ดอกไม้


หนูรี
เขียนเมื่อ

"วิถีชีวิตคน"

  • แต่ละคนเลือกทางเดินไม่เหมือนกัน
  • บางคนอายที่ต้องกลับมาอยู่ที่ชนบทบ้านเกิด
  • กลัวคนอื่นหาว่า ... ไปไหนไม่รอด
  • แต่ฉันว่า ...มองต่างมุม ...
  • การกลับคืนถิ่น ไม่ใช่ไม่มีทางไปหรือไปไหนไม่รอด
  • แต่ความรักความผูกพัน มากกว่า 
  • ที่ทำให้อยากกลับมาใช้ขีวิตอย่างเรียบง่าย
  • อยู่กับคนที่เรารัก สร้างอาชีพแบบพอเพียง
  • ชีวิต ก็สุขสันต์ได้ ...ไม่มีวันหยุด เสาร์อาทิตย์
  • จึงไม่ต้องนั่งนับวัน ...ว่าเมื่อไหร่หนอ! จะได้หยุดอยู่บ้าน
  • ปัจจุบัน ฉันนั้นไม่มีวันหยุด ...
  • ทุกๆวันคือวันทำงานและทุกๆวันคือวันพักผ่อน ...:)
  • ...............

11
2
ศิริมา ยี่สิ้น
เขียนเมื่อ

สัปดาห์ที่สอง ของการเป็นนักศึกษาฝึกสอนในโรงเรียน ดิฉันได้สอนนักเรียนชั้น ป.4

ทั้ง 4 ห้อง เรียบร้อยแล้ว ในวันแรกๆนักเรียนจะไม่ค่อยสนใจ ไม่ตั้งใจฟัง

ที่ดิฉันสอนและนักเรียนมักจะคุยกันในห้องเรียนเสียงดัง และดิฉันเตือนนักเรียน

ไม่ให้เสียงดัง นักเรียนเงียบไปสักพัก แล้วก็ดังเหมือนเดิมอีก แต่นั้นเป็นวันแรกๆๆ

ของการสอน และในวันต่อมานักเรียนเริ่มไม่ค่อยคุยกัน และตั้งใจเรียนมากขึ้น

และในการสอนสัปดาห์ที่สองของการสอน เมื่อดิฉันเขียนบนกระดานนักเรียน

อ่านไม่ออก (โดยเฉพาะ อ. ) เพราะดิฉันเขียนหนังสือไม่ค่อยมีหัว

จึงทำให้นักเรียนอ่านหนังสือไม่ค่อยออก แต่พอในคาบต่อไปดิฉันปรับปรุงลายมือ

เขียนหนังสือให้มีหัวมากขึ้น นักเรียนก็เริ่มอ่านออกบ้าง และในสัปดาห์ที่สองโรงเรียน

ให้ครูส่งแผนการสอนทั้งภาคเรียน ดิฉันรีบเขียนแผนการสอนอย่างเร่งรีบทุกคืนของสัปดาห์ที่สอง

จึงทำให้สัปดาห์ที่สองผ่านไปด้วยดีของการเป็นนักศึกษาฝึกสอน



3
0
จุรีรัตน์ คงมีชัย
เขียนเมื่อ

อนุทินสัปดาห์ที่ 2 วันที่ 20-23 พ.ค.56

ดิฉันนางสาวจุรีรัตน์ คงมีชัย นักศึกษาฝึกสอน โรงเรียนบ้านทุ่งคา บุญยขจรประชาอาสา

                สำหรับสัปดาห์ที่2 ได้สอนมากยิ่งขึ้น ทั้งระดับชั้น ป.1 ป.2 และ ป.3 ซึ่งการสอนจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามระดับชั้น  โดยเฉพาะนักเรียนระดับ ป.1 หากมีการใช้แรงจูงใจในการสอนมาก นักเรียนจะตั้งใจเรียน เราต้องคอยพูดในเชิงบวกกับนักเรียนเหล่านั้น เพราะเขายังค่อนข้างบอบบาง ไม่ควรพูดในเชิงปฏิเสธ หรือห้าม แต่ก็ต้องบอกเขาในทางที่ถูกอย่างอ่อนโยน 

              ปัญหาสำคัญที่พบในการสอนคือ ปัญหาเรื่องเสียง ดิฉันจะเป็นคนที่ค่อนข้างเสียงเบา พูดไม่ค่อยดัง ยังควบคุมนักเรียนไม่ค่อยได้  ยังใช้เสียงต่ำสูง ได้ไม่ดี เพราะเมื่อตะโกนมากๆจะเจ็บคอ โดยเฉพาะกับนักเรียนชั้น ป.3 ที่ค่อนข้างจะดื้อ พูดกันเสียงดังมาก ดิฉันก็ต้องปรับปรุงในเรื่องนี้ต่อไป นอกจากนี้สัปดาห์ที่ 2 ก้อยังเป็นสัปดาห์ของการเลือกชุมนุมของนักเรียน ซึ่งดิฉันได้อยู่ชุมนุม "รอบรู้อาเซียน" ร่วมกับครูพี่เลี้ยง 

               และเนื่องจากวันศุกร์ที่ 24 เป็นวันวิสาขบูชา ทางโรงเรียนได้มีการพานักเรียนชั้น ม1 ม.2 และ ม.3 ไปเวียนเทียนที่สำนักสงฆ์สามัคคีสามกอง เพื่อเป็นการปลูกฝังให้นักเรียนมีใจรักในพุทธศาสนา


พานักเรียนชั้น ม.ต้น ไปเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ณ สำนักสงฆ์สามัคคีสามกอง





6
0
จันทรา หลานหมีน
เขียนเมื่อ

สวัสดีค่ะ กับการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 1 

    สัปดาห์แรกของดิฉันก็ผ่านไปได้ด้วยดีมากค่ะ (ขอขยายความ) ดิฉันไปฝึกสอนโรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง มีนักเรียนเกือบ 4000 คน กับเพื่อนอีก 3 คน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีพี่เลี้ยงทีทางโรงเรียนจัดให้ ดิฉันได้หน้าที่ สอน ป. 4 สามห้อง และเพื่อนอีกสามคน ก็จะมี ป.5 ป.6 และ มัธยมปลาย แต่ละห้องจะมีนักเรียนไม่ต่ำกว่า 50 คน เยอะใช้ได้เลยค่ะ เมื่อทุกคนต่างได้รับมอบหมายก็ได้ลงมือสอนกันเลยค่ะ และยังมีการแบ่งเวรต้อนรับนักเรียนและช่วยสหกรณ์โรงเรียน ส่วนดิฉันได้รับมอบหมายครูประจำชั้นด้วยค่ะ 

     มีการประชุมโดยผู้อำนวยการโรงเรียน  ท่านสอน ทั้งความรู้ การใช้ชีวิต การปฏิบัติหน้าที่ และให้พวกเราได้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากโรงเรียนนี้ให้มากที่สุด เพราะมีหลายอย่างที่โรงเรียนอื่นไม่มีและให้พวกเราปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ 

    เมื่อดิฉันได้สอน ป 4 สองห้อง เด็กๆก็น่ารักดีค่ะ แต่เสียงดังไปหน่อย สอนเสร็จ มีอาจารย์ฝ่ายวิชาการเรียกพบตัวดิฉัน บอกว่า ครูมัธยมขอให้ไปช่วยสอน ครูอยากให้เธอไปสอนเพราะดูท่าทางน่าจะกำราบเด็กอยู่ คือว่าดิฉันตกใจมากค่ะ และไม่ทันตั้งตัวเลย  อาคารมัธยมก็อยู่ห่างกับประถม ดิฉันต้องแยกกับเพื่อนที่ไปด้วยกัน และอีกอย่างก็ไม่ค่อยอยากสอนเด็กโตเท่าไหร่ค่ะเพราะคิดว่าเขาคงไม่ฟังที่เราสอน และต้องไปเจอคุณครูคนใหม่ๆ สถานที่ใหม่  แต่เราปฏิเสธไม่ได้ก็เลยต้องไปค่ะ คืนนั้นดิฉันตื่นมาสามรอบเลยค่ะไม่รู้ว่าคิดเรื่องอะไรต่างๆนาๆ 

     วันรุ่งขึ้นดิฉันก็ไปหาครูพี่เลี้ยงคนใหม่ ครูจัดการแบ่งตารางสอนให้ 10 คาบ ม.1 และ ม. 2 เมื่อได้หน้าที่ ดิฉันก็ได้ลงมือสอนเลยค่ะ ทั้งสอง ม. ตื่นเต้นมากค่ะแต่ก็พยามยามทำให้เต็มที่ เด็กก็เชื่อฟังดีค่ะ พูดง่าย เข้าใจง่าย มีบางส่วนซึ่งต้องอธิบายรายบุคคล 

    เมื่อได้สอนผ่านไป สองคาบ ความคิดเมื่อคืนเปลี่ยนไป ดิฉันรู้สึกว่าอยากสอนเด็กมัธยมมากค่ะ เพราะเขาจะฟังเรา สอนอะไรเข้าใจง่าย ส่วนคนที่เก่งก็จะสอนคนที่ยังไม่เข้าใจ เด็กๆน่ารักมากเลยค่ะ คนที่สงสัยก็มาถามอย่างน่าเอ็นดูมาก ไม่วิ่งซนเหมือนเด็กเล็กๆ 

     ดิฉันได้คิดถึงคำพูดของ ผอ. ที่สอนตอนประชุมก่อนหน้านี้ 1 วัน ผอ.บอกว่า  " เราจงทำตัวให้เหมือนน้ำ ไม่ว่าใส่ในภาชนะไหนๆก็อยู่ได้ รู้จักปรับตัวกับสิ่งแวดล้อม รู้จักถ่อมตน น้ำ ไม่ว่าจะอยู่บนดินหรือใต้ดิน น้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำเสมอ   (ซึ่งตรงกับดิฉันที่มีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน )

                                                                                                  จะเป็นดั่ง ...น้ำ.......

                                                                                                               

   

   

    

6
0
กมลรัตน์ ไทยกลาง
เขียนเมื่อ

สัปดาห์ที่ ๒ วันที่ ๒๐-๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

        สำหรับการฝึกสอนในสัปดาห์ที่ ๒ นี้ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากโรงเรียน โดยเฉพาะตัวเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  ๒ และ ๓ เนื่องจากนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  ๒ และ ๓ ยังอยู่ในวัยที่ต้องการเล่นมากกว่าเรียนทำให้การเรียนการสอนเป็นไปได้ยาก ไม่เป็นไปตามแผนการสอนที่เขียนเอาไว้ ตัวอย่างเช่น เวลาให้นักเรียนเขียนเนื้อหาประมาณ ๕ บรรทัดใช้เวลาไปเกือบชั่วโมง บางคนได้แต่วันที่ และไม่มีความพร้อมในการเรียน ไม่เตรียมสมุด หนังสือมา เวบาเรียนบางคนก็เล่นกัน  คุยกัน จึงทำให้สัปดาห์ที่ ๒ ของการสอนเป็นไปได้ยาก จึงจะใช้สัปดาห์ที่ ๓ เพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนและนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละห้องเรียน

       สิ่งที่ประทับใจที่สุดสำหรับโรงเรียนเทศบาลพิบูลสวัสดี  คือ มีเด็กเรียนร่วมอยู่ด้วย (ความต้องการพิเศษ) และห้องเรียนที่ดิฉันเข้าสอนทุกห้องจะมีเด็กพิเศษทุกห้องเลย ได้เห็นพฤติกรรมของของนักเรียนพิเศษแต่ละคน ได้เรียนรู้พฤติกรรม การกระทำเวลาเรียน เวลาเล่น และที่สำคัญนักเรียนพิเศษจะรู้จักกับดิฉันและเริ่มสนิทกัน เวลาไม่เข้าใจอะไรก็จะถาม  ชอบมาชวนเล่นเวลาที่ดิฉันว่าง มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้พบเจอมาก่อน แต่ดิฉันก็รู้สึกดีที่ได้รู้จักกับนักเรียนพิเศษ

       สำหรับหน้าที่งานนอกเหนือจากฝึกสอนและที่ได้กล่าวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ ๑ คือ ได้ช่วยจัดทำโครงการวิทยาศาสตร์  และช่วยควบคุมการแข่งขันทักษะการวิชาการ ของหมวดภาษาไทย

2
0
นาตือเราะห์ วาหามะ
เขียนเมื่อ

อนุทินประจำสัปดาห์ที่ 2 วันที่ 20-23 เดือนพฤษภาม พ.ศ.2556

         ข้าพเจ้านางสาวนาตือเราะห์ วาหามะ นักศึกษาฝึกสอน โรงเรียนอนุบาลภูเก็ต สาขาวิชาวิทยาศาสตทั่วไป  

สำหรับภารกิจครูฝึกสอนในช่วงสัปดาห์ที่ 2ทุกอย่างก็เริ่มลงตัวมากขึ้น ดิฉันเริ่มเรียนรู้งานการเป็นครูฝึกสอนเพิ่มมากยิ่งขึ้น มีหน้าที่ที่ชัดเจน เเละสามารถปรับตัวกับสภาพเเวดล้อมของโรงเรียนได้ดีขึ้น  ดิฉันมีหน้าที่รับผิดชอบสอนนักเรียนชั้น ป.4/1-ป.4/4 ในรายวิชาวิทยาศาสตร์เเละ ชุมนุมเเละรายวิชาซ่อมเสริมที่เกี่ยวข้อง บวกกับมีหน้าที่รับผิดชอบเวรรับส่งนักเรียนทุกๆวันศุกร์เเละช่วยเหลืองานในหน้าที่ครูประจำชั้น ป.4/2 เป็นบางส่วนค่ะ

        สำหรับก้าวเเรก ของความเป็นครู เเรกเริ่มทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เนื้อหาเเรกเริ่มของสัปดาห์นี้ก็ยังคงเป็นเรื่องของหน่วยการเรียนรู้ที่1 การดำรงชีวิตของพืช ยังคงเป็นเนื้อหาที่ต่อจากสัปดาห์เเรกสัปหรับบางห้องที่ยังเรียนไม่ทัน เป็นส่วนของเนื้อหา เรื่อง หน้าที่ของรากเเละลำต้น เเละพยายามให้นักเรียนทำเเบบฝึกหัด ตอบคำถาม การที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหามากที่สุด คือ การที่นักเรียนทุกคนได้ออกมาทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียน โดยอาจจะเป็นแบบฝึก แบบทดสอบ การสรุปเนื้อหา ใจความสำคัญ โดยจะสุ่มเรียกชื่อนักเรียน เป็นการกระตุ้นนักเรียนอยู่เสมอ ฝึกให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ กล้าแสดงออก เป็นคนช่างคิดช่างสงสัย  เเละนักเรียนก็จะสนใจเเละไม่เล่นในเวลาเรียน

       นอกจากการสอนเเล้ว ภารกิจที่ทำเพิ่มมา คือ การจัดตกเเต่ง ห้องเรียน ให้มีความสวยงามเเละน่าเรียนมากยิ่งขึ้น จัดทำเวรประจำวัน ตารางเรียน เเละส่วนของรูปภาพ มุมเสริมการอ่านเเหล่งเรียนรู้ภายในห้องเรียนเรียน   ค่ะ

                                                                                                                     นาตือเราะห์ วาหามะ

                                                                                                                

3
0
Ka-Poom
เขียนเมื่อ

นั่งๆ...มองออกไปเห็นต้นไม้เขียวแล้วสดชื่นดีมาก

และสิ่งที่ทำให้ยิ้มและหัวเราะออกมาคือ ภาพเบื้องหน้าที่เจ้าแมวน้อยพยายามกระโจกตะครุบผีเสื้อที่บินโฉบมา

เป็นภาพที่น่าสนุกสนานมาก...


5
0
โอ๋-อโณ
เขียนเมื่อ

รายงานนี้ก็น่าสนใจค่ะ เพราะวัณโรคก็ยังเป็นโรคที่ไม่เคยหมดไปจากโลกนี้ แถมยังมีชนิดดื้อยาเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก รายงานนี้เขาเอาการทดลองในห้องทดลองกับเชื้อวัณโรคมาบอกเล่ากันว่า วิตะมินซีสามารถฆ่าเชื้อวัณโรคได้ ด้วยกลไกที่เกี่ยวข้องกับเหล็ก เรื่องนี้เอามาลองปรับใช้ในการรักษาคนได้ด้วยการเพิ่มวิตะมินซีเข้าไปในกลุ่มยาที่ใช้ในการรักษาวัณโรคด้วย และอาจใช้กลไกในการออกฤทธิ์นี้หาวิธีการจัดการกับเชื้อให้ตรงจุดได้ต่อไป

อ่านรายละเอียดได้จาก Mycobacterium tuberculosis is extraordinarily sensitive to killing by a vitamin C-induced Fenton reaction. Nat Comm. Published online May 21, 2013.


5
0
น้องซิลเวีย
เขียนเมื่อ



ชีวิตนั้น...บรรเลงแต่เพลงสุข

จะสนุกทุกข์เศร้าปวดร้าวไหน

คล้ายดนตรีที่เราจะเข้าใจ

รื่นรมย์ไปให้ต่าง...ระหว่างคน

Have a good day for all

By...น้องซิลเวีย


10
2
น้องซิลเวีย
เขียนเมื่อ


เปิดเทอมนี้...เรียนหนัก...ไปสักหน่อย

นั่งหน้าหงอย...คอยอ่าน...การบ้านถม

ตั้งแต่เช้า...เข้าเรียน...อกเจียนตรม

กินแต่นม...ขนมปัง...ประทังกายฯ...


By...น้องซิลเวีย


8
4
sr
เขียนเมื่อ

ครรลอง เป็นคำไทยแท้ ?

ครรลอง: [คันลอง] น. ทาง, แนวทาง, แบบฉบับ.(แผลงมาจาก คลอง). - พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒
คลอง: [คฺลอง] น. ทางนํ้าหรือลํานํ้าที่เกิดขึ้นเองหรือขุดเชื่อมกับแม่นํ้าหรือทะเล; ทาง, แนว, เช่น คลองธรรม. - พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๔๒

ครรลอง - Thai-English Lexitron Dictionary 2.0
N. way
  syn:[แนวทาง, หนทาง, รูปแบบ]
  sample:[การเลือกตั้งครั้งนี้ควรเป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย]

คลอง
N. canal
  syn:[ลำคลอง]
  sample:[คลองแสนแสบเดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน]

ตัวอย่างการใช้ : 

(ตาม)ชอบธรรม
ตามคลองธรรม
ตามครรลองแห่งความยุติธรรม

คำบาลีที่ใกล้เคียง :
gala: (Pali) the neck; the throat.  [gal   -oṃ   (คัล ออง): go directly to... ]

Can anyone give me more clues?

3
0
krutoom
เขียนเมื่อ

Happy Birthday  คุณหมอ ป. @ Happy 8th Birthday  โกทูโน



12
2
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท