จากคนทุกข์ใจ


จากคนทุกข์ใจ

ผมมีพี่ชายอายุ 55 ปี จำได้ว่าตั้งแต่สมัยแกเป็นนักเรียนมัธยม แกจะเรียนรู้ได้ช้า ทำการบ้านจะใช้เวลานานมาก ดูจดจ่อ แต่ก็ไม่เสร็จ ตอนนั้นก็ว่าแกเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ตอนหลังแต่งงานเพราะผู้ใหญ่จัดหาให้ แกก็จะอยู่แต่กับภรรยา สังคมของแกแคบ จำได้ว่าตอนเด็กๆแม่จะโมโหกับพี่ชายคนนี้มากๆ และเวลาทะเลาะกัน ก็จะตีแกแรงๆ บางครั้งแกก็สู้ถึงขั้นจะตีแม่ ผมต้องเข้าไปหยุดแยกออกมา พักหลังแกมีอาการยิ้มหัวเราะ พูดคนเดียว ว่ามีคนด่า จะว่าบ้าก็ไม่บ้า เพราะเวลาโต้ตอบเขาจะหัวหมอมาก ทันเหตุการณ์บ้านเมือง พูดได้เป็นฉากๆ และมักมุ่งจ้องเอาเปรียบคนรอบข้าง นึกถึงผลได้ของตัวเองเป็นใหญ่ และทำอะไรก็จะไม่เกรงใจคนรอบข้าง อย่างเช่นทิ้งขยะรก ไปหมด  และหมอเคยช็อคด้วยไฟฟ้า แต่ตอนนั้นผมยังเด็ก ไม่ค่อยมีข้อมูลว่าเขาเป็นยังไง ทราบว่าตอนหลังเลิกรักษาไปนานนับ 10 ปีแล้ว ผู้ใหญ่เล่าให้ฟังว่าเคยหลอกเขาไปรพ. เพื่อรักษา ซึ่งจนบัดนี้เขาก็ยังบอกว่าเขาปกติและปฏิเสธการรักษา  ช่วงหลังเขาหย่าแล้ว ปัจจุบันไม่ทำมาหากิน แบมือขอแต่แม่ ผมเห็นแล้วก็ทุกข์ใจ คุณหมอช่วยบอกทีครับ พี่ผมเข้าข่าย จิตเภท ใช่ไหมครับ เคยอ่านเข้าข่ายของ สะคริดโซฟีเนีย หรือเปล่าครับ ต้องรักษา หรือมีโอกาสดีขึ้นไหมครับ เขากลัวเรื่องช็อคด้วยไฟฟ้ามาก

เขาป่วยทางจิตเป็นอะไรครับ รักษาให้หายได้หรือไม่ครับ

ผมรอคำตอบ ขอหมอสงเคราะห์คนทุกข์ใจทีครับ

จากคนทุกข์ใจ


ความเห็น (1)

ไม่มีความเห็น


คำตอบ (1)

ขออภัยครับที่ตอบช้าไปหนึ่งวัน

เรื่องที่คุณเล่ามา ผมจับประเด็นได้ดังนี้ครับ

       บุคลิกภาพหรือวิถีชีวิตดั้งเดิมของพี่ชายคุณน่าจะเป็นคนแยกตัว

และเมื่อป่วยจะมีอาการหลักๆคือ

       หลงผิดหวาดระแวง คิดในเรื่องที่ไม่เป็นจริง เช่นว่ามีคนมาด่า

      ประสาทหลอน เช่น ได้ยินเสียงแว่ว เวลาแกพูดคนเดียว ถ้าเนื้อหาเหมือนกับกำลังคุยกับใครอยู่ แสดงว่าหูแว่วแน่นอน

