ร่วมแชร์ประสบการ- เด็กๆเป็นครูสอนอะไรให้กับอาจารย์บ้างครับ


พอดีได้ความคิดที่เกี่ยวเนื่องกับบันทึกนี้นะครับ

นายอะไร?

ตอนเด็กๆเคยโดนคุณครูตี และเจอครูที่อารมณ์ร้ายชอบระบายอารมณ์กับเด็ก ซึ่งปัจจุบันก็ยังพบเห็นอยู่ และคงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นในการศึกษาของบ้านเราอีก

ผมคิดว่าธรรมชาติของเด็กเขามีความพิเศษและเสนห์อยู่ในตัวครับ จึงอยากจะให้อาจารย์ช่วยกันแชร์ประสบการณ์ ในมุมมองที่อาจารย์ได้เรียนรู้อะไรจากลูกศิษย์ บ้างครับ

ในความจริงแล้วเด็กอาจเป็นครูที่สอนคุณครู ให้คุณครูได้เรียนรู้จากธรรมชาติของเด็กอีกทีหนึ่ง

  • เหตุที่ถามอาจารย์Raneeเพราะไม่รู้จะถามใครดีครับ
  • อย่าเข้าใจผิดนาครับ อาจารย์ Ranee ใจดีออก ใช่ไหมครับอาจารย์ (^-----------^)

 



ความเห็น (27)

ไม่มีความเห็น


คำตอบ (1)

Ranee
เขียนเมื่อ

สวัสดีค่ะคุณDayvil

 อิ อิ มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับตัวเองเลยค่ะ  ตอนเด็ก ๆ ราณีเป็นคนที่อ้วนมาก ๆ ค่ะ เรียนก็พอไปวัดไปวาได้ ค่ะ ตอนเรียนช่วงม.1-2 มีอาจารย์ประจำชั้นเป็นผู้ชายค่ะ เขาไม่ชอบคนอ้วนมาก ๆ ตอนแรกเราก็ไม่รู้ ชอบว่า และด่ากระทบ อายุขนาดนั้นเราไม่โง่นะที่จะไม่รู้ว่าเขาว่ากระแทก  ความรู้สึกตอนนั้นแอนตี้ครูคนนั้นมากๆ ทำให้เราไม่ทำการบ้านและเขาก็จะลงโทษหนัก ๆ โดยการเอาไม้หวายหวดค่ะ  แต่เราก็ไม่สน เป็นวิชาเดียวตั้งแต่เกิดมาที่ราณีไม่ชอบ และไม่ทำการบ้านเลย เป็นคนดื้อเงียบมาก ๆๆๆๆ  แต่แฟนครูคนนั้นชอบราณีมากๆ ค่ะ ชอบมานั่งคุย หรือเรียกไปนั้งคุยในห้องพักครู แฟนเขาคงชอบเพราะเราหน้าตาคมค่ะ (เขาบอกค่ะ )  ช่วงที่ลูกเขาจะคลอด ราณีโดนตีทุกอาทิตย์เลยค่ะ  หลังจากแฟนครูคนนั้นคลอดลูกเป็นผู้หญิง อ้วนจ้ำม่ำมาก ๆ ค่ะ ช่วงระยะหลังเขาไม่ค่อยตี ราณีก็เลยทำการบ้านค่ะ อิ อิ ร้ายไม่เบาเลยค่ะ  หลังจากเรียนจบราณีก็ย้ายโรงเรียน เพราะไม่ชอบที่นี่ค่ะ เวลาผ่านมา 10 กว่าปี เจอครูคนนั้นพร้อมครอบครัว ราณีเดินไปยกมือไหว้ เชื่อไหมค่ะ ว่าลูกเขาอ้วนกว่าเราตอนนั้นตั้งเยอะ (อย่างนี้เขาเรียกว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น  เล่ามายังงั้นแหละค่ะ อยากระบายเรื่องตอนเด็ก ๆ และเห็นว่าการตีไม่ใช่การแก้ปัญหา และอาจทำให้เลวร้ายลงไปได้ แต่ราณีก็มีแม่คอยสอนการบ้านค่ะ สอนทุกวิชาเลยค่ะ เพราะมีแม่เก่งค่ะอิ อิ

เรื่องที่จะเล่าให้ฟังอีกเรื่องคือเรื่องสมัยตอนเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม  ราณีสอนวิชาหลักการบัญชี 1 ซึ่งเป็นวิชาที่คนเกลียดเลขไม่ชอบมากที่สุด  (แอบบอกนะค่ะว่าตัวเองก็เกลียดวิชาคณิตศาสตร์ที่สุดเหมือนกัน สงสัยเหมือนเรื่องที่แล้วค่ะ เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น อิ อิ)มีลูกศิษญ์หลายโปรแกรม แต่มีลูกศิษย์โปรแกรมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวค่ะ มาเรียนช่วงซัมเมอร์ นักศึกษาคนนี้ ตกวิชานี้มา 4 รอบแล้วค่ะ  ท่าทางเหมือนคนติดยา แต่พ่อแม่เขารวยมาก ๆ (มารู้ตอนหลังนะค่ะ) ไม่ค่อยมีอาจารย์ชอบซักเท่าไร เวลาเขาไปถามอาจารย์ราณีสังเกตุว่าไม่มีใครอยากคุยกับเขา  ทำให้เขาชอบโดดเรียน  เขามาลงวิชาบัญชีกับราณี  ตอนเรียนก็สอนแบบเดินไปหาเขาถึงตัวและสอนทำแบบฝึกหัด  เขาพูดมาอยู่คำหนึ่งว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาถามแล้วอาจารย์เดินมาสอนถึงโต๊ะ ตั้งแต่นั้นเขาก็ตั้งใจเรียนดีขึ้น วิชาเราเขาไม่ค่อยโดดเรียน แต่วิชาอื่นก็ยังเป็นเหมือนเดิม (ลืมบอกว่าเขาอยู่ปี 4 อายุเยอะกว่าคนรุ่นเดียวกันค่ะ) เราก็อาศัยความที่เขาไว้ใจเราค่อย ๆ สอนให้เขาตั้งใจเรียน และบอกว่าครูก็รอดูความสำเร็จของเธอ อยู่ ตั้งแต่นั้นมาเขาดูตั้งใจเรียนดีขึ้น ซี่งอาจารย์ที่ปรึกษาเขาเดินมาขอบคุณราณีเลย เพราะเกือบโดนรีไทร์แล้ว

บางครั้งราณีว่าเราควรให้โอกาสเขาในเรื่องของการเรียน ถ้าเราใส่อารมณ์ เขาก็ใส่อารมณ์กลับ มันได้ Negative Thinkingค่ะ  เพียงแต่เรารู้จักชืนชมเขา  จะทำให้เขามีกำลังใจขึ้นและเกิดPositive thinking ค่ะ

ดีใจนะค่ะที่คิดถึงค่ะ  แต่เด็ก ๆ ชอบกลัวราณีค่ะ เพราะดูดุ แต่ก็ใจดีค่ะเลือกเกิดไม่ได้นะค่ะ ถึงหน้าดุแต่ใจดีค่ะ อิ อิ   แต่เวลาเด็กมีปัญหา กลับโทรหาเราคนแรกทุกที เฮ้อ ทำตัวไม่ถูกค่ะ



ความเห็น (30)
  • เป็นความจริงเจ้าค่ะที่บางทีศิษย์ก็สอนเรา
  • สอนให้เราได้คิด  อย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน เช่น การทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เมื่อครูสั่งให้เขาทำงานโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น power point  อะไรอย่างนี้ เขาก็จะเสนอความคิดเห็นออกมาเองว่า "ทำไมครูไม่ทำเป็น e-book ครับ หรือทำเป็นโปรแกรมตัดต่อ หรือ ทำเวบไซด์ ทำโน่นทำนี่...แล้วครูจะตอบไงดี...ก็ได้แต่ตอบว่า...ดีจ้ะ....(เพราะครุทำไม่เป็น)
  • เขาสอนให้เรารู้ว่าเขามีความคิดเป็นของตัวเอง และก็ได้ด้วยนะ
  • สอนอะไรเยอะแยะ....เลยค่ะ
ขอบคุณครับคุณครู
P

บางทีเด็กๆก็สอนให้เราใจเย็น และคอยสังเกตุพฤติกรรมของเขา ถ้าไม่รู้เด็กก็ตอบว่าไม่รู้ คิดอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น เป็นคำพูดตรงๆซื่อๆ แต่ทำให้เราสะอึก  

แต่ก่อนพอใครถามอะไรที่เราไม่รู้ หรือรู้ไม่ชัด เราก็จะตอบแบบเลี่ยงๆ แต่หลังจากที่ได้สังเกตุพฤติกรรมของเด็กดู เด็กก็เลยกลายเป็นครูของผมครับ

จากนั้นมาผมเอาอย่างเด็กบ้าง คือพูดอะไรที่ตรงกับใจและตรงกับความจริง ถ้าใครถามอะไรเราในสิ่งที่เราไม่รู้ เราก็ตอบว่าไม่รู้ไม่ทราบบ้าง จนผู้ที่สนทนาด้วยอึ้งกันเลยครับ  

เด็กทำผิดก็ยังน่ารักแบบเด็กครับ แต่ผู้ใหญ่ทำผิดนะซิ...... น่าคิดครับ

บางครั้งต้องสอนให้เขาคิด ทำความเข้าใจกับบทเรียนมากกว่าสอนให้ท่องจำค่ะตัวอย่างเช่น เหมือนเราหาอาหารให้เขา เขาก็รอรับอาหารของเราตลอด แต่ถ้าวันหนึ่งเราไม่สามารถให้อาหารเขาได้ เขาก็อดตายซิค่ะ แต่ถ้าเราสอนให้เขารู้จักหาอาหารเอง วันหนึ่งเมื่อไม่มีเราเขาก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ด้วยตัวของตนเองได้ ใช่ไหมค่ะ
  • ขอเข้ามาแจมนะคะ  พอดีวันนี้อยากทำตัวเหมือนว่างๆ
  • อ่านแล้วนึกถึงสมัยเด็กๆค่ะ  เจอครูอารมณ์ร้ายและเป็นคราวซวยของเราที่ข้างหลังเป็นเพื่อนที่ไม่ตั้งใจเรียน
  • ครูเป็นทอม  พอดีเพื่อนคุยกัน  ครูก็ขว้างแปรงลบกระดานผ่านหัวเราไป  เฮ้อ!  วิชานั้นเลยเรียนแบบใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทีเดียว
  • ส่วนวันที่มาเป็นอาจารย์ที่เดียวกับอาจารย์ราณีแต่มาก่อนปีนึงค่ะ    ด้วยความที่เราไม่มีประสบการณ์ในการสอนและที่สำคัญ  นักศึกษาบอกว่าอาจารย์ดูเด็กกว่าอายุจริง  และท่าทางใจดีเกิน สมนามสกุล
  • นักศึกษาเลยคุยกันใหญ่  เราก็พยายามตะโกนแข่งกับเด็ก  อยู่มาวันหนึ่งได้ให้นักศึกษาเขียนประเมินอาจารย์และเสนอแนะ   นักศึกษาเขียนว่า "เวลาเพื่อนๆคุยกันให้อาจารย์เงียบ   จนกว่าเพื่อนๆจะหยุดคุย  อย่าพยายามตะโกนสอนแข่งกับเด็ก  เพราะมันจะไม่ได้ผล "
  • คำแนะนำนั้นได้ใช้มาจนทุกวันนี้   โดยที่เราไม่ต้องดุเด็กเลย    เพียงแต่เฉยและมองพวกเขาแล้วพูดเฉยๆว่า "ครูจะรอจนกว่าพวกเธอจะเงียบ   แล้วครูถึงจะสอน   เราจะมองทีละกลุ่มจนกว่าจะเงียบ  ถ้าพวกเธอไม่เงียบ  ครูก็ปล่อยช้า "
  • ผ่านมา 4  ปี แล้วค่ะ  วิธีนี้ยังใช้ได้จนทุกวันนี้ค่ะ   ไม่ต้องอารมณ์เสียจากการตวาดเด็กด้วย  จนอาจารย์ทุกคนก็ถามว่า "ดุเด็กเป็นบ้างมั้ยเนี่ย"

'(^-------^)'

รู้สึกว่าคุณครูจะมีประสบการณ์ ที่ไม่ดีตอนเป็นเด็ก(แต่ดีตอนมาเป็นครู) เลยเป็นครูที่เข้าใจเด็ก ^^



Play

เมื่อไม่มีกระจกแล้ว  ท่านก็ไม่สามารถมองเห็นตัวท่านเองหรือ



Play

ดูซิครับ !!!! ตัวอักษรเป็นสีดำ กระดาษเป็นสีขาว

ธรรมชาติที่ใสบริสุทธิ์ของเด็ก เหมือนจิตที่บริสุทธิ์ คิดอะไรก็พูดเช่นนั้น ผู้ใหญ่จึงจำเป็นต้องเรียนรู้จากเด็ก เพราะเราโดนกิเลสบดบังเสียส่วนใหญ่

อาจารย์ราณีคมจริงๆนะครับ ตอนที่เห็นรูปคิดว่าอาจารย์น่าจะเป็นคนใต้ หรือไม่ก็มีเชื้อแขกครับ แต่สอนเด็กโตนี่ท่าทางจะสอนยากกว่าเด็กเล็กนะครับ

อ.ลูกหว้าก็สอนเด็กโตเหมือนกันหรือครับ เด็กเล็กอาจจะ"ไร้เดียงสา" แต่เด็กโตนี่ "ร้ายเดียงสา" ครับ

แต่เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่ครับ แค่อาจจะดัดยากครับ ตอนนี้ผมก็กลับไปเป็นเด็กครับ ทำตัวเหมือนเด็กและมีอายุสมองเท่าเด็ก '(^--------------^)'

 

 

เป็นคนใต้เชียงใหม่ค่ะคุณDayvil แต่มีเชื้อสายอินเดียค่ะ ที่หน้าคมเพราะมีมีดด้วยค่ะ (อะ ล้อเล่นค่ะ)หรอกค่ะ   จริง ๆ เด็กถ้าพูดกับเขาดี ๆ เขาก็ไม่มีอะไร

 

P
อยากเห็นหน้าลูกหว้าตอนนั้นจังเลยค่ะ ว่าเป็นอย่างไรตอนที่แปรงลบกระดานบินผ่านหน้า ฮ่าๆๆๆๆ ขำจริง ๆ
  • ขอมาตอบแทนเจ้าของบล็อกค่ะ อาจารย์ราณีมีเชื้อสายอินเดียค่ะ
  • ส่วนหว้าก็หลายชาติผสมๆกัน่ค่ะ ไทย  ลาว  โปรตุเกส  เราสองคนนั่งโต๊ะติดกันค่ะ สอนอยู่ม.ราชภัฏ
  • ปกติอาจารย์ราณีสอนเด็กบัญชีจะไม่ค่อยได้เจอเด็กต่างคณะเท่าไหร่
  • แต่หว้าสอนเศรษฐศาสตร์จะเจอเด็กทุกคณะเลยค่ะ   เจอเด็กค่อนข้างหลากหลาย
  • ที่สำคัญเด็กเรียบร้อยเขาก็ไม่ค่อยให้เราสอน  มักจะโยนห้องที่มีปัญหามาให้เสมอเลย...
  • แต่ความจริงแล้ว ถึงแม้เขาจะ "ร้ายเดียงสา" แต่ทุกคนล้วนมีความน่ารักอยู่ในตัว   ถ้าเราพยายามมองให้เห็น  และให้ความจริงใจ เอาใจใส่กับเขา
  • บางเทอมเจอต้องสอนเด็กช่างทั้งห้อง  หน้าแก่กว่าเราอีก    แรกๆก็ปวดหัวกับพวกนี้  แต่ก็ต้องทำตัวให้เป็นเพื่อนกับพวกเขา   
  • หน้าที่ของคนเป็นครู  ไม่ว่าเราจะเจอลูกศิษย์แบบไหนเราไม่มีสิทธิ์เลือก แต่ควรพร้อมที่จะให้ความรู้พวกเขาเสมอค่ะ
  • อิอิ..เพื่อนเรามาตอบก่อน
  • ตอนแปรงลบกระดานบินผ่านเหรอ  สยอง
  • บางวันก็เป็นช็อล์ก  มีอยู่วันนึงแปรงหาย
  • อาจารย์มองไปมองมาเจอเอ..เขาเรียกอะไรนะ
  • ไอ้ไม้ใหญ่ๆที่ใช้วาดมุมต่างๆบนกระดานหน่ะ อันใหญ่มาก
  • เด็กๆมองกันว่าอาจารย์จะหยิบมั้ย อิอิ
  • สุดท้ายเจอบ่อยๆเราย้ายที่นั่งเลย...

อาจารย์ทั้งสองคนกำลังกลับไปเป็นเด็กเหมือนผมแล้วครับ คิกคิก

สงสัยต้องเขียนบันทึก สุดยอดเคล็ดลับวิชา ย้อนเวลาไปเป็นเด็ก เพิ่มอีกบันทึกหนึ่งครับ '(^--------^)'

 

P
P
ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆ ขำจริงๆ  ถึงกับย้ายที่เลย  บอกแล้วอย่าจุดกระแส เดี๋ยวหลุด อิ อิ แล้วคุณ Dayvil ตอนเป็นนักศึกษาเป็นไงค่ะนี่  แต่ราณีเห็นด้วยนะค่ะลองเขียนดูซิค่ะ จะเข้าไปตอบด้วย
  • ตอนเป็นนักศึกษาก็ศึกษาแบบหมาหางด้วนครับ ย้อนไปดูตัวเองแล้วน่าสงสาร - - ''  ยังไงเชิญอาจารย์ ราณีลองเข้าไปอ่าน ภาษาไทยวันละคำ ดูนะครับ
  • ภาระการปฎิรูปการศึกษาให้หมามีหาง ตกอยู่ภายใต้ภาระของอาจารย์แล้วละครับ (ขออภัยสำหรับคำไม่สุภาพ)  ภาระหนักทีเดียว

ไว้ว่างๆจะเขียนบันทึก สุดยอดเคล็ดลับวิชา ย้อนเวลาไปเป็นเด็ก ตามคำแนะนำอาจารย์ครับ

ย้อนได้จริงๆครับ สามารถทดลองและพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ครับ

 

บันทึกนี้เข้าไปดูแล้วค่ะ ชอบนะค่ะเขียนสไตล์นี้ เขียนอีกนะค่ะชอบจริง ๆ และอย่าลืมเขียนสุดยอดเคล็ดลับวิชา ย้อนเวลาไปเป็นเด็กนะค่ะ จะตามไปอ่าน  ขอบคุณค่ะ จะรออ่าน

การกระทำของเด็กกระทำด้วยไร้สิ่งเสแสร้เป็นการสื่อออกมาโดยธรรมชาติที่ใสบริสุทธิ์ย่อมได้รับความรักความเอ็นดู ยามเมื่อเติบโตขึ้นมาได้รับการสอนสิ่งต่างเข้าก็ทำให้ความซื่อใสบริสุทธิ์ลดลง แม้นำมาขัดเกลาใหม่ก็ไม่เท่าเดิม จิตของคนเราก็เช่นกันถ้าไม่หมั่นขัดเกลาก็ย่อมหมองมัวไปเรื่อยๆ โลหะเมื่อเก่าเข้าก็นำมาหล่อหลอมใหม่ได้แต่คนเราทำไม่ได้แต่ละภพแต่ละชาติเท่านั้นที่จะได้หลอมใหม่ ต้นไม้หยั่งรากลงดินเพื่อหาอาหารมาเลี้ยงลำต้นและสะสมเมล็ดเพื่อเกิดต้นใหม่แต่คนต้องเสาะหาธรรมมาหล่อเลี้ยงจิตใจในภพหน้าเช่นกัน

จิตของเด็กๆ จะมีลักษณะคล้ายกับ จิตเดิมแท้ บริสุทธิ์  เป็นจิตประภัสสร จึงสมควรอย่างยิ่งที่ผู้ใหญ่ที่เป็นครูผู้ไกล้ชิดกับเด็กๆ จำเป็นต้องคอยสังเกตุพฤติกรรมของเด็ก ให้เด็กเป็นครูสอนเราอีกทีหนึ่ง

(ขอบคุณข้อมูลจากเว็บของเสถียรธรรมสถาน)

 แด่ผู้ที่(เคย)เป็นพ่อ-แม่ และผู้ที่มีเด็กๆอยู่รอบๆข้าง

 ในชีวิตประจำวัน เด็กๆ สอนอะไรเรา ธรรมชาติเด็ก ธรรมชาติโลก

ณ ธรรมศาลา กับกิจกรรมจิตประภัสสรฯ โดยมีคุณยายจ๋าทำให้ดูว่า การเลี้ยงลูกอย่างเฝ้าสังเกตลูกและเฝ้าสังเกตใจของเรานั้นเป็นอย่างไร และการทำให้ดูมีความสุขให้เห็นนั้นทำอย่างไร

ด.ช.ปันปัน อายุ ๑ ปี ๙ เดือน

เหตุการณ์ ขณะที่ผู้ใหญ่เดินเล่นอย่างมีสติมาถึงเรือนอริยมรรคและลงนั่งล้อมวงเพื่อคุยกัน เบาะนั่งถูกลำเลียงมา ต่างคนต่างหยิบเบาะไปนั่ง รวมทั้งเด็กชายปันปัน ปันปันหยิบเบาะนั่งไปให้พ่อแม่ได้แค่อัน ๒ อัน เบาะก็หมด แต่ปันปันยังอยากหยิบอีก จึงเดินไปเดินมาตัดหน้าคุณยายจ๋า ขณะนั้นทุกคนได้ที่นั่งและวงสนทนากำลังจะเริ่ม พ่อแม่ของปันปันคงรู้สึกว่าการเดินของลูกรบกวนกลุ่ม จึงพยายามจะจับให้ลูกนั่งลง คุณยายจ๋าจึงใช้เหตุการณ์นี้ทำให้ดูว่า เด็กมีมีพลังงานมาก เขาจึงต้องเคลื่อนไหว ถ้าอยากลดพลังงานของเด็กลงต้องทำให้เขาเห็นตัวอย่าง และขณะที่ผู้ใหญ่ทำงาน เช่น คุยกัน ก็ต้องเหลืองานให้เด็กทำด้วย งานของเด็กก็คือการเล่น

การหยิบเบาะไปๆ มาๆ ของปันปันก็คืองานของเขา แต่เขาจะทำอย่างไม่เบียดเบียนคนอื่นได้โดยการสอนให้เขาทำอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบาขณะเดียวกันจังหวะนี้ที่เขากำลังสนใจงานนี้ เรายังสามารถสอนให้เขาทำอย่างขอบคุณคนที่ให้โอกาสเราทำอะไรให้ด้วย โดยไม่ใช่สอนด้วยคำพูด แต่ทำให้ดูมีความสุขให้เห็น ทำให้ดูว่าไม่มีการส่งการรับโดยไม่มีการขอบคุณ

คุณยายจ๋า : ปันปัน ขอเบาะให้ยายหน่อยซิจ๊ะ

ปันปัน : (เดินไปหยิบเบาะอย่างดีใจที่มีคนขอ-เล่นด้วย แต่ส่งให้แบบโยน-อาจเพราะโยนแล้วมีเสียงดังดี...แล้วเดินไปหาพ่อแม่ที่นั่งใกล้ๆคุณยาย)

คุณยายจ๋า : (รับอย่างอ่อนโยนและพนมมือขอบคุณปันปัน)

คุณยายจำ : ยายให้ (ส่งเบาะให้ปันปันใหม่อย่างอ่อนโยนและแผ่วเบา พร้อมพนมมือขอบคุณเมื่อปันปันรับไป)

ปันปัน : (ปันปันรับ แต่คุณยายแสดงท่าทางให้ปันปันรู้ว่าต้องพนมมือขอบคุณก่อน ...ปันปันพนมมือขอบคุณ และรับเบาะไปให้แม่...แม่รับไว้และพนมมือขอบคุณปันปัน)

คุณยาย : ปันปัน ขอเบาะให้ยายหน่อย ปันปัน : (ถือเบาะมาวางให้อย่างแผ่วเบามากๆ ไม่มีเสียงดังเลย...แล้วคุณยายกับปันปันก็ขอบคุณกันและกัน) หลังจากนั้นคุณยายก็ให้พ่อแม่ทำซ้ำอีก ๒-๓ ครั้งจนปันปันรู้ว่าต้องทำอย่างไรกับการเล่นนี้ แล้วปันปันก็หันไปสนใจเล่นอย่างอื่นต่อไปอย่างมีความสุข (ไปตีขาเล่นริมบ่อน้ำกับพี่ๆ โดยมีน้าจอย อาสาสมัครรับไปดูแลเพื่อให้ผู้ใหญ่ไม่กังวล)

วันนั้น ปันปันกับคุณยายจ๋าแสดงอะไรให้เราดูหลายเรื่องตลอดทั้งวัน เช่น กราบพระ ตอนแรกปันๆ กราบครั้งเดียว แต่เมื่อเห็นผู้ใหญ่กราบ ๓ ครั้ง ปันปันก็ทำตามโดยไม่ต้องบอก

คุณยายจ๋า : วันนี้เราต้องขอบคุณปันปัน ที่ให้โอกาสน้อง (๗ เดือนในท้องแม่) ได้มาที่นี่ ตัวเขาได้โอกาสแล้วเขายังให้โอกาสกับน้อง ถ้าเราเฝ้าสังเกตเด็กเหมือนกับการเฝ้าสังเกตจิตตัวเอง ถ้าเราเห็นธรรมชาติของลูกเราจะเห็นธรรมชาติของเรา รู้จักจิตตัวเองก็รู้จักธรรมชาติของลูก รู้จักธรรมชาติของลูกก็จะรู้จักธรรมชาติของจิต

พ่อแม่ก็ต้องเรียนรู้ว่าเวลาที่เรารู้สึกอึดอัดกับพฤติกรรมของลูก กลัวว่าลูกจะรบกวนคนอื่น พยายามทำให้ลูกเรียบร้อยตามมาตรฐานของผู้ใหญ่นั้น มันเป็นทิฐิมานะอย่างหนึ่งหรือเปล่า เพราะว่าเป็นลูกเราเราจึงรู้สึกว่าต้องจัดการ แล้วก็เผลอจัดการด้วยความอึดอัด เพราะไม่สามารถจัดการให้เป็นไปดั่งใจเรา แล้วผู้ใหญ่คนอื่นก็ต้องเรียนรู้ว่านี่คือธรรมชาติของเด็กธรรมชาติของโลก เราจะอยู่กับเสียงและการเคลื่อนไหวรอบตัวเราอย่างที่ยังมีความสุขอยู่ได้อย่างไร เวลาเป็นลูกคนอื่นเรารู้สึกอย่างไร แล้วเวลาเป็นลูกเราเรารู้สึกอย่างไร

สวัสดีค่ะน้องDayvil

ขอบคุณมากค่ะสำหรับเรื่องน้อง ปันปัน ชอบมากค่ะ อย่างน้อย การที่เราอยากให้เด็กเป็นอย่างไร เราต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้เด็กดูก่อนค่ะ  จะเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้นักศึกษาฟังค่ะ  Thank you na ka.

 นำภาพน่ารักๆมาฝากอาจารย์ครับ (^-------^)

จิตประภัสสรฯ : ทุนชีวิตที่พ่อแม่ให้ลูกได้ตั้งแต่ในครรภ์
http://www.sdsweb.org/th/index.php?topgroupid=1&groupid=6
หรือ ชุมชนจิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์
http://www.sdsweb.org/th/index.php?topgroupid=1&groupid=13

จะตามไปดูนะค่ะ เพราะไม่ได้ทำlinkไว้  ไม่ลืมแน่ ๆ ค่ะน้องชาย

เด็กทำให้เรารู้ว่า เมื่อวานมีจริง และครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นเด็ก

เด็กทำให้เราติดกับดักอารมณ์

เด็กทำให้เรารู้ว่า ผู้ใหญ่บางคนโง่แค่ไหน ทันทีที่เขาบอกว่า "ความคิดเด็ก ๆ"

 เด็กทำให้เราเห็นการแสดงออกต่าง ๆ ที่หนังสือศิลธรรม จริยธรรมเขียนไว้ แต่ผู้ใหญ่ทำให้เราเห็นการแสดงออกต่าง ๆ ที่มีในนิยายน้ำเน่า

เด็กทำให้เรารู้ว่า บางครั้งการเป็นเด็กก็ดีกว่า

เด็กทำให้เรารู้ว่า การทำให้แปดเปื้อน ทำได้ง่ายแค่ไหน

 แต่ สิ่งที่เด็กไม่ได้ทำก็คือ

เด็กไม่ได้สอนอะไรเราเลย เด็กก็เป็นเด็ก........................... 

