด ปัญญาปิ๊งแว้บ แบบ Intuition

บันทึกที่เปิดเผยหลังความตายของเขา 

พูดถึงความรักอันเป็นสากล ซึ่งเป็นคุณสมบัติของ จิตที่หยุด ...

ชีวิตแท้มีแค่ปัจจุบัน

อดีต คือ ความจำ

อนาคต คือ จินตนาการ

ลองหายใจยาวๆ แล้วเอาสติกลับมารู้สึกตัว

อย่าแต่มัวหลงคิดเพลิน ในจิตเผลอ

มองรอบๆ จะพบความจริง ซึ่งจะเจอ

Everything were in the thought that is not the real thing.

กูจะเป็นอาจารย์ !

การปิ๊งแว้บอย่างฉับพลัน เกิดจากการที่เราฝึกสติ ฝึกสมาธิจนมันถึงขีดของมัน 

ก็เกิดการตระหนักรู้แบบฉับพลันขึ้นมาเองอย่างที่หาเหตุผลอธิบายไม่ได้ 
มันนอกเหตุเหนือผลจากสามัญสำนึกจะคิดวิเคราะห์ตาม

 เป็นปัญญาแบบหยั่งรู้ ...ไม่ใช่ปัญญาจากการคิด 

กูเอาความรู้อันนี้แหละ สอนคนอื่น 

 ปฏฺิญาณจากใจกูจะเป็นอาจารย์ จนลมหายใจสุดท้าย !