ตั้งแต่ไปดูงานที่รพ.บ้านตากกลับมา คุณหมอก้องเกียรติ ก็ให้ทุกคนไปทำKM กันเองแล้วตอนนี้ได้ลองศึกษาแล้วมีโจทย์ที่ต้องรบกวนถามคุณหมอพิเชษฐ์
1.km ต้องไม่เพิ่มภาระจากงานประจำ แต่ในทางปฏิบัติถ้าไม่ประชุมเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนฯเราใช้การติดบอร์ดได้หรือไม่
2. การสกัดขุมความรู้ ถ้าให้แต่ละคนที่ประสบความสำเร็จเขียนเป็นบันทึกคล้ายกับไดอารี่ได้มั้ยค่ะ
3. การจะไปถึง best practice นั้นจำเป็นมั้ยที่เราต้องไปทำการศึกษาดูงานเพื่อ benchmarking หรือไม่
4.AAR เกี่ยวข้องกับขั้นตอนตรงไหนของ KMค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะที่คุณหมอมีช่องทางให้สอบถาม
ไม่มีความเห็น
จะขอตอบตามความคิดเห็นและประสบการณ์นะครับ
1. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จะจัดเวทีแบบไหน เครื่องมืออะไร ก็ได้ตามแต่จะสะดวก การเขียนความรู้ฝังลึกติดบอร์ดก็ใช้ได้ ซึ่งก็น่าจะคล้ายๆกับการเขียนบันทึกลงในบล็อค หรืออาจให้มาพูดออกเสียงตามสายก็ได้ แต่วิธีแบบนี้มักจะเป็นการสื่อสารทางเดียวซึ่งเราได้Explicit knowledge ออกมาก็จริง แต่ถ้าคนเขียนไม่เก่งจะออกมาไม่มากและจะไม่เกิดปฏิสัมพันธ์กันของทีม การจัดเวทีอาจไม่จำเป็นต้องจัดประชุมอย่างเป็นทางการก็ได้ เช่น นัดกินข้าวกลางวันด้วยกันในที่ทำงานหรือนอกที่ทำงานก็ได้
2. ทำได้ครับ ก็เหมือนการเขียนบันทึกลงบล็อค เพียงแต่ว่าคนหลายคนอาจจะไม่ถนัดในการเขียน หรืออาจจะให้เขาบันทึกลงบนportfolio ก็ได้ แต่จากกฎการจัดการความรู้ข้อที่ 3 คนทุกคนรู้มากกว่าที่พูดได้เขียนได้ การใช้เครื่องมือสกัดขุมความรู้เพียงวิธีเดียวอาจจะไม่สามารถสกัดขุมความรู้มาได้ทั้งหมด หากเขียนแล้วเอามาอ่านหรือเล่าให้คนอื่นฟังด้วยจะดีมากเพราะจะได้เกิดปฏิสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนกับคนอื่นๆด้วย
3. Best practiceมีหลายระดับ อาจไม่จำเป็นต้องเทียบกับที่อื่น โดยเทียบกับผลงานของตนเองในอดีตก็ได้ แต่ถ้ามีคู่เทียบจากหน่วยงานอื่นๆจะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่เร็วขึ้นเพราะเราจะได้เรียนลัดจากหน่วยงานอื่นได้ง่าย ก็เหมือนกับการประกวดนางงามมีนางงามหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ประเทศไปจนถึงนางงามจักรวาล ก็เลือกเอาตามที่เราพอจะทำได้ก่อนครับ
4. เมื่อทำอะไรสักอย่างเสร็จก็สามารถทบทวนหลังการปฏิบัติหรือทำAARได้ โดยถามตัวเองและเพื่อนร่วมงานง่ายๆว่า วัตถุประสงค์ที่เราทำคืออะไร ทำแล้วได้ผลเป็นอย่างไร อะไรได้ตามที่คาดหวังไว้ อะไรได้น้อยกว่าที่คาดหวังไว้ ที่ทำไปคราวนี้ให้ความรู้/ข้อคิดอะไรๆดีๆกับเราบ้างและคราวหน้าจะต้องปรับปรุงอะไรบ้าง ดังนั้นAARไม่ได้ทำหลังหรือทำเฉพาะการทำKMเท่านั้นAARเป็นการทำในงานประจำครับ เช่นOPDเสร็จงานทุกวันก่อนกลับบ้าน มานั่งคุยกันก่อนสัก 15 นาทีหรือหลังจากIPDส่งเวรรับเวรแล้วก็ต่อด้วยAARสั้นๆสัก 10-15 นาที หรืออกไปนิเทศงานตามอำเภอก่อนแยกย้ายกันกลับก็มานั่งคุยAARกันก่อน
การทำงานให้ดีด้วยการใช้แนวคิดของKMจึงเป็นการเริ่มต้นที่งานประจำ คุยกันเรื่องงานประจำ ทบทวนกันเรื่องงานประจำ ปรับปรุงเรื่องงานประจำและทำในเรื่องที่เป็นงานประจำของตนเองครับ
ข้อสำคัญอีกประการหนึ่ง เราไม่ได้ต้องการแค่สกัดความรู้ฝังลึกแล้วบันทึกให้เป็นความรู้ชัดแจ้งเท่านั้น เราในกลุ่มต้องเอาความรู้ชัดแจ้งนั้นกลับไปปรับใช้โดยให้เป็นความรู้ฝังลึกในตัวเรา เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานประจำให้ดีขึ้นด้วย ไม่ใช่ภูมิใจแค่ได้Knowledge assetsออกมาเท่านั้น เพราะมันจะได้กระบวนการจัดการความรู้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น และไม่ได้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อการพัฒนางาน คน องค์การและการสร้างBest practiceขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ ได้ไอเดียดีๆขึ้น แล้ว"ต้องเอาความรู้ชัดแจ้งนั้นกลับไปปรับใช้โดยให้เป็นความรู้ฝังลึกในตัวเรา เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานประจำให้ดีขึ้นด้วย " เข้าใจ KM แจ่มขึ้นมาอีกนิดนึงค่ะ แล้วจะลองทำดูซักเรื่อง..ชิมลางก่อนนะค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