ไม่มีความเห็น
เวลาเราไปหาหมอ ก่อนที่จะรักษาคนไข้ หมอก็จะถามหาสาเหตุก่อนว่าไปทำอะไร หรือโดนอะไรมา เสียก่อน เช่นเดียวกับ เรื่องสมุทัย เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเทศนาเรื่องทุกข์ พระองค์ทรงอธิบายสืบต่อไปอีกขั้นหนึ่ง โดยได้ชี้ให้เห็นสาเหตุแห่งทุกข์ พระองค์จึงสามารถให้การวินิจฉัยเรื่องทุกข์และแก้ทุกข์ได้อย่างถูกต้อง ....
สาเหตุแห่งทุกข์เกิดจาก ศัตรูสำคัญของโลกทั้งหมดนี้ ก็คือ ความหื่นกระหาย ความทะยานอยาก หรือความปรารถนาอันแรงกล้า อันเป็นช่องทางให้ความชั่วร้ายต่าง ๆ ทั้งหมดผ่านเข้ามาสู่ชีวิตได้.....จะนำไปสู่ความหายนะและการทำลาย
และนำมาซึ่งความทุกข์ยากอันเหลือจะพรรณนาแก่ภพต่าง ๆ หรือตามความเป็นจริงแล้วแก่โลก หาใช่แต่เพียงความโลภ หรือการติดพันต่อความสุขสำราญอันเกิดขึ้นจากประสาทสัมผัส โภคทรัพย์ และทรัพย์สินโดยปรารถนาที่จะดีเด่นกว่าคนอื่น และมีชัยชนะต่อประเทศต่าง ๆ เท่านั้นไม่ แต่ยังรวมทั้งการยึดมั่นติดอยู่กับอุดมคติ ความคิด ทัศนะ ความเห็น และความเชื่อต่าง ๆ (ธรรมตัณหา)ด้วย
รวมความคือ สาเหตุแห่งทุกข์ เกิดจาก กิเลส(ความปรารถนาที่แรงกล้า) และตัณหา(ความหื่นกระหาย และความทะยานอยาก) แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ กามตัณหา (อยากในกามคุณทั้ง 5 ) ภาวะตัณหา (อยากได้ อยากมี อยากเป็น) วิภาวะตัณหา (ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น) รวมเรียกทั้งหมดว่า รูปตัณหา และธรรมตัณหา นั่นเอง ..........
สรุปว่า ธรรมเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ แต่ต้องพยายามเข้าใจ เพราะว่า จริง ๆ แล้ว เราจะหลุดพ้นจากทุกข์ ด้วยเข้าใจทุกข์ และหาสาเหตุแห่งทุกข์ แล้วหาทางขจัดเสีย ด้วยปัญญาคือความเข้าใจ ด้วยการปฏิบัติด้วยดำเนินตามหลักมรรคมีองค์แปดเท่านั้น........