อนุทินล่าสุด


นางอังคณา บาลไทสงค์
เขียนเมื่อ

เมื่อฉันก้าวมาอยู่ท้องถิ่น ......

วิชาชีพฉัน มีหนึ่งเดียวในองค์กร ต้องใช้ความชำนาญที่มีให้เกิดประโยชน์ ด้วยความที่ผู้บริหารระดับสูงไว้วางใจให้ทำงานหลายเรื่อง ฉันเริ่มสนุก สามารถแก้ปัญหางาน ทำงานให้สายการเมืองได้หน้าได้ตา

แต่ผู้บริหารระดับ ผอ. ลูกผู้ชายแต่นิสัยสตรี คอย หมั่นไส้ ถากถาง เสี้ยมให้น้องๆ ในฝ่ายเกลียดชัง ซึ่งก้ไม่เป็นผล เริ่มลามไปถึงนินทาให้หน่วยงานอื่นฟัง ไม่ให้ความสำคัญไม่เท่าไหร่แต่ใส่ร้ายทุกเรื่อง แต่ไม่สามารถทำอะไรเราได้เพราะ เราทำตัวตามปกติ มาทำงานเช้าๆ รับผิดชอบในส่วนที่เขาอนุญาตให้ทำ

ถ้าเป็นท่านควรทำอย่างไร

"""" สิ่งแรกที่ทำ คือ ทำใจ เอาเวลาที่เหลือ เอามาจัดการใจตัวเอง จัดการแสวงหาการใช้สติ จัดการกับอารมณ์ ยิ่งสงบเร็วยิ่งมีความสุข ทำตัวตามปกติ ทำงานในส่วนที่ผู้บริหารให้ทำ วางตัวใหม่ไม่แสดงความคิดเห็นถ้าไม่ถาม ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ถือวิกฤตเป็นโอกาสได้เรียนรู้ว่า อำนาจได้มาศรัทธาไม่สร้าง สักวันอำนาจก็หมด คุณความดีต่างหากต้องเพียรทำตามกาล คนทำดีไม่ต้องท้อ อาจเจอมรสุม วิบากกรรม ทวงคืน พอสร่างซา คุณความดีตอบแทน ขอให้ก้าวนำทำดีต่อไป

ผลวันนี้ผู้บริหาร ที่แย่งงานไปทำแบบประชด เขาเหนื่อย ไม่มีแม้เวลาพักผ่อน โรคภัยรุมเร้าเพราะไม่มีเวลาออกกำลังกาย อีหนูทั้งหลาย แบมือขอเงิน เงินที่เบียดเบียนมาได้ โดนอีแร้งรุมทึ้ง ครอบครัวระหองระแหง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ขอให้เป็นสุขเป็นสุขเถิดดดด



ความเห็น (2)

สถานการณ์แบบนี้ทำให้เราได้จัดการใจตัวเองมากขึ้นนะครับ...การจัดการกับอารมณ์ของตัวเองดูยากไปหน่อยแต่ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด...พบเจอกับปัญหาแบบนี้สิ่งเดียวที่มีคือ"พลังใจ"จากตนเองและคนข้างตัวเรานะครับ....มีอาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกเอาไว้ว่า"สิ่งที่เขาทำกับกับคือกรรมของเขา"ครับ..ปล่อยไปตามกรรม...นะครับ...ทำดี ได้ดีครับ

ขอบพระคุณค่ะ เมื่อเวลาผ่านไปมาย้อนอ่าน ทำให้เห็นถึง สัปปายะ ความเพียร ความนิ่ง ใจร้อนกลายเป็นเย็นชุมฉ่ำ…หากมองย้อนคืนต้องขอบคุณช่วงชีวิตที่ผ่านมา ขอบคุณการเตือนสติ จากกัลยาณมิตรค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
นางอังคณา บาลไทสงค์
เขียนเมื่อ



ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
นางอังคณา บาลไทสงค์
เขียนเมื่อ