       พฤติกรรมผิดปกติ ทำในสิ่งที่ปกติไม่ทำ เช่น ยิ้ม พูดคนเดียว

       คนไข้เหล่านี้มักจะไม่รู้ว่าตนเองผิดปกติหรือไม่ยอมรับว่าตนเองป่วย ดังนั้น พฤติกรรมการมาโรงพยาบาลมักจะต้องถูกพามา หรือบังคับมา คล้ายกับที่เป็นข่าว

       หนึ่งในสามสามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้ แต่ต้องรักษาต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกำเริบ

       หนึ่งในสามมีอาการหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ทำงานได้

       อีกหนึ่งในสามอาการเป็นเรื้อรัง ต้องการการดูแลโดยคนใกล้ชิด

       ผมเข้าใจครับที่คุณรู้สึกเป็นทุกข์กับพี่ชายคนนี้ ถ้าเลือกใช้ยาให้เหมาะสมก็จะทำให้อาการดีขึ้นโดยที่มีอาการข้างเคียงไม่มาก ร่วมกับการปรับบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมรอบตัวไม่ให้ไปกระตุ้นอารมณ์ขุ่นมัวของเค้า ส่งเสริมให้คำชมเชยเมื่อทำดีเพื่อให้รู้สึกมีค่า ก็จะทำให้มีความสุขขึ้นมาได้บ้าง

      ขอยืนยันครับว่า คนไข้โรคจิตเภท(schizophrenia)นั้น ฉลาดและมีความคิดไม่แพ้เมื่อเขายังปกติ ยิ่งเก่งมากหรือมีการศึกษามากก็ยิ่งดูยาก ทั้งนี้ขึ้นกับว่าเป็นมากหรือเป็นนานแล้วหรือไม่

      คนไข้โรคนี้ที่น่ารักก็มีมากครับ มีอยู่รายหนึ่งที่สอนผมว่า "..หมอ ถ้าถูกต้องก็อาจไม่ถูกใจ และถ้าถูกใจก็อาจไม่ถูกต้องก็ได้นะ" ผมยังจำคำของเขาได้ดี

       รายพี่ของคุณน่าจะเป็นโรคจิตเภทตามที่คุณว่า ควรตะล่อมพาไปรักษา ถ้าเขายังระแวงก็บอกเขาว่า เราจะช่วยให้เขาหายเดือดร้อนใจจากเรื่องที่เขาคิดกลัว อย่าไปทำให้เขาเข้าใจว่า เราหาว่าเขาเป็นบ้านะครับ ตอนนี้มียาให้เลือกใช้หลายตัว ไม่ว่าจะเป็นยากินชนิดเม็ดหรือนำ รวมทั้งยาฉีดซึ่งออกฤทธิ์นานเป็นเดือน

       มีทางผ่อนหนักให้เป็นเบาได้และมองหาข้อดีของเขาดูครับ



ความเห็น (1)

เรียนคุณหมอที่เคารพ

อยากเรียนปรึกษาอาจารย์เกี่ยวกับพฤติกรรมของญาติคนหนึ่งค่ะ เขาจะมีอาการเหมือนมีผีหรือเทวดาเข้าสิงในร่าง(ซึ่งญาติคนอื่นๆก็จะบอกว่ามีร่างทรง เช่น นางไม้ แม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว) ซึ่งช่วงที่มีอาการก็จะพูดเป็นภาษาอื่นที่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่รู้ตัวและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทั้งนี้มักเกิดขึ้นช่วงที่มีภาวะเครียดหรือในช่วงร่างกายเหนื่อยล้ามากๆ เช่น มีญาติเสียชีวิต นอกจากนี้ก็จะมีอาการทางร่างกายที่เป็นเรื้อรังรักษาไม่หาย เช่น ท้องเสียบ่อยครั้งหมอบอกว่าเป็นโรคลำไส้อักเสบ จึงขอปรึกษาอาจารย์ว่าเป็นอาการทางจิตหรือเป็นความเชื่อเรื่องการทรงเจ้าตามที่ชาวบ้านเชื่อกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท