สวัสดีครับอาจารย์
- จิตและตัวรู้ในความเห็นอาจารย์เป็นอย่างไรครับ
- ทำไมคาปราไม่มานั่งคุยกับพระธรรมปิฏก หรือท่านอาจารย์หมอประเวศบ้างครับ...อิอิ..
ขอบคุณครับอาจารย์
ไม่มีความเห็น
หวัดดีค่ะหมอ : )
ขอบคุณมากนะค่ะ สำหรับ link เวปวงน้ำชา คุณเต้าหู้นี่หน้าปรมมือให้จริงๆ เยี่ยมมากค่ะ
--------
จริงๆในหนังสือ uncommon wisdom นี้คาปราก็เล่าให้ฟังว่าเค้าคุยกับ กฤษ มูรติ ด้วยนะคะ แต่ กฤษ มูรติ ไม่ตอบ แล้วก็ไม่ friendly ไม่เปิดใจสนทนากับคาปราหน่ะค่ะ
--------
ถ้าคาปราได้มาคุยกับท่านปยุตตฯกับท่านอ.หมอประเวศก็ดีสินะคะ : )
แต่พูดถึงความรู้เรื่องพุทธศาสนาของคาปราก็ถือว่าใช้ได้ ในหนังสือ hidden connection ที่หมออ่านแล้วมีพูดถึง ฟรานซิสโก้ ใช่ไม๊ค่ะ คนนั้นหน่ะ รู้และปฏิบัติวิปัสสนาด้วย เป็นอีกคนที่มีความคิดน่าสนใจมาก
คาปราเข้าใจเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท เข้าใจ concept การเกิด และเหตุปัจจัย มองเห็นความเกี่ยวโยงของสรรพสิ่ง ในประสบการณ์การได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ เช่นการเข้าสัมมนาที่ Big Sur ที่เค้าเล่าให้ฟัง เค้ารู้สึกถึงพลังชีวิตจากธรรมชาติ เค้าคงคิดขึ้นมาว่าเค้ารู้แล้วว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไร ชีวิตนี้อยากทำอะไร แล้วก็เลยหันไปตั้งศูนย์การเรียนการสอนชีวิตจากหลัก ecology ซะเลย
หลัก ecology ตรงกับพุทธศาสนามาก แต่ไม่่ค่อยเน้นเรื่อง จิต หรือ การหาคำตอบเรื่องตัวรู้ เน้นการเข้าใจธรรมชาติภายนอกมากกว่า แต่พูดถึงมันก็เป็นแนวความคิดที่พอเพียงที่จะให้ เราอยู่กันอย่างสงบสุขได้อย่างยั่งยืนเหมือนกันนะคะ
--------
ส่วนอีกคำถาม "จิตและตัวรู้ในความเห็นอาจารย์เป็นอย่างไรครับ"
จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบค่ะ ว่าตัวรู้คืออะไร รู้แต่มันมี
ถ้าหมอมาเวลายอมฟังทฤษกีที่มัทมีอยู่ก็จะเล่าให้ฟังหมดเลย แต่พูดจริงๆว่าไม่เคยพูดออกมากับใครเลย เพราะฟังดูอาจจะคิดว่าประสาท ๕๕๕๕๕๕ วันนี้เอาไปเบาะๆก่อนนะคะ
มัทคิดว่าคนที่นั่งสมาธิถึงขั้นที่ลึกมากพอ ท่านเหล่านั้น "เห็น" หรือ "รู้สึก"ได้ถึง อะไรบางอย่างที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ สิ่งนั้นนั่นแหละคือ สูญญตามั่ง คือเต๋ามั่ง คือholy spiritมั่ง คือonenessมั่ง หมอเคยดูหนังเรื่อง contact ไม๊ค่ะ ที่นางเอกออกไปนอกอวกาศ แล้วไปเห็น "อะไร" ที่มันทำให้รู้สึกดีมากๆเข้าใจชีวิตมากๆ แต่มันอธิบายไม่ได้ด้วยข้อจำกัดของภาษาคนเรา
มัทว่านั่นแหละค่ะ มันคือสิ่งเดียวกันหมด
และ ณ จังหวะนั้น ตัวรู้ หรือ จิต (หรือ ตัวรู้ และ จิต) และทุกสิ่งในจักรวาลกลายเป็นกระแสเชื่อมต่อกันหมด มองเห็น interceonnectedness อย่างจริงจังและจริงๆ
[มัทไม่มีคำตอบจากประสบการณ์ตรงค่ะ เพราะไม่เคยนั่งสมาธิได้ขนาดนั้น]
มัทไม่สามารถตอบเรื่อง ผู้รู้ ได้ เพราะมัทไม่เข้าใจเรื่อง soul คะ ว่ามันมีจริงไม๊ ทำงานอย่างไร การเกิดใหม่ พลังงานออกจากร่างกายไปเข้าที่อื่น หรือถ้าไม่เข้าร่างอื่นกลายเป็นเร่ร่อน แล้วไงต่อ เรื่องผี เรื่องบุญที่มีการแบ่งกันได้ ส่งผลบุญกันได้ มันทำงานอย่างไร
ไอ้ส่วนนี้ของศาสนาพุทธมัทยังไม่ได้ศึกษา ยังไม่เข้าใจ และไม่คิดว่าจะเข้าใจได้จากคำอธิบายของคนอื่น คิดว่ามันต้องนั่งสมาธิแล้วถึงเข้าใจ ถึงเห็นแจ้ง
แต่ มัทไม่คิดว่ามัทต้องรู้คำตอบตอนนี้ค่ะ
มัทว่าการที่เราเข้าใจปฏิจจสมุปบาท และ ขันธ์ 5 แล้วนำมาใช้ทุกลมหายใจก็โอเคแล้วสำหรับมัทเองนะคะ
ส่วนเรื่องอื่นที่อธิบายลำบากถ้าไม่เห็นหรือรู้สึกด้วยตัวเอง มัทขอเข้าใจมันแบบทฤษฎีของมัทเองค่ะ เป็นสมมติฐานที่อาจจะไม่มีการพิสูจน์ไปจนตายเลยก็ได้ค่ะ
หรือถ้าโชคดี อาจจะเกิดปัญญาแบบ ยูรีก้า ก็ได้ แต่ ณ ตอนนี้ ตัดสินใจกับตัวเองแล้วว่าจะไม่ขวนขวายหาคำอธิบายใดๆค่ะ ว่าผู้รู้ คืออะไรแน่ มันอยู่ที่ไหนในร่างกายของเรา! รู้แต่มันมี และ มันมองการทำงานของระบบประสาทออก แล้วก็คุมอารมณ์เราได้
--------
พระพุทธเจ้าสอนว่า ความจริงบางอย่างไม่มีประโยชน์ที่จะต้องรู้ คำถามบางคำถาม ตอบว่า "โอม" ซะ บางทีก็ดีที่สุด : )
--------
--------
เขียนมายาวแล้ว ไม่ทราบตรงที่ถามบ้างรึเปล่า จริงๆอยากตอบตรงกว่านี้ แต่ขอเล่าเรื่องที่เขียนไปเพื่อเป็นการปูทางก่อนละกันนะคะ : P
ว่าแต่หมอรุ่นไหนค่ะ จะได้ทราบว่าคราวหน้าจะเรียกพี่หมอหรือน้องหมอดี : )
คุยต่อนิดนะคะ
ขอแก้ตัวค่ะ เมื่อกี้ไปอาบน้ำแล้วนึกออกในห้องน้ำ (แปลกแต่จริงที่เรามักคิดอะไรออกในห้องน้ำ!)
-------
ปฏิจจสมุปบาท และ ขันธ์ 5 ไม่พอค่ะ มาคิดดูแล้ว ในชีวิตประจำวันมัทต้องมี พรหมวิหารสี่ อิทธิบาทสี่ ด้วย แล้วที่สำคัญคือ มองให้เห็น อนิจจัง ทุกขัง แล้วก็มีสติ รู้ตัวทั่วพร้อม
-------
แต่ไหนๆหมอก็เขียนมาคุยกันตัวต่อตัวแล้ว จะสารภาพไปเลยนะค่ะ ว่าศึกษามามากก็จริง แต่มัทไม่เข้าใจ อนัตตาค่ะ ให้พูดเป็นนกแก้วนกขุนทองตามตำรา ก็พูดได้นะคะ จำได้ว่าคนอื่นอธิบายไว้ว่าอย่างไร แต่มัทไม่เข้าใจจริงๆค่ะ ถ้าอนัตตาแล้วอะไรที่ไปเกิดใหม่ หรือ อนัตตาคือแค่ไม่มี อีโก้
คำอธิบายที่ชอบที่สุด คือ ของ อ.พิชัย สอนต่อมาอีกที ว่า มี ไม่มี มี ไม่มี ....
คุณหมอคิดว่าไงค่ะ
-------
ส่วนศีลก็ถือไม่ครบ 5 ข้อค่ะ ยังดื่มเครื่องดื่ม alcohol อยู่บ้างค่ะ โดยเฉพาะไวน์ แต่ไม่เมานะคะ ฟังดูเหมือนเป็นแค่ข้ออ้างให้ศีลขาด แต่จริงๆค่ะ แค่กึ้มๆ หลายคนอาจหมดความศรัทธามัทไปเลยก็ได้ : )
มัทไม่ตบยุง พยายามไม่ฆ่าสัตว์ แต่ทานเนื้อสัตว์ค่ะ
อีกเรื่องที่อยากแลกเปลี่ยนคือ คุณหมอว่าไม๊ว่า คนที่เรียน anatomy และ physio มา เวลาศึกษาพุทธศาสนาแล้วมันมอง การทำงานของจิตไม่เหมือนคนที่ไม่ได้เรียนมา ไม่ได้แปลว่าดีกว่า หรือ แย่กว่า แต่มัทว่ามันมีผลต่อ ภาพในหัวเรา เวลานั่งเจริญสติจริงๆ หมอเป็นรึเปล่า?
-------
คราวนี้จบจริงๆ และ ด้วยความจริงใจค่ะ : )
สวัสดีครับอาจารย์
ที่ถามว่าผมรุ่นไหน
ขอตอบอาจารย์ครับว่า พี่เอกจตุพรเป็นคนที่อยู่ในรุ่นยุค แฟนฉัน(17) แต่ผมหลังจากนั้น 3 ปีครับ
แต่ถ้าอาจารย์จะดูว่าทำไมหน้าผมไปไกลเกินอายุ ก็ไม่ว่านะครับ เพราะว่าคนส่วนมากก็เข้าใจเช่นนั้นครับ..
ขอบคุณครับอาจารย์...
เรื่อง anatomy ผมว่าก็แล้วแต่คนครับ
แต่ผมว่าโดยส่วนตัวก็ได้รับอานิสงค์ตรงนี้มากๆครับ
เพราะเราผ่านตรงนั้นมา คือนั่งเรียนกับอาจารย์ใหญ่เป็นปี บางครั้งต้องเอากระดูกท่านไปนอนข้างๆที่หอด้วยครับ
แต่พออ่านหนังสือเรื่อง โยงใยที่ซ่อนเร้น และ หนังสือธรรมชาติของสรรพสิ่ง แล้วผมรู้สึกว่าความรู้เรื่อง วิทยาศาสตร์ชีวิต(ชีวะ) กับวัตุ(กายภาพ) มีความสำคัญที่จะทำให้เชื่อมโยงความคิด ความเข้าใจในเรื่องต่างๆได้ลึกซึ้งมากขึ้นครับ(น่าจะ)
รุ่นไล่ๆกันค่ะ ไม่เป็นไร เป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องเรียก อาจารย์ ไม่ต้องเรียกพี่ด้วย
หมอมีชื่อเล่นไม๊ค่ะ : )
สวัสดีครับ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะคุณPKK. บล็อกที่แนะนำมาก น่าสนใจมากค่ะ