มีสองเรื่องที่ต้องตอบมังคะ
ประการแรก เกี่ยวกับสิทธิในสัญชาติไทยตามมาตรา ๒๓
มาตรา ๒๓ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายไทยว่าด้วยสัญชาติไทย ซึ่งมุ่งที่จะคืนสิทธิในสัญชาติไทยให้แก่คนที่เกิดในประเทศไทยก่อนวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕ และบุตร ซึ่งตกอยู่ในผลกระทบของประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ป.ว.๓๓๗ ซึ่งผลกระทบนี้อาจจะเกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อมก็ได้ อันทำให้พวกเขาตกเป็นคนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทย
คนที่ได้รับผลกระทบทางตรงของ ปว.๓๓๗ มีอยู่ ๒ กลุ่ม อันได้แก่ (๑) คนที่เกิดในประเทศไทยระหว่างวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๔๕๖ จนถึงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ อันทำให้เสียสัญชาติไทยโดยผลของ ปว.๓๓๗ หากมีข้อเท็จจริงตาม ปว.๓๓๗ กล่าวคือ มีบุพการีหลักเป็นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองในลักษณะไม่ถาวร และ (๒) คนที่เกิดในประเทศไทยระหว่างวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ จนถึงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕ อันทำให้ไม่ได้สัญชาติไทยโดยผลของ ปว.๓๓๗ หากมีข้อเท็จจริงตาม ปว.๓๓๗ ดังกล่าวแล้ว
ส่วนคนที่โดนผลกระทบทางอ้อมของ ปว.๓๓๗ มีอยู่ ๑ กลุ่ม อันได้แก่ (๓) บุตรของสองกลุ่มแรกที่เกิดในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕ จนถึงวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๑
โดยสรุป คนสัญชาติไทยโดยผลของมาตรา ๒๓ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑ จึงมีอยู่ ๓ กลุ่ม เหตุผลที่กฎหมายนี้หันมารับรองสิทธิในสัญชาติไทยให้แก้คนกลุ่มนี้โดยผลของกฎหมาย ก็เพราะพวกเราอาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานจนมีความกลมกลืนกับประเทศไทยทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม พวกเขาจึงไม่ต้องร้องขอมีสิทธิในสัญชาติไทยโดยผลของมาตรา ๗ ทวิ วรรค ๒ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งถูกเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ อีกต่อไป แม้ยื่นคำร้องขอไว้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกระบวนการตามมาตรา ๗ ทวิ อีกต่อไป
ในกรณีของคนที่เกิดในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕ จากบิดาและมารดาต่างด้าวซึ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองไม่ถาวร ก็ไม่มีสิทธิในสัญชาติไทยโดยผลของกฎหมายและไม่ใช่ผู้ได้รับผลกระทบของ ปว.๓๓๗ จึงไม่ใช่ผู้ทรงสิทธิตามมาตรา ๒๓ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑ หากต้องการร้องขอสิทธิในสัญชาติไทย ก็ยังต้องไปใช้มาตรา ๗ ทวิ วรรค ๒ ในการร้องขอสัญชาติไทยต่อไป
แต่ขอให้ตระหนักว่า ในการปฏิรูปกฎหมายสัญชาติไทยใน พ.ศ.๒๕๕๑ มีการปฏิรูปมาตรา ๗ ทวิ วรรค ๒ อีกครั้ง เพื่อให้มาตรานี้อาจมีผลในลักษณะทั่วไป มิใช่เพียงเฉพาะรายดังมาตรา ๗ ทวิ วรรค ๒ เดิม มาตรา ๗ ทวิ วรรค ๒ ใหม่ ก็คือ มาตรา ๗ ทวิ วรรค ๒ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งถูกเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ และโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑
หากจะอยากอ่านงานเขียนของอาจารย์แหววในเรื่องนี้เพิ่มเติม ก็อ่านได้ค่ะ
------------------
งานเขียนฉบับที่ ๑
------------------
กรณีศึกษานางสาวฟองจันทร์ สุขเสน่ห์ : จากคนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทยสู่คนสัญชาติไทยโดยหลักดินแดนโดยการเกิดโดยผลของมาตรา ๒๓ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑, กรณีศึกษาในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล, เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๑
http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=1&s_id=454&d_id=453
http://learners.in.th/blog/notes-of-archanwell-on-private-international-law/361388
------------------
งานเขียนฉบับที่ ๒
------------------
บุคคลผู้ถือบัตรบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยและบุตร จะมีสิทธิขอลงรายการสัญชาติไทยในทะเบียนบ้านตามมาตรา ๒๓ หรือไม่ ? เพราะเหตุใด ? : กรณีศึกษานางสาวมึดา นาวานารถ, งานเขียนเพื่อหนังสือแจกในงานวันเด็กไร้สัญชาติ ครั้งที่ ๗ พ.ศ.๒๕๕๒ ของศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน, เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑
http://gotoknow.org/blog/archanwell-and-stateless-and-nationalityless/228684
http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=1&s_id=498&d_id=497
------------------
งานเขียนฉบับที่ ๓
------------------
กรณีศึกษานางสาวศรีนวล : ปัญหาการกำหนดสัญชาติไทยโดยหลักดินแดนโดยผลของมาตรา ๒๓ วรรค ๑ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑, ข้อสอบวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๒
http://learners.in.th/blog/archanwell-right2nationality/398393
------------------
งานเขียนฉบับที่ ๔
------------------
คนสัญชาติไทยตามมาตรา ๗ ทวิ วรรคสอง : ควรมีสิทธิทางการเมืองโดยจำกัดอย่างนั้นหรือ ?, เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒
http://gotoknow.org/blog/law-for-humanity/273624
------------------
งานเขียนฉบับที่ ๕
------------------
ความเห็นของ อ.แหววต่อการถอดบทเรียนของบุญในการพานักเรียนไปยื่นคำขอตามมาตรา ๒๓, เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๒
http://archanwell.spaces.live.com/blog/cns!706316D9B6E66926!9241.entry
http://gotoknow.org/blog/archanwell-and-maeai-study/273814
------------------
งานเขียนฉบับที่ ๖
------------------
ตอบปัญหาเรื่องสิทธิในสัญชาติไทยตามมาตรา ๒๓ วรรค ๑ ของคนถือบัตรเลข ๐, เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๒, เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๒
http://gotoknow.org/ask/archanwell/12517
------------------
งานเขียนฉบับที่ ๗
------------------
ตอบคำถามเกี่ยวกับผู้ทรงสิทธิเกี่ยวกับมาตรา ๒๓ ของบุคคลที่ไม่ได้สัญชาติไทยเพราะตกอยู่ภายใต้มาตรา ๗ ทวิ วรรค ๑ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งถูกแก้ไขและเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕, เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
http://learners.in.th/ask/archanwell/9294
http://gotoknow.org/ask/archanwell/12585
------------------
งานเขียนฉบับที่ ๘
------------------
ตอบคุณหนุ่มเรื่องสิทธิในสัญชาติไทยตามมาตรา ๒๓ : ต้องเริ่มต้นจากการพิสูจน์การเกิดในประเทศไทย, คำตอบปัญหาของบุคคลที่มีปัญหาสถานะบุคคล, เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๒
http://gotoknow.org/blog/people-management/316876
http://gotoknow.org/ask/archanwell/12854
http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=1&s_id=487&d_id=486
------------------
งานเขียนฉบับที่ ๙
------------------
กรณีศึกษานางสาวทันยา : สิทธิในสัญชาติไทยโดยหลักดินแดนของคนเกิดในประเทศไทยก่อนวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕ จากบิดาและมารดาสัญชาติอเมริกัน, ข้อสอบในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ภาคการศึกษาที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๒, เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๓
http://learners.in.th/blog/archanwell-right2nationality/419562
ในประการที่สอง สิทธิทางการศึกษาและสิทธิทำมาหาเลี้ยงชีพ
สิทธิทั้งสองนี้เป็นสิทธิมนุษยชน ประเทศไทยมีทั้ง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๐ พ.ร.บ.การทำงานคนต่างด้าว พ.ศ.๒๕๕๑ และประเทศไทยก็เป็นทั้งภาคีของกติกาสหประชาชาติ ค.ศ.๑๙๖๖ ว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม อันหมายความว่า สิทธิทั้งสองไม่ขึ้นอยู่กับสถานะคนสัญชาติไทย การเอาไปผูกติดกัน ก็ทำให้มนุษย์ต้องมี ๒ ปัญหา การให้สัญชาติไทยง่ายๆ คงเป็นไปไม่ได้ แต่การให้สิทธิทางการศึกษา และสิทธิทำมาหาเลี้ยงชีพเป็นหน้าที่ที่รัฐไทยต้องให้แก่มนุษย์ที่มีลมหายใจในประเทศไทย
ดังนั้น การแก้ไขทัศนคติที่ผิดพลาดดังว่ามา "เพราะว่านักเรียนคิดว่าเมื่อเรียนไปแล้วจบไปก็ไม่สามารถหางานทำได้ ต้องรับจ้างเขา จึงทำให้ต้องออกกลางคัน ช่วยแนะนำให้หน่อยนะครับ ผมจะได้มีความรู้ที่ถูกต้องนำไปบอกกับนักเรียน และลูกศิษย์อีกหลาย ๆ คน ที่มีความคิดแบบนี้" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน เมื่อคิดผิดทาง ก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ และอาจนำไปสู่การกระทำความผิด ก็คือ ซื้อเอกสารปลอม ที่อาจนำไปสู่อีกปัญหาให้แก่ชีวิต
เริ่มต้นจากมีความรู้และมีความคิดที่ถูกต้องก่อนค่ะ ก็จะแก้ไขปัญหาได้
ลองอ่านบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องนะคะ
มาตรา ๑๒/๑ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑
ในการขอแปลงสัญชาติเป็นไทยตามมาตรา ๑๒ นั้น บุคคลอื่นอาจขอแปลงสัญชาติเป็นไทยให้แก่บุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทยที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) ผู้อนุบาลตามคำสั่งของศาลอาจขอแปลงสัญชาติเป็นไทยให้แก่คนไร้ความสามารถซึ่งมีหลักฐานแสดงให้เชื่อได้ว่าเป็นผู้เกิดในราชอาณาจักรไทย โดยให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๐ (๓) และ (๕) และรัฐมนตรีจะยกเว้นให้ไม่ต้องปฏิญาณตนก็ได้
(๒) ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ของรัฐตามที่รัฐมนตรีกำหนด เมื่อได้รับความยินยอมของผู้เยาว์แล้วอาจขอแปลงสัญชาติเป็นไทยให้แก่ผู้เยาว์ซึ่งอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์มาไม่น้อยกว่าสิบปี โดยให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๐ (๑) และ (๓)
(๓) ผู้รับบุตรบุญธรรมซึ่งเป็นผู้มีสัญชาติไทยอาจขอแปลงสัญชาติเป็นไทยให้แก่บุตรบุญธรรมที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะซึ่งได้จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีและมีหลักฐานแสดงให้เชื่อได้ว่าเป็นผู้เกิดในราชอาณาจักรไทย โดยให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๐ (๑) และ (๓)
การขอแปลงสัญชาติเป็นไทยแทนบุคคลอื่นตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
ในประการแรก อ.แหววต้องขอโทษคุณน้ำหวานที่จำคุณไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดว่า คุณเป็นคนที่ต้อง "โอนสัญชาติ" หรือ "แปลงสัญชาติ" คุณน่าจะเป็นคนที่เกิดในประเทศไทยมากกว่า เพราะคุณดูอายุไม่มากนัก ลองทบทวนเรื่องราวของคุณให้ อ.แหววจำได้หน่อยซิคะ
ในประการที่สอง เรื่องใบขับขี่นั้น โดยหลักกฎหมาย คนที่เป็นราษฎรไทยก็น่าจะมี "หน้าที่" ร้องขอทำใบขับขี่ หากประสงค์จะขับรถค่ะ แต่บ้านเมืองไทยในตอนนี้มีอะไรแปลกๆ ทราบว่า กรมการขนส่งทางบกเข้ายอมรับให้ราษฎรไทยประเภทคนต่างด้าวที่เป็นชนกลุ่มน้อยบางกลุ่มเท่านั้นที่ทำใบขับขี่ได้ และเท่าที่ดูในหนังสือของกรมการขนส่งทางบก ก็ไม่อนุญาตให้ราษฎรไทยที่มีสถานะเป็น "ผู้หลบหนีเข้าเมืองจากพม่า" ทำใบขับขี่นะคะ ดังนั้น ถ้าอยากทำ ก็ไปยื่นขอทำ ถ้าเขาไม่ทำให้ ก็ไปฟ้องศาลปกครองเอานะคะ จะได้รู้กันว่า ศาลจะว่าอย่างไร
ในประการที่สาม อยากให้คุณศึกษานโยบายของกรมการขนส่งทางบกที่ปฏิเสธสิทธิของบุคคลที่มีสถานะเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองจากพม่าค่ะ
ลองหารือสภาทนายความหรือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดูนะคะ หากเพื่อแถวบ้านของคุณอยากสู้เพื่อความถูกต้องนะคะ
โปรดศึกษา พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ.๒๔๙๓ เลยค่ะ
คลิกตรงนี้
เป็นเรื่องของมูลนิธิอะไรคะ
ผู้ถามเป็นใครคะ
น้องชื่ออะไรคะ
น้องมีชื่อในทะเบียนบ้านในเขตอำเภอไหน ? จังหวัดไหนคะ ?
ขอรายละเอียดมากที่สุดนะคะ
การแปลงสัญชาติเป็นไทยโดยเงื่อนไขของความเป็นสามีของหญิงสัญชาติไทยทำได้ เป็นไปตามมาตรา ๑๑ (๔) แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งแก้ไขและเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๕๑
รายละเอียดไปหารือกองตำรวจสันติบาล ๒ เพื่อยื่นคำร้องนะคะ