ขอบคุณ GotoKnow



ความเห็น (1)

Timeline >>>>(๑ ) พ่อ แม่มีลูก 5 คน ตลอดชีวิตพ่อ แม่ทำงานหนักเป็นข้าาชการแต่ต้องทำมาหากินเหมือนชาวบ้าน หาปลามาทำอาหารที่เหลือเอาไว้ทำปลาร้า แม่ซึ่งเป๋นเจ้าหน้าที่าธารณสุขแต่ฝึมือฉีดยา ทำคลอด ทำได้ดีเท่าๆกับการหมักปลาร้า ตอนเป็นเด็กเคยออกไปช่วยแม่สำรวจข้อมูลการมีและใช้ส้วม ของชุมชน สถานีอนามัยมีจักรยานให้คันหนึ่ง แม่ใส่ชุดสีฟ้า ใครๆเรียกแม่ว่า "หมอทองอยู่" แม่ไปช่วยทุกคนที่มาเรียกไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน ชาวบ้านไม่มีเงินค่ารักษาก็จะได้ไข่ ไก่ ผัก ผ้าไหม ข้าว แลกการรักษา บางครั้งแม่เห็นสภาพบ้านแม่ไม่เอาอะไรเลย
พ่อเป็นครู "ครูสร้อยขี้ขม" เนื่องจากเป็นคนประหยัด พ่อบอกว่า พ่อมีเสื้อตัวเก่งใส่หลายครั้งจนมีครูน้อย ถามว่า ทำไมใส่แต่เสื้อตัวนี้ทุกงาน พ่อตอบว่า เสื้อแบบนี้ สีนี้ พ่อตัดมาเกือบสิบตัว ไม่ซ้ำกันหรอก พ่อเป็นคนสนุกสนาน และชอบนัดยานัตถุหมอมี เพิ่งมาเลิกตอนลูกโตแล้ว พ่อจัดว่าเป็นนักดื่มตัวยงแต่ไม่เคยทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ตลอดชีวิตของลูกๆไม่เคยเห็นทะเลาะกัน แต่ขอบอกนะพ่อหน้าตาดี แอบเจ้าชู้นิดๆแม่เคยไปอาละวาดที่ห้องเรียนที่พ่อกำลังสอน พ่อนะพ่อ ลูกๆได้สิ่งดีๆมาคือใฝ่เรียน ประหยัด อดออม ซื่อสัตย์ ต่อหน้าที่ และตนเอง ผลบุญที่ส่งถึงทำให้ลูกๆมีหน้าที่การงานที่ดี ฐานะมั่นคง และหลานๆเป็นคนดี จากความซื่อสัตย์ขอยืนยันว่าลูกทุกคนไม่ยินดีกับสินบน ต่อต้านการคดโกง ทำให้ตระกูลเรา พูดได้เต็มคำว่า เรายึดมั่นต่อคำสอนพ่อแม่ บนพื้นฐานคุณธรรม ยึดมั้นต่อคุณความดี ซื่อสัตย์ ทุกคนนำคำสอนมาสอนลูกๆ เป็นบุญแท้ รุ่นหลานๆ ได้รับผลบุญเป็นที่น่าปลื้มใจ บุญมีจริงๆๆค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
นางอังคณา บาลไทสงค์
เขียนเมื่อ

การต่อสู้เจ้าอารมณ์ร้าย ตัวทำลายความดี แม้ พุทโธ เอาไม่อยู่

เหตุเกิดจากการยั่วยุ การเสี้ยม จำเป็นที่ต้องปกป้องตัวเอง จากการถูกระราน

ทางวาจา "เมื่อเกิดเป็นชาายแค่ร่างแต่นิสัยปากพล่อย นินทา เสี้ยมให้คนในหน่วยงานบาดหมางใจกัน

ไม่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ผูกใจเจ็บ....แสวงหาแต่ผลประโยชน์......สุดท้ายกรรมตามทัน ครอบครัวแตกแยก

" กรรมมีจริง"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท