ได้ยินข่าวอาชญากรรมแล้วอึดอัดนะ ปกติผมจะไม่อ่านหนังสือพิมพ์ที่นิยมลงข่าวอาชญากรรมที่หน้าหนึ่ง
คำอธิบายสำคัญของความไม่ชอบอันนี้ก็คือ ผมเคยมีประสบการณ์ใกล้ชิดกับคนที่เป็นข่าวแล้วได้พบว่า สิ่งที่สื่ออาชญากรรมเสนอเป็นเพียงเสี้ยวเล็กๆที่น่าตื่นเต้นเท่านั้นเอง แต่ข้อเท็จจริงที่ซับซ้อนแต่สำคัญกลับถูกละเลย
แน่นอนครับ คนที่เสพข่าวนั้นไป ย่อมได้รับข้อเท็จจริงที่ไม่ครบถ้วน และย่อมเข้าใจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
แต่ว่าก็ว่าเถอะ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง สื่อพวกนี้จัดว่าเป็นสื่อที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในสังคมของเรา (และอีกหลายๆสังคม รวมทั้งฝรั่งด้วย)แสดงว่ามีคนนิยมเสพสื่อแบบนี้มาก
ผมเชื่อว่าเหตุที่มีคนจำนวนมากนิยมเสพสื่อแบบนี้ เพราะเขารู้สึกว่าชีวิตของเขามันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคาดหวัง การได้รับรู้เรื่องราวเสียหายของคนอื่นดูจะทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น
และความคุ้นเคยของพวกเขาที่ชอบเสพข้อมูลสำเร็จรูปหยาบๆเช่นบทประพันธ์ที่พวกเขาคุ้นเคยช่วงหลังข่าว ทำให้เขายินดีจะรับข่าวสารข้อมูลเพียงแค่แง่มุมนั้น ข้อเท็จจริงที่ซับซ้อนดูจะเกินความจำเป็นและหนักเกินไป ข้อมูลเพียงหยาบๆ บวกกับจินตนาการที่เขาคิดต่อเองตามประสบการณ์ของเขา ดีพอที่จะเป็นข้อมูลให้พวกเขานำไปสนทนาต่อๆกัน แม้จะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง แต่น่าพอใจมากกว่าเรื่องราวที่ซับซ้อนและไม่น่าสนุก
ในความเป็นจริงนั้น อาชญากรรมมีที่มาที่ไปและมักจะเกิดจากความจูงใจที่ซับซ้อนรุนแรง หากอาชญากรรมเกิดขึ้นกับคนมากกว่าหนึ่งคน ความจริงที่หลายๆคนไม่ใส่ใจก็คือ ทุกฝ่ายมักจะดีหรือร้ายพอๆกัน มีลักษณะที่เหมาะสมแก่กัน ไม่ใช่เรื่องของนางเอกกับนางอิจฉาอย่างที่สื่อมักจะเสนอและผู้เสพสื่อมักจะชอบให้เป็นไปในทางนั้น
ความจริงมีสืออีกกลุ่มหนึ่งและสังคมอีกลุ่มหนึ่งนะครับ หาได้ไม่ยากหากเราตั้งใจ ที่ไม่นิยมข่าวอาชญากรรม ยกระดับจิตใจให้สูงและสงบสุขได้ด้วยการมอบสิ่งดีๆให้แก่กันจนบางครั้งเหมือนเสพติดการมอบสิ่งดีๆให้คนรอบข้าง นิยมการศึกษาข้อเท็จจริงรอบด้านที่แม้จะทำให้ไม่สามารถชี้ชัดลงไปในบางสถานการณ์ว่าถูกหรือผิดเพราะต่างถุกหรือผิดในแต่ละแง่มุมด้วยกันทุกฝ่าย แต่ความจริงต่างหากคือส่วนสำคัญ ไม่ใช่ข้อสรุปเบ็ดเสร็จ
เรายังมีเสี้ยวของสังคมที่งดงาม แม้ไม่ได้เป็นข่าวเพราะไม่มีสีสัน แต่สังคมแบบนี้มีอยู่จริงครับ เรามาร่วมกันสร้างสังคมแบบนี้กัน หากเราเชื่อว่า ชีวิตแบบนี้น่าพึงพอใจยิ่งกว่า
ไม่มีความเห็น
แม้จะมีทักษะในการพบปะผู้คน แต่ผมก็รู้สึกอ่อนล้า ชอบทำงานเงียบๆอยู่กับบ้านมากกว่า เพิ่มพลังก่อนที่จะพบปะผู้คนในเวลาที่เหมาะสม
แต่ชีวิตลูกจ้างกำหนดให้เราทำงานในเวลาที่ไม่ยืดหยุ่น ไม่ได้ทำงานในช่วงที่ดีที่สุด ดึงดูดพลังออกจากเรา
วันหนึ่งผมจะกลับมาทำงานที่บ้านอีกครั้ง
ไม่มีความเห็น
ถ้าเขียนอนุทินนี้ไปพร้อมกับ Update microblog ที่อื่นไปด้วยกันได้เลยก็คงดีนะ
เมื่อวานตื่นตั้งแต่ตีสามมาจัดกระเป๋า เตรียมเครื่องมือ แล้วขับรถมาจอดที่ดอนเมือง บินมาขอนแก่น แล้วเช่ารถขับต่อมาที่โรงไฟฟ้าของมิตรผลที่ภูเขียวเพื่อทดสอบระบบที่ติดตั้งไว้และเตรียมส่งมอบงาน
งานผ่านไปด้วยดี นอนค้างที่ชุมแพหนื่งคืน (ตัวอำเภอชุมแพอยู่ตรงขอบของขอนแก่นเลย ห่างออกมาจากรอยต่อจังหวัดแค่ไม่เกินห้ากิโลเมตร) วันนี้ก็จะทดสอบ สาธิตและส่งมอบงาน
เสร็จแล้วก็ลงมือทำงานเอกสารของงานอีกชิ้น ที่ออฟฟิศส่งข้อมูลมาให้ตั้งแต่เย็นวาน ทำเสร็จก็บินกลับบ้าน วันศุกร์มาประชุมกับลูกค้าอีกรายที่มาบตาพุด
ทำงานกันเต็มที่ตั้งแต่ต้นปีเลยแฮะ กะว่าปิดงานพวกนี้หมดจะพาครอบครัวไปเที่ยวสักที ก่อนจะมาเปิดงานอื่นต่อ
ไม่มีความเห็น