ขอขอบคุณอาจารย์ wwibul และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
- เท่าที่จำได้...
- จากพระวินัยปิฎก + อรรถกถา + จากคำบรรยายพระไตรปิฎกของท่านพระอาจารย์สมบัติ นันทิโก ซึ่งเป็นพระภิกษุที่ศึกษาพระไตรปิฎกมากที่สุดรูปหนึ่ง (ปัจจุบันท่านหลีกเร้นปฏิบัติธรรม และไม่เปิดเผยว่า อยู่ที่ไหน)
เราควรพิจารณาเรื่องการฆ่าตัวตายของพรภิกษุเป็น 2 ยุค...
- (1). ยุคก่อนพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัยเรื่องฆ่าตัวตาย เช่น ท่านพระฉันนะ (ฉันโนวาทสูตรที่ 2) ฯลฯ
- (2). ยุคหลังพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัยเรื่องฆ่าตัวตาย
ท่านพระฉันนะ....
- ท่านมีศีลดี(พระที่ศีลไม่ดี + ไม่แสดงอาบัติเป็นเครื่องกั้นโอกาสบรรลุธรรม) + เจริญวิปัสสนากรรมฐานดีมาตลอด
- เศษกรรมสายปาณาติบาต (ฆ่า+เบียดเบียนสัตว์อื่น)เป็นอุปนิสัยปัจจัย ทำให้ท่านน้อมไปเพื่อฆ่าตัวตาย
- ท่านเชือดคอแล้ว... ยังไม่ตาย เจริญวิปัสสนาต่อจนบรรลุมรรค ผล นิพพาน ถึงความเป็นพระอรหันต์ก่อนปรินิพพาน
ยุคหลังบัญญัติพระวินัย...
- เท่าที่จำได้... พระภิกษุฆ่าคนเป็นปาราชิก (ขาดจากความเป็นพระ) ฆ่าสัตว์เป็นปาจิตตีย์ ฆ่าตัวเองเป็นทุกกฏ (อาบัติ)
พระอริยบุคคล...
- พระอริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป...
(1). ถ้าเป็นฆราวาส....จะไม่ล่วงศีล 5 เด็ดขาด (แม้ด้วยเหตุแห่งชีวิต)
(2). ถ้าเป็นพระภิกษุ สามเณร... จะไม่แกล้ง หรือจงใจล่วงศีล / อาบัติเด็ดขาด (แม้ด้วยเหตุแห่งชีวิต) - สรุปง่ายๆ คือ หลังมีพระวินัยบัญญัติ... พระอริยบุคคลจะไม่ฆ่าตัวตายแน่นอน
พระภิกษุที่จงใจล่วงพระวินัย...
- อานาวีติกกมะ หรือเจตนาล่วงพระวินัยของพระภิกษุ... ถ้าไม่ทำคืน เช่น ไม่แสดงอาบัติ ฯลฯ
- เป็นอุปนิสัย ทำให้ไม่ได้ฌาน มรรค ผล นิพพาน
- ถ้ามีฌานอยู่ก่อน... ฌานจะเสื่อม (ไม่เกิดฌานจิต)
- ถ้าตายไปจะมีคติแน่นอน 2 ได้แก่ นรก หรือเดรัจฉาน
ถ้าสนใจพระวินัย...
- แนะนำให้ศึกษาพระวินัยปิฎก เช่น ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย (มีจำหน่ายข้างวัดบวรนิเวศวิหาร) ฯลฯ เนื่องจากมีอรรถกถาพร้อมเป็นภาษาไทย
- แนะนำให้ศึกษาสารัตถทีปนี ซึ่งเป็นฎีกาพระวินัย
- วัดจากแดง พระประแดง สมุทรปราการมีการประชุมวิชาการพระวินัยทุกปี... แวะไปทำบุญ + เรียนถามพระวินัยธรจะดีกว่าถามคนที่มีความรู้น้อยเช่นผมเยอะเลย
ขอขอบคุณครับ...