สวัสดีครับ อ.รานี

เพิ่งจะได้วางมือกะเจ้าตัวเล็ก พอดีแม่เค้าพากลับบ้านผมเลยว่างซะหน่อย คิดถึงลูกเหมือนกันอีกตั้ง 15 วันจะถึงได้เจอกันอีก ให้ญาติแฟนไปชมบ้าง อิอิ

พอมาเลี้ยงลูกทำให้ย้อนกลับไปนึกถึงผมยังเล็กๆ กว่าจะโตได้เหนื่อยเหมือนกันครับ นี้ขนาดแค่ 9 วันเอง

แต่เด็กทารกก็สอนอะไรเราเยอะครับ

1. สำนึกบุญคุณพ่อแม่

2. สอนให้เรามีความภาคภูมิใจ

3. สอนให้เราสู้ ยามท้อแท้ยังมีลูกอยู่ทั้งคน

4. สอนให้หาตังให้มากๆ ข้อนี้ชอบครับ

5. สอนให้รักเด็ก ที่ไม่ใช่แต่ลูกของเราเอง

แล้ว อ.รานีมีลูกยังครับ ถ้ามีคงจะคมแน่ครับเชื้ออินเดียแรงครับ

สวัสดีค่ะคุณ

P

ตามมาแจมด้วยใช่ไหมค่ะ อิ อิ จริง ๆ เด็กก็คือผ้าขาว อยู่ที่พ่อแม่ หรือสังคมที่จะเป็นตัวชี้นำเด็ก  แต่ทุกคนก็อยากจะย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กค่ะ ก็ได้แค่นึกละค่ะ เอาความสุขใจในวัยเด็กเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงใจเราค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพ่อมือใหม่
P

เหนื่อยหน่อยค่ะยิ่งโตอีกหน่อยจะยิ่งหลงค่ะ  ราณีไม่มีลูกค่ะ มีหลาน ๆ  2คน หน้าเหมือนราณีเลยค่ะวันหลังจะเอารูปมาให้ดู  เห็นด้วยค่ะมีลูกก็คิดถึงพ่อแม่ว่าเขาเหนื่อยแค่ไหนที่เลี้ยงเรามา  ขอบคุณนะค่ะที่แวะมาทักทาย

สวัสดีครับ คุณรานี

วันนี้เข้าพรรษาแล้ว ช่วงนี้งดเนื้อสัตว์ตลอดพรรษาครับ เพิ่งจะว่างครับ ครอบครัวก็มาแตกซะแล้วลูกสาวแฟนก็รับไป ชีวิตคนเรานี่แปลกนะครับ อะไรๆเหมือนจะดีแต่ก็กลับพังสลาย ก็มีแต่ธรรมะแหละครับที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้หลงไปในทางที่ผิด

คุณรานี สบายดีไหมครับ

 

  • สวัสดีค่ะคุณลูกพ่อพิฆเนศ
  • ราณีสบายดีค่ะ  
  • กำลังนึกถึงอยู่พ่อดี วันนี้ก็เลยเข้าคำถามเลยเห็นค่ะ
  • ที่นึกถึงเพราะพ่อกับแม่ไปอินเดียและราณีบอกให้เช่าพระพิฆเนศมาให้หลาย ๆ องค์ค่ะ ก็เลยนึกถึงคุณค่ะ
  • ดีใจที่งดเนื้อสัตว์ได้คะ อย่างน้อยเราก็ได้ให้ชีวิตให้กับอีกหลายชีวิตค่ะ  
  • ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลงค่ะ วันนี้ลง พรุ่งนี้ก็ต้องขึ้น และเป็นวันของเรา 
  • มีอะไรเข้ามาคุยได้เสมอค่ะ

ผมก็เป็นเหมือนกานคุณครูชอบตีก้นคนอ้วนไม่รู้ทำไมคงเพระว่าก้นใหญ่ยั่วยวนมั้งเพราะผมก็เป็นคนอ้วนเหมือนกานครับและใครมีปรสบการณ์ก็มาช่วยกันแบ่งหน่อยจะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท