ช่วยนำเรื่อง ICC มาเล่าให้ฟังบ้างนะจ้ะ สนใจ ๆ
ปล. ทราบว่าน้องน้อตมีโอกาสไปงานสโมสรสันนิบาตมา ยินดีด้วย ๆ เป็นเช่นไรบ้างจ้ะ
ไม่มีความเห็น
สวัสดีครับพี่ลิ
ก่อนอื่นต้องขอโทษจริงๆที่ทิ้งคำถามของพี่ลิมาเป็นเวลานาน
เรื่องของ ICC นั้นตอนนี้ผมนำไปทำเป็นส่วนหนึ่งของหัวข้อบัณฑิตสัมมนาครับ สาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยนั้นมีอยู่เรื่องเดียวที่เป็นประเด็นคือการเข้าเป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรมจัดตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศ ทั้งนี้มีข้อสังเกตบางประการที่ทำให้กระบวนการให้สัตยาบันของประเทศไทยต่อธรรมนูญฉบับดังกล่าวยังไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะข้อสังเกตของกระทรวงกลาโหมที่มีต่อธรรมนูญฯ ว่าหมิ่นเหม่ต่อการนำเอาสถาบันกษัตริย์ของไทยไปผูกไว้กับระบบของศาล โดยเฉพาะในส่วนที่มีการกล่าวถึงตัวผู้นำซึ่งหมายความรวมถึงกษัตริย์ของรัฐนั้นด้วย
โดยกระทรวงกลาโหมเห็นว่าองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยมีพระราชฐานะเป็นจอมทัพไทย มีลักษณะเป็นผู้นำตามที่ธรรมนูญกรุงโรมฯกล่าวไว้ จึงเห็นควรให้รัฐบาลพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในเรื่องนี้โดยละเอียด
สำหรับผมแล้วไม่คิดว่าองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยจะเข้าข่ายการเป็นผู้นำตามนัยของธรรมนูญกรุงโรมฯ เพราะสำหรับประเทศไทยแล้วองค์พระมหากษัตริย์ของไทยทรงมีพระราชฐานะเป็นเพียง "สัญลักษณ์" ในทางการระหว่างประเทศเท่านั้น การดำเนินการใดใดเป็นการดำเนินการผ่านทางรัฐบาลและรัฐสภา มิได้ทรงประกาศพระราชสงครามด้วยองค์เองอย่างสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯที่ทรงประกาศพระราชสงครามกับเยอรมัน แต่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ผ่านมา พระราชอำนาจในการประกาศสงครามกลายเป็นการประกาศตามความเห็นชอบของรัฐสภา รัฐธรรมนูญมิได้กล่าวถึงการประกาศพระราชสงครามโดยองค์เองอย่างสมัยก่อน อีกทั้งการที่จะเข้าข่ายกระทำความผิดตามธรรมนูญกรุงโรมฯ นั้น จะต้องเป็นการกระทำในลักษณะรุกราน หรือก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทยเราก็ยังไม่เคยปรากฏว่าได้กระทำการรุกรานหรือก่ออาชญากรรมตามนัยของธรรมนูญกรุงโรมฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะในสมัยสงครามโลกครั้งที่สององค์พระจักรพรรดิฮิโรฮิโตแห่งญี่ปุ่นเกือถูกควบคุมตัวไปขึ้นศาลอาชญากรรมสงครามเพราะพระองค์มีพระราชฐานะเป็นผู้ประกาศสงคราม ซึ่งในข้อเท็จจริงนี้ต้องพิจารณาไปถึงรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นในสมัยนั้นว่ามีสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกาศสงครามเช่นไร ปรากฏว่าในขณะนั้นองค์พระจักรพรรดิทรงมีพระราชอำนาจเต็มในการประกาศพระราชสงคราม ลักษณะดังกล่าวจึกทำให้พระราชฐานะของพระองค์กลายเป็นผู้นำในการก่อสงครามในทันที
ดังนั้นในขั้นตอนการให้สัตยาบัน เราจึงต้องพิจารณาไปให้ถึงรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรอื่นๆที่ได้ลงนามและให้สัตยาบันแก่ธรรมนูญกรุงโรมว่ารัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรเหล่านั้นมีสาระสำคัญเกี่ยวกับพระมหากัษตริย์และการประกาศสงครามเอาไว้อย่างไร (ขอติดเอาไปรวบรวมรายละเอียดอีกครั้ง)
ส่วนในประเด็นที่สองจะได้กล่าวต่อไป . . .
เมื่อมีคนมาอ่านและลง reply ไว้ ๒ re. ขึ้นไป
นอต
ไม่มีความเห็น