ไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำขอโทษที่ทำให้เป็นเรื่อง


paraffin

  มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกนะ ไม่รู้พี่จะคิดเหมือนกันกับผมหรือเปล่า ทำไมใครๆเค้าชอบคิดแต่แง่ร้ายกลัวคนนั้นคนนี้จะเข้ามาทำลายความสามัคคีด้วยแกมกีฬาทั้งๆที่จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิด  มัวแต่คิดอยู่ด้านเดียวคือระแวงกัน ซึ่งการระแวงกันแบบนี้ล่ะที่ทำให้มันเกิดการแตกความสามัคคีกันทั้งๆที่เป็นเกมที่สนุกแข่งเสร็จก็จบ อย่างคำที่พระเจ้าอยู่หัวฯกล่าวไว้ว่า  "หากคนในประเทศเองไม่มีความสามัคคีกันแล้วจะหาความสงบสุขให้กับประเทศชาติได้อย่างไร" ท่านตรัสสอนให้เรารู้จักคิดว่าเราจะหาความสามัคคีได้อย่างไรบ้าง  หรือทำอย่างไรให้สามัคคีกันต่างหากล่ะ อย่างนี้มากกว่าที่ท่านสอน  ต้องขอโทษพี่โอ๋ด้วยนะครับที่ผมทำให้มันเป็นเรื่อง  บางครั้งบางสิ่งบางอย่างก็ยากจะอธิบายเป็นตัวหนังสือเพื่อสื่อให้ใครเค้าคิดอย่างที่เราพยายามจะสื่อพี่โอ๋เห็นด้วยหรือเปล่าครับ  ผิดที่ผมเขียนหรือสื่อให้คนอื่นเข้าใจไม่เป็นเองแต่ก็พยายามหาเรื่องที่จะสือ   จากภาพแค่อยากสื่อให้ทุกคนทั้งที่เป็นนักกีฬาเองและผู้ชมเข้าใจกรรมการว่ามุมมองตรงนั้นขณะนั้นเวลานั้นกับการตัดสินแค่เพียงเสี้ยวนาทีนั้นมันย่อมมีถูกมีผิดกันบ้าง ก็เลยถามว่าทำไมไม่ได้ลูกจุดโทษ  เพราะมีบางคนเค้ามาถามว่าทำไม่ถึงไม่ได้จุดโทษและกล่าวหาว่ากรรมการเข้าข้างฝ่ายโน้นฝ่ายนี้บ้าง และผมก็ได้บอกว่าต้องเข้าใจกรรมการบ้างเค้ามีเวลาตัดสินใจแค่นิดเดียวเองนะ  และทุกคนก็รู้ว่าตัดสินได้ถูกหรือผิด เพราะเมื่อผ่านตรงนั้นไปแล้วเค้าก็จะกลับมาคิดทบทวนอีกครั้งว่าเราตัดสินวันนี้ได้ดีแค่ไหน  เพื่อนำมาปรับปรุงการตัดสินในครั้งต่อไป แต่คนดูสิกลับตัดสินความคิดของคนอื่นด้วยความคิดของตัวเอง

  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่จะเข้าใจและให้อภัยกระผมนะขอรับ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น


คำตอบ (1)

โอ๋-อโณ
เขียนเมื่อ

ไปตอบผิดที่ เพราะคำว่า "แก้ไขคำตอบ"นี่แหละค่ะ เอาใหม่นะคะ

คุณ paraffin คะ พี่ไม่คิดว่าต้องมีการขอโทษอะไรกันเลยค่ะ เพราะพี่ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่คุณ paraffin ออกความเห็นมาในบันทึกเป็นสิ่งที่ผิดหรือถูก เราต้องเคารพความเห็นคนอื่น เหมือนกับที่เราอยากให้คนอื่นเคารพความคิดเห็นของเรา และทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นของตัวเองค่ะ พี่เชื่อว่าเจตนาของเราคือสิ่งที่เราควรใช้ตัดสินตนเอง ไม่ใช่คำพูดคนอื่นด้วย แม้ว่าเราจะต้องฟังคนอื่นเหมือนกันก็ตาม

แต่ก็เห็นด้วยถ้าคุณ paraffin จะใช้ความเห็นของคนอื่นๆมาปรับวิธีการสื่อสารของเรา ถ้าหากเรารู้ว่าเขาเข้าใจไม่ตรงกับที่เราต้องการจะบอก แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลมากหรอกค่ะ เพราะเราก็คือเรา คนอื่นเขาก็ต้องเคารพและคบเราแบบที่เราเป็นเราด้วยเหมือนกัน ถ้ารักกันจริงและชะตาตรงกัน คนที่ "คอ"เดียวกันก็ไปด้วยกันได้เองแหละค่ะ เราคงทำอะไรให้ดีถูกใจคนทุกคนไม่ได้หรอก เป็นตัวเรานั่นแหละดีที่สุดแล้ว ถ้ามีหลักยึดมั่นว่าเราจะทำดีเสมอ ยึดถือคำสอนของพ่อหลวง (ได้อ่านหรือยังคะ)ไว้เป็นแนวทางก็ดีค่ะ มีข้อนึงที่ตรงกับกรณีนี้ด้วยแหละ (หวังว่า link จะโชว์นะคะ ถ้าไม่โชว์ ช่วยเลื่อนเม้าส์ไปมาตรงคำว่า"คำสอนของพ่อหลวง"น่ะค่ะ เป็นที่คลิกไปอ่านได้)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท